ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่195 เป็นหมูแปลงมารึไง?
บทที่195 เป็นหมูแปลงมารึไง?
มู่น่อนน่อนยิ่งคิด ก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองคิดไม่ผิด
ถ้าให้คนอื่นมาบอกว่าหาไม่เจอ มู่น่อนน่อนก็จะเชื่ออยู่ แต่เป็นเฉินถิงเซียวนั้นไม่มีทาง
ความมั่นใจในตัวเองของเฉินถิงเซียว มันออกมาจากกระดูกดำเลยทีเดียว
พอเกิดความคิดนี้ขึ้นมาแล้ว ก็หยุดคิดไม่ได้อีกเลย
มู่น่อนน่อนครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ตลอดทั้งวัน
เมื่อเลิกงาน เธอรีบร้อนนั่งรถกลับบ้าน คิดจะคุยเรื่องนี้กับเฉินถิงเซียว
แต่เมื่อเธอกลับมาถึงบ้าน เฉินถิงเซียวยังไม่กลับมา
อาหูทำอาหารเสร็จก็หนึ่งทุ่มเข้าไปแล้ว แต่เฉินถิงเซียวก็ยังไม่กลับมา
อาหูเห็นว่าดึกแล้ว จึงเกลี้ยกล่อมมู่น่อนน่อน “คุณหญิงน้อย กินก่อนเถอะค่ะ คุณชายจะกลับมาตอนไหนก็ไม่ทราบนะคะ”
“ไม่เป็นไร ฉันจะรออีกหน่อย”
เฉินถิงเซียวไปบริษัทเฉินซื่อวันแรก จะต้องยุ่งมากแน่ นี่เป็นเรื่องปกติ
รอไปอีกสักพัก เมื่อเห็นว่าเฉินถิงเซียวยังไม่กลับมา มู่น่อนน่อนจึงเตรียมจะโทรหาเฉินถิงเซียว
แต่เธอเพิ่งจะหยิบมือถือขึ้นมา ก็มีสายโทรเข้ามา
เธอหรี่ตามอง เป็นเฉินถิงเซียวที่โทรมาพอดี
มู่น่อนน่อนรับสายล้วนถามเขา “นายจะกลับมาเมื่อไหร่?”
“เพิ่งจะประชุมเสร็จ คืนนี้น่าจะกลับไปดึกมาก เธอนอนไปก่อนเลยนะ ไม่ต้องรอฉัน” เฉินถิงเซียวกดเสียงเบาลงเล็กน้อยเจือความอ่อนโยนอย่างเดิม แต่กลับผสมปนความเหนื่อยล้า
การประชุมนี้ดำเนินไปนานมาก เขาก็ไม่สังเกตเลยว่ามันดึกขนาดนี้แล้ว
เมื่อการประชุมจบลง เขาก็รีบโทรหามู่น่อนน่อนทันที
“เข้าใจแล้ว……”
แม้ว่าช่วงเธอและเฉินถิงเซียวจะไม่ได้เข้างานเลิกงานด้วยกัน แต่ตอนเช้าก็ออกจากบ้านไปพร้อมกัน และตอนเย็นก็กลับบ้านมาพร้อมกัน
ตอนนี้เธอต้องเผชิญหน้ากับห้องที่ว่างเปล่าคนเดียว มู่น่อนน่อนก็ยังรู้สึกไม่เคยชิน
เธอกินข้าว กลับเข้าห้อง หอบคอมพิวเตอร์มาเขียนต้นฉบับ
เธอเขียนไปพลางคอยเฝ้าดูว่าด้านนอกมีเสียงรถยนต์หรือไม่
แต่ว่า การทำงานมาทั้งวันนั้นเหนื่อยมาก ผ่านไปไม่นานเธอก็เผลอพิงหัวเตียงหลับไป
ตอนที่เฉินถิงเซียวกลับมา สิ่งที่ฉันเห็นคือฉากนี้
ในห้องอบอุ่นเพียงพอ เฉินถิงเซียวเดินเข้าไปในห้องนอน แว่บแรกก็เห็นมู่น่อนน่อนที่นอนหลับเอียงหัวพิงอยู่กับหัวเตียง
มือสองข้างของเธอยังวางอยู่บนแป้นพิมพ์โน๊ตบุ๊ค ผมหน้าม้ากระดกขึ้น ผมยาวสยายออก
เฉินถิงเซียวค่อย ๆ ย่องเข้าไป เอื้อมมือดึงคอมพิวเตอร์ที่อยู่ใต้มือมู่น่อนน่อนออกมา
แม้เขาจะขยับอย่างเงียบเชียบ แต่มู่น่อนน่อนนั้นหลับตื้นเกินไป จึงถูกปลุกตื่นขึ้นมา
มู่น่อนน่อนลืมตาด้วยความง่วงงุน มองคนตรงหน้าอย่างยังไม่ตื่นดี พูดอย่างสะลึมละสือ “กลับมาแล้วเหรอ?”
ดวงตาของเธอพร่ามัว เธอนอนเอียงหัวพิงหัวเตียงนานเกินไป พอเธอขยับทั้งร่างก็เหมือนจะร่วงลงบนเตียง
เฉินถิงเซียวยื่นมือออกไปอย่างรวดเร็วเพื่อพยุงหัวของเธอ มืออีกข้างโอบรอบเอวของเธอเพื่อให้เธอหลับไป เอ่ยเสียงทุ้มนุ่ม “อืม นอนเถอะ”
มู่น่อนน่อนได้ยิน ก็หลับไปอีกครั้งจริง ๆ อย่างสะลึมสะลือ
ตั้งแต่เธอนอนลงบนเตียงจนถึงหลับไป ใช้เวลาเพียงสิบวินาที
เฉินถิงเซียวมองใบหน้าของเธอที่หลับอย่างเงียบสงบ ก็อึ้งไปเล็กน้อย อดเอื้อมมือไปบีบจมูกของเธอไม่ได้ พูดพึมพำ “เป็นหมูแปลงมารึไง?”
เขาไปอาบน้ำในห้องน้ำกลับมาถึงเพิ่งจะได้นอนลงบนเตียง มู่น่อนน่อนที่หลับไปแล้วเหมือนจะรู้สึกตัว เธอซุกเข้าไปในอ้อมแขนของเฉินถิงเซียวโดยอัตโนมัติ
เฉินถิงเซียวเห็นท่าทางนั้น แววตาของเขาก็ฉายแววอ่อนโยนแล้วกอดเธอไว้ในอ้อมแขน ไม่นานก็เข้าสู่ความฝัน
……
วันต่อมา
เมื่อมู่น่อนน่อนลืมตาขึ้นมา ก็เอื้อมมือไปคลำข้างกาย
ผลคือข้างกายนั้นว่างเปล่า
ทันใดนั้นเธอก็พลิกตัวขึ้นมานั่งบนเตียง
เมื่อคืนเฉินถิงเซียวไม่ได้กลับมาเหรอ?
ไม่สิ เหมือนจะกลับมาแล้ว….
มู่น่อนน่อนหันหัว สายตาไปตกอยู่ที่คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ้คที่อยู่บนโซฟา
เธอจำได้แล้ว เมื่อคืนเฉินถิงเซียวกลับมาแล้ว ยังช่วยเธอเก็บคอมพิวเตอร์อีกด้วย
แต่แล้วเจ้าตัวล่ะ? คงไม่ได้ไปแล้วหรอกนะ?
มู่น่อนน่อนพลิกตัวลุกจากเตียงคว้าเสื้อคลุมตัวใหญ่มาใส่ สวมรองเท้าแตะแล้วเปิดประตูวิ่งลงไปข้างล่าง
เธอวิ่งมาถึงหัวบันได ก็เห็นเฉินถิงเซียวในชุดสูททางการกำลังเดินออกจากประตู
เธอเรียกออกไป “เฉินถิงเซียว?”
เฉินถิงเซียวได้ยินก็หันกลับมา มองเพียงปราดเดียวก็ขมวดคิ้ว “กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉันไปบริษัทก่อนนะ”
“อื้ม” มู่น่อนน่อนตอบรับอย่างไม่รู้ตัว เมื่อเห็นเฉินถิงเซียวหันกลับแล้วเดินออกไป
เธออ้าปาก สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
จนเมื่อเงาร่างของเฉินถิงเซียวลับไป เธอถึงได้กระชับเสื้อคลุมแล้วกลับห้องนอนไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
……
เฉินถิงเซียวเริ่มจะยุ่งมากขึ้นเป็นพิเศษ
ยุ่งจนแม้แต่เวลากินข้าวกับมู่น่อนน่อนก็ไม่มี บ่อยครั้งที่เธอตื่นมาในตอนเช้าแล้วเขาไปแล้วหรือกำลังจะไป
เมื่อเธอกลับมาในตอนเย็น เฉินถิงเซียวยังทำงานล่วงเวลาอยู่ที่บริษัท ตอนที่เขากลับมา มู่น่อนน่อนไม่หลับไปแล้วก็ตื่นนอนแล้ว
เป็นอย่างนั้นผ่านไปหนึ่งอาทิตย์
มู่น่อนน่อนนึกว่าสุดสัปดาห์เฉินถิงเซียวจะพักผ่อนทั้งวัน แต่ผลสรุปเมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ก็เห็นเฉินถิงเซียวเปลี่ยนเป็นชุดสูทแล้ว เขาดูภูมิฐานและเปี่ยมพลัง
เฉินถิงเซียวราวกับมีพลังงานใช้ไม่สิ้นสุด ขนาดยุ่งขนาดนั้นติดต่อกันมาอาทิตย์หนึ่งแล้ว ไม่นึกว่าจะยังดูมีกำลังวังชาขนาดนั้นอีก
มู่น่อนน่อนหยิบมือถือขึ้นมา ส่องผ่านหน้าจอมือถือ เธอเห็นใบหน้าที่เหนื่อยล้าของตัวเองบนหน้าจอ
เวลาเข้างานของเธอสายกว่าเฉินถิงเซียวและเลิกงานเร็วกว่า แต่ดันดูเหนื่อยยิ่งกว่าเฉินถิงเซียวเสียอีก
หากไม่ได้อยู่กับเฉินถิงเซียวมานานขนาดนี้ เธอก็คงสงสัยว่าเฉินถิงเซียวใช่คนรึเปล่า
“ฉันจะไปบริษัทแล้วนะ เธอนอนต่ออีกหน่อยเถอะ” เฉินถิงเซียวได้ยินแสดงความเคลื่อนไหว จึงหันกลับไปมองเธอ พลางก้มหน้าจัดกระดุมข้อมือของตัวเอง
ดูเหมือนกระดุมข้อมือสูทในวันนี้จะตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขา ติดยังไงก็ติดได้ไม่ดี
มู่น่อนน่อนเลิกผ้าห่มแล้วลุกขึ้นนั่ง น้ำเสียงมีความงัวเงียอย่างคนเพิ่งตื่น “มานี่มา”
เฉินถิงเซียวเดินเข้ามา นั่งลงข้างเตียง ยื่นแขนเสื้อไปด้านหน้าของมู่น่อนน่อนพร้อมส่งกระดุมข้อมือให้เธอด้วย
เขาหลุบตาลง มองนิ้วมือเรียวขาวของมู่น่อนน่อนที่กำลังจับแขนเสื้อสีเข้ม หลังจากช่วยติดกระดุมข้อมือให้เขาแล้ว ยังจัดสูทตัวนอกให้เขาอีกเล็กน้อย
ลำคอของเขาขยับเล็กน้อย ก่อนก้มลงจูบเบา ๆ ที่หน้าผากของมู่น่อนน่อน “ใกล้จะปีใหม่แล้ว ยุ่งอีกสักพักก็คงจะได้พักผ่อนสักหน่อย”
มู่น่อนน่อนเงียบไปเล็กน้อยก่อนถามเขา “บริษัทเฉินซื่อมีเรื่องต้องจัดการมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ใช่แล้ว เรื่องเยอะมาก” ในน้ำเสียงของเฉินถิงเซียวสัมผัสถึงความเหนื่อยล้าได้อย่างหาได้ยาก
สิ้นเสียงลง ทั้งสองคนก็นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
มู่น่อนน่อนนึกอะไรได้บางอย่างแล้วพูดขึ้น “นายรู้มั้ยว่าพี่ใหญ่กลับมาแล้ว?”
การเคลื่อนไหวของเฉินถิงเซียวช้าลงนิดหน่อย เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย “กลับมาเมื่อไหร่?”
“กลับมาหลายวันแล้ว เขายังบอกอีกว่าอยากไปกินข้าวด้วยกันกับเรา” จริง ๆ แล้วนี่คือเรื่องที่มู่น่อนน่อนอยากจะคุยกับเฉินถิงเซียว
เฉินถิงเซียวไตร่ตรองครู่หนึ่ง “พรุ่งนี้ฉันเลิกงานเร็วหน่อย นัดพี่ใหญ่ไปกินข้าวที่โรงแรมจีนติ่ง”
“อื้ม” มู่น่อนน่อนพยักหน้า แววตาฉายความยินดี
ในที่สุดก็จะได้กินข้าวพร้อมกับเฉินถิงเซียวแล้ว!