ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่ 150 ลุ่มหลงและตามใจมากเกินไป
บทที่ 150 ลุ่มหลงและตามใจมากเกินไป
มู่น่อนน่อนยื่นมือไปแตะที่ริมฝีปากหัวเราะเบาๆ จากนั้นก็พูดอย่างเป็นการเป็นงานว่า“ฉันรู้สึกว่าชุดราตรีดีมาก แต่งหน้าก็ไม่เลว ช่างแต่งหน้าและทำผมที่คุณหามาดีมากเลย คุณนี่ตาแหลมมาก”
เฉินถิงเซียวมองเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่พูดอะไร
“แม้ว่าฉันจะไม่ชินกับการใส่รองเท้าส้นสูง แต่เพื่อคุณแล้ว ฉันจะยอมอดทน”น้ำเสียงของมู่น่อนน่อนพูดอย่างจริงจังอย่างยิ่ง
พูดจบ เธอก็ตบที่บ่าของเฉินถิงเซียว “เวลาล่วงเลยมานานมากแล้ว ถ้าฉันไม่ไปก็คงต้องสายแน่ ฉันจะรีบกลับมานะคะ”
มองสีหน้าเย็นยะเยือกของเฉินถิงเซียว ครั้งแรกที่มู่น่อนน่อนไม่รู้สึกอึดอัด แต่ในใจกลับรู้สึกสะใจมาก
เวลานี้เอง เฉินเจียฉินกลับมาจากข้างนอก
เขานัดเพื่อนไปเล่นบอลข้างนอก ครั้งนี้ขี่จักรยานเสือภูเขากลับมา สวมเสื้อกันหนาวบางๆ มีเหงื่อไหลโชก
เฉินเจียฉินอุ้มลูกบอลเข้ามา แวบเดียวก็มองเห็นมู่น่อนน่อน
“โอ้แม่เจ้า!”ลูกบอลในมือเขาก็ตกลงมาทันที“พี่ พี่ฉวยโอกาสที่พี่น่อนน่อนไม่อยู่บ้าน กล้าพาผู้หญิงคนอื่นกลับมาเหรอเนี่ย”
มู่น่อนน่อน“……”
เฉินถิงเซียวหันไปมองเฉินเจียฉินแวบหนึ่ง หรี่ตาหยีไม่รู้ว่าคิดอะไร ที่จะทำให้เฉินเจียฉินกลัวจนตัวสั่น
“พอแล้ว ฉันจะไปแล้ว”มู่น่อนน่อนเดินตรงไปข้างนอก ตอนที่เดินผ่านเฉินเจียฉิน มู่น่อนน่อนพูดว่า“รีบกลับห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า อากาศหนาว เดี๋ยวจะไม่สบาย”
เฉินเจียฉินจึงตั้งสติขึ้นมาได้ “พี่น่อนน่อนเหรอ”
เขามองมู่น่อนน่อนด้วยสีหน้าตื่นตกใจ“แต่งตัวสวยขนาดนี้จะไปไหนครับ”
เด็กยังไงก็ซื่อสัตย์ที่สุด
“ไปร่วมงานเลี้ยง”มู่น่อนน่อนพูดพลาง เดินไปทางด้านนอกประตู
เฉินเจียฉินเกาหัว“อ้อ”
เขาหันกลับไปถามเฉินถิงเซียว“คืองานเลี้ยงนั้นที่คุณน้าจัด ก่อนหน้านี้พี่บอกว่าจะไม่ไปร่วมงานไม่ใช่เหรอ ตอนนี้จะไปอีกแล้ว”
เฉินถิงเซียวสีหน้าแย่มาก“ไม่ไป”
เขาปกปิดสถานะของตนเองตลอดหลายปีมานี้ ก็เพื่อที่จะสืบเรื่องแม่ของเขา แต่พอเขาต้องเปิดเผยตัวตนต่อหน้าทุกคน ก็ต้องดึงดูดความสนใจของทุกคนแน่นอน
ถึงเวลานั้น หลายเรื่องที่จะทำก็ไม่สะดวกแล้ว
และเฉินชิงเฟิงให้เขาพามู่น่อนน่อนไปร่วมงานเลี้ยง ก็เพราะอยากรู้ว่าความสัมพันธ์ของเขาและมู่น่อนน่อนเป็นอย่างไร จะยอมพามู่น่อนน่อนไปร่วมงานเลี้ยง และก็เป็นการยืนยันสถานะของมู่น่อนน่อนพอดี
งานเลี้ยงที่คนตระกูลเฉินจัด แขกที่เชิญมาล้วนเป็นชนชั้นสูง หลังจากที่มู่น่อนน่อนไปร่วมงานแล้ว ทุกคนต่างก็ต้องรู้ว่าคุณหญิงน้อยของตระกูลเฉินคือเธอ
เขาต้องการยืนยันสถานะคุณหญิงน้อยตระกูลเฉินให้กับมู่น่อนน่อน แต่ว่า ในใจ เรื่องของแม่ก็ยังเป็นเรื่องสำคัญ
นั่นคือความรู้สึกผิดและภาระที่เขาต้องแบกรับมาทั้งชีวิตนี้
เฉินเจียฉินไม่รู้ว่าเฉินถิงเซียวคิดอะไรไร้สาระขนาดนี้ เขาไปกระซิบข้างๆเฉินถิงเซียวอย่างลับๆล่อๆว่า“อย่างนั้นพี่ก็ปล่อยให้พี่น่อนน่อนไปคนเดียวเนี่ยนะ ผมจะบอกพี่ให้นะ ไม่ต้องพูดถึงพวกผู้ชายพวกนั้น เพื่อนในชั้นเรียนเดียวกับผมหลายคนก็ชอบแบบพี่น่อนน่อนอย่างนี้แหละ……”
ในใจเฉินถิงเซียวเดิมก็ไม่พอใจอยู่แล้ว พอเฉินเจียฉินมาพูดแบบนี้อีก สีหน้าเขายิ่งเคร่งเครียดขึ้น
ตอนที่เขาเห็นเธอลงไปชั้นล่าง ก็ไม่อยากให้มู่น่อนน่อนไปร่วมงานเลี้ยงบ้าบออะไรนั่น
เธอเป็นของเขาคนเดียว
เขาก็รู้ว่าตนเองเป็นคนที่หึงหวงมาก แต่ตอนที่ความคิดนี้โผล่ออกมา ตัวเขาเองก็ตกใจเล็กน้อย
เขาสามารถถูกมู่น่อนน่อนดึงดูดความสนใจได้ และก็ดีต่อเธอได้ แต่กลับไม่ได้ปล่อยให้ลุ่มหลงและทำตามใจมากเกินไปเช่นนี้ได้
มู่น่อนน่อนนอกจากเป็นภรรยาเขาแล้ว ก็ยังเป็นคุณหญิงน้อยของตระกูลเฉิน
เขาต้องสืบคดีลักพาตัวในตอนนั้นให้กระจ่าง เส้นทางที่กำหนดให้ไปไม่ใช่ทางเรียบ ดังนั้นไม่อาจลุ่มหลงและตามใจมากเกินไป
ดังนั้น เขาจึงปล่อยให้เธอไป
“อย่างนั้นผมก็จะไปร่วมงานเลี้ยงนั่น ช่วยพี่ดูแลพี่น่อนน่อน!”
“ไม่จำเป็น”
เฉินถิงเซียวพูดจับไม่แม้แต่จะหันกลับมามองก็เดินขึ้นชั้นบนไป
แต่ว่า เขาเดินไปสองขั้นบันได ก็หันหน้าส่งสัญญาณมือให้กับช่างทำผม
ช่างทำผมเฉลียวฉลาดมาก ก้าวไปพร้อมกับช่างแต่งหน้าจับเฉินเจียฉินไว้ จะถอดเสื้อผ้าของเขา
“เฮ้ย พวกคุณทำอะไร!”เฉินเจียฉินมองพวกเขาอย่างตกใจ“ผมเป็นผู้เยาว์นะ พวกคุณจะทำอะไรผม!”
พวกเขาแทบจะไม่สนใจว่าเขาพูดอะไร ถอดเสื้อของเขาออก ก็สวมเสื้อเชิ้ต ทักซิโด้ให้เขาทันที
“คุณผู้ชาย กางเกงคุณจะเปลี่ยนเองหรือให้พวกเราช่วยคุณเปลี่ยนคะ”
“หญิงชายไม่ควรจะถูกเนื้อต้องตัวกัน !ผมทำเองดีกว่า!”เฉินเจียฉินรีบหยิบกางเกงวิ่งเข้าไปในห้อง
……
สถานที่ที่จัดงานเลี้ยงอยู่ในโรงแรมระดับเจ็ดดาวแห่งหนึ่ง
พอมู่น่อนน่อนลงจากรถ ก็มองเห็นเลิ่งซู่
ครั้งก่อนตอนที่เธอเฉินชิงเฟิง ก็คือเฉินชิงเฟิงขับรถไปรับเธอ ดังนั้นเธอจึงพอจะจำเขาได้
เลิ่งซู่มองเห็นเธอ ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าว พูดด้วยความเคารพนอบน้อม“คุณหญิงน้อย”
“เลิ่งซู”มู่น่อนน่อนยิ้มพลางเรียกเขา
ความดุดันบนใบหน้าของเลิ่งซู เผยให้เห็นสีหน้าที่เป็นมิตรออกมา จากนั้นเขาก็เงยหน้ามองไปทางด้านหลังของมู่น่อนน่อน
มู่น่อนน่อนอธิบายว่า“มีฉันมาแค่คนเดียว เฉิน……”
ตอนหลังเธอยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกเสียงวัยรุ่นที่คุ้นหูเสียงหนึ่งตัดบทขึ้นมา
“ยังมีผมด้วย!พี่น่อนน่อน พี่รอผมก่อน!”
เอี๊ยด——
เสียงรถยนต์เบรกอย่างกะทันหัน
สือเย่ที่ยืนอยู่ด้านหลังของมู่น่อนน่อน ขยับไปด้านข้างหนึ่งก้าว บังฝุ่นจากการเบรกอย่างกะทันหันของรถยนต์ให้กับมู่น่อนน่อน
เฉินเจียฉินกระโดดลงจากรถในชุดสูทที่ตัดเย็บมาอย่างดี ยังวางมาดทำท่าอย่างหล่อเหลา
จากนั้น หล่อได้ไม่ถึงสามวินาที เขาก็วิ่งไปที่สวนดอกไม้ที่อยู่ข้างๆอาเจียนออกมา
“อ้วก……”
เมื่อครู่คนขับรถคันนั้นขับรถเหมือนกับขับเครื่องบิน เฉินเจียฉินไม่ใช่คนเมารถยังถูกโยกจนเมารถ
มู่น่อนน่อนรีบให้สือเย่ไปหยิบน้ำในรถ ตัวเธอเองหยิบกระดาษทิชชู่เดินไปทางเฉินเจียฉิน
เธอส่งกระดาษทิชชู่ให้เฉินเจียฉิน ยื่นมือไปลูบหลังให้เขา“นายมายังไงเนี่ย”
“พวกเขาเปลี่ยนชุดให้ผม ผมเปลี่ยนกางเกงเอง ทำผมก็มาเลย”เฉินเจียฉินอาเจียนจนเวียนหัวตาลายไปหมด พูดจาสะเปะสะปะ
มู่น่อนน่อนกลับสามารถเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ก่อนหน้านี้เห็นชัดว่าเพราะเฉินถิงเซียวเห็นเธอหลังจากที่เปลี่ยนชุดราตรีแต่งหน้าแล้ว ก็ไม่อยากให้เธอมาร่วมงานเลี้ยง
นอกจากความคิดที่จะช่วยเฉินถิงเซียวอย่างจริงใจแล้ว มู่น่อนน่อนก็ยังมีความคิดว่า แต่งชุดราตรีสวยขนาดนี้ แต่งหน้าดูดี หากไม่ออกไปเดินเล่นสักรอบ ก็คงน่าเสียดายมาก
ผู้หญิงก็เป็นแบบนี้
ตอนนี้เธอรู้สึกว่าตนเองเดินก็ยังมีพลังมีชีวิตชีวา!
เฉินถิงเซียวอาจจะไม่วางใจเธอ จึงบังคับให้เฉินเจียฉินมา
“คุณหญิงน้อย น้ำ”สือเย่หยิบน้ำมาแล้ว
มู่น่อนน่อนรับมาแล้วส่งให้เฉินเจียฉิน
หลังจากรอให้เฉินเจียฉินดีขึ้น จึงเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับมู่น่อนน่อน
แน่นอนว่าเลิ่งซู่ก็รู้จักเฉินเจียฉิน
เลิ่งซู่ตกใจมาก“คุณชาย คุณกลับมาเมืองหู้หยางตั้งแต่เมื่อไหร่กันครับ”
ตอนแรกเฉินเจียฉินแอบหนีกลับมา ถึงตอนนี้ นอกจากซือเฉิงหยู้และเฉินถิงเซียว คนตระกูลเฉินในเมืองหู้หยางคนอื่นๆไม่มีใครรู้ว่าเขากลับมาแล้ว