ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่ 650 เชิญคุณไสหัวไปทางโน้น
ห้องวีไอพีส่วนตัวใหญ่มาก ดูเหมือนว่าสามารถรองรับได้ยี่สิบถึงสามสิบคน
ผู้ชายพวกนั้นด้านใน มีบางส่วนที่ดูคุ้น และมีผู้หญิงหลายคนที่คุ้นหน้า
เพราะในห้องคนเยอะเกินไป บางครั้งเข้าๆ ออกๆ เปิดปิดประตูห้อง โดยพื้นฐานแล้วจึงไม่มีใครสนใจใครเป็นพิเศษ
ดังนั้น เมื่อมู่น่อนน่อนยืนอยู่หน้าประตูห้อง คนในห้องจึงไม่มีใครสังเกตเธอ
หรืออาจเป็นเพราะแสงที่ประตูค่อนข้างมืด ทำให้เธอไม่เด่นมากนัก
มู่น่อนน่อนไม่ได้ปิดประตูห้อง เดินตรงเข้าไปข้างในตรงตำแหน่งที่เฉินถิงเซียวอยู่
คนอื่นล้วนซ้ายโอบขวากอด แต่ข้างกายเฉินถิงเซียวมีผู้หญิงแค่คนเดียว และท่าทางของทั้งสองก็ไม่ได้ใกล้ชิดกันนัก
คนที่อยู่ข้างเขานั่งห่างจากเขาพอสมควร แต่โน้มตัวเล็กน้อยเวลาคุยกับเขา ท่าทางดูเอาอกเอาใจเป็นอย่างมาก
ส่วนเฉินถิงเซียวถือแก้วไวน์ในมือ ก็ไม่รู้ว่าตั้งใจฟังคนข้างๆ พูดอยู่หรือเปล่า
เมื่อมู่น่อนน่อนเดินอย่างรวดเร็วไปตรงหน้ามู่น่อนน่อน ในห้องวีไอพีส่วนตัวถึงได้มีคนสังเกตเห็นเธอ
คนหนึ่งในนั้นสวมเสื้อสีเทาพูดว่า “เฮ้ ผู้หญิงคนนั้นน่ะ คุณกำลังจะไปไหน! เข้ามาไม่รู้จักปิดประตู ปิดประตูซะ”
มู่น่อนน่อนเหลือบมองเขา แต่ไม่สนใจ
ตอนนั้นคนคนนั้นจึงได้เห็นหน้ามู่น่อนน่อน และมองตาตั้งทันที
ตลอดชีวิตเซียวชู่เหออยู่โดยอาศัยใบหน้า เหมือนพวงดอกไม้เคียงข้างมู่ลี่เหยียน
มู่น่อนน่อนสืบทอดความงามมาจากเซียวชู่เหอ ต่อให้อยู่ในหมู่มวลดารานางแบบ ก็ยังโดดเด่นที่สุด
อายุยี่สิบหกยี่สิบเจ็ด แม้ผ่านการมีลูกมาหนึ่งคน รูปร่างหน้าตาก็ยังยอดเยี่ยม บวกกับการใช้ชีวิตอยู่กับเฉินถิงเซียวมานาน จึงติดเชื้อพวกความสง่าบุคลิกท่าทางอันสูงส่งเฉพาะตัวของเฉินถิงเซียวมาโดยปริยาย จึงยิ่งโดดเด่นมากขึ้นไปอีก
ผู้ชายที่สวมเสื้อสีเทาแม้มองแค่แวบเดียว ดวงตาก็เปล่งประกายแล้ว
ดวงตาของเขาจ้องมู่น่อนน่อนโดยไม่กะพริบ สายตาเกิดประกายรอยยิ้มที่ปรารถนาอยากได้ขึ้นมาทันที
เขาจัดเสื้อผ้าแล้วลุกขึ้น
นางแบบสาวข้างๆ เอื้อมมือมาดึงเขา น้ำเสียงทรงสเน่ห์เย้ายวน “ประธานเจียง?”
ชายเสื้อเทาสะบัดเธอออก แล้วส่งสายตาเตือนเธอ นางแบบสาวจึงไม่กล้าส่งเสียงอีก
เขาก้าวสองสามก้าวไปถึงตรงหน้ามู่น่อนน่อน ขวางทางของเธอ “โย่ว คุณผู้หญิงท่านนี้ดูไม่คุ้นหน้าหรือเปล่า มาหาใครครับ ผมชื่อเจียงซ่ง คุณชื่ออะไร”
ที่นี่มีแต่ควันบุหรี่ เดิมทีมันทำให้มู่น่อนน่อนอารมณ์ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ชายที่ชื่อเจียงซ่งคนนี้ยังวิ่งมาขวางทางเธออีก สีหน้าของเธอจึงยิ่งแย่ลง
มู่น่อนน่อนยังคงไม่พูด เลื่อนสายตาขึ้นมองผ่านเจียงซ่ง ไปยังโซฟาที่อยู่ข้างหลังเขา
เพราะเสียงของเจียงซ่ง จึงมีคนมากมายในห้องวีไอพีส่วนตัวหันมองมาที่เธอกันแล้ว แต่เฉินถิงเซียวก้มหน้ามองโทรศัพท์มือถือ ไม่รู้ทำอะไรบนโทรศัพท์มือถือ
มู่น่อนน่อนไม่เชื่อว่าเฉินถิงเซียวไม่รู้ว่าเธอเข้ามา
ความโกรธที่อธิบายไม่ได้ตีรวนขึ้นอก พุ่งขึ้นหัว มู่น่อนน่อนเรียกด้วยสีหน้าที่ไม่หม่นหมอง “เฉินถิงเซียว”
น้ำเสียงเธอที่เรียกเฉินถิงเซียวนั้นดังพอสมควร แทบจะทันทีที่ทั้งห้องเงียบลง ทุกคนต่างหันหน้ามามองเธอ
ต้องรู้ว่าในห้องนี้ ไม่มีใครกล้าเรียกชื่อเต็มของเฉินถิงเซียวตรงๆ
ปกติจะเรียกอย่างเป็นทางการอย่าง “ประธานเฉิน” หรือไม่ก็ “คุณชายเฉิน”
ทันใดนั้นผู้หญิงคนหนึ่งก็พุ่งเข้ามา การที่เรียกชื่อเต็มของเฉินถิงเซียวแบบนี้ โดยธรรมชาติแล้วมันเป็นการดึงดูดความสนใจของพวกเขา
หลังจากที่เจียงซ่งได้ยินเธอเรียกชื่อเต็มเฉินถิงเซียว สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย “ที่แท้ก็มาหาประธานเฉินสินะ”
เจียงซ่งขดยิ้ม หันหน้าไปมองเฉินถิงเซียว รอยยิ้มเต็มใบหน้าพูดกับเฉินถิงเซียว “ประธานเฉิน มีคนมาหาคุณครับ”
เช่นนี้เฉินถิงเซียวจึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมอง ในดวงตาดำราวกับหมึก ลึกราวกับสระน้ำ มองอารมณ์ใดๆ ไม่ออก
สายตาของเขาหยุดอยู่ที่ใบหน้ามู่น่อนน่อนเพียงครึ่งวินาที แล้วก้มลงไปดูโทรศัพท์มือถืออีกครั้ง ราวกับว่าเธอเป็นคนแปลกหน้า
แม้มู่น่อนน่อนจะคาดไว้อยู่แล้วว่าเฉินถิงเซียวอาจมีปฏิกิริยาเช่นนี้ แต่ใจเธอก็ยังคงรู้สึกจุก รู้สึกแย่มาก
เธอกัดฟัน กำมือ และเริ่มพูดอีกครั้ง “เฉินถิงเซียว ฉันมีคำพูดที่ต้องพูดกับคุณ มีเรื่องที่ต้องถามคุณ”
เฉินถิงเซียวยังคงเงียบ ไม่สนใจความตั้งใจของเธอ
หัวใจมู่น่อนน่อนกลายเป็นเย็นชาทันที ความหนาวเย็นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วไปในทุกส่วนกระดูก
แต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่เคยรู้สึกถึงความเฉยเมยและเยือกเย็นอย่างชัดเจนเช่นนี้ในตัวเฉินถิงเซียว
โดยธรรมชาติแล้วเจียงซ่งที่สนใจมู่น่อนน่อน เดิมทีเขายังกลัวความสัมพันธ์ของเฉินถิงเซียวกับผู้หญิงคนนี้ แต่ตอนนี้เห็นเฉินถิงเซียวไม่สนใจมู่น่อนน่อนเลย จึงกล้าขึ้นมาหน่อย
สายตาแน่วแน่ของเขาไปตกที่ตัวมู่น่อนน่อน สายตาปรารถนาโดยไม่ปิดบัง ดูราวกับว่ากำลังจะเปลือยกายเธอ น้ำเสียงนุ่มนวล “ดูเหมือนประธานเฉินจะไม่รู้จักคุณนะ”
เขาพูดอย่างนั้นแล้วเอื้อมมือออกต้องการจะสัมผัสเอวมู่น่อนน่อน “ประธานเฉินของพวกเราเป็นคนรักเดียวใจเดียว ข้างกายเขามีคนอยู่แล้ว ถ้าคุณมีเรื่องอยากขอร้องเขา ไม่สู้ลองพิจารณาผมสักหน่อยล่ะ ผมเป็นคนที่ทะนุถนอมอ่อนโยนต่อสตรี……”
มู่น่อนน่อนรู้สึกว่ามือของเขาขยับ จึงก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวทันที มือของเจียงซ่งจึงคว้าความว่างเปล่า
เขามองดูมือที่คว้าความว่างเปล่าของตัวเอง จึงเปลี่ยนสีหน้าเป็นขุ่นมัวอย่างมาก
นานมาแล้วที่มู่น่อนน่อนไม่ได้ถูกรังแกแบบนี้ เธออดไม่ได้ที่จะยิ้ม มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงเย็นชาไร้อุณหภูมิ “เชิญคุณไสหัวไปทางโน้น”
“คุณลองพูดอีกรอบไหม” เจียงซ่งหน้าตาไม่อยากเชื่อ เขาคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะพูดกับเขาแบบนี้
ต้องรู้ว่าในห้องวีไอพีส่วนตัว นอกจากเฉินถิงเซียว เขามีสถานะสูงที่สุด ไม่ต้องพูดถึงพวกผู้หญิง แม้แต่พวกคุณชายไฮโซรักสนุกพวกนี้ก็ล้วนแต่ไม่กล้าพูดกับเขาแบบนี้เลย
“คุณหูหนวกเหรอ งั้นฉันไม่รังเกียจที่จะพูดอีกรอบ เชิญ คุณ ไส หัว ไป ทาง โน้น!” ที่มู่น่อนน่อนเกลียดที่สุดก็คือคนอย่างเจียงซ่ง คิดว่าตัวเองรวยมากแล้วดูถูกคนอื่น
“คุณ……” เจียงซ่งโกรธมากจนยกมือขึ้นจะตบมู่น่อนน่อน
เวลานี้ น้ำเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น “ประธานเจียง เมื่อครู่คุณยังพูดว่าตัวเองเป็นคนทะนุถนอมอ่อนโยนต่อสตรี แล้วนี่จะทำอะไร”
มือของเจียงซ่งนิ่งค้างกลางอากาศ
มู่น่อนน่อนมองตามเสียง พบว่าคนที่พูดคือผู้หญิงที่นั่งข้างเฉินถิงเซียว
เมื่อผู้หญิงคนนั้นพูดจบ ก็ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ใบหน้าอันคุ้นเคยเปิดเผยภายใต้แสง
มู่น่อนน่อนพึมพำด้วยความประหลาดใจ “ซูเหมียน!”
“คุณมู่ พบกันอีกแล้วนะคะ” ซูเหมียนสวมชุดสีแดงไวน์ เน้นส่วนเว้าส่วนโค้ง ผิวขาวยิ่งกว่าหิมะ สวยเกินบรรยาย มีสง่าราศี
แต่เมื่อเทียบกับมู่น่อนน่อนในเวลานี้ สภาพดูน่าอายกว่ามาก