ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่ 164 ให้เธอถูกเนื้อต้องตัวได้เท่านั้น
บทที่ 164 ให้เธอถูกเนื้อต้องตัวได้เท่านั้น
กู้จือหยั่นสังเกตได้ว่า นับตั้งแต่ที่พบกันเมื่อครู่จนถึงตอนนี้ มู่น่อนน่อนไม่ได้มองเฉินถิงเซียวเลย
เขามีใจอยากจะช่วยเฉินถิงเซียว จึงพูดว่า“นี่จะไปแล้วเหรอ อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนสิ ถิงเซียวขับรถมาเอง อีกเดี๋ยวดื่มจนเมา คุณก็ยังช่วยเขาขับรถได้”
“ไม่ใช่ว่ายังมีสือเย่เหรอ นั่งไม่หมดก็เรียกรถได้” มู่น่อนน่อนยิ้มอ่อนๆ สีหน้ายังเป็นปกติดี
เฉินถองเซียวเงยหน้าขึ้น มองไปยังมู่น่อนน่อน
ช่วงนี้ เขาออกจากบ้านแต่เช้ากลับดึก อยู่ในบ้านก็ได้แต่มองเห็นมู่น่อนน่อน ไม่ได้พูดกันแม้แต่คำเดียว
นี่ยังเป็นครั้งแรกในช่วงหนึ่งสัปดาห์นี้ ที่เขาได้มองเห็นเธอใกล้มากขนาดนี้
อยู่ในบ้านหลังเดียวกันแท้ๆ เขามองเธอแบบนี้ กลับรู้สึกว่าตนเองเหมือนคิดถึงเธอเล็กน้อย
มู่น่อนน่อนก็รู้สึกว่าเฉินถิงเซียวกำลังมองเธออยู่ สีหน้าบนใบหน้าของเธอเริ่มฝืนไว้ไม่อยู่ เริ่มเปลี่ยนเป็นแข็งเกร็งขึ้นมา
เธอกลัวว่าหากเธออยู่ต่อไป อาจจะฝืนทำสีหน้าเรียบสงบต่อไปไม่ได้แล้ว ยกขาจะเดินจากไป
เพิ่งจะก้าวขา มือของเธอก็ถูกคนจับเอาไว้
จากนั้น เสียงทุ้มแหบพร่าเล็กน้อยดังขึ้นที่ข้างหูของเธอ “กลับไปด้วยกัน”
น้ำเสียงราบเรียบ ฟังไม่ออกถึงอารมณ์ความรู้สึกใดๆ
มือของเขาอบอุ่นและแห้งผาก กุมมือของเธอเอาไว้แน่น รู้สึกสบายใจและอบอุ่นอย่างประหลาด
มู่น่อนน่อนม้วนนิ้วมือ อ้าปาก พูดว่า“ฉันยังต้องกลับไปรีบปั่นต้นฉบับอีกนะ”
สีหน้าเฉินถิงเซียวเคร่งขรึม ไม่เปิดโอกาสให้เปิดปากปฏิเสธอีก ดึงเธอเข้าไปในลิฟต์ทันที
กู้จือหยั่นและฟู้ถิงซีก็รีบตามเข้ามาติดๆ
มู่น่อนน่อนโกรธแต่ระบายออกมาไม่ได้ มือก็ดึงกลับมาไม่ได้
ความโกรธในใจก็ค่อยพวยพุ่งขึ้นมา
เฉินถิงเซียวหลุบสายตา มองใบหน้าขาวผ่องของเธอที่กำลังเกร็ง เห็นชัดว่าโกรธมาก แต่กลับไม่สามารถปลดปล่อยออกมาได้ ทำให้อารมณ์ความรู้สึกกลัดกลุ้มใจช่วงหลายวันนี้จองของเขา เปลี่ยนเป็นค่อยไปผ่อนคลายขึ้นมาอย่างประหลาด
กู้จือหยั่นและฟู้ถิงซีที่อยู่ด้านข้างมองเห็นสีหน้าท่าทางของเฉินถิงเซียวและมู่น่อนน่อนสองคนด้วยตาตนเอง
เขารู้สึกว่าเฉินถิงเซียวช่างรนหาที่ตาย
ยั่วให้คนเขาโกรธขนาดนี้ เขายังจะดีใจอีกเหรอ
คงไม่ใช่เสียสติไปแล้วนะ
เปลี่ยนไปนึกถึงเสิ่นเหลียง อย่าว่าแต่ให้เขาจูงมือเลย แค่เสิ่นเหลียงได้คุยกับเขาสักสองสามประโยค ก็พอจะทำให้เขาดีใจไปได้หลายวันแล้ว
จริงๆเลย……
คนที่ชอบเปรียบเทียบคน ช่างน่าโมโหนัก!
……
ฟู้ถิงซีก็อึดอัดนิดหน่อย เขาคิดถึงภาพที่ผู้ชายสามคนดื่มเหล้าพูดคุยกัน กลายเป็นว่าเขาและกู้จือหยั่นเป็นส่วนเกินในความรักของเฉินถิงเซียวและมู่น่อนน่อน
“อันนี้กินมั้ย”
“อันนี้ล่ะ”
เฉินถิงเซียวหมุนโต๊ะ อาหารแต่ละจานหมุนมาตรงหน้ามู่น่อนน่อน ก็ต้องถามมู่น่อนน่อนทุกครั้ง
มู่น่อนน่อนไม่รู้ว่าวันนี้เฉินถิงเซียวจะเกิดบ้าอะไรขึ้นมาอีก โดยเฉพาะมีกู้จือหยั่นและฟู้ถิงซีอยู่ด้วยสุดท้าย เธอได้แต่กัดฟันกินไปไม่น้อย
และตอนที่เธอกินนั้น ผู้ชายทั้งสามคนก็ดื่มเหล้าตลอด
รอจนเธอตั้งสติกลับมาได้ ก็พบว่าตอนนี้บนโต๊ะมีขวดเหล้าอยู่หลายขวดแล้ว
และกู้จือหยั่นร้องไห้ซบอยู่บนไหล่ของฟู้ถิงซีไม่มีความเป็นผู้ชายเหลืออยู่แล้ว……
ฟู้ถิงซีสีหน้าไม่ชอบใจนัก อยากจะผลักกู้จือหยั่นออก
เขาทะเลาะต่อยตีสู้กู้จือหยั่นไม่ได้ พละกำลังก็ไม่ได้มากกว่ากู้จือหยั่น แน่นอนว่าผลักเขาไม่ได้ เขาได้แต่ยอมปล่อยให้กู้จือหยั่นซบบนตัวเขาร้องไห้
มู่น่อนน่อนอยากจะให้ตัวเองแสดงออกอย่างสงบใจเย็นอีกหน่อย แต่ว่าน่าตกใจเกินไป เธอไม่อาจปกปิดไว้ได้
“ฉันเองก็ไม่รู้ว่าว่าฉันทำผิดอะไร……”
“ไม่ถูกสิ ฉันต้องทำอะไรผิดแน่นอน แต่ก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไรขนาดนั้นนี่……”
กู้จือหยั่นร้องไห้พลางพูดพลาง สุดท้ายหลังจากความตื่นตกใจ มู่น่อนน่อนก็รู้สึกเสียใจ
เวลานี้ อยู่ๆหัวของเธอก็หนักอึ้ง
หันหน้าไป เธอพบว่าเฉินถิงเซียวหลับตามาซบที่บนบ่าของเธอตอนไหน
“คุณ……” ดื่มจนเมาแล้วเหรอ
มู่น่อนน่อนผลักเฉินถิงเซียว ไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบเลยสักนิด
เธอและฟู้ถิงซีต่างฝ่ายต่างสบตากัน ในสายตาแต่ละคนมองเห็นความอับจนหนทาง
……
ออกแรงไปไม่น้อย จึงได้เอาตัวเฉินถิงเซียวมาส่งในรถได้
เพราะ เฉินถิงเซียวที่ดื่มเหล้าจนเมา นอกจากหมู่น่อนน่อนแล้ว เขาก็ไม่ให้ใครถูกตัวได้เลย
กู้จือหยั่นดื่มจนเมาหัวราน้ำ ให้คนแบกขึ้นรถไปเลย
ฟู้ถิงซีปิดประตูรถ เดินมาที่ด้านหน้าของหน้าต่างรถมู่น่อนน่อนและเฉินถิงเซียว“คุณไหวมั้ย”
“ที่บ้านมีบอดี้การ์ด” ถ้าหากเธอลากเฉินถิงเซียวไม่ไหว ก็สามารถเรียกให้บอดี้การ์ดมาช่วยได้
ฟู้ถิงซีขมวดคิ้ว ไม่พูดอะไร
มู่น่อนน่อนชะงักไปเล็กน้อยแล้วพูดว่า “อย่างมากก็ทำให้เขาสลบ แล้วค่อยให้บอดี้การ์ดแบกขึ้นไป”
ก็ไม่รู้ว่าเฉินถิงเซียวเป็นบ้าอะไร ดื่มจนเมาแล้วก็ไม่ยอมให้คนอื่นถูกตัว ให้เธอถูกตัวได้เท่านั้น
เฮ้อ เธอสงสัยมากว่าผู้ชายคนนี้กำลังแกล้งเมา
มู่น่อนน่อนรู้สึกว่าแววตาของฟู้ถิงซีเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นเล็กน้อย หากเธอไม่ได้มองผิด ในแววตาของฟู้ถิงซีนั้นมีความยกย่องชื่นชมเพิ่มขึ้นมา……
ไม่อย่างนั้นเธอจะทำอย่างไร เธอก็แบกเขาไม่ไหวอีก
มู่น่อนน่อนขับรถพาเฉินถิงเซียวหลับบ้าน
เฉินถิงเซียวที่ดื่มจนเมาเงียบมาก ดวงตาที่ปิดอยู่เล็กน้อย ปล่อยให้มู่น่อนน่อนประคองเขาเข้าไปด้านใน
แม้มู่น่อนน่อนจะต้องออกแรงอย่างมากในการพยุงเขา แต่ก็กัดฟันลากเขาขึ้นชั้นบนไป
ตัวเธอเองก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไมตัวเองไม่ให้บอดี้การ์ดช่วย
เธอโยนเฉินถิงเซียวลงบนเตียง ไปหยิบผ้าเช็ดตัวเปียกๆในห้องน้ำมาเช็ดหน้าให้เขา
เพราะก่อนหน้านี้ตอนอยู่ที่โรงแรมจีนติ่ง เขาปฏิเสธพนักงานที่จะมาประคองเขา เสื้อบนตัวจึงยับยู่ยี่ กระดุมบนสาบเสื้อหลุดออดกมาสามเม็ด เม้มริมฝีปากแน่น ดวงตาที่ปิดอยู่ ดูไปแล้วมีความเย็นยะเยือกน้อยกว่าปกติมาก ไม่ได้มีอันตรายขนาดนั้นแล้ว
มู่น่อนน่อนสูดหายใจเข้าลึกๆ ใช้ผ้าขนหนูเช็ดหน้าให้เขา
มือของเธอเพิ่งจะยื่นออกไป จู่ๆเขาก็ลืมตาขึ้นมา
มู่น่อนน่อนตกใจ หดมือกลับมาทันที
สายตาของเฉินถิงเซียวว่างเปล่า ทันใดนั้น เขาก็พลิกตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียง จ้องเขม็งไปยังมู่น่อนน่อน
มู่น่อนน่อน “……คุณ ตื่นแล้วเหรอ”
จากนั้นเฉินถิงเซียวก็พุ่งตัวมากอดเธอเอาไว้ และยังเรียกอย่างอ่อนโยนว่า “แม่!”
มู่น่อนน่อนมือไม้สั่น ผ้าเช็ดตัวในมือตกลงบนเตียง
ผ้าขนหนูเปียก จะทำให้ผ้าปูที่นอนเปียกได้ มู่น่อนน่อนรีบคว้าผ้าเช็ดตัวขึ้นมาโยนไปข้างๆ
หลังจากที่เฉินถิงเซียวกอดเธอเอาไว้ ก็ไม่ได้ขยับอีกเลย
มู่น่อนน่อนก็ไม่กล้าขยับ เพราะเฉินถิงเซียวแบบนี้อ่อนโยน……จนน่ากลัว
ผ่านไปสักพัก มู่น่อนน่อนก็ปวดเมื่อยไปทั้งตัว เธอจึงลองเรียกครั้งหนึ่ง “เฉิน……เฉินถิงเซียว”
เฉินถิงเซียวไม่ตอบโต้ มู่น่อนน่อนก็ลองยื่นมือไปผลักเขา
ผลปรากฏว่าพอเธอขยับ เฉินถิงเซียวก็เหมือนหุ่นยนต์ที่ถูกเปิดเครื่อง กอดเธอเอาไว้แน่น ปากก็เรียก “แม่” ไม่หยุด
มู่น่อนน่อน“……”
ผ่านไปสักพัก เธอยื่นมือไปตบที่หลังเขาเบาๆ พูดเสียงสั่นว่า “คุณปล่อยฉันก่อน แม่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ลูกนะ……”
พูดประโยคนี้จบ มู่น่อนน่อนก็หนาวจนตัวสั่น
ประโยคนี้กลับได้ผลกับเฉินถิงเซียวอย่างประหลาด
เขาปล่อยมือออกจากมู่น่อนน่อนอย่างเชื่อฟัง กางแขนออกท่าทางรอให้เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขา
เขาปิดตาไปครึ่งหนึ่ง ใบหน้าที่เยือกเย็นไม่มีแล้ว เชื่อใจในตัวมู่น่อนน่อนอย่างเต็มที่