ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่ 476 แต่ผมเป็นผู้ชายปกติคนหนึ่ง
“สี่ทุ่ม ออกไปเดินรอบๆมา”
เฉินถิงเซียวตอบคำถามของเธอด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง ไม่พูดอะไรเกินกว่านั้นสักคำ
มู่น่อนน่อนถามอีก: “ออกไปเดินรอบๆอะไร?”
เฉินถิงเซียวแตะที่โทรศัพท์มือถือสองสามที น่าจะกำลังทดสอบสัญญาณโทรศัพท์
ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็วางโทรศัพท์ไว้ข้างๆ มองไปที่มู่น่อนน่อน พูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า: “ไปนอนข้างใน”
มู่น่อนน่อนได้ยิน ขยับเข้าไปข้างในอย่างเชื่อฟัง ขยับไปนอนตรงริมกำแพง
เตียงไม่ได้ใหญ่มาก รู้สึกว่าเมตรห้าก็ไม่ถึง
เฉินถิงเซียวนอนด้วยกันกับเธอ เธอต้องนอนชิดกำแพง
เฉินถิงเซียวปิดไฟฉายโทรศัพท์ นอนลงข้างๆมู่น่อนน่อน
เขาแค่ล้มตัวลงนอน เตียงที่แคบอยู่แล้วก็เบียดแน่นขึ้น
เธอด้านหนึ่งติดกำแพง อีกด้านหนึ่งติดกับเฉินถิงเซียว สามารถรับรู้ได้ถึงอุณหภูมิร่างกายและลมหายใจของเขา
มู่น่อนน่อนกำขอบผ้าห่มอย่างประหม่าเล็กน้อย ไม่กล้าขยับสักนิดเดียว
กลางคืนบนภูเขาเงียบมาก ข้างหูได้ยินเสียงหายใจของเฉินถิงเซียวชัดเจน
ตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก
ทันใดนั้น เฉินถิงเซียวก็เรียกเธอออกมาทีหนึ่ง: “มู่น่อนน่อน”
“อืม?” มู่น่อนน่อนแค่ส่งเสียง ถึงพบว่าเสียงของตัวเองแหบเล็กน้อย
หลังจากนั้น เฉินถิงเซียวก็พูดออกมาสองคำด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า: “ผ้าห่ม”
มู่น่อนน่อนถึงจะนึกขึ้นได้ว่า เธอคนเดียวดึงผ้าห่มมาไว้ตรงหน้าตัวเอง พอได้ยินก็รีบดึงผ้าห่มไปทางด้านของเฉินถิงเซียว
ทั้งสองนอนบนเตียงเดียวกัน ใช้ผ้าห่มร่วมกัน ไม่มีหมอน ดมกลิ่นอับชื้นของไม้ผุ
มู่น่อนน่อนอาจจะเพราะก่อนหน้านี้นอนนานเกินไป ตอนนี้เลยนอนไม่หลับ
เธอลืมตาขึ้นในความมืด รู้สึกถึงการหายใจของเฉินถิงเซียวคงที่แล้ว นึกว่าในที่สุดเขาก็หลับไปแล้ว ถึงจะค่อยๆเอียงตัวไปด้านข้างเล็กน้อย เอื้อมมือออกไปช่วยห่มผ้าห่มให้เฉินถิงเซียว
“มู่น่อนน่อน ถึงแม้ตอนนี้ผมจะไม่ได้รู้สึกสนใจคุณ แต่ผมเป็นผู้ชายปกติคนหนึ่ง ถ้าขยับไปเรื่อยอีกผมไม่รับประกันนะว่าตัวเองจะหิวจนไม่เลือกกินหรือเปล่า”
เสียงของเฉินถิงเซียวดังขึ้น น้ำเสียงชัดเจนจนฟังไม่ออกถึงความง่วงเลยแม้แต่น้อย
มู่น่อนน่อนแข็งทื่อไปชั่วขณะ
เธอสงบสติใจ พูดอย่างประชดประชันว่า: “คุณชายเฉินไม่พูด ฉันก็เกือบจะลืมไปแล้วนะว่าคุณเป็นผู้ชายปกติคนหนึ่ง”
มู่น่อนน่อนหัวเราะหึออกมาทีนึง แล้วก็พลิกตัวหันหลังให้เฉินถิงเซียว
ไม่โกรธ ไม่โกรธ
เฉินถิงเซียวตอนนี้เป็นคนป่วย
ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับคนป่วย
ท่องอยู่ในใจได้ผล อารมณ์ของมู่น่อนน่อนสงบลงอย่างรวดเร็ว และเพียงไม่นานก็หลับไป
กลางดึก เธอตื่นขึ้นเพราะร้อน
ผ้าขนหนูบนหน้าผากได้ไหลตกลงมา แห้งพอสมควรแล้วด้วย
ผ้าห่มที่เดิมทีก็ไม่ใหญ่มาก ถูกเธอห่มไว้คนเดียว เธอจึงดึงผ้าห่มไปทางด้านเฉินถิงเซียว ห่มให้เขา
ครั้งนี้ เฉินถิงเซียวกลับไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกมา
ดูเหมือนว่าจะหลับไปแล้วจริงๆ
ตอนนี้ เฉินถิงเซียวพลิกตัว หันหน้ามาทางฝั่งมู่น่อนน่อน เลยทำให้มู่น่อนน่อนห่มผ้าห่มให้เขาได้สะดวกพอดี
กลางคืนบนภูเขาอากาศหนาวมาก ถ้าเฉินถิงเซียวไม่ห่มผ้าห่ม พรุ่งนี้เช้าอาจจะเปลี่ยนเป็นเขาที่มีไข้แทน
มู่น่อนน่อนก็นอนตะแคง นอนเผชิญหน้ากับเขาในความมืด แม้ว่าจะมองเห็นหน้าไม่ชัด แต่ก็รู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆของเขา
เตียงเล็ก ผ้าห่มก็เล็ก ลมหายใจอุ่นๆของ~อยู่ตรงหน้า มู่น่อนน่อนไม่ได้อยู่ใกล้เขาขนาดนี้มานานแล้ว ความง่วงนอนก็เลยค่อยๆหายไปทีละน้อย
ในตอนที่เธอกำลังจะพลิกตัวหันหลังให้เฉินถิงเซียว ทันใดนั้นเขาก็เอื้อมมือมาโอบเอวเธอ มือและเท้าก็เข้ามาพัวพันไว้ กอดเธอเข้ามาในอ้อมแขนอยู่อย่างนั้น
มู่น่อนน่อนแข็งทื่อไปสักพัก
เธอถูกเฉินถิงเซียวกอดไว้ในอ้อมแขน ขยับก็ไม่กล้าขยับ
ผ่านไปสองสามนาที เธอถึงลองส่งเสียงทดสอบ: “เฉินถิงเซียว?”
ที่ตอบกลับเธอคือเสียงหายใจที่มั่นคงของเฉินถิงเซียว
นี่เขาเป็นคนเริ่มกอดเธอเองนะ จะมาว่าเธอไม่ได้…
นอนในอ้อมกอดที่อบอุ่นและคุ้นเคย รู้สึกสบายใจมาก ความง่วงก็เกิดขึ้นทั้งอย่างนั้น
……
วันรุ่งขึ้น
ตอนที่มู่น่อนน่อนตื่นขึ้นฟ้าก็สว่างจ้าแล้ว
เพียงแต่ว่า เสียงฝนข้างนอก”ซ่าซ่า”บ่งบอกว่า อากาศไม่ได้ดีขึ้นเลย
เฉินถิงเซียวยังคงอยู่ในท่าโอบกอดเธอตั้งแต่เมื่อคืน เธอรู้สึกว่าเขากอดแน่นเกินไป ตอนนี้แม้แต่หายใจก็ยังลำบากเล็กน้อย
เธอเอื้อมมือออกไปอย่างแผ่วเบา อยากจะเอามือของเฉินถิงเซียวที่วางอยู่บนเอวของเธอออก
แต่ว่า มือของเธอเพิ่งจะจับข้อมือของเขา คนตรงหน้าก็ลืมตาขึ้นมาทันที
มู่น่อนน่อนเดิมทีก็กังวลว่าจะเผลอปลุกให้เขาตื่น ดังนั้นเธอจึงระวังเฉินถิงเซียวไว้ตลอด
เห็นเขาลืมตาขึ้นมาอย่างกะทันหัน มู่น่อนน่อนปล่อยมือออกทันทีราวกับร้อนตัว มองหน้ากันกับเขาอย่างไม่ขยับเขยื้อน
เฉินถิงเซียวไม่ได้ขยับตัว แค่ขยับแขนบนเอวของเธอเล็กน้อย ขมวดคิ้วแล้วถามว่า: “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
“เมื่อคืนคุณ…” ในสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของเฉินถิงเซียว มู่น่อนน่อนพูดออกมาอย่างไร้อารมณ์ว่า: “ยังไงคุณก็เป็นคนเริ่มขยับแขนก่อน”
เฉินถิงเซียวดึงแขนของตัวเองกลับมา ในน้ำเสียงมีความแหบจากการตื่นตอนเช้า: “เมื่อคืนผมหลับลึก คุณอยากจะพูดยังไงก็พูดได้”
น้ำเสียงนี้ จะไม่ยอมรับว่าเมื่อคืนเขาเป็นคนเริ่มขยับแขนก่อนสินะ?
งั้นก็ได้ ตอนที่เขาขยับแขนเมื่อคืน ก็ไม่ได้ตื่นจริงๆ จะจำไม่ได้ก็เป็นเรื่องปกติ
มู่น่อนน่อนไม่ถือสาเขา ลุกขึ้นกะว่าจะก้าวผ่านตัวเขาไปเพื่อลงจากเตียง
แต่ว่า เธอเพิ่งจะก้าวขาออก ก็ล้มลงไปอย่างทรงตัวไม่อยู่
สายตาเห็นจะล้มลงบนเตียง เฉินถิงเซียวก็เอื้อมมือไปคว้าเอวของเธอไว้ ให้เธอล้มลงบนตัวเขา
มู่น่อนน่อน: “……”
เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้ทำอะไรเลย แต่มีความรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าอย่างบอกไม่ถูก
เฉินถิงเซียวซบอยู่บนตัวของเฉินถิงเซียว ยืดตัวถามเขาว่า: “ถ้าหากฉันบอกว่า…ฉันไม่ทันระวัง คุณจะเชื่อมั้ย?”
ใบหน้าที่หล่อเหลาของเฉินถิงเซียวไม่แสดงสีหน้าใดๆแม้แต่น้อย พูดอย่างเย็นชาหาที่เปรียบมิได้: “คุณคิดว่าผมจะเชื่อหรือเปล่า?”
มู่น่อนน่อนส่ายหัว
เฉินถิงเซียวจ้องเธอเป็นเวลาสองวินาที จู่ๆก็หัวเราะออกมา
มู่น่อนน่อนถามเสียงเบาๆว่า: “หัวเราะอะไร…”
เฉินถิงเซียวผลักเธอออกไปอีกด้าน ลุกขึ้นนั่ง จัดเสื้อผ้าตัวเองให้เป็นระเบียบอย่างช้าๆครู่หนึ่ง ถึงจะหันกลับไปมองเธออย่างสบายๆ: “ลูกไม้เก่าๆแบบนี้ ใช้ให้น้อยดีกว่า หากว่าเมื่อกี้ผมไม่ได้จับคุณเอาไว้…”
คำพูดด้านหลัง เขาไม่พูดมู่น่อนน่อนก็รู้ว่าคืออะไร
แม้ว่าเธอจะรู้ดีอยู่แก่ใจ ว่าเมื่อกี้ตัวเองก็แค่ยืนไม่มั่นคงก็เท่านั้น แต่ก็รู้สึกว่าไม่สามารถโต้แย้งได้เลย
มู่น่อนน่อนนอนฟุบบนเตียง เเอาผ้าห่มดึงขึ้นเหนือหัว คลุมตัวเองเอาไว้เงียบๆ
รู้สึกถึงผู้ชายที่อยู่ข้างๆลุกลงจากเตียงไปแล้ว มู่น่อนน่อนถึงดึงผ้าห่มลงมา เผยศีรษะออกมา: “ต่อให้เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง คุณก็ยังจะคว้าฉันไว้แน่นอน ลูกไม้เก่าใช้ไม่เบื่อหรอก ใช้ได้ผลก็พอ”
เฉินถิงเซียวกำลังสวมรองเท้า ได้ยินเสียงของเธอก็หันกลับไปทันที แววตาคมกริบ
มู่น่อนน่อนสบตากับเขาโดยไม่แสดงความอ่อนแอใดๆ
เฉินถิงเซียวเหล่ตาเล็กน้อย ทันใดนั้นก็ก้มตัวเข้ามา เข้าไปตรงหน้ามู่น่อนน่อน
หรือว่าเธอจะพูดจาแรงเกินไป เฉินถิงเซียวจะจัดการเธอ?
มู่น่อนน่อนตกใจจนหลับตาลงอย่างหมดอนาคต
วินาทีต่อมา ข้างบนหัวมีเสียงเยาะเย้ยของเฉินถิงเซียวดังเข้ามา: “มีความสามารถแค่นี้ ยังกล้ามาเสียงดังกับผม?”