ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่ 302 ฉันคิดว่านายเป็นคนฉลาดนะ
มู่น่อนน่อนนั่งอยู่บนโถส้วมในห้องน้ำ ได้ยินเสียงคนเคาะประตูทีละห้องจากด้านนอก ในใจก็เริ่มมีลางสังหรณ์ไม่ดี
คงไม่ใช่เสิ่นชูหานหรอกนะ?
แต่เธอเดาจากนิสัยของเสิ่นชูหานแล้ว ก็รู้สึกว่าคงไม่ใช่เขาหรอก
เสิ่นชูหานแม้จะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน แต่เรื่องกลัวเสียหน้านั้น ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย
ดังนั้น ไม่มีทางเป็นเสิ่นชูหานแน่
งั้นใครล่ะ?
ตอนนี้เอง คนที่เคาะประตูก็เดินมาถึงหน้าห้องที่เธออยู่แล้ว
ก๊อกๆๆ!
เคาะติดต่อกันไปสามที ดูมีจังหวะและมีความมั่นคงมาก
มู่น่อนน่อนใจเต้นตึกตัก
เธอรู้สึกว่าคนด้านนอกอาจจะเป็นเฉินถิงเซียว……
สัมผัสที่หกของคนเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดที่สุด
ทั้งที่ยังมีประตูกั้นเอาไว้ ทั้งสองไม่ได้พูดและไม่เห็นหน้ากัน มู่น่อนน่อนก็แน่ใจได้ว่า คนด้านนอกต้องเป็นเฉินถิงเซียวแน่
มู่น่อนน่อนบีบจมูกไว้ กดเสียงตัวเองลง: “ใครคะ? ฉันยังไม่เสร็จธุระค่ะ”
ต่อมา ด้านนอกก็มีเสียงทุ้มต่ำของเฉินถิงเซียวดังขึ้น: “จะให้ฉันช่วยไหม?”
เฉินถิงเซียวจริงด้วย!
มู่น่อนน่อนตบหน้าผากตัวเองเบาๆหลายครั้ง
เฉินถิงเซียวมาที่นี่ได้ยังไง?
เขาแอบใส่ระบบจีพีเอสที่ตัวเธอหรือเปล่าเนี้ย
มู่น่อนน่อนตัดสินใจดิ้นรนอีกครั้ง: “นี่คือห้องน้ำหญิง นายเป็นผู้ชายเข้ามาทำอะไรในนี้น่ะ ถ้ายังไม่ออกไป ฉันจะแจ้งตำรวจแล้วนะ ฉัน……”
เฉินถิงเซียวพูดแทรกเธอ: “จะออกมาเอง หรือให้ฉันพังประตูเข้าไป เลือกมาหนึ่งอย่าง”
น้ำเสียงเขาเย็นชามาก มู่น่อนน่อนที่ได้ยินแล้วก็อดไม่ได้ใจสั่นเทา
เธอไม่เลือกทั้งสองอย่างได้ไหม?
แต่ว่า ร่างกายเธอตัดสินใจเร็วกว่าสมองไปแล้ว
“แกร๊ก” เสียงประตูห้องน้ำเปิดออก
ใบหน้าเย็นชาของเฉินถิงเซียว ปรากฏขึ้นตรงหน้าของมู่น่อนน่อน
เขามองมู่น่อนน่อนนิ่ง เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แล้วจ้องมองเธออยู่อย่างนั้น
มู่น่อนน่อนกลืนน้ำลาย พยายามทำน้ำเสียงของตัวเองให้เป็นปกติมากที่สุด: “นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน……บังเอิญจังเลยนะ……”
“มู่น่อนน่อน” เฉินถิงเซียวเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำที่พยายามข่มอารมณ์ให้ได้มากที่สุด
มู่น่อนน่อนชะงัก รีบนั่งตัวตรงในทันที ทำท่าเหมือนเตรียมพร้อมกับสิ่งที่ต้องเจอต่อหน้า
เฉินถิงเซียวโมโหจนต้องหัวเราะออกมา: “ตอนนี้รู้สึกผิดแล้วหรือไง?”
มู่น่อนน่อนก้มหน้าลง พูดเสียงเบาว่า: “รู้สึกผิดมาตลอดเลย”
“งั้นเธอยังมางานเลี้ยงกับผู้ชายคนนั้นอีก?” ตอนนี้เฉินถิงเซียวไม่อยากเอ่ยถึงชื่อของเสิ่นชูหานเลยด้วยซ้ำ และไม่อยากพูดถึงชื่อมันต่อหน้ามู่น่อนน่อนด้วย
มู่น่อนน่อนไม่เคยมางานเลี้ยงกับเขาเลย เสิ่นชูหานกลับตัดหน้าเขาไปเสียก่อน
ฝันไปเถอะ!
“ฉันมีเหตุผลน่ะ” มู่น่อนน่อนพยายามอธิบาย
“เหตุผล? เธออยากขอบคุณที่เขาช่วยเธอหนีออกมาจากต่างประเทศได้เหรอ?” เฉินถิงเซียวแสยะยิ้มเย็นชา: “ฉันไม่กำจัดบริษัทเสิ่นซื่อทั้งหมด ก็ใจกว้างมากพอแล้ว เขายังอยากให้เธอตอบแทนอีกเหรอ?”
มู่น่อนน่อนเม้มปากบาง: “นายอย่าเอะอะอะไรก็ไปจัดการบริษัทคนอื่นได้ไหม…….”
“เธอมาร่วมงานเลี้ยงกับผู้ชายคนอื่นได้ ทำไมฉันจะจัดการบริษัทเสิ่นซื่อไม่ได้?” เฉินถิงเซียวเลิกคิ้วมองเธอ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
เห็นได้ชัดว่าเขาโกรธมาก แถมยังหึงอีกด้วย
นานๆทีจะเห็นเฉินถิงเซียวหึง มู่น่อนน่อนรู้สึกแปลกใจ ก็เลยอดไม่ได้อยากจะหัวเราะ
เฉินถิงเซียวสังเกตเห็นสีหน้าของเธอ จากนั้นก็ยื่นมือออกไปขยี้หัวเธอเบาๆ
“ทรงผมเสียหมดเลย” มู่น่อนน่อนปัดมือเขาออกอย่างไม่พอใจ
เมื่อกี้เฉินถิงเซียวมัวแต่โกรธ เลยไม่ทันได้สังเกตว่าวันนี้มู่น่อนน่อนตั้งใจทำทรงผมมา
มู่น่อนน่อนเห็นเฉินถิงเซียวหรี่ตาลง ก็รีบดึงเขาเดินออกไปด้านนอก: “พวกเราออกไปก่อนเถอะ อยู่ที่นี่แปลกๆยังไงก็ไม่รู้”
เฉินถิงเซียวไม่ได้พูดอะไรมาก ปล่อยให้เธอดึงตัวเองออกไปด้านนอก
พอออกไปแล้ว มู่น่อนน่อนก็เห็นเสิ่นชูหานยังอยู่
เสิ่นชูหานเห็นเธอออกมาแล้ว ก็เรียกทันที: “น่อนน่อน”
มู่น่อนน่อนยิ้มแห้งๆ
เฉินถิงเซียวไม่สนใจการมีตัวตนอยู่ของเฉินถิงเซียว เขามองไปที่มู่น่อนน่อน: “ฉันให้คนส่งเธอกลับไปไหม”
มู่น่อนน่อนนึกถึงตอนที่ตัวเองเข้างานเลี้ยงเมื่อกี้ ได้ยินพวกผู้หญิงพูดคุยกัน ก็ไม่ได้ตอบเฉินถิงเซียวในทันที
เฉินถิงเซียวไม่ให้เธอมางานเลี้ยงของเสิ่นชูหาน แต่เขากลับมาโปรยเสน่ห์ที่นี่ แถมยังมีผู้หญิงชอบเขาเยอะอีกด้วย
อีกอย่าง ช่วงนี้เธอก็ไม่ได้เจอเฉินถิงเซียวเลย กว่าจะได้เจอกันแบบเปิดเผย จะเดินไปแบบนี้เลยได้ยังไงกัน?
เห็นมู่น่อนน่อนไม่ตอบสักที เฉินถิงเซียวก็รู้ว่าเธอยังไม่อยากกลับไป
เฉินถิงเซียวก้มหน้าลง ลูบใบหน้าเธอเบาๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า: “กลับกันเถอะนะ”
มู่น่อนน่อนรู้สึกหงุดหงิด: “ฉันมาก็มาถึงแล้ว จะกลับไปแบบนี้ก็เสียดายแย่เลยสิ ถือเสียว่ามาเพิ่มประสบการณ์แล้วกัน”
เฉินถิงเซียวขมวดคิ้วไม่พูดอะไร
มู่น่อนน่อนมองเขาแล้วเบี่ยงตัวเดินผ่านเขาไป แล้วก้าวเดินไปทางงานเลี้ยงทันที
การพูดคุยของเฉินถิงเซียวกับมู่น่อนน่อนเมื่อกี้ เสิ่นชูหานเห็นมันทั้งหมด ตอนนี้กำลังมองดูเฉินถิงเซียวด้วยแววตาที่สงสัย
ก่อนหน้านี้มีข่าวประกาศออกมาว่า เฉินถิงเซียวกับมู่น่อนน่อนหย่ากันแล้ว
เขาเคยเห็นท่าทางที่โกรธจัดของเฉินถิงเซียว หลังจากที่มู่น่อนน่อนหนีออกไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่เชื่อว่าทั้งสองหย่ากันแล้วจริงๆ
ตอนนี้ดูแล้ว สิ่งที่เขาคาดเดาไว้ไม่ผิดสินะ
ตอนที่เสิ่นชูหานมองดูเฉินถิงเซียว เฉินถิงเซียวก็หันหน้าควับมามองเขา
เฉินถิงเซียวจ้องมองเขาอยู่หลายวินาที ถึงจะพูดออกมาว่า: “ฉันคิดว่านายเป็นคนฉลาดนะ”
เสิ่นชูหานแววตากะพริบเล็กน้อย: “ไม่กล้ารับหรอกครับ”
“อะไรควรพูด อะไรไม่ควรพูด อะไรควรแตะ อะไรไม่ควรแตะ คุณเสิ่นน่าจะรู้ดีอยู่แก่ใจนะครับ”
ตอนที่เฉินถิงเซียวพูดนั้น สายตากลับไม่ได้ละออกจากตัวเสิ่นชูหานเลย ดังนั้นก็เลยเห็นสีหน้าของเสิ่นชูหานที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย
เขาแสยะยิ้มอย่างดูถูก จากนั้นก็กลับหลังหันเดินจากไป
แค่เสิ่นชูหาน ก็กล้าแย่งผู้หญิงของเขาด้วยงั้นเหรอ?
……
ตอนที่มู่น่อนน่อนกลับมาในงานเลี้ยง ก็เห็นสือเย่พอดี
สือเย่มาพร้อมกับเฉินถิงเซียว แต่เฉินถิงเซียวไม่อยู่ ก็ต้องมีคนไม่น้อยที่ไปประจบสือเย่อยู่แล้ว
สือเย่เป็นมือขวาของเฉินถิงเซียวเชียวนะ
มีผู้หญิงคนหนึ่งถามสือเย่พอดี: “ช่วงนี้คุณชายเฉินมีแฟนใหม่หรือยังคะ?”
ผู้หญิงคนนี้ถามตรงมาก คำถามนี้คนอื่นๆก็อยากรู้เหมือนกัน
สือเย่ไม่ใช่ลูกน้องธรรมดา แต่เป็นคนที่มีทั้งความสามารถและประสบการณ์อันโชกโชน แล้วยังทำงานกับเฉินถิงเซียวมานานอีกด้วย: “นี่คือเรื่องส่วนตัวของคุณชาย ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องนี้หรอกครับ”
สือเย่พูดจบ ก็เงยหน้าขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ แล้วเห็นมู่น่อนน่อนเข้าพอดี
มู่น่อนน่อนเพิ่งหยิบแชมเปญหนึ่งแก้วจากบริกร ก็เห็นสือเย่ที่มองตัวเองอยู่ เธอจึงพยักหน้าให้เขาหนึ่งที
สือเย่อึ้งไปสักพัก ไม่คิดว่าจะเจอมู่น่อนน่อนที่นี่
หรือว่าที่คุณชายไปห้องน้ำนานขนาดนี้ เป็นเพราะคุณหญิงน้อยก็อยู่ที่นั่นด้วย
มีผู้หญิงคนหนึ่งสังเกตเห็นสายตาของสือเย่ ก็ต้องเห็นมู่น่อนน่อนด้วยเป็นธรรมดา
ผู้หญิงถามคนข้างๆ: “ผู้หญิงคนนั้นคือใคร?”
เธอรู้สึกคุ้นหน้ามู่น่อนน่อนมาก แต่กลับนึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน
“อดีตภรรยาของคุณชายเฉิน มู่น่อนน่อน” คนข้างๆพูดว่า: “แต่ได้ยินว่าเมื่อก่อนขี้เหร่มาก ฉันเดานะว่าหล่อนต้องไปทำศัลยกรรมมาแน่นอน”