ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่ 437 ไม่อยากค้างคืนกับผู้หญิงขี้เมา
ถึงแม้เธอจะเตรียมจิตใจไว้แล้ว แต่พอได้ยินคำพูดของเฉินถิงเซียว มู่น่อนน่อนก็ยังรู้สึกปวดใจไปสักพัก
แต่ว่า เธอก็รีบปรับอารมณ์ให้สงบลงอย่างรวดเร็ว
“มู่มู่หลับอยู่ค่ะ ฉันพาไปดูไหมคะ” มู่น่อนน่อนหันหน้าไป แล้วถามเสียงต่ำ
เฉินถิงเซียวพยักหน้าให้
มู่น่อนน่อนพูดกับเสิ่นเหลียง “กินกันไปก่อนเลยนะ”
หลังจากพูดจบ เธอก็พาเฉินถิงเซียวไปที่ห้องนอนของเฉินมู่
ห้องนอนของเฉินมู่ เดิมทีก็เป็นห้องนอนเด็ก ทาสีห้องด้วยสีชมพูอ่อนน่ารักมาก
เฉินมู่นอนกอดตุ๊กตากระต่ายสีชมพูไว้ และกำลังนอนหลับสนิท ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอแดงเล็กน้อย
เฉินถิงเซียวเดินเข้าไป แล้วหยิกแก้มของเธออย่างอดใจไม่ไหว
แต่ว่า ตอนที่มือของเขาเอื้อมไปสัมผัสใบหน้าของเฉินมู่ มู่น่อนน่อนก็ตบฝ่ามือของเขาดัง “เพี๊ยะ”
เขาหันกลับไปมอง และดูท่าทางจะโกรธเล็กน้อยที่มู่น่อนน่อนตีเขา
มู่น่อนน่อนถามเขาอย่างโมโหเล็กน้อย “คุณกำลังจะทำอะไรคะ?”
เฉินมู่นอนหลับไปแล้ว เมื่อตะกี้เขาคิดจะทำให้เฉินมู่ตื่นหรือไง?
คิดอะไรเป็นเด็กไปได้!
“อย่ามายุ่ง” เฉินถิงเซียวพูดสามคำนี้ออกมา แล้วค่อยๆ ลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอก
มู่น่อนน่อนเดินตามหลังออกไป ตอนที่เขาออกไป เขาก็ปิดประตูอย่างแผ่วเบา
หลังจากที่เฉินถิงเซียวออกจากห้องของเฉินมู่ เขาก็กำลังจะเดินไปที่ประตู
มู่น่อนน่อนก้าวไปข้างหน้าสองก้าว แล้วจับมือเขาไว้ “จะกลับแล้วเหรอคะ?”
“ไม่อย่างนั้นจะให้ยังไง คุณจะให้ผมค้างคืนหรือไง” น้ำเสียงของเฉินถิงเซียวฟังไม่ออกว่าอยู่ในอารมณ์ไหน คิ้วของเขานิ่ง เหมือนจะปิดกั้นคนอื่นให้ห่างจากตัวเองให้ไกลที่สุด
มู่น่อนน่อนชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มออกมาอีกครั้ง แล้วจับมือเขาแน่นขึ้น
เธอเชิดคางขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มของเธอเหมือนกำลังท้าทายเล็กน้อย “คำถามแบบนี้คุณยังต้องถามอีกเหรอคะ คุณน่าจะชัดเจนในใจอยู่แล้วนะคะ”
หลังจากที่มู่น่อนน่อนพูดจบ เธอก็มองไปที่เขาด้วยสายตาร้อนแรง
ดูน่าหลงใหลมากพอตัวเลย
เฉินถิงเซียวหรี่ตามอง แล้วเพ่งมองมาที่เธอ ในขณะที่กำลังจะพูด เขาก็มองไปทางข้างหลังของมู่น่อนน่อน
มู่น่อนน่อนสังเกตเห็นสายตาของเขา จึงนึกขึ้นได้ ว่ามีคนอื่นอยู่ในบ้านด้วย
เธอหันไปมองตามสายตาของเฉินถิงเซียว จึงเห็นเสิ่นเหลียงกับกู้จือหยั่นที่กำลังมีท่าทีร้อนตัวอยู่พอดี
มู่น่อนน่อนยืนตัวแข็งทื่อ
ที่เธอพูดกับเฉินถิงเซียวเมื่อตะกี้นี้ เสิ่นเหลียงกับกู้จือหยั่นได้ยินทุกคำไม่มีตกค้าง
ช่วงนี้เพื่อเข้าใกล้เฉินถิงเซียว เธอได้ทิ้งศักดิ์ศรีไว้สุดขอบแล้ว
แต่ว่า นี่ก็ไม่ได้หมายความว่า เธอจะหน้าด้านจนให้คนอื่นที่ไม่ใช่เฉินถิงเซียวมาเห็นเธอในท่าทางแบบนี้ได้…
มู่น่อนน่อนยื่นมือออกมาปิดหน้าตัวเองไว้ เธอรู้สึกเหมือนไม่มีหน้าไปเจอคนอื่นแล้ว
เฉินถิงเซียวก้มลงมอง แล้วเห็นท่าทางหงุดหงิดของมู่น่อนน่อนพอดี ในดวงตาของเขามีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบางๆ
มู่น่อนน่อนในเวลานี้แทบไม่กล้ามองหน้าใคร จะมีเวลามาสนใจได้ยังไงว่าเฉินถิงเซียวกำลังมีสีหน้ายังไง
เธอไม่มีหน้าจะเจอใครแล้ว และไม่มีกะจิตกะใจจะหาวิธีเข้าใกล้เฉินถิงเซียวด้วย เธอจึงรีบพูดขึ้นมา “กินข้าวก่อนแล้วค่อยกลับเถอะค่ะ”
เธอไม่ได้สนใจว่าเฉินถิงเซียวจะตามมาด้วยหรือเปล่า หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็กลับไปที่โต๊ะอาหารเย็นทันที
ก่อนจะหยิบขวดไวน์ต่างประเทศที่เสิ่นเหลียงเปิดก่อนหน้านี้ เทลงในแก้วครึ่งแก้ว แล้วหยิบแก้วไวน์ขึ้นดื่ม
เสิ่นเหลียงซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามมู่น่อนน่อน กลั้นยิ้มแล้วคีบอาหารให้เธอ“ดื่มให้น้อยหน่อย กินอะไรบ้าง”
มู่น่อนน่อนถลึงตามองมา เสิ่นเหลียงรีบหันหน้าหนีอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้เอง เก้าอี้ข้างๆ ก็ถูกดึงออก ตามมาด้วย ร่างสูงของเฉินถิงเซียวที่นั่งลงข้างๆ เธอ
ออร่าของเฉินถิงเซียวรุนแรงมาก ทันทีที่เขานั่งลง มู่น่อนน่อนก็อดที่จะยืดตัวตรงไม่ได้
โต๊ะอาหารไม่ได้ใหญ่มาก เฉินถิงเซียวที่รูปร่างสูงใหญ่ พอนั่งลงแบบนี้ ทำให้เขาอยู่ใกล้กับมู่น่อนน่อนมาก
มู่น่อนน่อนสามารถรับรู้ได้ถึงความเยือกเย็นในร่างกายของเขาได้เลย
เธอเอื้อมมือไปแตะแก้วไวน์ด้วยความรู้สึกอยู่ไม่สุขเล็กน้อย
แต่ว่า มือที่ยื่นออกไปของเธอ ยังไม่ทันแตะถึงแก้วไวน์ เฉินถิงเซียวก็เอื้อมมือออกไปและจับแก้วไว้ก่อน
มู่น่อนน่อนหันไปมอง จึงเห็นเฉินถิงเซียววางแก้วไวน์ของเธอไว้ที่อีกด้านหนึ่ง วางไว้ในจุดที่มู่น่อนน่อนเอื้อมมือไม่ถึง
มู่น่อนน่อนเงยหน้าขึ้น ใช้สายตาถามเขาว่า : จะทำอะไรคะ ?
“อยากจะให้ผมค้างคืนไม่ใช่หรือไง?” เฉินถิงเซียวยกยิ้ม สีหน้าของเขาต่างจากปกติเล็กน้อย “ผมไม่อยากค้างคืนกับผู้หญิงขี้เมา”
มู่น่อนน่อนชะงักงัน “…”
เธอก็แค่พูดเล่น เฉินถิงเซียวจริงจังกับมันจริงๆ เหรอ?
ไม่ใช่สิ เฉินถิงเซียวเป็นคนบ้าสะอาดเล็กน้อย และมีหลักการของตัวเอง เขาจะไม่ค้างคืนกับผู้หญิงคนอื่นง่ายๆ อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ในตอนนี้เฉินถิงเซียวยังไม่มีความรู้สึกรักใคร่ระหว่างชายหญิงกับเธอเลย เขาจะยอมค้างคืนจริง ๆ เหรอ?
เธอมั่นใจได้เลย คำที่เขาพูดว่า “ค้างคืน” นั้นไม่ใช่ “ค้างคืน” แบบที่เธอเข้าใจแน่นอน
เขาคงจะ… แค่ทำให้เธอกลัวสินะ?
ถึงแม้จะเป็นการ “ค้างคืน” แบบที่เธอคิด ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร…
จะว่าไปแล้ว ทั้งสองก็ถือว่าเป็นคู่สามีภรรยากันมานานแล้ว
เฉินถิงเซียวพูดเพียงคำเดียว ความคิดของมู่น่อนน่อนกลับแพร่กระจายไปอย่างรุนแรง
จนกระทั่งเสียงของเฉินถิงเซียวดังขึ้น “กินข้าว”
พอเธอก้มลงมอง เธอก็เห็นเฉินถิงเซียวคีบผักลงในชามของเธอแล้ว จากนั้นเธอจึงเงยหน้าขึ้นมอง แล้วเห็นดวงตาของเขาที่มีความหมายแอบแฝงอยู่
ในเวลานี้เอง กู้จือหยั่นก็ลุกขึ้นยืนทันที “มันดึกมากแล้ว พวกคุณค่อยๆ กินช้าๆ นะครับ พวกเราขอตัวกลับก่อน”
ตอนที่เขาพูด เขาก็ผลักเสิ่นเหลียงที่อยู่ข้างๆ ไปด้วย
เห็นได้ชัดว่าเสิ่นเหลียงยังไม่อยากกลับ แต่ถูกเขาบังคับลากกลับ
เรี่ยวแรงของเธอไม่เท่ากับกู้จือหยั่น จึงถูกดึงให้ยืนขึ้น “งั้นพวกเราไปก่อนนะ… น่อนน่อน ถ้ามีอะไรก็โทรหาฉันได้นะ”
เฉินถิงเซียวในตอนนี้ ทำให้เสิ่นเหลียงรู้สึกเป็นห่วงเล็กน้อย
กู้จือหยั่นพาเธอออกไป แล้วพูดว่า “ถิงเซียวก็อยู่ที่นี่ไม่ใช่หรือไงคุณ ถ้าน่อนน่อนมีเรื่องอะไร ถิงเซียวจะช่วยเธอจัดการเอง ไม่จำเป็นต้องโทรหาคุณหรอก”
เขาเดินเร็วเล็กน้อย เสิ่นเหลียงจึงทำได้เพียงเดินตามอย่างรวดเร็ว
เสิ่นเหลียงพูดอย่างไม่พอใจ “ถ้าบอสใหญ่รังแกน่อนน่อน เธอโทรหาฉัน ฉันจะได้ช่วยเธอโทรแจ้งตำรวจไง”
กู้จือหยั่นพูดอย่างโมโห “เธอยังจะโทรหาคุณทำไม ไม่โทรไปหาตำรวจเองล่ะ”
“จริงด้วย” เสิ่นเหลียงพยักหน้าเห็นด้วย รู้สึกว่าสิ่งที่เธอพูดก่อนหน้านี้เหมือนพูดเรื่องไร้สาระ
ในตอนนี้ทั้งสองได้มาถึงประตูแล้ว
กู้จือหยั่นยื่นมือออกไป แล้วลูบหัวเธอเบาๆ “เด็กโง่”
“ว่าใครโง่กัน หือ?” เสิ่นเหลียงหันไปถลึงตามองเขา ก่อนจะยกเท้าขึ้นและเตะขาของกู้จือหยั่น
กู้จือหยั่นสูดหายใจลึกเพื่อกลั้นความเจ็บปวด แต่พอมองไปที่ใบหน้าของเสิ่นเหลียงที่เต็มไปด้วยความโกรธ เขาก็พยักหน้าเห็นด้วย “ผมโง่เองครับ ผมโง่เอง”
ทั้งสองเดินออกไปนอกประตู กู้จือหยั่นปิดประตูและทำท่าทางจะจากไป
เสิ่นเหลียงรีบคว้ามือของเขามาจับไว้ด้วยท่าทางเป็นห่วง “จะไหวจริงๆเหรอ บอสใหญ่จะรังแกน่อนน่อนหรือเปล่า ไม่ได้ ยังไงฉันก็วางใจไม่ลง…”
เธอพูดแล้วตั้งใจจะเคาะประตูอีกครั้ง
กู้จือหยั่นรีบคว้าเธอไว้ “ไม่ต้องห่วง ถิงเซียวแค่ปากแข็งเท่านั้นเอง ก่อนหน้านี้ผมโทรหาเขา เขายังบอกว่าจะไม่มาที่นี่อยู่เลยไม่ใช่หรือ”
“แต่เขาบอกว่าเขามาหามู่มู่”
“จะเยี่ยมมู่มู่มาตอนไหนก็ได้ แต่กลับมาในเวลานี้ พวกผู้หญิงอย่างพวกคุณนี่โง่จริงๆ …อ๊ะ!”