ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี - ตอนที่8 พี่เฉียน
ตอนที่8 พี่เฉียน
NovelHall
ตอนที่8 พี่เฉียน
ช่องไลฟ์สตีมสดเงียบสงัดไปครู่ใหญ่ อู๋ซินนั่งร้องไห้เป็นรอบที่สามแล้ว
“ทำบ้าอะไรของเธอ? ไหนว่าจะร้องเพลงตามคำขอ? ตอนนี้ไม่เห็นร้องเลยสักกะแอะ แง่ว…”
ทุกคนทราบดีว่าจะต้องมีใครสักคนในนี้เป็นเกรียนคีย์บอร์ด แต่พวกเขาก็แค่คนธรรมดาไม่สามารถทำอะไรกับพวกมันได้ ทุกคนยิ่งรู้สึกอึดอัดไม่กล้าร้องขอเพลงให้ร้องเพลงอะไรอีกเลย
ในเวลานั้นเอง ก็มีบางคนเริ่มนึกถึงพี่เฉียน
พี่เฉียนคนนี้ถือเป็นคนดังในช่องไลฟ์สตีมสด ทั้งยังเข้ามาส่งของขวัญให้กับอู๋ซินทุกวัน โดยรวมแล้วเท่าไหร่ก็ไม่ค่อยแน่ใจนัก แต่ที่แน่นอนคือ เขาส่งให้ทุกวันไม่ขาดสาย
“แล้วพี่เฉียนล่ะ? เขาอยู่ไหน? ออกมาเร็ว! น้องซินของพวกเราจะไม่สามารถไลฟ์สตีมได้อีกแล้วนะ! ได้โปรดช่วยเธอด้วย!”
“พี่เฉียนยังอยู่ไหม?”
“ใช่แล้ว! พี่เฉียน พี่ไม่ยอมให้เธอถูกรังแกแบบนี้ใช่ไหม?!”
“พี่เฉียน ได้โปรดออกมาช่วยทีเถอะ!”
“พี่เฉียน ออกมาเร็วๆ ทีเถอะ…”
ในกล่องสนทนา ทุกคนต่างปัดหน้าจอเรียกหาแต่จ้าวเฉียน ทว่าทันใดนั้นเองก็มีไอคอนจรวดพุ่งขึ้นมากลางไลฟ์สตีมสด
“พี่เฉียน ได้มอบจรวดx1, x2, x3,….x100…x200….”
ไอคอนจรวดยังคงพวยพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องกลางช่องไลฟ์สด จนตอนนี้ยอดทะลุไปกว่าx666แล้ว
อู๋ซินเช็ดคราบน้ำตาพร้อมรอยยิ้มและกล่าวขอบคุณสำหรับพี่เฉียนที่ให้ของขวัญเธอ แต่แล้วยังไงเธอก็บอกได้เพียงว่า มันเปล่าประโยชน์ เพราะเธอถูกฉีกสัญญาแล้ว ไม่ว่าจะมอบของขวัญให้สักเท่าไหร่ เธอก็จะไม่ได้รับส่วนแบ่งแล้วเช่นกัน
ทุกคนต่างพิมพ์หาพี่เฉียนเพื่อขอร้องให้ช่วยอู๋ซิน สามารถมอบของขวัญให้เยอะขนาดนี้ได้ อีกฝ่ายต้องรวยและมีเส้นสายมากแน่นอน ในยุคสมัยแบบนี้มีเทคโนโลยีโอนเงินถึงกันโดยตรง ตราบใดที่ได้เลขบัญชีหรือช่องทางติดต่อมา เรื่องพวกนี้กลับไม่ใช่ปัญหาเลย
จ้าวเฉียนไม่รู้เลยว่า เกิดอะไรขึ้นกับอู๋ซินกันแน่ แต่สิ่งหนึ่งที่เขารู้แน่นอนคือ ตราบเท่าที่เขาไม่เต็มใจ ก็ไม่มีใครสามารถยุติบทบาทสตีมเมอร์ของเธอได้
เขาจึงพิมพ์ตอบกลับไปว่า : “ถ้าฉันไม่เห็นด้วย ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถบังคับให้เธอยุติอาชีพนี้ได้!”
ทุกคนต่างรู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันควันเมื่อเห็นประโยคนี้
จ้าวเฉียนไม่สนว่าภายในนั้นจะสนทนาอันใด และยังคงดูอู๋ซินไลฟ์สดต่ออย่างเงียบๆ
เป็นเวลาห้าทุ่ม อู๋ซินร้องไห้พลางโบกมือกล่าวลากับทุกคน และกลายมาเป็นการไลฟ์สตีมครั้งสุดท้ายที่จากลากันด้วยน้ำตา
จ้าวเฉียนรู้สึดอึดอัดอย่างมาก ทั้งยังโกรธจัดราวกับตนถูกขโมยของสำคัญไป
เขาโทรหาหวังฉีเลขาของพ่อในทันที
“สวัสดีครับ คุณชายจ้าว มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ?”
“เลขาหวัง ผมอยากให้คุณลองตรวจสอบภูมิหลังของบริษัทแพลตฟอร์มไลฟ์สตีมเฟยอวี่ให้หน่อย”
“ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบเลยครับ บริษัทนี้กำลังวางแผนร่วมหุ้นกับบริษัทของเราพอดีในเร็วๆ นี้ เราได้รวบรวมข้อมูลบนแพลตฟอร์มนี้ไว้หมดแล้ว เดี๋ยวให้ผมอัปโหลดส่งไปเลยไหมครับ?”
“โอเคเลยผู้จัดการหวัง! ส่งมาที่เมลผมได้เลย!”
จ้าวเฉียนวางสายและลุกไปเปิดคอมพิวเตอร์ ล็อกอินเข้าสู่กล่องจดหมายโดยไว
หวังฉี ส่งเมลมาแล้ว
เฟยอวี่ ไลฟ์ บอร์ดแคลส แพลตฟอร์ม เป็นบริษัทในเครือ เฟยอวี่ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมปะนี และยังเป็นหนึ่งในสามบริษัททางด้านอุตสาหกรรมไลฟ์สดผ่านระบบเน็ตเวิร์ดที่ใหญ่ที่สุดในโลก และอีกสองบริษัทดังกล่าวคือ หลงย่า และสวอน ประธานบริษัทเฟยอวี่ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมปะนี คือ หยางเฉิง และลูกชายเพียงคนเดียวมีนามว่า หยางหมิง
หยางเฉิงเป็นคนเจ้าชู้ มีวีรกรรมไปผัวพันกับนักร้องหญิงในวงการมากมาย ส่วนหยางหมิงก็เป็นพวกหื่นกามไม่ต่างกัน และชอบดูไลฟ์สตรีมของสาวๆ และข่มขู่ให้สตีมเมอร์สาวเหล่านั้นตกเป็นเหยื่อ
หยางหมิงมีนิสัยติดหรูและเย่อหยิ่งเป็นที่สุด ไม่มีใครสามารถคุมเขาได้
ผู้หญิงคนใดที่ถูกใจ เขามักจะใช้เงินซื้อพวกเธอโดยตรง รวมไปถึงใช้สถานะของตนเองเข้าข่มขู่หากฝ่ายหญิงไม่ยอม พูดได้ว่าจะตามรำครวญไม่มีหยุดจนกว่าเขาจะได้ครอบครองหรือพอใจ
คำถามหนึ่งผุดขึ้นในหัวทันที หรือเป็นไปได้ไหมว่า ที่อู๋ซินถูกสั่งให้ยุติบทบาทสตีมเมอร์ เป็นเพราะเธอปฏิเสธเรื่องอย่างว่าที่หยางหมิงเอ่ยขอ?
จ้าวเฉียนอดคิดเรื่องนี้ไม่ได้ สุดท้ายก็นึกอะไรดีๆ ออก ส่งข้อความWeChatไปให้อู๋ซิน
“คุณรู้สึกโอเคขึ้นรึยัง? พอดีพ่อของฉันอาจช่วยอะไรเธอได้ พรุ่งนี้วันเสาร์ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือ สนใจมานัดเจอกันดูไหม?”
หลังจากนั้นไม่นานนัก อู๋ซินก็ส่งข้อความตอบกลับมา
“ได้เลย! เจอกันที่สตาร์บัคสาขาจัตุรัสชุมชน พรุ่งนี้สิบโมงเช้า”
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่จ้าวเฉียนยังนอนหลับปุ๋ยอยู่ จู่ๆ ฟางนี่ก็โทรมาหา
“ห๊าวว… ครับคุณฟาง มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
“เอ่อ…อย่าเรียกฉันแบบนั้นเลยคุณจ้าว ต่อไปเรียกแค่ว่าเสี่ยวฟางหรือเสี่ยวนี่ก็ได้ค่ะ แค่ฉันโทรมาสอบถามให้แน่ใจน่ะค่ะว่า คุณอยากให้บริษัทของเรากับบริษัทบ็อกเชอร์ร่วมมือกันพัฒนาเกมอยู่หรือไม่?”
“ทำไมจะไม่ร่วมมือล่ะ?”
“แต่ว่า….ทางนั้นยกเลิกที่จะให้ความร่วมมือกับเราแล้ว”
“ห่ะ? เรื่องนี้จะเป็นไปได้ยังไง? แปลกมาก ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่นอน ช่างเถอะ เดี๋ยวผมจัดการเรื่องนี้ต่อเอง”
“โอเคค่ะคุณจ้าว ฉันจะรอค่ะ”
จ้าวเฉียนฮัมเพลงอยู่สักครู่ และได้วางสายโทรศัพท์ไป จากนั้นก็โทรหาผู้รับผิดชอบโครงการของบริษัทเกมบ็อกเชอร์
บุคคลที่มีหน้าที่รับผิดชอบมีชื่อว่า เฉินซิง ซึ่งเป็นน้องชายของเฉินหยาง ตัวแทนของบริษัทซิงหยวน คอปเปเรชั่น
“ว่าไงครับ คุณเฉินซิงมีปัญหาอะไรหรือเปล่า? ทำไมจู่ๆ ถึงหยุดให้ความร่วมมือกับเราไปเฉยๆ เลย?”
“ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แค่ไม่อยากร่วมมือกับคุณ คำตอบเท่านี้พอใจรึยัง?”
นี่เป็นการยั่วโมโหกันอย่างเห็นได้ชัด จ้าวเฉียนกรนเสียงเย็นชาเล็กน้อยและตอบไปว่า
“ผมว่าผมค่อนข้างสนิทกับพี่ชายของคุณนะ อย่าบังคับให้ผมต้องใช้ลูกเล่นอะไรหน่อยเลยจะดีกว่า”
“ฮ่าฮ่า….โคตรตลกเลยวะ พี่ชายของฉันจะไปสนิทกับพวกชนชั้นต่ำต่อยแบบนายได้ยังไง? เก็บปากไว้กินข้าวจะดีกว่านะ เอ่อแล้วก็….หากยังต้องการร่วมมือกับทางเราต่อไป นายก็ไปหาเงินมาให้ฉันสักล้านนึง ไม่งั้นก็เลิกติดต่อมาได้แล้ว”
จากนั้นเฉินซิงก็ตัดสายทิ้งทันทีหลังพูดจบ
จ้าวเฉียนระเบิดหัวเราะเยาะพลางคิดหาวิธีแก้ปัญหาในใจ
ตัวแทนทางด้านกฎหมายของสองบริษัทนี้อย่างเฉินซิงกับเฉินหยาง อันที่จริงก็ล้วนเป็นคนของจ้าวฝูหรือก็คือพ่อของเขา
ดังนั้นจ้าวเฉียนเองก็ไม่ต่างอะไรกับว่าที่ประธานบริษัทสองค่ายเกมนี้เลยในอนาคต วิธีแก้ปัญหาจริงๆ แล้วมันง่ายกว่าที่คิด
แต่อย่างไร จ้าวเฉียนไม่คิดที่จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตนเอง เพียงเพื่อใช้แก้ปัญหานี้ เพราะกลัวว่าเจวียงหยวนและคนอื่นๆ จะรู้เข้าได้
หากเป็นแบบนั้นการจะแกล้งพวกเพื่อนร่วมงานของเขาก็ไม่สนุกน่ะสิ ในทางตรงข้ามพวกนั้นคงคลานเข่าเข้ามาเลียขาเขาแทน
จ้าวฉินต้องการเล่นสนุกกับพวกนั้นนานกว่านี้ อย่างน้อยก็ได้ทรมานพวกมันไปอย่างช้าๆ
จ้าวเฉียนเคยติดต่อกับเฉินซิงอยู่หลายครั้ง จึงรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นพวกชอบเที่ยวและดื่มเป็นที่สุด
จ้าวฉินต่อสายตรงโทรหาหยางหู่โดยไว
“โอ้ คุณชายจ้าว โทรหาผมแต่เช้าตรู่ มีเรื่องอะไรให้ช่วยไหมครับ?”
“ลูกเสือน้อยตัวเมื่อคืนเป็นยังไงบ้าง?”
“ไม่ต้องห่วงครับ หลิวเปาเอาตัวกลับไปแล้ว ซึ่งอีกฝ่ายเองก็ไม่กล้าหือกับผมเหมือนกัน”
“งั้นก็ดีแล้วล่ะ ผมขอวานอะไรหน่อย พอส่งคนของพี่หู่ไปเฝ้าติดตามชายที่ชื่อเฉินซิงได้ไหม เป็นคนของบริษัทเกมบ็อกเชอร์ ไปหาข้อมูลให้ได้ว่ามันนัดติดต่อกับใครบ้าง เสร็จแล้วก็โทรมารายงานผม”
“ไม่มีปัญหาครับ”
จ้าวเฉียนฮัมเพลงต่อพร้อมวางสายไป
ตราบเท่าที่เฉินซิงยังไม่หลุดรอดสายตาของเขา จ้าวเฉียนย่อมทราบถึงสาเหตุหลักได้แน่นอนในไม่ช้าก็เร็ว
ตอนนี้เป็นเวลาเก้าโมงเช้าแล้ว จ้าวเฉียนรีบไปอาบน้ำแปรงฟัน แต่งตัวเสร็จก็ออกไปทันที
แต่พอเข้ามาในโรงจอดรถกลับต้องปวดหัว ไม่รู้ว่าวันนี้จะขับรถคนไหนดี?
รถพวกนี้ทั้งหมดถูกซื้อโดยตัวเขาเมื่อห้าปีก่อน นอกจากรถสปอร์ตคันหรูมูลค่า100ล้าน รถที่เหลือก็ล้วนแต่เป็นรถมีชื่อเสียง ทั้งเฟอร์รารี่ ปอร์เช่ และอื่นๆ อีกมากมาย ฟ้าปีก่อนตอนที่เขายังเด็กเป็นคนที่ชอบรถตระกูลพวกนี้มาก แต่หลังจากห้าปีแห่งความเติบโต ตอนนี้เขาเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว และไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนต่อสาธารณะ ดังนั้นเขาจึงต้องการรถระดับล่างสักคนพอ
ใกล้ถึงเวลานัดพบกันแล้ว จ้าวเฉียนตัดสินใจนั่งแท็กซี่ออกไปที่สตาร์บัคสาขาดังกล่าว เมื่อไปถึงที่นั่นก็พบอู๋ซินที่กำลังยืนรอเขาอยู่หน้าประตู