ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่ 401 เขาเป็นคนยังไงเหรอ?
เฉินถิงเซียวอุ้มเฉินมู่ขึ้นมา ใช้ท่าอุ้มเจ้าหญิงเหมือนกับที่อุ้มมู่น่อนน่อนเมื่อกี้นี้
เฉินมู่ม้วนตัวกลม เห็นได้ชัดว่าถูกอุ้มท่าเจ้าหญิงแล้วรู้สึกไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ เหมือนกับว่านอนราบไปทั้งตัว
เธอใช้ขาสั้นๆ ถีบขึ้นมา เฉินถิงเซียวก็เลยอุ้มเธอตรงๆ
ใช้อุ้มเฉินมู่ด้วยข้างเดียว แล้วก็ใช้อีกมือหนึ่งที่ว่างอยู่ผลักประตูห้องอ่านหนังสือให้เปิดออก
เขาเดินเข้าไป มองดูห้องที่ระเกะระกะไปหมด เขาจ้องเขม็งอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็วางเฉินมู่ไว้ด้านข้าง หลังจากนั้นก็โน้มตัวลงเก็บข้าวของ
เหมือนกับว่าเฉินมู่รังเกียจที่ห้องรกเกินไป เธอเดินเขย่งปลายเท้าไปที่ขอบโซฟา บิดตัวและปีนขึ้นไปบนโซฟาอย่างเรียบร้อย ลูบตุ๊กตาเสือตัวเล็กไว้ในอ้อมแขน แล้วก็มองไปที่เฉินถิงเซียว
เด็กน้อยดูคล่องแคล่ว ผ่านไปแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น เธอก็ถามกับเฉินถิงเซียวด้วยสีหน้าที่สงสัย “พ่อคะ นี่กำลังทำอะไรอยู่เหรอ?”
เฉินถิงเซียวตอบโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาด้วยซ้ำ “ของตกอยู่ที่พื้น ก็เลยเก็บขึ้นมา”
“อ้อ เดี๋ยวหนูช่วยเก็บ”เฉินมู่ไถลตัวลงมาจากโซฟาอย่างตื่นเต้น เราก็วิ่งมาอยู่ข้างๆ เฉินถิงเซียว พร้อมกับช่วยเขาเก็บข้าวของที่กระจัดกระจายอยู่ที่พื้นอย่างรวดเร็ว
แต่ว่า เธอไม่ได้หยิบขึ้นมาแล้ววางซ้อนกันไว้อย่างเรียบร้อยเหมือนที่เฉินถิงเซียวทำ เธอเอามันมาอุ้มไว้ จนกลายเป็นก้อน สุดท้ายก็ยื่นไปตรงหน้าเฉินถิงเซียว แล้วก็พูดด้วยหน้าตาที่ภาคภูมิใจ “อันนี้หนูเก็บเอง!”
เฉินถิงเซียวรับมา แล้วก็ลูบหัวของเธอ “ลูกไปเล่นเถอะ”
เฉินมู่ทำปากมุ่ย “ก็ได้ค่ะ”
เธอก็รู้สึกว่าเก็บข้าวของไม่สนุกเหมือนกัน
เธออายุเท่านี้ ชอบเล่นของเล่นเล็กๆ ที่มีสีสันน่ารักสดใส เธอไม่มีความสนใจในเอกสารกระดาษสีขาวที่มีตัวอักษรสีดำแบบนี้แหละ
ตอนที่เฉินถิงเซียวเก็บเอกสารขึ้นมาและเก็บเข้าที่เดิมอยู่นั้น ก็มีเสียงเคาะประตูดังเข้ามาจากด้านนอก
เฉินถิงเซียวน้ำเสียงเย็นชาเล็กน้อย “ใคร?”
มู่น่อนน่อนที่อยู่ด้านนอกชะงักไป ก่อนที่จะพูดว่า “ฉันเอง มู่มู่อยู่ข้างในหรือเปล่า? ฉันอุ่นนมมาให้เธอ เธอควรจะอาบน้ำนอนได้แล้ว”
เฉินถิงเซียวถึงได้ตระหนักได้ว่า นี่กำลังจะสี่ทุ่มแล้ว
เขาหันหน้าไปมองเฉินมู่ เฉินมู่กำลังทำหูตั้งฝั่งสิ่งที่มู่น่อนน่อนกำลังพูดอยู่
เธอนั่งอยู่บนโซฟาอย่างน่ารักน่าเอ็นดู ค่อยๆ หันหน้ามา ตาทั้งสองข้างล่อกแล่กไปมา เห็นได้ชัดว่าถูกดึงดูดความสนใจด้วยเสียงของมู่น่อนน่อนที่อยู่ด้านนอก
เฉินถิงเซียวหัวเราะเบาๆ แล้วก็เอ่ยปากถามเธอ “ได้ยินไหม? ใครกำลังเรียกหนูอยู่?”
เธอเอานิ้วไปแตะที่มุมปาก ใบหน้าดูมีความสุข “แม่กำลังเรียกหนูอยู่ มีนมด้วย”
แววตาของเฉินถิงเซียวดูประหลาดใจ “ไม่เรียกน้าแล้วเหรอ?”
“พ่อบอกว่าแม่”เฉินมู่พูดเร็วเกินไปหน่อย ก็เลยข้ามคำว่า “เป็น” ไปเลย
“พ่อบอกว่าเป็นแม่”กลายเป็นพูดว่า “พ่อบอกว่าแม่”
พอเธอพูดจบก็กระโดดลงจากโซฟาทันที “หนูไปเปิดประตูก่อนนะ!”
เฉินถิงเซียวมองดูเธอวิ่งไปที่ประตูด้วยความรวดเร็ว ยืนเขย่งเท้าและพยายามเปิดประตู ก็ไม่ได้สนใจเธออีกต่อไป
เขาหยิบซองเอกสารที่อยู่ตรงหน้าเขา แล้วก็เดินไปด้านหลังโต๊ะทำงาน พร้อมกับใส่ซองเข้าไปในชักด้านล่างและล็อกลิ้นชัก
ตอนที่เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ก็เห็นเฉินมู่เปิดประตูห้องอ่านหนังสือเรียบร้อยแล้ว แถมยังเรียกว่า “แม่”ด้วยเสียงอ่อนเสียงหวาน
มู่น่อนน่อนถือนมอุ่นมาแก้วหนึ่ง หลังจากได้ยินคำพูดของเฉินมู่ เธอก็ตะลึงไปในทันที
ผ่านไปครู่หนึ่ง ก็เหมือนกับว่าเธอตื่นขึ้นมาจากความฝัน แล้วก็ถามเฉินมู่อย่างไม่อยากจะเชื่อ “หนูเรียกฉันว่าอะไรนะ? ”
“แม่”เหมือนกับว่าเฉินมู่น่าจะรู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงของมู่น่อนน่อน ใบหน้าในหน่อยก็เริ่มตั้งตรง
ความเซอร์ไพรส์นี้มันมาอย่างกะทันหันไปหน่อย มู่น่อนน่อนรู้สึกเซอร์ไพรส์จนตั้งตัวไม่ทัน
“ฉัน……ฉันอุ่นนมร้อนมาให้หนู……”มู่น่อนน่อนคุณจะติดขัดเล็กน้อย ได้แต่โน้มตัวลงแล้วก็ส่งนมร้อนให้กับเฉินมู่
เฉินมู่ตาเป็นประกาย แล้วก็ยื่นมือไปรับนมจากมู่น่อนน่อน พร้อมกับยกแก้วขึ้นดื่ม
มู่น่อนน่อนกังวลว่าเธอจะถือแก้วไม่ไหว ก็เลยยื่นมือไปช่วยเธอประคองแก้วหนุ่มนม
เฉินมู่ดื่มนมให้ไปอย่างเชื่อฟังดัง “อึกอึก”จนหมด
เธอชูแก้วขึ้นให้มู่น่อนน่อนดู “หนูลืมหมดแล้ว!”
หัวใจของมู่น่อนน่อนอ่อนยวบลงในทันที “มู่มู่เก่งมากเลย! คืนพรุ่งนี้เดี๋ยวเอานมร้อนมาให้หนูอีกทีไหม?”
“ดีค่ะ!”
เฉินมู่ชูแก้วพร้อมกับหันไปมองเฉินถิงเซียวอย่างมีความสุข
สายตาของมู่น่อนน่อนก็มองตามเฉินมู่ไปเหมือนกัน ก็ได้เห็นกับเฉินถิงเซียวที่ไม่รู้ว่าเดินมาตรงประตูตั้งแต่เมื่อไหร่
ตอนนี้ เขายืนพิงกรอบประตูอยู่ ยืนกอดอกแล้วก็มองเฉินมู่ได้อยากตายเฉยเมย
เพราะว่าเมื่อกี้ได้รับการชื่นชมจากมู่น่อนน่อน เฉินมู่ก็เลยมองหน้าเฉินถิงเซียวด้วยความรอคอย “พ่อดูสิคะ!หนูยืมจนหมดเลย!”
เฉินมู่เพิ่งจะดื่มนมหมด ริมฝีปากยังมีคราบสีขาวเหมือนหนวดติดอยู่เลย
เฉินถิงเซียวยกริมฝีปาก แล้วก็ยื่นมือออกไปเช็ดคราบนมที่ริมฝีปากของเธอ น้ำเสียงของเขาซ่อนไปด้วยเสียงหัวเราะเล็กน้อย “ขอบคุณหรือยัง?”
เฉินมู่หันหน้าไปมองมู่น่อนน่อนแล้วพูดว่า “ขอบคุณค่ะแม่!”
ก่อนหน้านี้ที่เฉินมู่เรียกเธอว่าแม่ มู่น่อนน่อนก็รู้สึกเซอร์ไพรส์เล็กน้อย
ไม่มีทางที่จู่ๆ เฉินมู่จะฉุกคิดขึ้นมาได้เองแล้วเรียกเธอว่าแม่หรอก เฉินถิงเซียวต้องพูดอะไรบางอย่างแน่นอน
ยิ่งอ่านไปเถอะยิ่งรู้สึกว่า เฉินถิงเซียวคนนี้ช่างเป็นคนที่ซับซ้อนและเข้าใจยากจริงๆ
เขาหยิ่งผยอง แต่บางทีก็ดูไร้เดียงสา หรือว่าบางทีก็รู้สึก……ใกล้ชิด
มู่น่อนน่อนมองเฉินถิงเซียวด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน
……
มู่น่อนน่อนอาบน้ำให้เฉินมู่เสร็จ กล่อมเธอนอนเรียบร้อยแล้วก็เดินออกมา ก็ได้เจอกับเฉินถิงเซียว
เฉินถิงเซียวก็อาบน้ำเสร็จแล้ว สวมชุดอยู่บ้านที่ดูอ่อนนุ่ม ออร่าที่รุนแรงของเขาก็ลดลงเป็นอย่างมาก
มู่น่อนน่อนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “ขอบคุณนะ”
ที่เฉินมู่เปลี่ยนคำเรียก ต้องเป็นเพราะว่าเฉินถิงเซียวสอนมาอย่างแน่นอน
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าทำไมเฉินถิงเซียวถึงได้ทำแบบนี้ แต่ว่ามู่น่อนน่อนก็ยังรู้สึกขอบคุณเขา
ดูเหมือนว่าเฉินมู่จะชอบเธอ แต่ว่าถ้าเทียบกับเฉินถิงเซียวที่อยู่กับเฉินมู่ตลอดเวลาแล้วนั้น เฉินมู่ก็ต้องชอบเฉินถิงเซียวเมื่อก่อนอยู่แล้ว
นี่มันเป็นเรื่องที่ไม่ต้องสงสัยเลย
ดังนั้น ความจริงแล้วเฉินมู่ก็ค่อนข้างที่จะเชื่อฟังคำพูดของเฉินถิงเซียว
ประตูห้องนอนของเฉินมู่ยังปิดไม่สนิท เฉินถิงเซียวยื่นมือไปโดนประตู พอมองไปด้านในก็เห็นว่า เฉินมู่นอนกอดตุ๊กตาพร้อมกับหลับปุ๋ย ถึงได้ละสายตากลับมา
เฉินถิงเซียวกลับมามองมู่น่อนน่อน แล้วพูดเบาว่า “คนที่ไร้เดียงสาเท่านั้นถึงจะพูดว่าขอบคุณได้”
พอพูดจบ เขาก็ไม่สนใจว่ามู่น่อนน่อนจะรู้สึกยังไง หันหลังแล้วก็เดินออกไปในทันที
มู่น่อนน่อนยืนตะลึงอยู่ที่เดิม
นี่เฉินถิงเซียวเจ็บใจที่ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าเขาไร้เดียงสาอย่างนั้นเหรอ?
มู่น่อนน่อนรู้สึกว่าความรู้ความเข้าใจของเธอได้ถูกรีเฟรชใหม่แล้ว
ว่ากันว่า “คนที่สูงส่งจะไม่ถือสากับความผิดของคนที่ต่ำกว่า”ไม่ใช่เหรอ
แล้วทำไมคนที่ส่งยางเฉินถิงเซียว ถึงได้ถือสากับคำพูดทุกคำที่เธอพูดไว้ในใจแล้วก็ไม่ยอมปล่อยไปเลยล่ะ
ไม่เพียงแค่นั้น เขายังหาโอกาสย้อนคำพูดกลับมาหาเธออีก เหยียบย่ำเธอไปเลย
มู่น่อนน่อนกลับมาที่ห้องของตัวเอง ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าเหลือเชื่อ
ดังนั้น เธอก็เลยกดโทรหาเสิ่นเหลียง
น้ำเสียงของเสิ่นเหลียงยังคงเต็มไปด้วยพลังเหมือนเดิม “น่อนน่อน!”
“เสี่ยวเหลียง ฉันมีเรื่องอยากจะถามเธอหน่อย”
“เรื่องอะไร ว่ามาได้เลย”ไปสายมีเสียงเสิ่นเหลียงกำลังเทน้ำอยู่
มู่น่อนน่อนใช่ต้องอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ใช้วิธีการตั้งคำถามแบบอนุรักษนิยม “เฉินถิงเซียว เขาเป็นคนยังไงเหรอ? ”
“พรืด……แค่กแค่ก……”