ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่ 301 ทำไม? มาตรวจสอบหรือไง?
มู่น่อนน่อนใช้เวลาหลายวินาที ถึงจะเข้าใจคำพูดของเสิ่นชูหาน
“ทำไมนายไม่บอกฉันก่อน?” เธอหันหน้าไปมองเสิ่นชูหานด้วยแววตาที่เย็นชา
เสิ่นชูหานหัวเราะ ทำท่าเหมือนไม่สนใจใดๆ: “ฉันก็เพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้เอง”
มู่น่อนน่อนหัวเราะ เธอคงจะเชื่อคำพูดของตาหมอนี่หรอก
เธอหันหน้าไปมองประตูห้องโถงที่กำลังจัดงานเลี้ยงอยู่ ที่นั่นไม่มีเฉินถิงเซียวอยู่
หลังจากที่เฉินถิงเซียวรับช่วงต่อบริษัทเฉินซื่อแล้ว เขาก็จะต้องไปงานเลี้ยงหรือกิจกรรมมากมาย
แต่เพราะงานเลี้ยงที่เขาไปนั้นเป็นระดับไฮโซ ดังนั้นมู่น่อนน่อนเลยไม่คิดว่า งานเลี้ยงที่เสิ่นชูหานเข้าร่วม เฉินถิงเซียวก็จะมาด้วย
อีกด้านคือ ตระกูลเสิ่นกับตระกูลเฉินไม่มีสัมพันธ์ทางด้านธุรกิจ และน้อยครั้งที่จะพบปะกัน
ดังนั้น เธอจึงไม่ทันได้คิดว่าเฉินถิงเซียวจะมาร่วมงานเลี้ยงนี้ได้
ตอนนี้เธอรู้สึกว่าเสิ่นชูหานต้องตั้งใจทำแบบนี้แน่ๆ
“ตอนนี้เธอเป็นคู่ของฉัน ภารกิจคืนนี้ของเธอก็คืออยู่กับฉัน” เสิ่นชูหานแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วก็ลดมือตัวเองลง เป็นสัญญาณให้มู่น่อนน่อนตามเขามา
มู่น่อนน่อนรู้สึกสับสนไปหมด
ถ้าเฉินถิงเซียวมาแล้ว เห็นว่าเธอมางานเลี้ยงกับเสิ่นชูหาน ไม่รู้ว่าเขาจะโกรธแค่ไหน
มู่น่อนน่อนคิดไปคิดมาแล้ว “สารภาพผิด” ก่อนยังจะดีกว่าอีก
เธอเดินไปข้างหน้าสองก้าว แล้วกุมท้องตัวเองไว้แน่น: “ฉันปวดท้องน่ะ ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
เสิ่นชูหานหยุดเดิน แล้วมองเธอด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
มู่น่อนน่อนพูดจบ ก็รู้สึกคำพูดนี้ดูคุ้นหูมาก
ตอนต้นปี ตอนที่เธอทิ้งเสิ่นชูหานแล้วออกประเทศไปคนเดียว ก็ใช้วิธีนี้เหมือนกัน
มู่น่อนน่อนรู้สึกเขินอาย แล้วก็อธิบายกับเขาอย่างจริงใจว่า: “ครั้งนี้ฉันปวดท้องจริงๆนะ……”
เธอคิดไปมาแล้ว ก็บอกข้ออ้างไปว่า: “ฉันท้องไส้ไม่ค่อยดีน่ะ ช่วงสองวันนี้กินหลายอย่างรวมกัน ก็เลยท้องเสียน่ะ……”
เสิ่นชูหานพยักหน้า พูดว่า: “ฉันไปกับเธอแล้วกัน”
ตามหมอนี่ จริงๆเล้ย……
มู่น่อนน่อนพ่นลมหายใจยาว ต้องจำใจยอมให้เสิ่นชูหานไปห้องน้ำกับเธอ
หลังจากที่มู่น่อนน่อนเข้าห้องน้ำหญิงไปแล้ว ก็หลบอยู่ในห้องน้ำแล้วโทรศัพท์หาเฉินถิงเซียว
โทรศัพท์ดังแค่สองครั้งก็มีคนรับแล้ว
“มู่น่อนน่อน”
เสียงของเฉินถิงเซียวดูทุ้มต่ำ ตอนที่เรียกชื่อเธอก็ยังเรียกเต็มอีก พอเวลานานเข้า มู่น่อนน่อนกลับรู้สึกว่าน้ำเสียงที่เขาเรียกชื่อตัวเองนั้นดูสนิทกันมาก
มู่น่อนน่อนรอบรวมคำพูด แล้วถามไปว่า: “คืนนี้นายก็มาร่วมงานเลี้ยงเหมือนกันเหรอ?”
“ทำไม? จะตรวจสอบเหรอ?” เสียงของเฉินถิงเซียวมีความหยอกล้อเล็กน้อย: “วางใจเถอะ ฉันไม่ได้พอคู่มาด้วย ฉันพาสือเย่มาน่ะ”
มู่น่อนน่อนได้ยินแล้วก็แอบวิตกภายในใจ
คำพูดด้านหลัง เธอก็ไม่รู้แล้วว่าควรจะพูดยังไงต่อ
เห็นมู่น่อนน่อนไม่พูดสักที เฉินถิงเซียวก็เลยถามไปว่า: “ทำไมเหรอ?”
“คือ……ฉัน” มู่น่อนน่อนพูดไม่ออกจริงๆ หรืออาจเป็นเพราะไม่กล้าพูดว่าเธอมาร่วมงานเลี้ยงนี้กับเสิ่นชูหาน
อีกด้าน เฉินถิงเซียวก็รอเธอตอบอย่างอดทน
มู่น่อนน่อนลังเลสักพัก ก็ถึงพูดว่า: “ไม่พาคู่มาก็ดีแล้วล่ะ”
เฉินถิงเซียวพูดด้วยน้ำเสียงที่หยอกล้ออย่างเห็นได้ชัด: “ตอนนี้ฉันจะไปงานเลี้ยงแล้ว เดี๋ยวดึกๆค่อยโทรหาเธอนะ”
มู่น่อนน่อนได้ยินแล้วก็ตอบไปว่า: “ได้สิ”
หลังจากที่วางสายไปแล้ว มู่น่อนน่อนก็หมุนอยู่กับที่ในห้องน้ำ
เฉินถิงเซียวจะมาร่วมงานเลี้ยงนี้จริงด้วย ถ้าเกิดว่าเธอออกไปตอนนี้ จะต้องเจอเฉินถิงเซียวแน่เลย
พอครุ่นคิดสักพักแล้ว มู่น่อนน่อนก็กัดฟัน นั่งลงไปบนโถส้วม
เธอตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ออกไป เธอจะนั่งอยู่ที่นี่จนกว่างานเลี้ยงจะจบ!
เธอไม่เชื่อหรอกนะว่าเสิ่นชูหานจะเข้ามาตามเธอออกไปจากห้องน้ำหญิงได้!
……
เสิ่นชูหานยืนอยู่มู่น่อนน่อนอยู่ด้านนอก รออยู่นานสองนานก็ไม่เห็นเธอออกมาสักที
ดังนั้น เขาจึงโทรศัพท์หามู่น่อนน่อน
มู่น่อนน่อนไม่ยอมรับสายโทรศัพท์ เขาก็คิดว่าเธอเกิดเรื่องอะไรขึ้น
จนกระทั่งตอนที่สายเกือบจะถูกตัดไป มู่น่อนน่อนถึงรับสาย: “ฮัลโหล”
เสิ่นชูหานโล่งอก แล้วถามเธอว่า: “ทำไมยังไม่ออกมาสักทีล่ะ?”
ทางปลายสายเงียบไปสักพัก จากนั้นก็ถึงมีเสียงอ่อนเพลียของมู่น่อนน่อนดังขึ้น: “ฉันท้องเสียน่ะ นายไปก่อนเลยนะ ให้ฉันนั่งตรงนี้สักพัก”
เสิ่นชูหาน: “……”
เขารู้ว่ามู่น่อนน่อนไม่อยากเข้าร่วมงานเลี้ยงนี้กับเขา แต่ไม่คิดว่าเธอจะคิดหาข้าอ้างที่ไร้สาระแบบนี้ได้
เสิ่นชูหานเท้าเอว พูดด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยใจ: “น่อนน่อน เธอลืมไปแล้วเหรอว่าก่อนหน้านั้นพวกเราสัญญากันไว้ว่า เธอจะมางานเลี้ยงกับฉัน แล้วฉันจะบอกเรื่องทุกอย่างที่รู้ให้เธอ”
แม้มู่น่อนน่อนจะอยากรู้เรื่องตระกูลเฉินจากปากเสิ่นชูหาน แต่เรื่องมาจนถึงตอนนี้ เธอเห็นว่า เทียบกับเรื่องของตระกูลเฉินแล้ว เฉินถิงเซียวโมโหน่ากลัวกว่าอีก
“นายไม่ต้องบอกฉันแล้วก็ได้ แค่นี้แหละ บาย”
“ตู๊ด——”
เสียงรีบตัดสายของโทรศัพท์ดังขึ้น เสิ่นชูหานอึ้งไปชั่วขณะ เขายืนอยู่กับที่โดยมีสีหน้าที่คาดเดาไม่ถูก ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ จากนั้นก็ก้าวเท้าเตรียมจะเดินจากไป
ในตอนนี้เอง ตรงหน้าก็มีชายร่างสูงเพรียวปรากฏขึ้น
เสิ่นชูหานหรี่ตาลงเล็กน้อย เขายืนอยู่กับที่ รอให้ชายคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ จากนั้นเขาก็ออกเสียงหยุดเขาไว้: “คุณชายเฉิน ไม่เจอกันนานเลยนะครับ”
เฉินถิงเซียวหยุดเดิน เขาเงยหน้าขึ้น แล้วพูดอย่างไม่สนใจว่า: “นายอยากเจอฉันงั้นเหรอ?”
ครั้งก่อนหลังจากที่เสิ่นชูหานช่วยมู่น่อนน่อนหนีออกมาได้ เฉินถิงเซียวก็พูดข่มไปแล้ว จัดการตระกูลเสิ่นไปทีหนึ่ง แต่สุดท้ายก็ยังเหลือเส้นทางไว้ให้พวกเขา ไม่ได้ทำให้ตระกูลเสิ่นล้มละลายเสียทีเดียว
สำหรับผู้ชายที่คิดแตะต้องผู้หญิงของตัวเอง เฉินถิงเซียวไม่คิดจะสงสารเขาด้วยซ้ำ
แต่ในใจเขารู้ดีว่า ถ้าเกิดเขาทำให้ตระกูลเสิ่นล้มละลาย มู่น่อนน่อนคงจะรู้สึกผิดแน่
เสิ่นชูหานก็นึกถึงเรื่องที่เฉินถิงเซียวทำกับตระกูลเสิ่น สีหน้าเขามีความหวาดกลัวเล็กน้อย แต่ไม่นานเขาก็หัวเราะออกมา: “ไม่หรอก ฉันแค่รอน่อนน่อนออกมาอยู่น่ะ ไม่คิดว่าจะบังเอิญเจอนายที่นี่”
เสิ่นชูหานพูดจบ ก็ยิ้มด้วยสีหน้าได้ใจ
เป็นไปตามคาด พอเฉินถิงเซียวได้ยิน “น่อนน่อน” ชื่อนี้แล้ว สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
เฉินถิงเซียวหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า: “นายว่าใครนะ?”
“อดีตภรรยานายไง มู่น่อนน่อน” เสิ่นชูหานพูดช้าๆเน้นยำทุกคำ แล้วยังตั้งใจเสียงหนักตรงคำว่า “อดีตภรรยา”
เสิ่นชูหานเห็นสีหน้าเฉินถิงเซียวเย็นชาลง ก็เติมน้ำมันกับไฟลงไปเพิ่ม: “เธอมาร่วมงานเลี้ยงกับฉันน่ะ ยังไงพวกนายก็เคยเป็นสามีภรรยากัน เดี๋ยวออกมาจะทักทายกันหน่อยไหม”
สีหน้าของเฉินถิงเซียวเย็นยะเยือกและหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา เขาแค่มองขวางเสิ่นชูหาน จากนั้นก็เดินไปที่ห้องน้ำหญิงทันที
“นายจะทำอะไรน่ะ?” เสิ่นชูหานเห็นเฉินถิงเซียวเข้าห้องน้ำหญิงไป ด้วยแววตาที่ไม่อยากจะเชื่อ
ตอนนี้งานเลี้ยงเพิ่งเริ่ม ห้องน้ำก็ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่
เฉินถิงเซียวนึกถึงสายที่มู่น่อนน่อนโทรมาหาเขาก่อนหน้านี้ รอยยิ้มที่มุมปากเขาก็เย็นชาขึ้นไปอีก
มู่น่อนน่อน เธอนี่มันเก่งจริงๆนะ
เขาเริ่มจากประตูห้องน้ำแรก เคาะประตูห้องน้ำแรกลงไปเรื่อยๆ