ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - ตอนที่ 34 เขาผิดปกติมาก
ตอนที่ 34 เขาผิดปกติมาก
รถจดที่หน้าสโมสรที่หรูหราแห่งหนึ่ง
มู่น่อนน่อนหยุดแก้เข็มขัดนิรภัยและมอง “เฉินเจียฉิน”ด้วยสีหน้าสงสัยว่า “จะกินข้าวที่นี่หรือ”
เขาแน่ใจหรือว่าไม่ใช่มาเที่ยวเล่น
เฉินถิงเซียวไม่ได้พูดอะไรก็เปิดประตูรถลงไป
มู่น่อนน่อนก็ตามไปด้วย
พวกเขาสองคนเดินไปทางประตู เฉินถิงเซียวเดินอยู่ข้างหน้าและมู่น่อนน่อนตามอยู่ข้างหลัง พอถึงประตูแล้วผู้บริการก็ก้มเอวพูดกับเฉินถิงเซียวว่า “ยินดีต้อนรับ” แต่พอมู่น่อนน่อนผู้บริการก็ไม่ให้เธอเข้าไป
ผู้บริการมองมู่น่อนน่อนตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงเหยียดหยามว่า “เธอมาทำอะไรที่นี่”
มู่น่อนน่อนก้มหน้าดูการแต่งตัวตน ชำรุดอยู่หน่อยจริงๆ แต่เธอก็พูดอย่างใจเย็นว่า “มากินข้าว”
พอพูดจบเธอก็จะเดินเข้าไป แต่ผู้บริการก็ยังไม่ให้เธอเข้าไป “ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่ใครก็เข้าได้”
มู่น่อนน่อนทำริมฝีปากกล่างยื่น เธอก็ไม่อยากเข้าไปด้วย
เฉินถิงเซียวถึงข้างในแล้ว ปรากฏว่า มู่น่อนน่อนไม่ได้ตามมาจึงกลับไปหาและได้ยินคำพูดของผู้บริการพอดี
เขาเดินเข้าไปและถามผู้บริการว่า “ชื่ออะไร”
คนที่มาที่นี่ส่วนใหญ่ก็เป็นคนรวย คนมีฐานะดี และผู้บริการที่นี่ก็เป็นคนที่มีสายตาพวกเขาแค่ดูการแต่งตัวก็เดาฐานะของคนออกได้
พอเห็นเฉินถิงเซียวผู้บริการกลัวจนเสียงสั่นว่า “อาปิง……ครับ”
พอได้คำตอบแล้วเฉินถิงเซียวเหลือบตาผู้บริการและจูงมู่น่อนน่อนเข้าไป และครั้งนี้ไม่มีใครมาขวางทางพวกเขาอีกแล้ว
มือใหญ่ๆของเฉินถิงเซียวจูงมือเล็กของมู่น่อนน่อนไว้ ทำให้เธอรู้สึกมีความอบอุ่นเกิดขึ้นจากหัวใจ เธอมองไหล่ของเขาจนใจลอย
นอกจากเสิ่นเหลียงแล้วยังไม่มีใครทำดีกับเธอเหมือนแบบนี้เลย
ติน———
เสียงของลิฟต์ดึงมู่น่อนน่อนกลับมาถึงโลกตัวจริง
เธอเงยหน้าขึ้นพบเห็นว่า เฉินถิงเซียวกำลังมองเธอด้วยสายตาแบบไม่รู้มีความหมายอะไร
มู่น่อนน่อนตื่นเต้นมาก เธอเอามือของตนออกจากมือของเขาและเข้าไปลิฟต์อย่างรวดเร็ว
เธอถูก“เฉินเจียฉิน”จูงมือตลอดทางมา……
พอเฉินถิงเซียวเข้าไปลิฟต์ มู่น่อนน่อนก็ย้ายไปที่ไกลเขามากที่สุด
เฉินถิงเซียวเหลือบเธอแล้วพูดว่า “ไปไกลนั้นทำไม ผมไม่ไปกินเธอหรอก”
มู่น่อนน่อนหันตัวไม่ได้ตอบสนองอะไร
……
พอถึงห้องแล้วมู่น่อนน่อนปรากฏว่ายังมีอีกคนหนึ่งอยู่ และนี่เป็นเรื่องที่เธอคิดไม่ถึง
ผู้ชายคนนั้นแต่งตัวเรียบร้อย ดูแล้วก็ทำให้คนรู้สึกว่าเขาเป็นคนสุภาพบุรุษคนหนึ่ง
ใครที่เป็นคนในวงการก็จะรู้จักเขาดี เขาชื่อกู้จือหยั่นเป็นผู้จัดการใหญ่ของบริษัทเสิ้งติ่ง
กู้จือหยั่นสังเกตถึงสายตาของมู่น่อนน่อนแล้วจึงเงยหน้าขึ้นยิ้มกับเธอ
เฉินถิงเซียวเดินไปถึงหน้าโต๊ะอาหารช่วยให้มู่น่อนน่อนดึงเก้าอี้ออกมา แล้วเงยหน้าขึ้นไปมองกู้จือหยั่น พูดด้วยคำสั้นๆว่า “พี่สะใภ้ผม”
กู้จือหยั่นตกตะลึงไปแล้วแป๊บเดียวแล้วทักทายว่า “คุณหญิงเฉิน”
มู่น่อนน่อนรู้สึกบรรยากาศแปลกอยู่หน่อยแต่ก็ทับกลับด้วยมารายาทว่า “สวัสดีค่ะ คุณกู้”
ผู้หญิงขี้เหร่นี้รู้จักกู้จือหยั่นด้วยหรือ
เฉินถิงเซียวยกคิ้วและทิ้งรายการอาหารให้กับมู่น่อนน่อนแล้วพูดว่า “สั่งอาหาร”
มู่น่อนน่อนก็ไม่รู้ว่าตัวเองทำเรื่องอะไรที่ทำให้เขาไม่พอใจแล้ว แต่ด้วยมีคนนอกอยู่เธอก็ไม่พูดอะไรก็ไปดูรายการอาหารอย่างใจจริงแล้ว
ตี————-
เป็นเสียงของข้อความ
เฉินถิงเซียวเอามือถือออกมา เป็นข้อความที่ส่งจากกู้จือหยั่น“ยังเล่นเกมแบบนี้กับเมียแกด้วยหรือ”
เฉินถิงเซียวไม่พอใจกับมู่น่อนน่อนรู้จักกู้จือหยั่นอยู่แล้ว พอได้เห็นข้อความแบบนี้ก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นอีก จึงเอาขายาวๆของเขาไปแตะกู้จือหยั่นอย่างหนัก
“อึอ…..” กู้จือหยั่นคิดไม่ถึงว่าเฉินถิงเซียวเตะหนักขณะนี้ แต่ด้วยมู่น่อนน่อนอยู่เขาทำแต่อดทนไว้
มู่น่อนน่อนรู้สึกว่าโต๊ะขยับจึงเงยหน้ามองเฉินถิงเซียว
“อาหารสั่งเสร็จแล้วหรือ” เฉินถิงเซียวใกล้ตัวมาหามู่น่อนน่อนท่าทางคลุมเครือ
มู่น่อนน่อนรู้สึกไม่สบายทั้งตัว แค่ตอบว่า “สั่งเสร็จแล้ว” ก็เอารายการอาหารไปวางไว้ที่ไกล
ดีที่เวลากินข้าว “เฉินเจียฉิน”ไม่ได้ทำอะไรกับเธอแล้ว เขาคุยกันกับกู้จือหยั่นตลอด สังเกตได้ว่าสองคนนั้นมีความสัมพันธ์ไม่เลว
มู่น่อนน่อนก้มหน้ากินข้าวตลอด พอกินเสร็จเธอก็หาข้ออ้างไปข้างนอกแล้ว
พอเธอจากไปกู้จือหยั่นก็หายใจเข้าลึกๆถอดแว่นตาออกมา ตอนนี้เขาไม่เหมือนคนสุภาพบุรุษเมื่อกี๊เลย เขาพูดกับเฉินถิงเซียวด้วยสีหน้าไม่พอใจว่า “แกสนุกกับเมียแกเล่นเกมอยู่ แต่ให้กูไปจัดการพวกเรื่องราวที่วุ่นวายของบริษัท กูเหนื่อยจะตายแล้ว กูต้องการพักสักพัก”
เฉินถิงเซียวไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไร เขายกแก้วจิบน้ำแล้วพูดว่า “คนชนบทๆอย่างมู่น่อนน่อนก็รูจักแก แกไม่ควรขยันทำงานกว่านี้หรือ”
“หึ๊ย กูมีแฟนเป็นล้าน คนที่รู้จักกับฉันมีตั้งเยอะตั้งแยอะ และอีกอย่างเจ้านายแท้ๆของบริษัทเสิ้งติ่ง
เป็นแก กูแค่เป็นลูกจ้างของแก”
กู้จือหยั่นยิ่งพูดยิ่งรู้สึกใจร้อน “ถ้าแกยังไม่กลับไปทำงาน กูก็จะไปฆ่าตัวตายที่ตึกบริษัทเสิ้งติ่ง
จะได้ช่วยให้แกสร้างข่าวใหญ่”
คำขู่แบบนี้กู้จือหยั่นจะพูดวันละสามครั้งกับเฉินถิงเซียวและเฉินถิงเซียวก็ชิมแล้ว
เขาจิบน้ำแล้วพูดอย่างช้าๆว่า “แผนกบุคคลไม่ได้ประวัติย่อของมู่น่อนน่อนหรือ”
กู้จือหยั่นตอบด้วยความข้องใจว่า “ผมให้เลขาไปถามทุกวัน ไม่มีจริงๆ”
พอพูดจบเขาก็ถามอีกว่า “เมียแกหน้าตาแบบนั้น แกก็กินได้หรือ”
เฉินถิงเซียวเงยหน้าเหลือบตามองว่า “หน้าตาแบบไหน”
กู้จือหยั่นพูดอย่างเอาใจว่า “ใบหน้าแจ่มใส ตาโตสดชื่น……”
เฉินถิงเซียว“แกตาบอดหรือ”
กู้จือหยั่น“……”
ว่ามู่น่อนน่อนก็ไม่ได้ ชมมู่น่อนน่อนก็ไม่ให้ อยากทำอะไรกันแน่น
เขารู้สึกว่าหลังแต่งงานไปเฉินถิงเซียวก็ไม่เหมือนคนเดิมแล้ว
ก่อนที่จากไปเฉินถิงเซียวพูดกับกู้จือหยั่นว่า “ผู้บริการที่ชื่ออาปิงนั้น ไล่ออก”
……
จนถึงตอนบ่าย พวกเขาจึงได้กลับถึงบ้านพัก
พอเข้าไปมู่น่อนน่อนก็ถามว่า “คุณชายอยู่ไหม”
“ไม่มี”
ถึงห้องแล้วมู่น่อนน่อนก็นอนบนเตียงคิดว่า ตนเองควรอธิบายเรื่องการสัมภาษณ์แก่เฉินถิงเซียวอย่างไร
แต่คิดไปเรื่อยๆ เธอก็คิดถึง “เฉินเจียฉิน”
วันนี้เขาผิดปรกติมาก จุๆก็ทำดีกันเธ