ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่ 214 ให้ในสิ่งที่เธอต้องการ
บทที่ 214 ให้ในสิ่งที่เธอต้องการ
มู่น่อนน่อนเริ่มใช้ชีวิตโดยการอยู่แต่บ้าน
ทุกวันเฉินถิงเซียวจะไปบริษัทเฉินซื่อตอนเช้า ตอนบ่ายก็จะเอาเอกสารกลับมาที่บ้าน บอกว่ากลัวเธออยู่บ้านแล้วจะเบื่อก็เลยมาอยู่เป็นเพื่อนเธอ
ความจริงแล้ว แค่มู่น่อนน่อนเห็นหน้าเขาสีหน้าก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ทั้งสองคนถ้าเกิดว่าไม่คุยกัน ก็ทะเลาะกันไปเลย
แต่ว่าการทะเลาะกันนั้นก็มีเพียงแค่มู่น่อนน่อนคนเดียวเท่านั้นที่ยั่วยุเขา ส่วนเฉินถิงเซียวนั้นก็ไม่เจ็บไม่คันอะไรเลย
“อาหูบอกว่าเธอไม่กินข้าวกลางวันเหรอ? ”
เฉินถิงเซียวกลับมาจากด้านนอก แล้วก็นั่งลงด้านข้างมู่น่อนน่อน
มู่น่อนน่อนถือโน๊ตบุ้คอยู่ นิ้วเรียวเคาะบนแป้นพิมพ์ เหมือนกับว่าไม่ได้ยินคำพูดของเฉินถิงเซียวยังไงยังงั้น เอาแต่จ้องหน้าจอโน๊ตบุ้คอย่างตั้งใจ
สถานการณ์แบบนี้ไม่ได้พึ่งเคยเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก
เฉินถิงเซียวสีหน้ามืดมน เขาปิดจอโน๊ตบุ้คของเธอลง
มีคำเตือนอยู่ในน้ำเสียงของเขา “มู่น่อนน่อน”
มู่น่อนน่อนลองอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถเอามือเขาออกได้สำเร็จ เธอหันหน้ามาจ้องเขาด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย “เอามือออกไป ฉันยังพิมพ์ไม่เสร็จเลย”
มือหนาของเฉินถิงเซียวยังคงกดอยู่บนโน๊ตบุ้คของเธอ สีหน้าเย็นชา “ไม่ได้ยินที่ฉันพูดเหรอ? ”
“ไม่อยากทาน” มู่น่อนน่อนลุกขึ้นแล้วก็เดินผ่านเฉินถิงเซียว แล้วก็ไปนั่งลงตรงโซฟาที่อยู่ห่างจากเขามากที่สุด
เฉินถิงเซียวเม้มปาก ดวงตาของเขาหดลง เหมือนกับว่าพยายามอดทนอยู่ แล้วก็เหมือนว่าสามารถระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ
ช่วงนี้ทั้งสองคนไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่นัก มู่น่อนน่อนมีสีหน้าที่ไม่ดีกับเขา เขาเองก็ไม่ปล่อยให้มู่น่อนน่อนออกไปนอกบ้าน ทั้งสองคนไม่มีใครได้ประโยชน์ และก็ไม่มีใครชนะด้วย
ผ่านไปครู่หนึ่ง เฉินถิงเซียวก็พยายามประนีประนอม “ฉันพาเธอออกไปเดินเล่นข้างนอกไป”
มู่น่อนน่อนปฏิเสธทันที “ไม่ไป”
สีหน้าของเฉินถิงเซียวเย็นลงเล็กน้อย สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็หายใจออกอย่างหนัก “ไม่ไปก็ต้องไป! ”
น้ำเสียงของเขาค่อนข้างจะรุนแรง มู่น่อนน่อนยังคงรู้สึกกลัวเขาอยู่บ้าง เธอตกใจจนตัวสั่นเล็กน้อยเพราะน้ำเสียงของเขา
เฉินถิงเซียวเห็นดังนั้น สีหน้าก็ดูแย่ลงกว่าเดิม ลุกขึ้นแล้วก็เดินออกไปด้านนอก
ด้านนอก
อาหูถือถาดกำลังเดินเข้ามาพอดี บนถาดนั้นมีโจ๊กชามหนึ่งพร้อมกับเครื่องเคียงสองสามอย่าง
เธอเห็นว่าสีหน้าของเฉินถิงเซียวไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ก็เลยถามว่า “ทะเลาะกันอีกแล้วเหรอคะ? ”
เฉินถิงเซียวยกมือขึ้นมาบีบขมับ เขากัดฟันแล้วพูดว่า “เธออยากจะทำให้ผมโมโหจนตาย! ”
น้อยมากที่อาหูจะเห็นเฉินถิงเซียวเปิดเผยอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองออกมาแบบนี้ ก็อึ้งไปเล็กน้อย แต่ก็รู้สึกอยากจะหัวเราะบ้างอยู่เหมือนกัน
ตอนเป็นวัยรุ่นนั้น เธอเข้ามาที่บ้านตระกูลเฉินเพื่อรับใช้ชีวิตประจำวันของแม่ของเฉินถิงเซียว ก็ถือว่าเธอเห็นเฉินถิงเซียวเติบโตขึ้นมา
หลังจากนั้นก็มีเรื่องคดีลักพาตัว เฉินถิงเซียวก็ถูกส่งออกนอกประเทศไป เธอก็ลาออกจากงานและออกจากบ้านตระกูลเฉิน
แต่ว่า เธอก็คิดถึงเฉินถิงเซียวมาโดยตลอด
ตอนเด็กๆ นั้นเฉินถิงเซียวนิสัยอ่อนโยน เป็นคนสุภาพ ดูดี ผู้ใหญ่เห็นก็รู้สึกชอบ
ช่วงเวลาก่อนหน้านี้ ตอนที่เฉินถิงเซียวมาหาเธอนั้น เธอแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเธอที่มีสีหน้าเย็นชาและดูเศร้าหมองนั้นจะคือคุณผู้ชายของตระกูลเฉิน
อาหูส่ายหน้า ถอนหายใจแล้วก็พยายามเกลี้ยกล่อมเขา “คุณหญิงน้อยเป็นเด็กที่มีความคิดเป็นของตัวเอง นิสัยก็ดื้อดึงเล็กน้อย คุณไม่ยอมให้เธอออกไป จำกัดเธอไว้แบบนี้ แล้วเธอจะมีความสุขได้ยังไงล่ะคะ? ”
ตอนที่อาหูพูดนั้น ก็พยายามสังเกตท่าทีตอบสนองของเฉินถิงเซียว แต่ว่าก็ไม่สามารถบอกได้จากการแสดงออกของเขาว่าเขากำลังฟังเธออยู่รึเปล่า
เด็กคนนี้ ความคิดช่างลึกซึ้งจริงๆ
ตอนที่เธอคิดว่าเฉินถิงเซียวไม่ได้ฟังสิ่งที่เธอพูดนั้น จู่ๆ เฉินถิงเซียวก็พูดออกมา “อาหู ถ้าเกิดว่าผมไม่ทำแบบนี้ เธอก็จะไป”
“เกิดอะไรขึ้น? เธอจะไปไหน? ” อาหูฟังแล้วรู้สึกสับสน
ถึงแม้ว่าตอนนี้ทั้งสองคนจะมีความขัดแย้งกันเล็กน้อย แต่ว่าเธอในฐานะคนนอกก็สามารถรับรู้ได้ว่า ทั้งสองคนก็ต่างแคร์กันและกัน
เฉินถิงเซียวกลับไม่ได้พูดอะไรมากมาย
มู่น่อนน่อนเป็นคนดื้อรั้น ในเรื่องของความรู้สึกนั้น เธอไม่สามารถทนให้มีกรวดอยู่ในตาได้
เรื่องของซือเฉิงหยู้นั้น เขาไม่สนใจซือเฉิงหยู้มากเกินไปจริงๆ ทำให้มู่น่อนน่อนต้องถูกถึงเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างรุนแรงแบบนี้
มู่น่อนน่อนรู้สึกว่า เขากำลังใช้เธอ ปล่อยให้เธอต้องติดอยู่ในวังวนของเรื่องอื้อฉาวและข่าวลือ
ส่วนความจริงนั้น……
เฉินถิงเซียวไม่มีทางปฏิเสธได้
การกระทำของซือเฉิงหยู้นั้นผิดปกติอย่างมาก บวกกับวิ่งที่มู่เจิ้งซิวเคยพูดเอาไว้
ถ้าเกิดว่าเป็นกรณีของแม่เมื่อปีนั้น มันเกี่ยวข้องกับคุณป้าเฉินเหลียน ถ้ายังงั้นซือเฉิงหยู้ในฐานะที่เป็นลูกชายของเฉินเหลียน เป็นไปได้ไหมว่าการกระทำที่ผิดปกติของเขาเหล่านี้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในปีนั้นด้วย?
ถ้าคาดการณ์ว่าถ้าเกิดว่าเรื่องราวมันพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ จะส่งผลกระทบกับมู่น่อนน่อน
แต่ว่าถ้าเกิดว่ารีบห้ามตอนนี้ ก็อาจจะพลาดข้อมูลสำคัญไปก็ได้
สุดท้ายแล้ว ความปรารถนาที่จะสืบคดีของแม่นั้นก็ได้เปรียบ
บางที เขาก็คาดหวังว่าคุณผู้หญิงมู่น่อนน่อนคนนี้จะซื่อบื้อกว่านี้หน่อย ถ้าเกิดว่าเป็นแบบนั้นเธอจะได้ไม่ไปจากเขา
ต่อให้เขานั้นทำผิดไป ก็สามารถแก้ไขได้ก่อนที่เธอจะรู้ตัว
ในช่วงเวลานี้ ปฏิกิริยาและพฤติกรรมของเธอนั้น พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เธอมีความคิดที่จะไปจากที่นี่เมื่อไหร่ก็ได้
เพียงแค่คิด เขาก็ไม่อนุญาต
แค่คิดว่า จะมีวันไหนที่เขากลับบ้านมาแล้วไม่ได้เจอร่างของมู่น่อนน่อน เขาก็รู้สึกเหมือนกับอยู่ในบ้านน้ำแข็ง หนาวเหน็บไปทั้งร่างกาย
เขาคิดอยู่นาน ก็คิดวิธีที่พอจะเป็นไปได้ไม่ออกแล้ว
แถมด้านนอกยังมีผู้ชายที่สนใจมู่น่อนน่อนอยู่อีก
เขาจนปัญญาแล้ว
มันเหมือนกับนักเดินทางที่มาถึงจุดสิ้นสุดของถนน ขอแค่มู่น่อนน่อนตั้งท้องลูกของเขา ก็จะไม่มีวันจากเขาไป
มู่น่อนน่อนไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากครอบครัวตั้งแต่เด็กๆ ถ้าเกิดว่าเป็นลูกของตัวเอง เธอต้องไม่ยอมปล่อยให้เขาไม่มีพ่ออย่างแน่นอน
ดังนั้น ขอแค่มีลูก เธอก็จะไม่มีวันจากเขาไป
ทุกครั้งที่เขามองแววตาที่ยิ่งนับวันยิ่งเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ ของมู่น่อนน่อนนั้น ใจของเขาก็เริ่มหวั่นไหว
แต่ว่า พอคิดถึงเรื่องนี้แล้ว ความคิดของเขาก็กลับมาหนักแน่นอีกครั้ง
“เฉินถิงเซียว”
ด้านหลังมีเสียงของมู่น่อนน่อนดังขึ้น เฉินถิงเซียวอึ้งไป รู้สึกเหมือนว่าตัวเองหูแว่วไปเอง
ช่วงเวลาเหล่านี้ มู่น่อนน่อนแทบจะไม่มาคุยกับเขาก่อนเลย
เขาไม่ได้หันไป ก็ได้ยินเสียงดังขึ้นจากทางด้านหลังของเขาอีกครั้ง “เมื่อกี้นายบอกว่าตอนบ่ายจะพาฉันออกไปเดินเล่นไม่ใช่เหรอ? ยังยืนยันคำเดิมอยู่ไหม? ”
เฉินถิงเซียวหันกลับไป ก็เห็นมู่น่อนน่อนยืนมองเขาอยู่ข้างประตู
ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่เธอ หลังจากนั้นก็พยักหน้าตอบรับ “อืม”
“งั้นรอฉันแป๊บหนึ่ง ฉันจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า”มู่น่อนน่อนพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย
หันหลังเดินหลับไปที่ห้อง พอปิดประตูห้อง มู่น่อนน่อนก็ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ
เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเสิ่นเหลียง “เมื่อกี้ฉันพูดกับเฉินถิงเซียวแล้ว ตอนบ่ายนี้พวกเราเจอกันที่ไหนดี? ”
เสิ่นเหลียงไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็พูดว่า “ไปซูปเปอร์มาร์เก็ต ไปห้าง ไปโรงหนัง แค่เสแสร้งทำเป็นบังเอิญเจอกันก็พอแล้ว”
“โอเค” ช่วงนี้มู่น่อนน่อนอยู่บ้านจนตื่นตระหนกไปหมดแล้ว ไม่ให้เธอออกไปก็ช่างเถอะ แต่ว่าเสิ่นเหลียงอยากจะมาเจอเธอ เฉินถิงเซียวก็ไม่ยอมให้เข้ามาเหมือนกัน
เธอไม่รู้ว่าตัวเองควรจะปรบมือให้ความระมัดระวังของเฉินถิงเซียว หรือว่าควรจะสงสารตัวเองดี
ข้อดีเพียงอย่างเดียว น่าจะเป็นการที่เฉินถิงเซียวสามารถให้ในสิ่งที่เธอต้องการได้