ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่ 591ซ่อนเงื่อนงำอะไรไว้
หลังจากมู่น่อนน่อนพูดจบ เฉินถิงเซียวไม่ได้เปิดปากพูดในทันที
ห้องนอนได้เข้าสู่ความเงียบสงัด
มู่น่อนน่อนก็ไม่เร่งรัด ได้รอคำตอบของเฉินถิงเซียวอย่างมีความอดทนสุดขีด
ผ่านไปสักพัก เฉินถิงเซียวถึงตอบคำนึงว่า:“อืม”
ถึงแม้ไม่ได้ตอบชัดเจน แต่คนที่มีความมั่นใจและยโสโอหังอย่างเฉินถิงเซียว สามารถฟังคำพูดของเธอเข้าหู ยอมถอย ก็ถือว่ามีความคืบหน้ามากแล้ว
ขณะนี้ จู่ๆด้านนอกมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
มู่น่อนน่อนกับเฉินถิงเซียวสบตากันทีนึง ได้นั่งตัวตรงด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป:“ฉันออกไปดูหน่อยค่ะ”
เธอลุกขึ้นมา หยุดชะงักไปครู่นึง ถึงพูดหยั่งเชิงว่า:“คุณเลือกตู้เสื้อผ้า……หรือว่าห้องน้ำ?”
สถานการณ์ตอนนี้คับขันมาก แถมเฉินถิงเซียวปีนหน้าต่างเข้ามา ถ้าถูกลูกน้องของลี่จิ่วเชียนพบเห็น ไม่อยากจะคิดเลยว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง จึงต้องลำบากเขาไปหลบซ่อนตัวหน่อยแล้ว
เฉินถิงเซียวหน้าเขียวหน้าดำขึ้นมาทันที เขาได้หันหลังเดินไปทางห้องน้ำ
มู่น่อนเห็นเขาไปที่ห้องน้ำ จึงเตรียมเดินไปเปิดประตูที่หน้าห้อง
แต่เฉินถิงเซียวเดินไปถึงกลางคันก็ได้ย้อนกลับมาอีก เขาได้เข้าไปหลบในตู้เสื้อผ้าภายใต้สายตาที่แปลกประหลาดของมู่น่อนน่อน
ห้องนอนห้องนี้ใหญ่มาก ตู้เสื้อผ้าก็กว้างมาก มีพื้นที่เหลือเฟือให้ผู้ชายตัวสูงใหญ่หลบซ่อน
มู่น่อนน่อนมองดูเฉินถิงเซียวเข้าไปในตู้เสื้อผ้า หลังจากแน่ใจแล้วว่าเขาหลบซ่อนตัวดีแล้ว ไม่เห็นตู้เสื้อผ้ามีสิ่งผิดปกติอะไรอีก ถึงยื่นมือไปเปิดประตู
เธอบิดลูกบิดประตูไปแค่ครึ่งเดียว ก็ได้ส่งเสียงถามว่า:“ใครคะ?”
ด้านนอกมีเสียงผู้หญิงก้องมา:“ฉันเอง”
คืออาลั่ว?
มู่น่อนน่อนครุ่นคิดอยู่ครู่นึง ดึกป่านนี้แล้วอาลั่วมาหาเธอทำไม?
ปกติอาลั่วแทบจะไม่มาหาเธอที่ห้องเลย
มู่น่อนน่อนเปิดประตู ก็เห็นอาลั่วยังใส่เสื้อคลุมรองเท้าบูทของวันนี้อยู่ ยืนอยู่ที่หน้าห้องด้วยความเย็นชา เหมือนหาว่าเธอเปิดประตูช้าเกินไป แววตามีความหงุดหงิดอยู่เลือนราง
มู่น่อนน่อนมองอาลั่วอย่างสงบเยือกเย็น สุดท้ายได้ข้อสรุปว่า——อาลั่วเพิ่งกลับมาจากข้างนอก
เพิ่งกลับมาจากข้างนอกก็รีบมาหาเธอเลย หรือว่าอาลั่วจะพบเห็นอะไร?
สีหน้าของมู่น่อนน่อนไม่มีความผิดปกติเลยสักนิด เธอได้ถามอย่างเป็นธรรมชาติว่า:“คุณอาลั่วมีธุระ?”
คนที่อยู่ในวิลล่านี้ล้วนเรียกเธอว่าคุณอาลั่ว แต่ก็มีแค่มู่น่อนน่อนเท่านั้นที่เรียกคุณอาลั่วแล้วทำให้เธอฟังจนอึดอัดไปทั้งตัว
“ไม่เชิญฉันเข้าไปนั่งหน่อยเหรอคะ?”อาลั่วมองเข้าไปห้องนอนที่อยู่ข้างหลังเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก็ไม่รู้ว่าอยากจะดูอะไร
มู่น่อนน่อนไม่ได้พยักหน้าและไม่ได้ส่ายหัว แค่พูดคำเดียวว่า:“มู่มู่หลับไปแล้วค่ะ”
ความหมายแอบแฝงก็คือไม่อยากให้อาลั่วเข้าไป
อาลั่วเชิดคางขึ้นเล็กน้อย:“ฉันจะพยายามเบาเสียงค่ะ”
ทีนี้มู่น่อนน่อนสามารถแน่ใจแล้วว่าอาลั่วคงจะพบเห็นอะไรแล้ว ดังนั้นจู่ๆอาลั่วถึงได้มาหาเธอ
“มีธุระอะไรเอาไว้คุยพรุ่งนี้ไม่ได้หรือไง?” น้ำเสียงของมู่น่อนน่อนก็ค่อนข้างหงุดหงิดแล้ว ได้ขมวดคิ้วเล็กน้อย แววตามีความเย็นชาโผล่ขึ้นมา
อาลั่วไม่เคยเห็นหน้าตาแบบนี้ของมู่น่อนน่อนเลย อยู่ในความทรงจำของเธอ มู่น่อนน่อนเป็นผู้หญิงที่สวยและอ่อนแอ ตอนที่ต่อกรกันก็แค่โจมตีกลับอย่างใจเย็นสุดๆ
แต่นาทีนี้ มู่น่อนน่อนดูเฉียมคมสุดๆ ทั้งเนื้อทั้งตัวมีออร่าที่บอกไม่ถูกฟุ้งกระจายอยู่
ไม่นึกเลยว่าในเสี้ยววินาทีนั้นอาลั่วจะมีความคิดที่อยากจะหันหลังจากไป แต่เธอได้ดึงสติกลับมาอย่างไว
เธอยกมุมปากขึ้นมาเยาะเย้ยตัวเอง ช่างแปลกประหลาดจริงๆ ก็แค่ผู้หญิงที่ถูกคุมตัวมาเป็นตัวประกันเฉยๆ ไม่นึกเลยว่าเมื่อครู่เธอจะถูกพลังทรงอำนาจบนตัวมู่น่อนน่อนทำเอากลัว
อาลั่วได้พูดเสียงสูงทันที ได้แฝงด้วยความหมายที่วางมาดใหญ่โตเพื่อตบตาผู้คน:“ฉันก็แค่อยากเข้าไปนั่ง ทำไมคะ?คุณมู่ไม่ยอมให้ฉันเข้าไปสักที เพราะข้างในได้ซ่อนเงื่อนงำอะไรไว้เหรอคะ?หรือคุณคิดว่าฉันไม่มีสิทธิ์เข้าไป?”
“คุณอาลั่วคิดว่าห้องของฉันได้ซ่อนเงื่อนงำอะไรไว้?”มู่น่อนน่อนยังคงยืนอยู่ที่หน้าห้องไม่ให้อาลั่วเข้ามา
ในห้องไม่ได้มีเงื่อนงำอะไร แค่ซ่อนเฉินถิงเซียวไว้เฉยๆ
อาลั่วยิ่งพูดแบบนี้ มู่น่อนน่อนก็ยิ่งปล่อยให้เธอเข้ามาทันทีไม่ได้ ถ้าไม่อย่างนั้น อาลั่วจะคิดว่าเธอกินปูนร้อนท้อง
เธอจะต่อกรกับอาลั่วจนถึงที่สุด เป็นผู้หญิงด้วยกัน มู่น่อนน่อนรู้ดีที่สุด เวลาส่วนใหญ่ผู้หญิงทำเรื่องก็แค่อยากเอาคืนเฉยๆ กลับกันไม่ได้แคร์เรื่องราวมากมายขนาดนั้น
มู่น่อนน่อนเดาว่านาทีนี้ ในใจของอาลั่วแค่คิดอยากจะเข้าห้องนอนอย่างเดียว ส่วนจุดประสงค์เดิมที่เธอมาหามู่น่อนน่อน กลับไม่ได้สำคัญขนาดนั้นแล้ว
“มู่น่อนน่อน คุณอย่าคิดว่ามีคุณชายคอยให้ท้ายคุณแล้ว จึงไม่เกรงกลัวแล้วงั้นเหรอ?”อาลั่วได้ถูกมู่น่อนน่อนยั่วโมโหเข้าแล้ว
“ฉันไม่ได้คิดแบบนี้เลย”มู่น่อนน่อนพูดจบ จู่ๆได้หัวเราะขึ้นมา:“คุณอาลั่ว มีเรื่องนึงฉันต้องเตือนคุณหน่อยนะ ถ้าฉันยินยอม ต่อไปคุณอาจจะต้องเรียกฉันคุณผู้หญิงคำนึงด้วยซ้ำ”
“คุณ!”อาลั่วถูกมู่น่อนน่อนทำเอาติดขัดจนพูดไม่ออก
“ช่างเถอะ คุณเข้ามาเถอะ”มู่น่อนน่อนเอามือกอดอกไว้ และถอยหลังไปก้าวนึง พร้อมแกล้งพูดอย่างใจกว้างว่า:“ถ้าต่อไปฉันอยู่กับคุณผู้ชายของคุณจริงๆ ก็ถือเป็นเจ้านายอีกคนของคุณเหมือนกัน เราต้องเข้าหากันดีๆ เพื่อจะได้เลี่ยงไม่ให้คุณชายของคุณลำบากใจ”
มู่น่อนน่อนรู้ว่าอาลั่วรักลี่จิ่วเชียน จึงได้แกล้งคำก็เรียก“คุณชายของคุณ”สองคำก็เรียกว่าคุณชายของคุณ เพื่อทิ่มแทงใจอาลั่ว
อาลั่วหน้าเขียวหน้าดำขึ้นมาทันที เธอไม่ได้พูดอะไรกับมู่น่อนน่อนอีก ก็ได้เดินเข้าไปในห้องด้วยสีหน้าบูดบึ้ง
มู่น่อนน่อนปิดประตูแล้วเดินตามหลังอาลั่ว ได้มองไปยังทิศทางของตู้เสื้อผ้าแว๊บนึง จากนั้นก็ได้เดินไปยืนอยู่ที่ๆห่างกับประตูห้องน้ำไม่ไกล ดูแล้วเหมือนจงใจบังประตูห้องน้ำไว้
อาลั่วเข้ามาห้องนอนแล้วได้มองไปที่บนเตียงแว๊บนึง เห็นเฉินมู่กำลังหลับอยู่จริงๆ เธอจึงได้เบาฝีเท้าลงเยอะ
มู่น่อนน่อนค่อนข้างประหลาดใจ อาลั่วก็ไม่ใช่คนที่ร้ายกาจอะไร
ตู้เสื้อผ้าของห้องนอนเป็นตู้ที่มีบานประตูหกบาน ใหญ่มาก
อาลั่วเดินมาถึงหน้าตู้เสื้อผ้า ก็ได้เปิดตรวจทีละบานอย่างไม่หลีกเลี่ยงเลย
มู่น่อนน่อนยืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำ ภายนอกดูสงบเยือกเย็น ยิ่งเปิดบานประตูเสื้อผ้ามากขึ้นเท่าไหร่ ในใจเธอยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น
ในที่สุด ตอนที่อาลั่วเปิดประตูบานที่สี่ได้หันกลับไปมองมู่น่อนน่อนกะทันหัน
มู่น่อนน่อนยักคิ้ว:“ทำไมไม่เปิดแล้วล่ะ?”
เธอรู้สึกว่าเธอได้รับอิทธิพลจากเฉินถิงเซียวมากเกินไป ดังนั้นถึงได้สามารถใจเย็นได้ขนาดนี้ ฟ้าเท่านั้นที่รู้ว่าเมื่อครู่เธอกลัวเฉินถิงเซียวจะถูกอาลั่วหาเจอมากแค่ไหน
อาลั่วได้หรี่ตามองไปยังห้องน้ำที่อยู่ด้านหลังของมู่น่อนน่อน มู่น่อนน่อนสีหน้าไม่เปลี่ยน แต่กลับแกล้งเขยิบไปข้างๆสองก้าว สร้างภาพลวงตาว่าบังประตูห้องน้ำไว้
อาลั่วได้หลงกลจริงๆด้วย เธอเดินมาอย่างไว มุ่งมาที่ประตูห้องน้ำโดยตรง
ไหนๆมู่น่อนน่อนจะเล่นละครแล้วก็ต้องเล่นให้ถึงที่สุด เธอยื่นมือบังอาลั่วไว้:“ทำอะไร?”
อาลั่วยกมุมปากขึ้นพร้อมยิ้มหยันแล้วพูดว่า:“ขอเข้าห้องน้ำแป๊บนึงค่ะ”
“อาลั่ว คุณอย่าให้มันเกินไปนะ!”มู่น่อนน่อนเม้มปากไว้ ยังคงไม่หลีกทางให้
อาลั่วได้เดินอ้อมผ่านเธอไปเปิดประตูห้องน้ำโดยตรง
แผนผังของห้องน้ำแค่มองแว๊บเดียวก็เข้าใจหมดแล้ว ไม่มีเงาคนอยู่เลย
ทันใดนั้นเธอหันมามองมู่น่อนน่อน:“นี่คุณปั่นหัวฉันงั้นเหรอ?”