ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่ 305 ฉันเข้าใจดี
มู่น่อนน่อนอึ้งไปสักพัก จากนั้นก็มองค้อนเขาแรงๆ: “ไม่”
เฉินถิงเซียวไม่ได้พูดอะไรอีก เขาลูบผมเธอเบาๆ จากนั้นก็กลับหลังหันเดินจากไปในความมืด
จนกระทั่งเขาเดินจากไป มู่น่อนน่อนถึงถือกุญแจรถกลับหลังหันเดินกลับไปที่ห้องตัวเอง
……
วันถัดมา
ในตอนที่มู่น่อนน่อนตื่นขึ้นมานั้น ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูเวยป๋ออย่างเคยชิน
สุดท้ายพอเปิดดูเวยป๋อ ก็เห็นตัวเองขึ้นเป็นที่หนึ่งในการค้นหา
“อดีตภรรยาคุณชายเฉินอยากจะขอคืนดี”
นี่มันบ้าอะไรเนี้ย?
มู่น่อนน่อนกดเข้าไปดู
“เมื่อคืนมีการจัดงานเลี้ยงมื้อค่ำระดับไฮโซเมื่อคืนนี้ มีคนมากมายเห็นคุณชายเฉินกับอดีตภรรยาอยู่ในงานด้วยกัน มีคนคาดเดาว่าอดีตภรรยาของคุณชายเฉินคิดอยากจะขอคืนดี……”
ด้านหลังยังมีการอธิบายมากมาย
แล้วยังมีรูปภาพชัดเจนแปะอยู่บนนั้นด้วย
รูปถ่ายในงานเลี้ยงเมื่อคืนจริง บล็อกเกอร์ก็มีความละเอียดอ่อนวงรูปของมู่น่อนน่อนกับเฉินถิงเซียวออกมา แล้วเอาภาพนี้มาอธิบายด้วยจินตนาการอันเลิศหรูของตัวเอง
นี่คงเป็นความเก่งของพวกนักข่าวสินะ
เธอแค่บังเอิญเข้าร่วมงานเลี้ยง แต่ไม่คิดว่าเฉินถิงเซียวจะไปด้วย
จากนั้นยังถูกนับข่าวถ่ายรูปไว้อีก กลายเป็นว่าเธออยากขอคืนดีกับเฉินถิงเซียว
มู่น่อนน่อนเลื่อนลงไปดูด้านล่างอีก
“เป็นเรื่องปกติ ผู้ชายอย่างเฉินถิงเซียว มีผู้หญิงคนไหนบ้างที่ไม่เสียดาย”
“แบบนี้หมายความว่า ทั้งสองคนหย่ากันแล้วจริงๆน่ะสิ?”
“รู้สึกว่าโอกาสฉันมาแล้วล่ะ”
“อดีตภรรยาคนนี้หน้าไม่อายจริงๆ หย่ากันแล้วยังจะมาวุ่นวายอีก”
ก็แค่คอมเมนต์ทั่วไปธรรมดา มู่น่อนน่อนเห็นจนชินแล้วล่ะ
มู่น่อนน่อนลุกขึ้นจากเตียง เดินไปที่ห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟัน เพิ่งออกมาฉินสุ่ยซานก็โทรศัพท์เข้ามา
พอมู่น่อนน่อนรับสาย ฉินสุ่ยซานก็พูดหยอกล้อเธอขึ้นมาทันทีว่า: “เก่งจริงๆเลยนะ ขึ้นคำค้นหายอดฮิตเป็นว่าเล่นเชียว ละครของพวกเราอยากไม่ดังก็คงไม่ได้”
มู่น่อนน่อนหัวเราะ: “นักข่าวอยากเขียน ฉันจะห้ามได้ยังไงล่ะ?”
“เห้อ ฉันแค่แปลกใจว่า เธอกับเฉินถิงเซียวเลิกกันจริงหรือเปล่า?”
ฉินสุ่ยซานพูดถึงเรื่องนี้อีกครั้ง มู่น่อนน่อนก็ถามกลับว่า: “เธอคิดว่าไงล่ะ?”
“ฉันว่ายัง” น้ำเสียงของฉินสุ่ยซานดูมั่นใจมาก
จากนั้น เธอก็พูดต่อว่า: “ถ้าพวกเธอเลิกกันจริง เฉินถิงเซียวจะยอมขึ้นคำค้นหายอดฮิตกับเธอได้ยังไง?”
ฉินสุ่ยซานไหวพริบเร็วจนมู่น่อนน่อนสงสัย ตอนนั้นผู้หญิงที่แอบเข้ามาคฤหาสน์ของเฉินถิงเซียวพร้อมคนรับใช้เป็นเธอหรือเปล่า
มู่น่อนน่อนพูดตอบ: “เขาแค่ไม่สนใจเรื่องเล็กเท่านั้นเอง”
“งั้นเหรอ?” ฉินสุ่ยซานเห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อ
ตอนนี้เอง ก็มีสายหนึ่งโทรเข้ามา
มู่น่อนน่อนมองดูหน้าจอโทรศัพท์ ก็เห็นเฉินถิงเซียวโทรเข้ามา
“ขอโทษด้วยนะ ฉันมีสายที่ต้องรับน่ะ วางสายก่อนนะ”
มู่น่อนน่อนวางสายของฉินสุ่ยซานแล้ว ก็รับสายเฉินถิงเซียวทันที
เฉินถิงเซียวก็ถามเธอทันทีว่า: “เห็นคำค้นหายอดฮิตหรือยัง?”
“เห็นแล้ว” มู่น่อนน่อนถอนหายใจ: “ไม่คิดว่างานเลี้ยงเมื่อกี้ จะมีนักข่าวแอบเข้ามาด้วย”
“ฉันตั้งใจให้คนปล่อยเข้ามาน่ะ” เฉินถิงเซียวเงียบสักพักก็พูดว่า: “ดันละครเรื่องใหม่เธอได้พอดี เดี๋ยวฉันให้คนเอาออกนะ”
มู่น่อนน่อนหัวเราะ: “นายไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้นะ ก็แค่ละครในเว็บเอง ถึงเวลาทางฝ่ายโฆษณาจะวางแผนและกิจกรรมเอง”
เธอเพิ่งพูดจบ ก็ได้ยินเสียงสือเย่ดังขึ้นจากทางโทรศัพท์
“คุณชายครับ……”
“นายทำงานก่อนแล้วกัน” มู่น่อนน่อนพูดจบ ก็วางสายทันที
……
《เมืองพัง》ช่วงนี้ถ่ายทำในโรงถ่ายละครเสียมากกว่า
มู่น่อนน่อนขับรถไป ตอนที่ไปถึงก็กำลังถ่ายฉากต่อสู้พอดี
ฉินสุ่ยซานก็ไม่อยู่
เมื่อก่อนมู่น่อนน่อนไม่ค่อยได้มาโรงถ่ายละคร มองดูอยู่ข้างถนนห่างๆ ก็คิดว่าจะไปเดินเล่นเสียหน่อย
เดินได้ไปได้ไม่ไกล เธอก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น
“น่อนน่อน? เป็นเธอใช่ไหม?”
มู่น่อนน่อนหยุดเดิน คนที่อยู่ด้านหลังเธอก็รีบเดินมาตรงหน้าเธอทันที
เซียวชู่เหอจ้องมองเธอด้วยสีหน้าที่แปลกใจ: “เมื่อกี้ฉันเห็นด้านหลังเหมือนเธอมาก ไม่คิดว่าจะเป็นเธอจริงๆ”
มู่น่อนน่อนมองเธอด้วยแววตาที่เย็นชา และไม่ได้พูดอะไรตอบ
“ช่วงครึ่งปีมานี้ยังสบายดีไหม?” เซียวชู่เหอเห็นมู่น่อนน่อนไม่พูดสักที สีหน้าก็เริ่มมีอาการอึดอัด
“ยังดี” มู่น่อนน่อนมองดูเซียวชู่เหอ เห็นว่าเธอไม่แตกต่างอะไรจากเมื่อก่อนมาก แถมยังเหมือนหญิงผู้ดีที่ได้รับการดูแลอย่างดี
ตอนนั้นข่าวทุกสำนักบอกว่าเธอตายแล้ว ดูแล้วเรื่องนี้คงไม่กระทบเซียวชู่เหอเลยสินะ
เซียวชู่เหอยังคงเป็นคุณนายมู่ที่สวยสดงดงามเสมอ
มู่น่อนน่อนก้มหน้าลงดูนาฬิกาบนข้อมือ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงรำคาญว่า: “คุณนายมู่ยังมีธุระอะไรไหม?”
เซียวชู่หานได้ยินมู่น่อนน่อนเรียกตัวเองแบบนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย: “น่อนน่อน เธอ……”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วล่ะก็ ฉันขอตัวก่อน” มู่น่อนน่อนไม่ให้โอกาสเธอได้พูด กลับหลังหันเดินออกไปทันที
“น่อนน่อน รอเดี๋ยวสิ” เซียวชู่หานรีบยื่นมือไปอยากจะดึงเธอไว้: “สถานการณ์ตอนนั้นน่ะ เธอน่าจะเข้าใจพวกเรานะ พวกเราก็แค่……”
“ฉันเข้าใจดีเลยล่ะ” กลัวว่าจะถูกเธอทำให้ซวยไปด้วย ดังนั้นเลยออกข่าวตัดขาดความสัมพันธ์พ่อลูกกับเธอ ตัดสินใจทำได้อย่างเด็ดขาด และชาญฉลาดมาก
เซียวชู่เหอได้ยินแล้ว เหมือนเข้าใจที่เธอพูด เลยโล่งอก: “วันนี้ฉันมาดูหวั่นขีน่ะ หล่อนมาถ่ายละครที่นี่ เธอจะไปดูด้วยกันไหม? พอเธอกลับมาแล้ว ก็ไม่เคยเจอหน้าหวั่นขีเลยนี่?”
มู่น่อนน่อนขมวดคิ้วเล็กน้อย: “มู่หวั่นขีถ่ายละครอยู่ที่นี่เหรอ?”
ตอนนั้นมู่หวั่นขีเข้าวงการบันเทิง มู่น่อนน่อนรู้เรื่องนี้
แต่ไม่คิดว่า ตอนนี้มู่หวั่นขีจะถ่ายละครอยู่ที่นี่ด้วย
“ใช่ ครั้งนี้รับละครใหญ่มาน่ะ น่าจะดังด้วยเรื่องนี้แน่” เซียวชู่เหอพูดถึงเรื่องละครของมู่หวั่นขี ก็ดูจะตื่นเต้นมาก ดูท่าคงจะดีใจแทนมู่หวั่นขีสินะ
มู่น่อนน่อนยิ้มแห้งแล้วพูดว่า: “งั้นเหรอ? งั้นฉันก็ยินดีกับพวกเธอล่วงหน้าด้วยนะ”
ตอนนี้เอง โทรศัพท์เธอก็ดังขึ้นกะทันหัน
เป็นสายจากฉินสุ่ยซาน
เธอมองเซียวชู่เหอ จากนั้นก็รับสาย: “ฮัลโหล? ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”
เธอวางสายไปแล้ว ก็มองเซียวชู่เหออีกครั้ง: “คุณนายมู่ ฉันมีธุระ ต้องขอตัวก่อน”
“นี่ น่อนน่อน……”
มู่น่อนน่อนแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินที่เซียวชู่เหอเรียก แล้วก็รีบเดินหนีไปทันที
พอมาถึงกองถ่าย《เมืองพัง》 มู่น่อนน่อนก็มาหาฉินสุ่ยซานถามเรื่องมู่หวั่นขี
“คนที่เธอพูดคือพี่สาวเธอมู่หวั่นขีคนนั้นเหรอ?” ฉินสุ่ยซานหัวเราะออกมา: “ขึ้นคำค้นหายอดฮิตเหมือนกับเธอเลย แต่หล่อนซื้อเองทั้งหมด ตามซื้อหัวข้อข่าวเด็ดตลอด แล้วก็เคยถ่ายละครไม่กี่เรื่อง แต่ผลตอบรับไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
ช่วงเวลาที่มู่น่อนน่อนออกจากเมืองหู้หยาง นอกจากตรวจเรื่องเฉินถิงเซียวถึงจะเข้าเว็บไซต์ในประเทศ ปกติเธอไม่ค่อยเข้าไปดูเท่าไหร่ ดังนั้นเลยไม่ค่อยรู้สถานการณ์ของมู่หวั่นขี
ตอนนั้นแค่รู้ว่ามู่หวั่นขีเข้าวงการบันเทิง แต่ไม่คิดว่ามู่หวั่นขีจะจริงจังกับเรื่องนี้
“ลืมบอกเธอเลย ตอนนั้นที่《เมืองพัง》 เปิดออดิชัน มู่หวั่นขีก็มาออดิชันด้วยนะ ผู้กำกับไม่ชอบเลยปัดผ่าน แล้วหล่อนยังหวังจะใช้อำนาจให้ตัวเองได้บทนี้ด้วยนะ…….”
มู่น่อนน่อน: “…….”