ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - ตอนที่ 106 เธอมาเป็นแฟนฉันเถอะ!
ตอนที่ 106 เธอมาเป็นแฟนฉันเถอะ!
ณ เสิ้งติ่งมีเดีย
เฉินถิงเซียวกำลังประชุมอยู่ แล้วจู่ๆโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะก็สั่นขึ้น
เขาชำเลืองมองไปที่โทรศัพท์ เพียงแวบเดียว ความเยือกเย็นบนใบหน้าก็อ่อนโยนขึ้นทันที
จากนั้น เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเดินออกไปจากห้องประชุมทันที
พอเขาไปแล้ว เดิมทีห้องที่เงียบสงัดแทบไม่กล้าหายใจแรงนั้นก็คึกคักขึ้นมาทันที ต่างก็รุมถามกู้จือหยั่น “ประธานกู้ ใครโทรมาหาท่านประธานเหรอ”
“จะใครอีกล่ะ ก็ต้องภรรยาเขาสิ” กู้จือหยั่นไม่จำเป็นต้องดูโทรศัพท์ของเฉินถิงเซียวเลย ก็สามารถเดาได้ว่ามู่น่อนน่อนโทรมาหาเขา
“ท่านประธานมีเมียด้วยเหรอ”
“แล้วไม่ใช่หรือไง ขนาดคนนิสัยอย่างเขายังหาเมียได้เลย แต่ฉันกลับยังไม่มี……”
……
พอปิดประตูห้องประชุมแล้ว เฉินถิงเซียวก็กดรับโทรศัพท์
ไม่รอให้เขาเปิดปาก เสียงมู่น่อนน่อนที่อยู่อีกฝั่งก็ดังขึ้นก่อน “คุณทำงานอยู่ที่ไหนเหรอ เดี๋ยวตอนเที่ยงฉันจะเอาข้าวกล่องไปให้คุณ”
เดิมทีเสียงของเธอก็นิ่มนวลอยู่แล้ว ขณะนี้ยังจงใจพูดให้จังหวะช้าลง เลยทำให้ฟังดูอ่อนโยนขึ้น
มู่น่อนน่อนจะเอาข้าวกล่องมาให้เขา ?
เขาฟังผิดไปหรือเปล่า หรือว่าวันนี้เธอทานยาผิด ?
“เธออยู่ที่บ้านเหรอ ?”
“ใช่สิ”
“งั้นฉันจะกลับไปกิน”
“ก็ได้” ยังไงเป้าหมายของเธอก็ไม่ใช่การเอาข้าวไปส่งให้เขาอยู่แล้ว
…….
เที่ยงวัน “เฉินเจียฉิน”กลับมาได้ตรงเวลามาก
มู่น่อนน่อนยกซุปออกมาวางบนโต๊ะ แล้วก็เห็นเขาเดินเข้ามาในห้องอาหาร
“กลับมาทันเวลาพอดี ทานข้าวได้แล้ว” มู่น่อนน่อนยังไม่ได้ถอดผ้ากันเปื้อนบนตัวออก ยืนอยู่อีกฝั่งของโต๊ะ แล้วมองเขาด้วยรอยยิ้ม
เฉินถิงเซียวลังเลเล็กน้อย เขารู้สึกว่าวันนี้มู่น่อนน่อนทำตัวแปลกๆ
แต่เขาก็ไม่ได้แสดงออกมา มองประเมินเธออย่างเงียบๆ จากนั้นก็นั่งลงแล้วเริ่มทานข้าว
มู่น่อนน่อนพบว่า เวลาที่”เฉินเจียฉิน”กำลังทำอะไรสักอย่าง เขาจะมีสมาธิมาก แม้แต่เวลาทานข้าวก็เช่นเดียวกัน ราวกับในสายตามีแค่อาหารที่อยู่ตรงหน้า ไม่หันไปมองสิ่งอื่นนอกจากนั้นเลย
มู่น่อนน่อนล้วงโทรศัพท์ออกมาจากในกระเป๋า แล้วถ่ายใบหน้าด้านข้างของ”เฉินเจียฉิน”ไว้รูปหนึ่ง
“เฉินเจียฉิน”หันไปมองเธอราวกับจับสัมผัสได้ ดวงตาที่คมเข้มราวกับน้ำหมึกนั้นดูเหมือนจะสามารถมองทะลุผ่านผู้คนได้
ใจของมู่น่อนน่อนรู้สึกตื่นกลัวขึ้นมา เขาคงจับไม่ได้ว่าเธอแอบถ่ายเขาหรอกใช่ไหม!
ปรากฏว่า “เฉินเจียฉิน”กลับถามเธอแค่คำเดียวว่า “เธอไม่กินเหรอ ?”
“ฉันยังไม่ค่อยหิว คุณทานก่อนเถอะ” มู่น่อนน่อนพูดไปพลาง ถอดผ้ากันเปื้อนไปพลาง
รอจน”เฉินเจียฉิน”ทานข้าวเสร็จและออกไปแล้ว มู่น่อนน่อนถึงได้ออกไปข้างนอก
เธอนั่งรถบัสไปที่บ้านเช่า ก่อนที่จะไป เธอยังเอาอาหารมากมายมาจากบ้านด้วย
เฉินเจียฉินน้อยกำลังนั่งเล่นเกมอยู่บนโซฟา ข้างๆมือมีซองมันฝรั่งทอดวางอยู่ และเศษมันฝรั่งทอดก็กระเด็นไปทั่วบริเวณ
“ทานข้าวเที่ยวแล้วใช่ไหม” มู่น่อนน่อนเดินไปทางเขาพลาง อีกด้านก็เก็บขยะบนพื้นไปด้วย
เฉินเจียฉินน้อยเงยหน้าขึ้นมองเธอทีหนึ่ง “ยัง”
มู่น่อนน่อนรู้สึกว่าเด็กคนนี้เกเรเกินไปแล้ว เพียงเพราะเรื่องเล่นเกม เลยหนีออกจากบ้านข้ามโพ้นทะเลมาแบบนี้
“ถ้าฉันไม่มานายคิดจะทำยังไง ไม่ติดต่อคนที่บ้านด้วย ตั้งใจจะหิวตายอยู่ที่นี่เหรอ”
เขาพูดโดยไม่เงยหน้า “หิวตายน่ะไม่มีทางหรอก อย่างมากสุดก็แค่ไปปล้นธนาคาร”
น้ำเสียงฟังดูจริงจังมาก
มู่น่อนน่อน “……”
ในที่สุด เขาก็เล่นจนจบเกม แล้วก็เริ่มเปิดกล่องข้าวที่มู่น่อนน่อนเอามาให้เขาออกมาทาน พอทานไปคำสองคำ เขาก็เงยหน้าขึ้นมาทันที แล้วพูดด้วยสีหน้าแปลกใจว่า “ครั้งต่อไปฉันขออาหารจากร้านนี้อีกนะ !”
มู่น่อนน่อนชี้ที่มุมปากของเขา เพื่อบอกว่ามีเม็ดข้าวติดอยู่ “ฉันทำเอง”
เขายกมือขึ้นลูบมุมปากของตัวเอง จากนั้นก็พูดสิ่งที่น่าทึ่งออกมา “เธอมาเป็นแฟนฉันเถอะ !”
มู่น่อนน่อน “……”
เขาเห็นว่ามู่น่อนน่อนไม่พูดไม่จา เลยเป็นฝ่ายพูดก่อน “ถึงแม้ว่าตอนนี้ฉันจะยากจน แต่รอให้ฉันเล่นเกมระดับมืออาชีพ ฉันก็สามารถหาเงินมาซื้อกระเป๋าเสื้อผ้าเครื่องสำอางให้เธอได้แล้ว เธอลองคิดดูก่อนแล้วกัน”
ผู้หญิงต่างก็ชอบซื้อของพวกนี้ คุณแม่ก็เป็นแบบนี้ ทุกวันเอาแต่ซื้อซื้อซื้อ
คำพูดที่จริงจังนั้น ทำเอามู่น่อนน่อนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“อย่าพูดอะไรไร้สาระ ฉันแต่งงานแล้ว” ขณะที่มู่น่อนน่อนพูด ก็หยิบมือถือออกมาเปิดรูปของ”เฉินเจียฉิน”ที่ถ่ายก่อนหน้านี้ให้เขาดู “นายรู้จักผู้ชายคนนี้ไหม”
เฉินเจียฉินมองแค่แวบเดียว ก็พูดขึ้นว่า “นี่พี่ชายลูกพี่ลูกน้องของฉันนี่ เธอไปแอบถ่ายมาจากไหน”
พอพูดจบ เขาก็อย่างตื่นตระหนกอีกว่า “เขาอยู่ที่ไหน ฉันเห็นเธอเป็นเพื่อน แต่เธอกลับไปเรียกเขามาจับตัวฉันกลับไปเหรอ !”
“เปล่า !” มู่น่อนน่อนรู้สึกว่าเด็กคนนี้ตอบสนองได้รวดเร็วดี “ลูกพี่ลูกน้องคนไหนของนาย”
“เฉินถิงเซียวไง !แม่ของฉันกับพ่อของเขาเป็นพี่น้องแท้ๆ แล้วเขาก็มีฉันคนเดียวที่เป็นลูกพี่ลูกน้อง” พอพูดจบเขาก็ก้มหน้าทานข้าวต่อ แถมยังพูดจาพึมพำฟังไม่ชัดว่า “อร่อยจริงๆ เธอหย่ากับสามีแล้วมาเป็นแฟนฉันดีกว่า สามีเธอให้เธอมาอยู่ในที่แบบนี้ จะต้องเอาเงินไปเลี้ยงเมียน้อยแน่ รีบหย่ากับเขาดีกว่า ฉันทั้งหนุ่มทั้งหล่อ แถมยังมีศักยภาพไม่จำกัด……”
ความตื่นตกใจและความโมโหทั้งหมดที่อยู่ในใจของมู่น่อนน่อน ตอนที่ได้ฟังคำพูดของเฉินเจียฉินน้อยแล้ว ก็พังทลายลงในทันที
“เด็กอย่างนายจะไปเข้าใจอะไร !”
เขายังพูดเองเออเองต่อว่า “ถึงพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของฉันจะหน้าตาใช้ได้ แต่เขานิสัยแย่มากเลยนะ น่ากลัวมากด้วย คนแบบเขาไม่มีทางหาแฟนสาวได้หรอก ได้ข่าวว่าเมียของเขาเป็นพวกขี้เหร่ด้วย ฮ่าฮ่าฮ่า……”
สีหน้าของมู่น่อนน่อนมืดมนทันที แล้วพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า “นายคิดจะอยู่แบบนี้ต่อไปเหรอ เมื่อไหร่จะติดต่อพ่อแม่นาย”
“ฉันไม่ติดต่อพวกเขาหรอก นอกจากพวกเขาจะยอมให้ฉันไปลงแข่ง”
“พวกเขาจะกระวนกระวายได้นะ !”
“ไม่หรอก พวกเขาชินแล้ว ดังนั้นครั้งนี้ฉันก็เลยมาไกลหน่อย ให้เวลานานสักหน่อย จะได้ดึงความสนใจและความเข้าใจของพวกเขาได้”
“……” มู่น่อนน่อนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อดีแล้ว
ที่แท้ก็เป็นผู้ร้ายที่หนีออกจากบ้าน
พ่อแม่ของเขาเองก็……ค่อนข้างตามใจเลย
แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่ง ส่วนตอนนี้เธอก็ไม่สะดวกที่จะบอกเรื่องของเขากับ”เฉินเจียฉิน” แต่ก็ปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้ เลยทำได้แค่คอยดูแลเขาไปอีกสักระยะหนึ่ง
ระหว่างทางกลับ มู่น่อนน่อนก็ได้รับสายโทรเข้าจากมู่ลี่เหยียน
“น่อนน่อน ลูกกับเฉินถิงเซียวคุยกันได้ยังไงบ้างแล้ว เมื่อไหร่เขาจะออกหน้าช่วยพวกเราเหรอ”
มู่น่อนน่อนถอนหายใจ แล้วพูดว่า “เงินในแบล็คการ์ดหายไปตั้งขนาดนั้น เขาหาว่าหนูใช้เงินมากเกินไป เลยเก็บแบล็คการ์ดกลับไป แล้วไม่ยอมมาเจอหน้าหนูทั้งวันแล้วค่ะ”
“แบบนี้ไม่ได้นะ ลูกต้องทำให้เขายอมช่วยพวกเราให้ได้”
“หนูจะพยายามค่ะ คุณพ่อ วางใจเถอะค่ะ”
“พ่อต้องวางใจอยู่แล้ว เพราะลูกเป็นลูกที่กตัญญู โดยเฉพาะกับแม่ของลูก……เธอเคยชินกับชีวิตที่เรียบง่ายมาหลายปีแล้ว ถ้าเกิดบริษัทมู่ซื่อล้มละลายขึ้นมา พ่อก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่หรอก แต่พ่อทนไม่ได้ที่จะปล่อยให้แม่ของลูกต้องใช้ชีวิตยากลำบากแบบนั้น……”
มู่ลี่เหยียนกับเซียวชู่เหอต่างก็เหมือนกัน ที่คิดว่ามู่น่อนน่อนนั้นใส่ใจเซียวชู่เหอมาก ดังนั้นก็เลยจงใจพูดแบบนี้เพื่อให้มู่น่อนน่อนพยายามช่วยเหลือเขา
มู่น่อนน่อนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูหวั่นไหว “อืม หนูเข้าใจแล้วค่ะ”
พอวางสายไป มู่น่อนน่อนก็ทำเสียงในลำคอทีหนึ่ง จากนั้นก็ยัดโทรศัพท์ลงในกระเป๋า
ให้เธอขอร้องเฉินถิงเซียวเพื่อช่วยบริษัทมู่ซื่ออย่างนั้นหรือ ? ไม่มีทางเสียหรอก