ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่ 450 อยากจะลองไหม?
“เฉินถิงเซียว!”
มู่น่อนน่อนถูกเขาลากไปได้สักพัก ถึงจะเริ่มต่อต้าน
เฉินถิงเซียวไม่สนใจแรงต่อต้านของเธอเลย
เขาดึงเธอไปด้วย จนดึงเธอออกไปจากประตู
มู่น่อนน่อนสู้แรงเขาไม่ได้ จึงเริ่มโมโหขึ้นมาเหมือนกัน
เธอเปิดปากพูด “เฉินถิงเซียว คุณมันไม่มีเหตุผล คุณโง่หรือไง ถึงได้เชื่อเนื้อหาในข่าวนั่น คุณลืมฉันไปก็ช่างเถอะ ฉันไม่โทษคุณ แต่ตอนนี้คุณกลับมาอารมณ์เสียใส่ฉันเพราะข่าวไร้สาระพวกนั้น ฉัน ฉันจะโกรธคุณจริงๆ แล้วนะ!”
พอพูดถึงท่อนหลัง มู่น่อนน่อนก็ไม่รู้ว่าเธอกำลังพูดอะไรอยู่
คิดอะไรออกก็พูดตามนั้น
จากโซฟาไปที่ประตูมันเป็นระยะทางที่ใกล้มาก และมู่น่อนน่อนเองก็ไม่รู้ว่าเฉินถิงเซียวได้ฟังที่เธอพูดหรือเปล่า
พอไปถึงประตู เฉินถิงเซียวก็ดึงเธอออกจากประตู และกำลังเตรียมจะสะบัดมือเธอ
เขาสะบัดมือออก แต่เขาสะบัดมือของมู่น่อนน่อนไม่ออก
เขาขมวดคิ้วและมองลงไปที่มู่น่อนน่อนอย่างอารมณ์เสีย “มู่น่อนน่อน คูณจะหน้าด้านไปถึงเมื่อไหร่?”
มู่น่อนน่อนถลึงตามองเขา ท่าทางขมขื่นมาก ก่อนจะกัดฟันพูด “ไม่รู้!”
พอเสียงนั้นพูดออกไป เธอจึงใช้มืออีกข้างหนึ่งคล้องคอของเฉินถิงเซียว แล้วดึงเขาลงมา
เฉินถิงเซียวไม่ทันได้ตั้งตัว จึงถูกเธอดึงลงไปหา จนอยู่ในระดับที่มู่น่อนน่อนสามารถจูบเขาได้พอดี
มู่น่อนน่อนเงยหน้าขึ้น และจูบปากเขาทันที
ไม่ต้องเสียแรงอะไรมากเลย
เมื่อก่อนตอนที่คบกับเฉินถิงเซียว เฉินถิงเซียวมักจะเข้าหาเธอก่อน
ประสบการณ์ทั้งหมดของเธอมาจากเฉินถิงเซียวทั้งหมด และเฉินถิงเซียวเป็นคนสอนพื้นฐานให้เธอทุกอย่าง
ที่เธอจู่โจมเขาก่อน แทบจะนับครั้งได้เลย
เธอจูบอย่าเก้ๆ กังๆ พอจุมพิตริมฝีปากของเฉินถิงเซียว เธอก็จูบเขาสองสามครั้ง แล้วจึงกัดริมฝีปากเขาอย่างโมโห
เธอใช้มือข้างหนึ่งจับเฉินถิงเซียวไว้แน่น ดังนั้นเธอจึงสัมผัสได้ว่าเฉินถิงเซียวกำลังอยู่ในอาการแข็งทื่อ
วินาทีถัดมา เขาก็เป็นคนนำเอง
มู่น่อนน่อนอยู่ในอ้อมกอดของเขา ทิ้งตัวลงในอ้อมแขนของเขา ลมหายใจของกันและกันปะทะกัน…
นานแค่ไหนที่พวกเขาไม่ได้ใกล้ชิดกันขนาดนี้?
มันนานมาก นานมากแล้วจริงๆ
มู่น่อนน่อนยื่นมือออกไป แล้วโอบรอบเอวของเฉินถิงเซียวไว้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นรับเล็กน้อย
เขาพยายามยับยั้งการเคลื่อนไหวของมือ จึงทำได้เพียงจูบอย่างดุดันและครอบครองมากขึ้น
“เพล้ง”
คนใช้ที่เดินผ่านมาเห็นทั้งสองคนยืนอยู่ที่ประตูจูบกันอย่างดูดดื่ม ก็ตกใจจนจานในมือหล่นแตกบนพื้น
เสียงมันดังเล็กน้อย ปลุกมู่น่อนน่อนและเฉินถิงเซียวออกมาจากอารมณ์ดูดดื่มก่อนหน้านี้
มู่น่อนน่อนได้สติกลับมาทันที พอเห็นว่ามีคนอื่นอยู่ที่นั่นด้วย เธอจึงรีบยกมือผลักเฉินถิงเซียวออกไป
เฉินถิงเซียวเหมือนจะไม่เต็มใจที่จะจบแค่นี้ ตอนที่แยกจากกัน เขาจึงกัดริมฝีปากของเธออย่างแรงไปครั้งหนึ่ง
ทันทีที่เขาปล่อย มู่น่อนน่อนก็ถอยหลังไปสองก้าวอย่างรวดเร็ว
เฉินถิงเซียวเห็นคราบเลือดที่มุมริมฝีปากของเธอ จึงเลียที่มุมปากของเขาไม่หยุด ตรงจัดนั้นของเธอ เขาเป็นคนกัดเอง
มู่น่อนน่อนยังได้ลิ้มรสเค็มเล็กน้อย ทำให้เธอรู้ว่าเฉินถิงเซียวกัดมุมปากของเธอจนแตก
นอกจากนี้ ยังมีคราบเลือดอยู่ที่มุมปากของเฉินถิงเซียว เธอถึงได้ว่าเธอเพิ่งกัดมุมปากเขาแตกเหมือนกัน ใบหน้าของเธอจึงแดงขึ้น ดวงตาสีดำของเฉินถิงเซียวมองเธอนิ่ง ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไร สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย แล้วมองมู่น่อนน่อนอย่างเย็นชา แล้วพูดว่า “ตอนที่คุณจูบเสิ่นชูหาน คุณก็ดุเดือดแบบนี้เหรอ?”
สีหน้าของมู่น่อนน่อนเปลี่ยนไป หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็กระดิกนิ้ว เพียงรู้สึกว่านิ้วของเธอเย็นมาก
เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเฉินถิงเซียวพูดแบบนี้
พวกเขาทั้งหมดต่างก็พูดว่า เฉินถิงเซียวเป็นคนที่เย็นชาและน่ากลัวมาก
แต่ว่า พวกเขากลับลืมไป ยิ่งผู้ชายที่ปีป่ายขึ้นจากหุบเหวนั้น จะเข้าใจและรู้สึกอยากจะรักษาไว้ให้ดี
ก่อนหน้านี้ ถึงแม้เฉินถิงเซียวยังหึงเสิ่นชูหาน แต่เขาก็ไม่ควรพูดคำพูดที่ทำร้ายจิตใจเช่นนี้
พวกเขาเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ไม่ใช่เด็กๆ และรู้ว่าอะไรเจ็บปวดที่สุด แม้จะโกรธและควบคุมไม่ได้ที่สุด พวกเขาจะห่วงใยความรู้สึกของกัน และเข้าใจกันและกัน ไม่เลือกพูดคำพูดที่ทำร้ายจิตใจที่สุดออกมา
ดวงตาของมู่น่อนน่อนเปลี่ยนจากความตกใจเป็นความซึมเศร้า เฉินถิงเซียวสามารถเห็นได้ชัด ในใจยังเกิดความรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ได้
เขาละเมอไปเล็กน้อย
มู่น่อนน่อนกัดริมฝีปากของเธอแน่น นิ่งเงียบไปเล็กน้อย “ฉันกระดี๊กระด๊ามากกว่านี้อีกค่ะ คุณอยากลองไหม?”
หลังจากที่เธอพูดจบ เธอยิ้มน้อยๆ แล้วยกมือขึ้นวางลงบนใบหน้าของเฉินถิงเซียว
“เพี๊ยะ!”
เสียงที่คมชัดนั้นรุนแรงผิดปกติ
เฉินเอียงหน้าเล็กน้อย และครึ่งหน้าของเขาแดงเล็กน้อย
แม้ว่าจะถูกมู่น่อนน่อนตบ แต่ก็ไม่ได้ทำร้ายใบหน้าที่สมบูรณ์แบบของเขาไป
มือของมู่น่อนน่อนรู้สึกชาเล็กน้อย เธอถามเขาอย่างเย็นชาว่า “คุณรู้สึกถึงความกระดี๊กระด๊าของฉันไหมคะ”
เฉินถิงเซียวหันกลับมาด้วยสีหน้าเย็นชา แววตาคู่นั้นเหมือนแช่ไปด้วยน้ำแข็ง “ก่อนหน้านี้ที่ผมบอกว่าคุณไร้ยางอาย ผมคงประเมินคุณต่ำเกินไป คุณมันมากกว่าไร้ยางอาย คุณมันไม่กลัวอะไรเลยสักนิด”
น้ำเสียงของเขาไม่ได้ฟังดูเย็นชานัก แต่ก็ดูน่ากลัวมากพอกัน
มู่น่อนน่อนเริ่มรู้สึกเสียใจทีหลังขึ้นมา
เธอตบเฉินถิงเซียวไปได้อย่างไรกัน?
แต่ว่า สิ่งที่เขาพูดออกมามันก็ทำร้ายจิตใจเกินไป
มู่น่อนน่อนกัดริมฝีปากของเธอแน่น น้ำเสียงของเธอเหมือนขวดแก้วที่แตกออกเป็นเสี่ยงๆ “คุณจะเอายังไง”
เฉินถิงเซียวโกรธจนแสยะยิ้มออกมา เขาพยักหน้าให้มู่น่อนน่อน แล้วหันกลับมาสั่งเสียงเย็นชาว่า “โยนผู้หญิงคนนี้ออกไปเดี๋ยวนี้!”
ไม่นาน บอดี้การ์ดจะเข้ามา แล้วโยนมู่น่อนน่อนทิ้งไปนอกบ้านทันที
มู่น่อนน่อนนิ่งอึ้งเล็กน้อย เฉินถิงเซียวจะเอาจริงเหรอ?
เห็นได้ชัดว่าพวกบอดี้การ์ดกลัวเฉินถิงเซียวมากกว่า มู่น่อนน่อน พวกเขายกมู่น่อนน่อนออกไปจากประตูบ้าน แล้วโยนเธอออกไป
มู่น่อนน่อนถูกโยนลงพื้น แต่เธอไม่รู้สึกเจ็บอะไรมาก เธอแค่งุนงงเล็กน้อย
เฉินถิงเซียวให้คนโยนเธอออกมาจริงๆ เหรอเนี้ย?
มู่น่อนน่อนค่อย ๆ ลุกขึ้นจากพื้น สะบัดเศษฝุ่นบนร่างกายของเธอออก และคิดในแง่ดี อย่างน้อยเธอก็ตบเขาไปแล้ว จริงไหม?
ถ้าคิดดูดีๆ ดูเหมือนว่าเธอจะได้กำไรมากกว่า
หลังจากที่พวกบอดี้การ์ดไล่มู่น่อนน่อนออกไป พวกเขาก็กลับไปรายงานเฉินถิงเซียวว่า “คุณชายครับ พวกเราโยนเธอออกไปแล้วครับ”
เฉินถิงเซียวมองไปที่พวกบอดี้การ์ดเงียบ ๆ แล้วถามพวกเขาว่า “นายโยนเธอยังไง”
บอดี้การ์ดตอบอย่างระมัดระวัง “โยนลงไปที่พื้นครับ”
พอพูดจบ เฉินถิงเซียวก็ยกขาขึ้นมาเตะเขา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ขุ่นเคืองอย่างอธิบายไม่ถูก “สั่งให้นายโยนเธอ นายก็โยนจริงๆ ถ้าสั่งให้นายไปตายนายจะไปไหม?