ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่ 454 คุณรีบมานะ ฉันจะรอคุณ
เมื่อคนคนนั้นเห็นว่าเสิ่นเหลียงยกโทรศัพท์ขึ้นมาแจ้งความ เขาก็ไม่ได้สนใจอะไร “จะแจ้งความเพื่อทำให้พวกเรากลัวเหรอ? เธอคิดว่าฉันจะกลัวเหรอ? หา?”
เสิ่นเหลียงโทรออกไปหาตำรวจจริงๆ เธอไม่ได้สนใจเขา เธอบอกที่อยู่กับทางตำรวจไป
“ไอ้บ้าเอ้ย ยัยบ้าผู้หญิงคนนี้โทรหาตำรวจจริงๆ” ในขณะที่เขาพูด เขสก็ตรงเข้ามากระชากผมของเสิ่นเหลียง
เสิ่นเหลียงมองโซฟาที่อยู่ด้านข้างไว้แต่แรก เธอวางมู่น่อนน่อนลงไปบนโซฟา แล้วเธอก็ถอยหลังไปเรื่อยๆ เพื่อล่อให้เขาคนนั้นเข้ามาใกล้
มู่น่อนน่อนที่เมาในตอนแรก เมื่อโดนเสิ่นเหลียงผลักลงไป เธอก็มีสติขึ้นมาในทันที
เธอหรี่ตาขึ้นมามอง แล้วก็เห็นว่าเสิ่นเหลียงอยู่ไม่ไกลจากเธอ และรอบข้างเธอก็มีคนอยู่กลุ่มหนึ่ง
ในตอนนั้น คนพวกนั้นก็ทำเพียงแค่ข่มขู่ให้เสิ่นเหลียงกลัว และก็ไม่ได้ทำอะไร
แต่ว่า มู่น่อนน่อนไม่รู้ว่าพวกเขาไม่ได้ทำอะไร เธอนึกว่าเสิ่นเหลียงถูกคนอื่นรังแก ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้สนใจว่าพวกเขากำลังพูดอะไรกันอยู่ เธอลุกขึ้นยืนด้วยร่างกายที่โซเซ จากนั้นก็หยิบขวดเหล้าที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา และเดินตรงไป
ในตอนนั้นสภาพมู่น่อนน่อนก็คือคนเมาคนหนึ่ง เธอถือขวดเหล้าไว้ด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ ซึ่งสภาพของเธอก็ดูแย่มาก
คนที่อยู่รอบข้างเมื่อเห็นท่าทีของเธอ ต่างก็พากันเดินถอยหลัง ดูเหมือนพวกเขาจะกลัวมู่น่อนน่อนเล็กน้อย
“แกก้มลงและเรียกฉันว่าพ่อสามครั้ง ฉันจะทบทวนดูว่าจะปล่อยแกไปดีไหม แต่ถ้าแก…”
ตอนที่มู่น่อนน่อนเดินเข้าไป คนคนนั้นกำลังข่มขู่เสิ่นเหลียง มู่น่อนน่อนยกขวดเหล้าขึ้น ก่อนจะฟาดลงไปบนหัวคนคนนั้น
คนคนนั้นโดนมู่น่อนน่อนฟาดหัวจนตาลายไปหมด ก่อนที่เขาคนนั้นจะกุมหัวและตะโกนออกมา “ใครมันมาฟาดหัวฉัน!”
มู่น่อนน่อนโยนขวดเหล้าทิ้ง ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอเอาแรงมาจากไหนเธอยกเก้าอี้แล้วโยนไปที่ชายคนนั้น
ชายคนนั้นไม่ทันได้ตั้งตัว ก็เลยโดนเก้าอี้ฟาดจนล้มลงไปอยู่กับพื้น
มู่น่อนน่อนหยิบส้อมบนโต๊ะอาหารที่อยู่ด้านข้างขึ้นมา ก่อนจะเดินไปข้างหน้าและเอาเท้าเหยียบไปบนตัวของเขา “แกเป็นใคร? ถือกล้ามาบอกให้เสี่ยวเหลียงเรียกแกว่าพ่อ? กู้จือหยั่นยังต้องเรียกเธอว่าบรรพบุรุษเลย แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร? หืม? แกพูดมาสิ แกพูดมาสิว่าแกเป็นใคร?”
เสิ่นเหลียงที่อยู่ด้านข้างก็ยืนมองด้วยความตกใจ
มู่น่อนน่อนเมาจริงๆหรือแกล้งเมากันแน่?
ครั้งก่อนที่เห็นมู่น่อนน่อนดื่มจนเมา เหมือนว่าจะผ่านมานานมากแล้ว
ในตอนนั้นพวกเธอยังอายุน้อย มู่น่อนน่อนพาเธอไป “สร้างเรื่อง” ไว้ไม่น้อยเลย
สีหน้าของคนที่ถูกมู่น่อนน่อนเหยียบอยู่บนพื้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที เขาเอามือจับไปที่ศีรษะและตะโกนพูดออกมา “พวกแกจะยืนมองอยู่ทำไม? ยังจะไม่เข้ามาช่วยฉันอีก?”
เมื่อมู่น่อนน่อนได้ยิน เธอก็ยกยิ้มอย่างเยือกเย็น สายตาที่แหลมคมเหมือนกับมีดของเธอจ้องมองไปที่ทุกๆคน เธอจับส้อมไว้แล้วก็ชี้ไปทางพวกเขา “ใครก็ห้ามเข้ามา ฉันเป็นโรคประสาท ถ้าเกิดว่าฉันเผลอทำอะไรพวกแกไป ยังไงฉันก็ไม่โดนจับเข้าคุกอยู่ดี”
หลังจากที่คนพวกนั้นโดนมู่น่อนน่อนข่มขู่ไป พวกเขาก็กลัวและไม่กล้าเดินเข้าไป
ในตอนนั้น ทางผู้จัดการร้านก็พาตำรวจเข้ามา
“พวกเขานี่แหละที่ทะเลาะกันในนี้”
ที่จริงเมื่อครู่นี้ทางผู้จัดการร้านก็สังเกตเห็นพวกเสิ่นเหลียงและคนกลุ่มนี้แล้ว เพียงแต่ว่าอีกฝ่ายมีคนอยู่เยอะกว่า ทางผู้จัดการจึงได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด โดยการไม่โทรเรียกตำรวจให้เข้ามา
สถานีตำรวจอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ และก็มักจะลาดตระเวนแถวนี้อยู่แล้ว อีกอย่างก็สนิทกับพวกเขาอยู่แล้ว ก็เลยเข้ามาในทันที
เมื่อเสิ่นเหลียงได้ยินว่าตำรวจมา เธอก็เดินไปข้างหน้าและดึงมู่น่อนน่อนกลับมา
ตอนนี้มู่น่อนน่อนก็ได้สติมากกว่าครึ่งแล้ว เธอผลักเสิ่นเหลียงออก “เธอเป็นใครเนี่ย อย่าเข้ามานะ”
ในขณะที่เธอพูด เธอก็ส่งสัญญาณบางอย่างทางสายตาให้กับเสิ่นเหลียง เพื่อให้เสิ่นเหลียงแกล้งทำเป็นไม่รู้จักเธอ
พรุ่งนี้เสิ่นเหลียงก็ต้องเข้าไปถ่ายทำในกองละครบนภูเขาแล้ว ถ้าเกิดว่าวันนี้เธอต้องไปที่สถานีตำรวจ พรุ่งนี้ก็จะต้องเกิดข่าวแน่นอน
เสิ่นเหลียงยังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง มู่น่อนน่อนก็ดึงคนที่เธอจัดการไปตรงหน้าของตำรวจ
คนที่เธอไปทำร้ายร่างกาย รูปร่างไม่ได้สูงมาก และดูผอมจนจะเหมือนกับลิงอยู่แล้ว ตั้งนั้นเธอก็เลยมีแรงที่จะลากเขาขึ้นมา
ตำรวจมองไปยังมู่น่อนน่อนที่มีกลิ่นเหล้าติดตัวแต่กลับไม่มีบาดแผลเลย ก่อนจะหันกลับไปมองชายคนนั้นที่ไม่มีกินเหล้าติดตัวแต่มีบาดแผลเต็มตัว เขาพูดด้วยใบหน้าที่ดูแปลกใจ “ไปลงบันทึกประจำวันกับผม”
มู่น่อนน่อนจึงต้องไปสถานีตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวันพร้อมกับผู้ชายคนนั้น
……
เมื่อไปถึงสถานีตำรวจ มู่น่อนน่อนก็ให้ความร่วมมือในการลงบันทึกประจำวันเป็นอย่างดี
“ชื่อนามสกุล?”
“มู่น่อนน่อน”
“อายุ?”
“26”
“อาชีพ?”
มู่น่อนน่อนครุ่นคิด ก่อนจะพูดว่า “นักเขียนบท”
เธอมีใบหน้าที่ดูงดงาม แล้วเธอก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ดังนั้นตำรวจจึงแสดงท่าทีที่อ่อนโยนต่อเธอ
ตำรวจพลิกสมุดจดบันทึกไปอีกหน้าหนึ่ง ก่อนจะพูดว่า “เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังหน่อย”
“ฉันดื่มมากเกินไป ตอนที่เดินไม่ทันได้มอง มือก็เลยไปโดนใส่เขา เขาก็เริ่มด่าทอ คุณก็รู้ว่าเวลาคนดื่มจนเมามักจะควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ ถ้าเขาด่าแค่ฉันก็ไม่เป็นอะไร แต่เขายังมาด่าถึงครอบครัวของฉัน…”
ในช่วงแรกเป็นความจริง แต่ช่วงหลังเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมา
เธอไม่ได้มีความสามารถในการแสดงเหมือนกับเสิ่นเหลียง แต่ถ้าให้เธอแต่งเรื่องขึ้นมา เธอก็คิดได้เยอะแยะมากมายเลย
เพราะเป็นแค่คดีความที่พบเจอมากมาย ตำรวจก็เลยไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก
ตำรวจพูดว่า “เดี๋ยวทางเราจะตรวจสอบกันอีกที ถ้าถึงตอนนั้น…”
ทันใดนั้นมู่น่อนน่อนก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ เธอโน้มตัวไปข้างหน้า ก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้าตำรวจ ได้ถามด้วยใบหน้าที่ลึกลับ “ฉันจะถูกขังเอาไว้ใช่ไหม?”
ตำรวจพยักหน้า ก่อนจะมองไปที่เธอด้วยความสงสัย “อืม”
ถ้าเขามองไม่ผิด ดูเหมือนว่าบนใบหน้าของหญิงสาวคนนี้จะแสดงท่าทีที่ดู…ตื่นเต้น?
“แล้วฉันยังต้องหาคนมาประกันตัวด้วยใช่ไหม?” หลังจากมู่น่อนน่อนพูดจบ “งั้นฉันขอโทรศัพท์ก่อนนะ”
เธอหยิบเอาโทรศัพท์ออกมา ก่อนจะหรี่ตาหาเบอร์โทรของเฉินถิงเซียว แล้วกดโทรออก
ในตอนนั้นก็เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว
น้ำเสียงของเฉินถิงเซียวในโทรศัพท์ ฟังดูงัวเงียเล็กน้อย
น้ำเสียงของเขายังคงไพเราะเหมือนเดิม แต่คำพูดที่เขาพูดออกมาก็ยังคงไม่น่าฟังนัก
“มู่น่อนน่อน นี่คุณกำลังจะทำอะไรอีก?”
ในตอนนั้นมู่น่อนน่อนยังคงมีอาการเมาอยู่เล็กน้อย เธอนั่งพิงอยู่บนเก้าอี้ “เฉินถิงเซียว ฉันอยู่ที่สถานีตำรวจ คุณจะมาประกันตัวฉันไหม?”
น้ำเสียงของเธอฟังดูไม่ได้แตกต่างจากปกติ เพียงแต่ว่าเธอพูดช้าลงนิดหน่อย รวมถึงคำพูดที่เธอพูดออกมา มันก็ฟังดูน่าสงสารอยู่เล็กน้อย
ส่วนทางเฉินถิงเซียวก็ยังคงจัดการเอกสารอยู่ในห้องหนังสือ เมื่อเขาได้ยินคำพูดของมู่น่อนน่อน เขาก็ชะงักไป เขาก็เลยถามอีกครั้งเพื่อยืนยัน “คุณอยู่ที่ไหน?”
“สถานีตำรวจ ตำรวจของที่นี่ดุมากเลย…”
ตำรวจที่ดุมากที่นั่งอยู่ตรงข้ามมู่น่อนน่อน “…”
เฉินถิงเซียวหลับตาลง ก่อนจะมองไปยังเวลาที่อยู่มุมขวาล่างของหน้าจอคอมพิวเตอร์
เวลาสี่ทุ่ม ในเวลาแบบนี้ เธออยู่ที่สถานีตำรวจ และยังบอกให้เขาไปประกันตัวเธอ…
เฉินถิงเซียวรู้สึกว่าความอดทนในตลอดชีวิตของเขานั้น ถูกใช้ไปกับมู่น่อนน่อน
“แล้วทำไมผมต้องไปประกันตัวคุณด้วย? มู่น่อนน่อน ความสามารถในการสร้างเรื่องของคุณ มันเก่งมากขึ้นเรื่อยๆ ผมไม่ได้…”
“ฉันเป็นคนของคุณนะ ถ้าคุณไม่มาประกันตัวฉัน แล้วใครจะมาประกันตัวฉัน คุณรีบมานะ ฉันจะรอคุณที่นี่”
หลังจากที่มู่น่อนน่อนพูดจบ เธอก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมาไว้ตรงหน้า ก่อนจะหรี่ตาลง แล้วเธอกดไปที่ปุ่มสีแดงเพื่อวางสาย
เธอวางสายไปแล้ว แล้วเธอก็พบว่าตำรวจที่นั่งอยู่ตรงข้ามเธอนั้นมองมาที่เธอด้วยสีหน้าที่ดูแปลกๆ