ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - ตอนที่ 111 จุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร
ตอนที่ 111 จุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร
เฉินถิงเซียวเหมือนปกติ สวมใส่ชุดสูทที่สั่งตัดพิเศษ สีหน้าเคร่งขรึม กลิ่นไอเยือกเย็น
แววตาดำเข้มเหมือนหมึกคู่นั้นจ้องมองมู่น่อนน่อนไว้ ถึงแม้เขาไม่ได้พูดอะไรเลย แต่มู่น่อนน่อนรู้สึกได้ถึงออร่าที่มีแรงกดดันมากฟุ้งกระจายออกมาจากตัวเขาอย่างชัดเจน
มู่น่อนน่อนนึกถึงเรื่องที่ตัวเองทำกับเขาในเมื่อคืนที่โรงแรมจีนติ่ง ถอยหลังหลายก้าวอย่างห้ามใจไม่ได้ เธอดึงชายเสื้อของเฉินเจียฉิน และถามเขาด้วยเสียงเบา:“นายรู้มั้ยว่าอินเตอร์เน็ตคาเฟ่มีประตูหลังหรือเปล่า?”
เฉินเจียฉินนึกว่าเธอเจอเฉินถิงเซียวเลยกลัว ที่จริงเขาก็กลัวอยู่ แต่เขาเป็นผู้ชาย จะขายหน้าต่อหน้าผู้หญิงไม่ได้
เขาแกล้งทำเป็นสงบและคอยปลอบโยนเธอ:“เธอไม่ต้องกลัวหรอก เขามาหาฉัน ไม่ทำอะไรเธอหรอก”
มู่น่อนน่อนแทบอยากร้องไห้ เธอรู้สึกคำพูดนี้น่าจะเธอเป็นคนพูดมากกว่า
เฉินเจียฉินพูดจบ ก็เดินไปบังอยู่ที่ด้านหน้าของมู่น่อนน่อน เชิดหน้าตะโกนให้เฉินถิงเซียว:“ผมกลับไปกับพี่ก็ได้ แต่พี่ห้ามหาเรื่องเธอนะ!”
พอพูดจบ เขาก็เผชิญกับสายตาเย็นชาของเฉินถิงเซียว
เฉินเจียฉินหดคอ แต่สุดท้ายก็ได้รวบรวมความกล้าหาญ บังอยู่ที่ตรงหน้าของมู่น่อนน่อนด้วยสีหน้าไม่เกรงกลัว
ถ้าไม่ใช่เพราะตอนนี้เฉินเจียฉินยังไม่รู้สถานการณ์ที่ชัดเจน มู่น่อนน่อนยังรู้สึกซึ้งอยู่
แต่หลังจากเฉินเจียฉินพูดจบ เห็นได้ชัดว่าสีหน้าของเฉินถิงเซียวก็ยิ่งเปลี่ยนเป็นมืดครึ้มแล้ว ถ้าขืนให้เฉินเจียฉินพูดต่อไป ผลลัพธ์ของเธอมีแต่จะยิ่งแย่
มู่น่อนน่อนดึงเฉินเจียฉินไว้ และหันหลังวิ่งเข้าไปในอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ทันที
เฉินเจียฉินวิ่งตามเธอด้วยจิตใต้สำนึก แต่วิ่งไปไม่กี่ก้าว เขาก็ถามเธอด้วยน้ำเสียงข้องใจ:“เธอวิ่งทำไม? ถึงแม้พี่ของฉันจะเป็นมารปีศาจ แต่เขาไม่รังแกผู้หญิงหรอก”
มารปีศาจ?
มู่น่อนน่อนก็รู้สึกนามเรียกนี้มีชีวิตชีวามาก
แต่ว่า เฉินถิงเซียวไม่รังแกผู้หญิงงั้นเหรอ?
เหอะๆ ไม่จริงหรอก เธอไม่เชื่อ
“อย่าพูดไร้สาระเลย รู้ประตูหลังของอินเตอร์เน็ตคาเฟ่มั้ย?”มู่น่อนน่อนไม่มีเวลาอธิบายอะไรกับเขา
เฉินเจียฉินพยักหน้า:“รู้สิ”
เมื่อคืนเขาออกมาเข้าห้องน้ำ เห็นมีประตูหลังอยู่
เพียงแต่ ตอนที่ทั้งสองวิ่งมาถึงประตูหลัง ก็ถูกบอดี้การ์ดของเฉินถิงเซียวขวางเอาไว้แล้ว
มู่น่อนน่อนขมวดคิ้ว:“พวกนายทำอะไร?”
เธอคิดไม่ถึงว่าเฉินถิงเซียวจะเตรียมคนไว้ที่ประตูหลังด้วย!
เฉินเจียฉินก็พูดด้วยความโกรธ:“พวกนายปล่อยพวกเราไปนะ!”
บอดี้การ์ดไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย“คุณชายเจีย คุณหญิงน้อย อย่าทำให้พวกผมลำบากใจเลยครับ”
“คุณหญิงน้อยอะไร?”เฉินเจียฉินสีหน้ามึนงงสับสน
บอดี้การ์ดมองมู่น่อนน่อนทีนึง แต่ไม่ได้พูดอะไร
มู่น่อนน่อนก็รู้ว่ายังไงวันนี้ก็หนีไม่พ้นอุ้งมือของเฉินถิงเซียวแล้ว เธอตบไหล่ของเฉินเจียฉิน:“ฉันก็คือ“ภรรยาขี้เหร่”ของเฉินถิงเซียวที่นายพูดถึง”
เฉินเจียฉิน: (⊙o⊙)…
………….
เฉินเจียฉินกับมู่น่อนน่อนทั้งสองกำลังน้อย สุดท้ายก็ได้ไปกับบอดี้การ์ด
มู่น่อนน่อนเห็นเบนท์ลี่รุ่นลิมิเต็ดคันนั้นอีกแล้ว เฉินถิงเซียวเอามือทั้งสองเสียบไว้ที่กระเป๋ากางเกง มองมู่น่อนน่อนด้วยสีหน้าเรียบเฉย น้ำเสียงเย็นชา“ไม่วิ่งแล้ว?”
ที่จริงมู่น่อนน่อนกลัวนิดหน่อย แต่ว่าให้ความกำลังใจตัวเองว่าถึงจะแย่แค่ไหนก็ต้องพยายามสุดความสามารถ จะถูกคนดูถูกไม่ได้ เธอเชิดหน้ามองเขาด้วยสีหน้าไม่เกรงกลัว:“ไม่ได้กินข้าว วิ่งไม่ไหว”
เฉินเจียฉินยังจมอยู่กับข้อมูลช็อคระเบิดที่ว่า“มู่น่อนน่อนเป็นภรรยาของเฉินถิงเซียว” ยังดึงสติกลับมาไม่ได้
เฉินถิงเซียวไม่พูดมาก เขาเปิดประตูรถและยัดมู่น่อนน่อนเข้าไปโดยตรง
จากนั้น เขาหันมามองเฉินเจียฉินที่ยังอยู่ในสภาพสับสนมึนงง:“เดี๋ยวค่อยคิดบัญชีกับนาย”
เฉินเจียฉินสั่นเล็กน้อย จากนั้นก็รีบมุดเข้าไปในรถอย่างเร็ว
……………
ในรถ มู่น่อนน่อนนั่งอยู่ที่มุมสุด กำลังเล่นโทรศัพท์อย่างเบื่อหน่าย
ถึงแม้เธอค่อนข้างร้อนตัว แต่ก็ยังแกล้งทำเหมือนไม่เป็นไร
เพราะยังไงซะเมื่อเทียบกับเรื่องที่เฉินถิงเซียวทำแล้ว เรื่องที่เธอทำพวกนั้นไม่ถือว่าอะไรเลยด้วยซ้ำ
จู่ๆเฉินถิงเซียวได้ส่งเสียงทำลายความเงียบในรถ
เสียงของเขาทั้งหนักแน่นทั้งเย็นชา:“มีอะไรอยากพูดมั้ย?”
“ไม่มีอะไรจะพูด”มู่น่อนน่อนวางมือถือลง จากนั้นก็เงยหน้ามองเขา:“แล้วคุณล่ะ?”
“คุณก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอ?”น้ำเสียงของเฉินถิงเซียวเรียบเฉยมาก
ราวกับเขาไม่รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย กับเรื่องที่โกหกมู่น่อนน่อน
มู่น่อนน่อนโกรธจนหัวเราะ:“ใช่สิ คุณทุ่มเงินสามร้อยล้านซื้อของเล่นกลับมาชิ้นนึง อยากทำอะไรกับเธอ ก็เป็นอิสระของคุณ”
เฉินถิงเซียวขมวดคิ้วเล็กน้อย น้ำเสียงแฝงด้วยความไม่พอใจ:“มู่น่อนน่อน”
เขาไม่ชอบน้ำเสียงที่เยาะเย้ยตัวเองแบบนี้ของมู่น่อนน่อน
“ทำไมคะ? คุณยังสามารถทำได้เลย แต่ไม่ให้ฉันพูดงั้นเหรอ?”มู่น่อนน่อนจ้องกลับไปอย่างไม่ยอมอ่อนข้อ หางตาเชิดขึ้น มีความเย่อหยิ่งเล็กน้อย
เยาะเย้ยถากถาง ปากจัด!
เฉินถิงเซียวมองดูเธอ หรี่ตาเล็กน้อย น้ำเสียงแฝงด้วยการข่มขู่:“คุณพูดอีกรอบซิ”
“ฉันบอกว่าคุณยังกล้าทำเลย……อืมมม……”
คำพูดของมู่น่อนน่อนยังพูดไม่จบ ก็ถูกเฉินถิงเซียวอุดปากเอาไว้
ผู้ชายสารเลว!
มู่น่อนน่อนใช้ทั้งมือและขาขัดขืนก็ยังไม่มีประโยชน์ เฉินถิงเซียวล็อคตัวเธอไว้ในอ้อมอกอย่างแน่น ให้เธอขยับเขยื้อนไม่ได้
มีการรังแกคนอย่างนี้เสียที่ไหนกัน?
หลอกเธอเสียแย่ขนาดนั้น ตอนนี้ก็มาทำเรื่องใกล้ชิดสนิทสนมกับเธออย่างมีเหตุผลเพียงพอก็สามารถพูดได้อย่างเต็มที่อีก
เรื่องดีๆอะไรก็ถูกเฉินถิงเซียวครอบครองไปหมดแล้ว มีเรื่องดีขนาดนี้ที่ไหนกัน!
มู่น่อนน่อนกัดที่ริมฝีปากเขาแรงๆคำนึง เฉินถิงเซียวเจ็บจนร้อง“ซี๊ด”คำนึง แรงที่มือก็ได้คลายลงมา
รถกำลังจอดลงพอดี มู่น่อนน่อนผลักเขาออกก็เปิดประตูโดดลงจากรถเลย แล้ววิ่งเข้าไปในวิลล่าอย่างเร็ว
เฉินถิงเซียวลงมาจากด้านหลัง ยื่นมือจับริมฝีปาก แล้วก้มหน้าดู พบว่าบนนิ้วมือมีคราบเลือดเปื้อนอยู่
สือเย่ที่อยู่ข้างๆยื่นผ้าเช็ดมือให้เฉินถิงเซียวอย่างเงียบๆ
เฉินถิงเซียวรับผ้าเช็ดมือมาและเช็ดคราบเลือดบนริมฝีปากออก ถึงเข้าไปในวิลล่าอย่างช้าๆ
เฉินเจียฉินเดินตามหลังเขา เข้าไปวิลล่าอย่างไม่สมัครใจ
เขาเห็นเฉินถิงเซียวนั่งลงที่โซฟา ก็จะนั่งตามด้วย ก็ได้ยินเสียงที่ไม่มีอารมณ์อะไรดังขึ้น:“ฉันให้นายนั่งแล้วเหรอ?”
เฉินเจียฉินตัวสั่น และรีบลุกขึ้นมาทันที เป็นเด็กดีเชื่อฟังอย่างกับนกกระทาตัวนึง
เขาไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน กลัวที่สุดก็คือเฉินถิงเซียวพี่ชาย(ลูกพี่ลูกน้อง)คนนี้แหละ
มู่น่อนน่อนไม่ได้กลับห้องนอน แต่ได้หลบอยู่ที่ราวจับบันไดบนชั้นสองและแอบจ้องมองที่ห้องโถง
มองเฉินเจียฉินที่ยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบสงบเหมือนไก่ที่ไม่กล้าขยับแม้แต่น้อย มู่น่อนน่อนถอนหายใจอย่างห้ามใจไม่ได้ ถ้าเฉินถิงเซียวใช้ชีวิตอยู่ในโลกของสัตว์ งั้นเขาต้องเป็นราชาที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารแน่นอน
“พี่ชายนายรู้ว่านายกลับมามั้ย?”
คุณป้าของเฉินถิงเซียวอายุสิบแปดก็คลอดซือเฉิงหยู้แล้ว พออายุสามสิบสี่ถึงคลอดเฉินเจียฉิน
แตกต่างกับคนวัยกลางคนที่ได้ลูกกับคนอื่นๆ ทั้งครอบครัวของคุณป้าต่างก็เลี้ยงดูเฉินเจียฉินแบบปล่อยอิสระ
เฉินเจียฉินมีนิสัยซุกซนไม่ชอบอยู่กับที่ ชอบหนีออกจากบ้านอยู่เป็นประจำ ครอบครัวของคุณป้าชินตั้งนานแล้ว
แต่ถ้าคุณป้ารู้ว่าครั้งนี้เฉินเจียฉินกลับมาที่เมืองหู้หยาง ต้องโทรหาเขาแน่นอน เด็กอายุสิบสี่ ข้ามน้ำข้ามทะเลกลับประเทศคนเดียว พวกท่านต้องวางใจไม่ลงแน่นอน
จนถึงตอนนี้คุณป้ายังไม่ได้โทรหาเขา ต้องยังไม่รู้แน่นอนว่าเฉินเจียฉินกลับมาแล้ว
ส่วนพี่ชายของเฉินเจียฉิน ซือเฉิงหยู้ ตอนนี้ก็อยู่เมืองหู้หยางเหมือนกัน