ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - ตอนที่ 37 อยากชิมฝีมือของเธอจัง
ตอนที่ 37 อยากชิมฝีมือของเธอจัง
หมอฉีด ยาแก้ไข้ให้เฉินถิงเซียวตอนนี้อาการของเขาก็ดีขึ้นไปมากแล้ว
ในเวลาที่มู่น่อนน่อนเอาผ้าขนหนูช่วย“เฉินเจียฉิน”เช็ดตัว คนอื่นก็ไปกันหมดแล้ว
เธอรู้สึกแปลกใจว่า วันที่อยู่โรงอาหาร เวลาที่เธอล้มอยู่อุ้มของ“เฉินเจียฉิน” สือเย่ก็ได้เห็นแล้ว และตอนนี้สือเย่ยังให้เธอมาดูแล“เฉินเจียฉิน”เขาไม่ถือสาอะไรหรือ
“แม่……”
“เฉินเจียฉิน”พูดคำบ้าๆบอๆอีกแล้ว มู่น่อนน่อนช่วยเขาเช็ดตัวเสร็จจึงอยากเอามือกลับมา แต่“เฉินเจียฉิน”ดึงมือของเธออย่างหนาแน่น เธอเอามือของตนออกมาไม่ได้
เธอเหลือบตามอง“เฉินเจียฉิน”แล้วพูดว่า “นี่ ฉันไม่ใช่แม่ของคุณนะ ปล่อย”
แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรผู้ชายคนนี้นอนหลับสนิทมาก
สายของเสิ่นเหลียงโทรมาในเวลานี้
“เสี่ยวเหลียงถึงแล้วหรือ”
“ฉันอยู่หน้าประตูแล้ว เธออยู่ไหน”
มือของมู่น่อนน่อนถูก“เฉินเจียฉิน”ดึงไว้อย่างหนาแน่น เธอจากตัวไปไม่ได้ เลยให้สือเย่ไปเรียกเสิ่นเหลียงขึ้นมา
พอเข้ามาเสิ่นเหลียงก็รู้สึกตรึงใจไปหมด “ไหน เธอว่าเฉินถิงเซียวขี้เหร่ไม่ใช่หรือ นี่หรือ เรียกว่าขี้เหร่”
สือเย่คนที่ยืนอยู่ข้างหลังเธออธิบายว่า “นี่คือนายน้อย เฉินเจียฉิน”
“นายน้อยหรือ” เสิ่นเหลียงเหลือบตาสือเย่“ งั้นเขาทำไมจูงมือของน่อนน่อนพี่สะใภ้กับนายหน่อย เขาไม่กลัวจะถูกนินทาหรือ”
สือเย่ก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี
มู่น่อนน่อนก็เงยหน้ามองสือเย่เธอก็อยากรู้เหมือนกัน
สือเย่ไม่รู้จะพูดอะไร สุดท้ายก็พูดว่า “พี่สะใภ้ก็เหมือนคุณแม่”
มู่น่อนน่อนยิ้มแห้งๆ “เพราะแบบนี้หรือที่เมื่อกี๊เขาเรียกว่าฉันเป็นแม่”
“……” คุณชายตื่นเถอะ ผมไม่ไหวแล้ว
สือเย่หาข้ออ้างออกไปอย่างทึมๆ
“เธอนั่งก่อน เดี๋ยวเราก็ออกไปกินข้าว” มู่น่อนน่อนชี้เก้าอี้ข้างๆ
เสิ่นเหลียงนั่งลงแล้วก็ไปมอง“เฉินเจียฉิน”
แม้ว่าเธอเจอคนหน้าตาดีๆมาไม่รู้ว่ากี่คน แต่ก็อดใจไม่ไหวชมว่า “หล่อมากๆ หล่อทีเดียวเหลือเกิน นี่เป็นคนจริงๆหรือเปล่าเนี่ย”
เธอพูดไปก็เอามือไปสัมผัสหน้าของเขา
แต่ยังไม่ได้ทันสัมผัสถึงหน้า ผู้ชายที่นอนอยู่เตียงนั้นก็เปิดตามาทันที
เสิ่นเหลียงรู้สึกงุ่มง่าม จึงพูดว่า “ตื่น…ตื่นมาแล้วหรือ”
มู่น่อนน่อนเห็นสายตาของเฉินถิงเซียวมีเจตนาไม่ดีอยู่ในสายตา จึงพูดว่า “คุณอยากทำอะไร นี่เพื่อนฉัน”
เฉินถิงเซียวมองไปมู่น่อนน่อนและท่าทีของเขาก็ผ่อนคลายหน่อย เขาพูดด้วยเสียงต่ำๆว่า “น้ำ”
มู่น่อนน่อนมองไปมือของตนที่ถูกเขาดึงไว้แล้วพูดว่า “คุณปล่อยฉันก่อน”
เฉินถิงเซียวมองมือของพวกสองคนด้วยสายตาที่รักใคร่ แล้วก็ปล่อยมือของเธอ
มู่น่อนน่อนเพิ่งจะยืนขึ้นก็ได้ยินเสียงคนข้างนอก
“ผมจะเข้าไปดูว่าเขาตายแล้วหรือเปล่า”
“คุณชายป่วยแล้วจริงๆครับ”
เสียงของสองคนก็คุ้มๆอยู่ แต่มู่น่อนน่อนแค่ฟังออกว่าเสียงของคนข้างหลังนั้นเป็นเสียงของสือเย่
ในนาทีต่อไป ประตูก็ถูกผลักเปิด
กู้จือหยั่นไม่คิดว่ามู่น่อนน่อนก็อยู่ด้วย ตะลึงไปก่อนแล้วก็พูดอย่างสุภาพว่า “สวัสดีครับนางเฉิน”
มู่น่อนน่อน“……ค่ะ”
ท่าทีของเขาเปลี่ยนเร็วทีเดียว
“ได้ข่าวว่าเจียฉินป่วยแล้ว ผมเลยมาเยี่ยม เขา……” คำพูดของกู้จือหยั่นถูกตัดบท
“กู้จือหยั่น”
มู่น่อนน่อนหันตัวเห็นว่าเสิ่นเหลียงกำลังพบแขนเสื้อเดินไปทางกู้จือหยั่นและกู้จือหยั่นถูกเธอตีหนึ่งหมัดอยู่ตอนท้อง
ดูท่ากู้จือหยั่นอาจรู้สึกเจ็บมาก แต่เขาก็ไม่พูดสักคำ
มู่น่อนน่อนคิดอยู่ในใจว่า นี่เป็นอะไรกัน
ห้องสนิมไปสักพักแล้วก็ได้ยินกู้จือหยั่นยิ้มพูดเบาๆกับว่า “เสี่ยวเหลียงตีหนักแบบนี้ถ้าผมเป็นอะไรไป เธอจะเลี้ยงผมหรือ”
เสิ่นเหลียงตอบด้วยเสียงแข็งว่า “ฉันเคยบอกว่า ทุกครั้งที่เจอหน้า ฉันก็จะตีคุณ”
มู่น่อนน่อนไม่เคยเจอเสิ่นเหลียงแบบนี้มาก่อน เธอเห็นความแค้นจากสายตาของเสิ่นเหลียงด้วย
เสิ่นเหลียงหันตัวมองเธอ “ฉันไปรอที่ข้างนอก”
มู่น่อนน่อนพยักหัว
พอเสิ่นเหลียงออกไป กู้จือหยั่นก็นั่งข้างเตียงมองเฉินถิงเซียวว่า “แกป่วยจริงๆหรือ”
เฉินถิงเซียวพูดว่าจะไปบริษัทวันนี้ ดังนั้นกู้จือหยั่นรู้ว่าเขาไม่ได้ป่วยจริง
“จากผมไปไกลหน่อย” เฉินถิงเซียวขมวดคิ้วพูด
เขามองมู่น่อนน่อนโดยไม่พูดคำเดียว
มู่น่อนน่อนรู้ว่าเขาอยากแสดงอะไร “ให้สือเย่ช่วยเอาน้ำมาให้เถอะ”
เธอเป็นห่วงเสิ่นเหลียงพอพูดจบก็ออกไปแล้ว
เฉินถิงเซียวเหลือบตามองสือเย่“ออกไป”
สือเย่พยักหัว “ผมไปเอาน้ำให้คุณชาย”
เฉินถิงเซียวพูดอย่างใจลอยว่า “ไม่อยากดื่มแล้ว”
สือเย่“……” คุณชายยิ่งแปลกมากขึ้นแล้ว
……
มู่น่อนน่อนพอออกไปก็จูงมือของเสิ่นเหลียงลงไปชั้นล่าง “เธอรู้จักกับกู้จือหยั่นก่อนหรือ”
“ใช่” เสิ่นเหลียงหยุดแปปเดียวแล้วพูดต่อว่า “เขาสมน้ำหน้า ไม่ว่าฉันจะทำอะไร เขาก็ว่าอะไรไม่ได้”
ฟังแบบนี้แล้ว รู้สึกว่าระหว่างเสิ่นเหลียงกับกู้จือหยั่นมีเรื่องความขุ่นขื่นใจแน่น
มู่น่อนน่อนไม่ได้ถามต่อและก็ไม่พูดเรื่องของการชวนสัมภาษณ์ด้วย
สองคนไปกินข้าวกันข้างนอก พอสั่งอาหารเสร็จมู่น่อนน่อนก็ได้รับสายของ“เฉินเจียฉิน”
เธอไม่มีเบอร์ของเขา เลยไม่รู้ว่าคนโทรคือ“เฉินเจียฉิน”
“จะกลับเมื่อไร” แม้ว่า“เฉินเจียฉิน”ป่วยแล้วแต่มู่น่อนน่อนก็ฟังเสียงของเขาออก
มู่น่อนน่อนถามว่า “มีอะไรหรือ”
คนโทรเงียบไปสักพักแล้วพูดว่า “ผมยังไม่ได้กินข้าว”
“ถ้ากินไม่ลงก็บอกให้หมอฉีดยาก็ดีแล้ว ฉัน……”
ประโยคที่เธอยังไม่ได้พูดจบถูกตัดบท “ผมอยากกินฝีมือของเธอ”
ในเวลานั้นมู่น่อนน่อนไม่รู้จะตอบยังไงจึงวางสายลง
เมื่อเธอรับสายเสิ่นเหลียงก็ฟังเรื่องที่พวกเขาพูดออก “ชายน้อยที่หล่อจะตายคนนั้นโทรมาหรือ”