ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี - ตอนที่325 ไปออกกำลังกายที่วิลล่า
ตอนที่325 ไปออกกำลังกายที่วิลล่า
สำหรับเหล่าผู้ถูกความโกรธเกรี้ยวกลืนกินย่อมไม่สนผิดถูก คิดเพียงอย่างเดียวคือการแก้แค้น
จางเห่อที่กล้าทรยศพวกเขาอย่างเจ็บแสบแบบนี้ ท้ายที่สุดนี่อาจกล่าวได้ว่าเป็นผลกรรมที่เขาก่อขึ้นแล้ว
ซึ่งทีแรกจางเห่อเองก็ไม่คิดว่า พวกเขาเหล่านี้ที่มีความเคารพรักเขาเสมอมา ท้ายที่สุดจะต้องการฆ่าเขาจริงๆ โดยไม่ทันได้ระวังตัวแต่อย่างใด เขาถูกมีดสั้นแทงถึงสองคราติด
จ้าวเฉียนรีบดึงหลิวเสี่ยวเฟยมาหลบด้านหลังเขาโดยไว ในอนาคตเขาจำเป็นต้องใช้เธอเพื่อปั้นกลายเป็นเน็ตไอดอลชื่อดัง ฉะนั้นแล้วเธอไม่ควรมีรอยแผลเป็นใดๆตามร่างกายเด็ดขาด
พวกเทรนเนอร์ผู้ชายตะโกนบอกชายฉกรรจ์ทั้งหกให้ใจเย็นลงก่อน ทว่าไม่มีใครสักคนที่กล้าเดินออกไปหยุด ช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ พวกเขาทำได้เพียงหันไปมองจ้าวเฉียน มีเพียงเขาเท่านั้นในนาทีนี้ที่กล้าออกโรง
อย่างไรเสีย อีกฝ่ายมีกันถึงหกคน แถมหนึ่งในนั้นยังมีมีดสั้น ถ้าจ้าวเฉียนวิ่งสุ่มๆออกไปห้าม คงไม่ถูกแทงตายเลยเหรอ?
เขาเหลือบซ้ายแลขวาอยู่แวบหนึ่ง ก่อนจะหยิบบาร์เบลล์ที่อยู่ข้างขึ้นมาป้องกันตัว และตะโกนกล่าวกับชายที่ถือมีดว่า
“อีกไม่นานตำรวจก็จะมาถึงแล้ว เพิ่งฆ่าคนไปทั้งคน ถ้าไม่รีบออกไปมีหวังติดคุกหัวโตแน่”
จ้าวเฉียนพยายามพูดให้พวกเขาเหล่านั้นคิดได้
ทั้งหกเองก็คิดเช่นนั้น ถึงไม่ทราบว่าจางเห่อจะตายสนิทหรือไม่ แต่ถ้าพวกเขาโดนจับเข้าคุกตั้งแต่ตอนนี้ แล้วในอนาคตจางเห่อยังรอด นั้นเท่ากับว่าการล้างแค้นคงจะไม่มีทางสำเร็จอีกต่อไป สู้รีบหนีไปตอนนี้แล้วหาโอกาสกลับมาฆ่าจางเห่อใหม่ไม่ดีกว่าเหรอ? ทันทีที่ฉุกคิดได้ พวกเขาก็รีบวิ่งหนีออกไปทันทีด้วยความตื่นตระหนก
ผู้จัดการฟิตเนสรีบโทรเรียกรถพยาบาล และรีบขอให้ใครก็ได้ที่พอมีความรู้มาปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อห้ามเลือดจางเห่อก่อน ทว่าอย่างไรไม่มีใครสักคนที่สามารถทำได้ จำต้องทนรอรถพยาบาลมาถึงเพียงอย่างเดียว
ประมาณสองถึงสามนาทีต่อมา พวกตำรวจก็มาถึงและเห็นจางเห่อที่กำลังนอนจมกองเลือดอยู่ พวกเขารีบเคลียร์สถานที่และสั่งให้ทุกคนออกไปทันที
หลังจากทางตำรวจเข้าใจสถานการณ์โดยรวมแล้ว พวกเขาก็ปล่อยจ้าวเฉียนและคนอื่นๆเป็นอิสระ
จ้าวเฉียนยิ้มกล่าวขึ้นว่า
“คุณหลิว ถึงเวลาเทรนให้ผมแล้ว”
หลิวเสี่ยวเฟยสะดุ้งเล็กน้อย กล่าวตอบไปตามจริงว่า
“คุณจ้าว ฉันว่าพรุ่งนี้ค่อยเทรนกันดีกว่าค่ะ วันนี้ฉันกลัวจนไม่อยากจะทำอะไรแล้วจริงๆ”
จ้าวเฉียนรีบเอ่ยปลอบโยน
“ไม่มีอะไรต้องกลัวเลยครับ ความขับข้องใจระหว่างจางเห่อกับคนพวกนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคุณเลยสักนิด ถ้าอย่างนั้นไปทานข้าวเย็นกันก่อน ค่อยไปเทรนให้ผมต่อดีไหมครับ?”
หลิวเสี่ยวเฟยถอยหายใจเฮือกหนึ่งกล่าวว่า
“แต่ถ้าไม่มีเครื่องออกกำลังกาย แล้วฉันจะเทรนให้คุณได้ยังไง?”
“พอดีบ้านของผมมีห้องฟิตเนสขนาดย่อมๆอยู่ พวกอุปกรณ์เครื่องเล่นพื้นฐานน่าจะมีครบ”
บ้านที่มีห้องฟิตเนสครบเครื่องขนาดนี้ในตัว แค่ดูก็รู้แล้วว่าไม่ใช่บ้านแบบคนธรรมดาทั่วไปที่จะมีได้ หลิวเสี่ยวเฟยในตอนนี้อยากรู้เหลือเกินว่า ครอบครัวของจ้าวเฉียนทำอะไรกันแน่ ถึงสามารถควบคุมตำรวจที่เป็นเพื่อนของจางเห่อไม่ให้เข้ายุ่งได้
“เข้าใจแล้วค่ะ ถ้างั้นฉันขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน แล้วเจอกันที่หน้าประตูฟิตเนสค่ะ”
จ้าวเฉียนพยักหน้าและเดินกลับไปที่ล็อกเกอร์เพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า
หลังจากนั้นไม่นาน จ้าวเฉียนก็มาพบกับหลิวเสี่ยวเฟยตรงหน้าประตู
“ขอเรียกว่าคุณหลิวนะครับ คุณหลิวอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม?”
จ้าวเฉียนเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้ม
หลิวเสี่ยวเฟยไม่มีอารมณ์จะทานมื้อเย็นแต่อย่างใด ตอนนี้เธออยากรู้แค่ว่า จ้าวเฉียนเป็นใครกันแน่ ดังนั้นเธอจึงตอบไปว่า
“ไม่มีค่ะ ฉันต้องคุมอาหารรักษาหุ่น ก็เลยไม่ทานมื้อเย็น คุณจ้าวพาฉันไปที่บ้านเลยก็ได้ค่ะ จะได้เริ่มการเทรนทันที”
จ้าวเฉียนพยักหน้าและพาหลิวเสี่ยวเฟยมายังโซนจอดรถของฟิตเนส
วันนี้จ้าวเฉียนขับ Ferrari 458 มา รถหรูคันนี้ซื้อมาเมื่อ6ปีก่อน แต่เขาก็ไม่เคยขับอีกเลยตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุครั้งนั้น แต่อย่างไรจ้าวฝู่ที่เห็นว่าเป็นหนึ่งในรถคันโปรดของลูกชายตัวเอง ดังนั้นเขาจึงสั่งให้คนงานคอยหมั่นดูแลรักษาให้ใหม่เอี่ยมอยู่ตลอดเวลา
หลิวเสี่ยวเฟยที่เห็นว่าเป็นรถสปอร์ตเฟอร์รารี่สุดหรูก็หัวเราะขึ้นทันทีและเอ่ยถามขึ้นว่า
“คุณจ้าวคงเป็นทายาทมหาเศรษฐีชื่อดังของเมืองนี้ใช่ไหมค่ะ รถคนนี้ไม่ใช่ถูกๆเลย”
จ้าวเฉียนหัวเราะและเปิดประตูรถผายมือเชิญหลิวเสี่ยวเฟยให้ขึ้นนั่ง
“ก็แค่คนธรรดาทั่วไปครับ เชิญ”
หลิวเสี่ยวเฟยคลี่ยิ้มหวานพลางพยักหน้าให้ ค่อยๆย่างเรียวขาแสนสวยเข้าไปและขึ้นนั่งอย่างระมัดระวัง ซึ่งระหว่างตอนที่เธอกำลังจะขึ้นรถ ก็แอบโปรยเสน่ห์ใส่จ้าวเฉียนเล็กน้อยก่อนเข้าเข้าไปนั่ง
เพียงแค่รถหรูคันนี้คันเดียวก็พิสูจน์ภูมิหลังของชายคนนี้ได้หลายอย่างแล้ว และไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่อยากได้แฟนเป็นมหาเศรษฐี
จ้าวเฉียนเดินเวียนไปอีกฝั่งเพื่อขึ้นรถและขับไปยังวิลล่าหรูแห่งหนึ่งที่อยู่เขตชานเมือง ไม่ได้กลับคฤหาสน์ตระกูลจ้าวบนภูเขา
วิลล่าหนูนี้เขาเคยซื้อทิ้งไว้เมื่อ6ปีที่แล้ว ซึ่งที่นี่มีทั้งสระว่ายน้พและห้องฟิตเนสภายในตัว ปัจจุบันไม่ได้ถูกปล่อยทิ้งร้าง แต่จะคอยมีแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดอยู่ตลอด
เมื่อเห็นว่าจ้าวเฉียนกลับมาวิลล่าพร้อมสาวสวย คุณป้าแม่บ้านก็รีบวิ่งเข้าไปทักทาย
“คุณชายจ้าว จะมาค้างคืนที่นี่ใช่ไหมค่ะ? จะให้ดิฉันเตรียมอะไรเป็นพิเศษเพิ่มไหม?”
จ้าวเฉียนยิ้มและตอบว่า
“ป้าหลัวกลับบ้านไปพักผ่อนเถอะครับ ที่เหลือเดี๋ยวผมจัดการเอง”
จ้าวเฉียนพยักหน้าตอบพร้อมขยิบตาส่งสัญญาให้ป้าแม่บ้านทันที ซึ่งเธอเองก็รู้จักคุณชายจ้าวดีเกินไป พาสาวสวยมาค้างที่วิลล่าสองต่อสองแบบนี้ อะไรจะเกิดขึ้นต่อไปคงไม่ต้องคาดเดากันให้ยาก ดังนั้นเธอจึงกลับบ้านที่อยู่ใกล้ๆวิลล่าทันที
จ้าวเฉียนพาหลิวเสี่ยวเฟยมาที่ชั้นสี่ของตัววิลล่า เนื่องจากตัวห้องฟิตเนส…ไม่สิ…เรียกว่าตัวยิมเลยถึงจะถูกจัดตั้งอยู่ในบริเวณชั้นสี่ทั้งหมด พื้นที่ตัวยิมมีขนาดกว้างถึง200ตารางเมตร พร้อมด้วยอุปกรณ์ออกกำลังกายครบถ้วนทุกชนิดและรูปแบบที่ต้องการ
หลิวเสี่ยวเฟยถึงกับอุทานเสียงดังลั่นด้วยความประหลาดใจว่า
“คุณจ้าว นี่บ้านหรือคฤหาสน์ค่ะเนี่ย! แค่ชั้นโรงยิมก็มีขนาดกว้างกว่าบ้านของฉันหลายเท่าแล้ว!”
“คุณหลิวก็พูดเกินจริงไปครับ ที่ดูกว้างส่วนหนึ่งเป็นเพราะกำแพงทั้งสี่ด้านเป็นกระจกทั้งหมดก็เลยดูลวงตาให้ดูเหมือนกว้างเฉยๆ ส่วนห้องแต่งตัวอยู่มุมนั้นนะครับ คุณหลิวไปเปลี่ยนชุดก่อนดีกว่านะ”
“ได้ค่ะ งั้นขอเปลี่ยนชุดสักครู่นะคะ”
หลิวเสี่ยวเฟยพยักหน้าทำตามที่จ้าวเฉียนบอก พอเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวเธอก็ต้องตกตะลึงอีกครั้ง แค่ห้องนี้ก็ทั้งหรูและมีค่ากว่าบ้านทั้งหลังของเธอแล้ว แน่นอนว่าเนื่องด้วยเป็นห้องแต่งตัวจึงมีทั้งชุดออกกำลังกายทุกรูปแบบและกางเกงในแบรน์หรูของผู้ชายถูกจัดเรียงมากมายอย่างเป็นระเบียบ ทั้งยังมีน้ำหอมแต่ละกลิ่นมากมายสำหรับออกกำลังกายโดยเฉพาะให้เลือกสรร
“ที่แท้ชีวิตของพวกคนรวยก็เป็นแบบนี้เอง แค่มูลค่าสิ่งของรวมในห้องแต่งตัวก็มากกว่าเงินที่ฉันหามาทั้งชีวิตแล้ว เฮ้ออ…ช่องว่างระหว่างชนชั้นขนาดนี้นี่มันอะไรกัน…”
หลิวเสี่ยวเฟยถอนหายใจราวกับปรงกับชีวิตนี้แล้ว
จ้าวเฉียนไม่จำเป็นต้องเข้าห้องแต่งตัวใดๆ แค่ถอดเสื้อและเอาเสื้อสำหรับออกกำลังกายมาเปลี่ยน เท่านี้ก็เสร็จสิ้นแล้ว
ขณะที่รอหลิวเสี่ยวเฟิงกำลังเปลี่ยนชุดเตรียมตัว เขาก็เริ่มวอร์มร่างกายรอไปก่อน
สิบนาทีต่อมา หลิวเสี่ยวเฟยเพิ่งจะออกมา ทว่าคราวนี้เธอสวมปอร์ตบราและกางเกงรัดรูปผ้าบางสีดำ ปล่อยผมยาวสลวยดูเซ็กซี่เกินห้ามใจ พร้อมด้วยฉีดน้ำหอมฟีโรโมนกลิ่นหวาน โดยรวมช่างทรงเสน่ห์ยิ่งกว่าตอนปกติเสียอีก
เอากันตามตรง เดิมทีจ้าวเฉียนแค่ต้องการจับเธอมาเซ็นสัญญากับสังกัดของเขาเพื่อปั้นเธอเป็นเน็ตไอดอล ปราศจากความคิดเรื่องมีอะไรกับเธอโดยสิ้นเชิง ทว่าตอนนี้…
“คุณหลิวสวยมากเลยครับ สงสัยจะคงต้องเลื่อนขั้นจากนางสนมเป็นคนรักได้แล้ว…”
จ้าวเฉียนพูดติดตลก
ต้นขาเรียวสวยของหลิวเสี่ยวเฟยค่อยๆบีบรัดหากัน ผนวกเข้ากับกางเกงสีดำรัดรูปนั้นแล้วทำให้เห็นส่วนสงวนของเพศหญิงได้ชัดขึ้นไปอีก เธอคลี่ยิ้มหวานให้จ้าวเฉียนและเอ่ยเสียงออดอ้อนขึ้นว่า
“คุณจ้าวทำไมปากหวานจังค่ะ? แล้วแต่งตัวแบบนี้…ชอบไหมค่ะ? ฉันไม่เคยแต่งตัวแบบนี้ให้ใครดูสักครั้ง ก็เลยไม่รู้ว่ามันดูดีหรือเปล่า อีกอย่าง…ฉันไม่เคยมีประสบการณ์อะไรแบบนี้ด้วยสิ”
ถ้าผู้ชายคนนั้นไม่ได้โง่เกินไปหรือมีเซลสมองแค่80,000เซลก็จะเข้าใจความหมายที่เธอกำลังสื่อกับจ้าวเฉียนได้ทันทีว่า ตัวเธอเองยังโสดและเขายังมีโอกาสสานสัมพันธ์ต่อกับเธอ
จ้าวเฉียนยิ้มและค่อยๆย่างเท้าก้าวเข้าไปประชดตัวเธอ เขากล่าวขึ้นว่า
“คุณหลิวอย่าเล่นกับไฟจะดีกว่านะครับ”
หลิวเสี่ยวเฟยยิ้มสู้อย่างไม่เกรงกลัวใดๆ
“หุหุ…งั้นเริ่มกันเลยดีไหมค่ะ? ถ้าเทรนเสร็จเร็วก็ได้…ขึ้นนอนเร็วนะ”
หลิวเสี่ยวเฟยครางเน้นเสียงหวานตอนจบประโยค พร้อมแววตาพิศวาสเปี่ยมล้น
“อันที่จริงนอนที่นี่เลยก็ไม่เลวนะครับ”
“ไม่ได้นะคะ นอนกันตรงนี้เดี๋ยวก็เป็นหวัดแย่”
“ถ้าอย่างนั้น…หลังจากนี้คุณหลิวก็เลือกห้องนอนได้ตามสบายนะครับ วิลล่าแห่งนี้มีห้องเยอะเกินจำได้ ดังนั้นตามสบายเลย”
“เอาล่ะ ถ้าอย่างงั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า…”
จากนั้นทั้งสองก็เริ่มเทรนกันทันที
เมื่อตอนที่อยู่ในฟิตเนส หลิวเสี่ยวเฟยมักจะตะโกนสั่งนักเรียนของเธอว่าควรจะทำยังไงถึงจะถูกต้องด้วยเสียงเท่านั้น แต่ในตอนนี้กลับแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง ทุกอากัปกิริยาขณะที่เธอสอนจ้าวเฉียนล้วนถึงเนื้อถึงตัวแบบแนบชิด
ถ้าจะให้พูดตามจริงคือ เธอกำลังเร้าโรมจ้าวเฉียนด้วยหุ่นอันสุดเซ็กซี่ของเธออย่างต่อเนื่องไม่หยุด
ทนได้อยู่สักครู่หนึ่ง ในที่สุดจ้าวเฉียนก็ตบะแตกทนไม่ไหว เขาหันไปสวมกอดหลิวเสี่ยวเฟยทันที ทั้งสองประกบจูบอย่างเร้าร้อน และเริ่มบรรเลงเพลงรักท่ามกลางห้องยิมทันที