ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่240 เธอไม่ต้องการฉันแล้วงั้นสิ?
บทที่240 เธอไม่ต้องการฉันแล้วงั้นสิ?
สุดท้าย หนังก็ไม่ได้ดู มู่น่อนน่อนเอาแต่คุยกับเฉินเจียฉิน
เฉินเจียฉินอยู่ต่างประเทศมานาน ในประเทศก็เลยไม่มีเพื่อน เรื่องเหล่านี้น่าจะอยู่ในใจมานานเกินไปแล้ว แล้วยังไม่มีคนมาให้ระบายด้วย
ดีที่มู่น่อนน่อนยินดีรับฟัง เขาก็เลยพูดทุกอย่างออกมาหมด
เพราะเขาพูดเรื่องนั้น เลยได้ยินเบาะแสมาคร่าวๆ
พ่อแม่ที่ดูรักใคร่กลมเกลียวแต่ไม่ใช่ พี่ชายที่ภายนอกดูอบอุ่นแต่กลับฆ่าสัตว์ตัวน้อยๆอย่างโหดร้าย เรื่องเหล่านี้ทำให้เกิดผลกระทบต่อเด็กในวัยเฉินเจียฉิน
มู่น่อนน่อนออกมาจากห้องดูหนัง ก็เจอกับเฉินถิงเซียวที่จะเข้าไปหาเธอพอดี
เธอเดินนำหน้า เฉินเจียฉินอยู่ข้างหลัง
เฉินถิงเซียวทำหน้าเรียบนิ่ง เห็นได้ชัดว่าเขาโกรธที่เฉินเจียฉินชวนมู่น่อนน่อนดูหนัง
ก่อนหน้านี้มู่น่อนน่อนต้องรับมือกับพวกตระกูลเฉินมาก็เหนื่อยแล้ว บอกไว้อย่างดีว่าจะไปพักผ่อน ยังโดนเฉินเจียฉินลากมาดูหนังด้วยกันอีก สีหน้าของเขาไม่สบอารมณ์เฉินเจียฉินอย่างแน่นอน
เฉินเจียฉินมุ่ยปาก ขยับไปอยู่ด้านหลังมู่น่อนน่อน
ไม่ได้เจอกันตั้งนาน สายตาของพี่ชายยังมีจิตสังหารขนาดนี้
หวาดกลัว
มู่น่อนน่อนมองเฉินถิงเซียวอย่างไม่พอใจ หันไปพูดกับเฉินเจียฉิน “เสี่ยวฉิน นายกลับไปพักในห้องสักพักนะ”
“ครับ” ราวกับเฉินเจียฉินได้รับการอภัยโทษ รับวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว
เฉินถิงเซียวฉีกยิ้มมุมปาก สายตาเย็นชา “มู่น่อนน่อน ตอนนี้เธอท้องอยู่นะ ไม่ต้องไปสั่งสอนเขา เขาก็เป็นแค่เด็กที่ชอบสร้างปัญหา
“ไม่รู้ไม่ชี้ ตาแป๊ะสวดมนต์” มู่น่อนน่อนใช้มืออุดหู พูดไปด้วยเดินเข้าห้องนอนไปด้วย
เฉินถิงเซียวหน้าครึ้มลงทันที พูดเสียงเรียบอย่างโกรธๆ “มู่น่อนน่อน!”
มู่น่อนน่อนหันกลับมา ยื่นมือลูบหน้าท้องของตัวเองเบาๆ สายตาจดจ้อง ทำหน้าตาจริงจัง แล้วพูด “อย่าเสียงดัง ทำเจ้าหนูน้อยตกใจหมดแล้ว”
เฉินถิงเซียวสูดหายใจเข้าลึก บอกตัวเองว่าอย่าไปทะเลาะกับผู้หญิงบ้าๆคนนี้เลย
มู่น่อนน่อนมองเขาทำท่าทางอดกลั้นความโกรธ ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา แต่มาคิดอีกทีเขาก็ทำเพื่อเธอทั้งนั้น ก็เลยกลับไปดึงแขนเขาด้วยใบหน้าพึงพอใจ “โอเคโอเค พวกเรากลับห้องไปพักเถอะ”
ตรงหน้ามู่น่อนน่อน ความโกรธของเฉินถิงเซียวมาก็ง่าย หายก็เร็ว
กลับถึงห้อง มู่น่อนน่อนก็ถูกเฉินถิงเซียวจับไปไว้ที่เตียง ห่มผ้าห่มให้เธอ แล้วก็สั่ง “นอน”
มู่น่อนน่อนคุยกับเฉินเจียฉินนานขนาดนั้น ตอนนี้เลยยังไม่ได้นอน “ฉันมีเรื่องจะพูดกับคุณ”
“ตื่นแล้วค่อยว่ากัน” เฉินถิงเซียวไม่มองสายตาที่อ้อนวอนของเธอ
มู่น่อนน่อนไม่สนใจ พูดไปตรงๆ “ความสัมพันธ์ของป้าของคุณกับคุณอาดีมั้ย?”
“ในสายตาคุณปู่ พวกเขาเป็นสามีภรรยาตัวอย่างที่รักใคร่กันมาก” เฉินถิงเซียวพูดจบก็ยิ้มออกมาเอง ในสายตาของคุณปู่เฉิน แม่กับเฉินชิงเฟิงเป็นสามีภรรยาที่รักใคร่กันมาก
“แต่เมื่อกี้เสี่ยวฉินบอกฉันว่า เขารู้สึกว่าพ่อแม่เขาไม่ได้รักกันเลย รู้สึกเหมือนรักกันแต่ภายนอก…” มู่น่อนน่อนถอนหายใจ “พวกเราก็อยู่ด้วยกันนานแล้ว จะกลายเป็นสามีภรรยาที่รักกันแต่ภายนอกรึเปล่านะ?”
เฉินถิงเซียวตอบอย่างมั่นใจมาก “ไม่มีทาง”
“จริงหรอ?” มู่น่อนน่อนหน้าตาประทับใจ
ผลก็คือ วินาทีต่อมา เธอก็ได้ยินเฉินถิงเซียวพูดอย่างเงียบๆ “เอาลูกของฉันมาก่อนค่อยคิดเรื่องแบบนี้ เธอจะออกไปหาชายอื่นหรือไง?”
น้ำเสียงอันตรายนิดหน่อย
มู่น่อนน่อนมองเขาด้วยหางตา พบว่ากำลังเขาหลี่ตาจ้องเธอนิ่งๆ ราวกับว่าเธอพูดคำตอบที่ทำให้เขาไม่พอใจออกไป ก็เลยต้องการซ่อมเธอ
มู่น่อนน่อนเป็นคนที่มีสติในการเอาตัวรอดแข็งแกร่งมาก
เธอจับมือของเฉินถิงเซียวไว้ ยิ้มอย่างสดใจ “จะเป็นไปได้ไง จะชายคนไหนจะหล่อกว่าคุณรวยกว่าคุณอีก?”
“เธอหมายความว่า ถ้ามีผู้ชายที่หล่อกว่ารวยกว่าฉัน เธอก็ไม่ไม่ต้องการฉันแล้วงั้นสิ?” ใบหน้าเฉินถิงเซียวแสดงอาการอันตรายมากขึ้น
มู่น่อนน่อนรู้สึกว่าคำตอบของตัวเองนั้นใส่ใจมากๆแล้ว แต่เฉินถิงเซียวแค่ไม่ปกติ
ทั้งเมืองหู้หยางยังมีผู้ชายที่หล่อกว่าเขารวยกว่าเขาอีกหรอ?
ยังไงก็เป็นไปไม่ได้!
นี่เธอแค่เปลี่ยนวิธีชมเขาเอง!
ผลก็คือ เขาจับใจความที่เธอต้องการจะสื่อไม่ได้
เธอคงตามสมองของคนฉลาดไม่ทันจริงๆสินะ
“จะเป็นไปได้ยังไง!” มู่น่อนน่อนเสียงดังขึ้น พยายามทำให้ตัวเองฟังดูซื่อสัตย์อย่างสุดความสามารถ
เฉินถิงเซียวสีหน้าผ่อนคลายลง แต่ไม่ได้พูดอะไร
มู่น่อนน่อนดึงมือของเขามาที่ริมฝีปาก แล้วจูบลงเบาที่หลังมอของเขา “ฉันพูดจริงๆนะ”
เธอรู้สึกว่ามือของเฉินถิงเซียวหยุดนิ่งลง พอเงยหน้ามองก็พบว่าสีหน้าของเฉินถิงเซียวดูไม่สบายตัวเล็กน้อย
เฉินถิงเซียวนั่งอยู่บนเตียงตั้งแต่แรก พอเธอมองเขา เขาก็หันหน้าหนีทันที “รีบนอน ฉันยังมีธุระต้องจัดการ”
มู่น่อนน่อนสะดุ้ง เมื่อกี้เขา…เขินหรอ?
ตอนที่หยอกเธอเขาลื่นไหลมากแท้ๆ เธอแค่จูบหลังมือเขาด้วยความรู้สึก ผู้ชายคนนี้ก็เขินทำตัวไม่ถูกแล้วหรอ?
มู่น่อนน่อนคิดจะทำอีกที เฉินถิงเซียวกลับดูเหมือนคาดเดาได้ว่าเธอจะทำอะไรต่อไป รีบดึงมือหนี “ฉันไปห้องหนังสือนะ”
เฉินถิงเซียวก้าวออกไปนอกห้องนอน ยังไม่ทันปิดประตูห้อง ก็ได้ยินเสียงหัวเราะอย่างไร้ยางอายออกมาจากด้านใน
เฉินถิงเซียวสีหน้ามืดครึ้ม ปิดประตูดัง “ปัง” บนใบหน้ามีสีแดงของความเขินอาย และก็ไม่ได้สนใจอาหูที่เดินข้ามของมาตรงหน้า
ก็เลยชนเข้ากับอาหูพอดี
ในถาดของอาหูมีน้ำหวานวางอยู่ถ้วยหนึ่ง ที่ตั้งใจเตรียมมาให้มู่น่อนน่อน
น้ำหวานนี้ก็เลยหกใส่ร่างของเฉินถิงเซียว
เฉินถิงเซียวปฏิกิริยาไวมาก เขายกมือที่โดนมู่น่อนน่อนจูบขึ้นหลบน้ำที่กระเด็นใส่โดยไม่รู้ตัว
อาหูเห็นเขายกมือขึ้น เลยถามด้วยความเป็นห่วง “คุณผู้ชาย มือไม่ได้โดนลวกใช่มั้ยคะ?”
“ไม่โดน”
อาหูไม่วางใจ “เดี๋ยวฉันช่วยดูให้นะคะ?”
“ไม่ต้อง” เฉินถองเซียวถอยหลังไปก้าวหนึ่ง เพียงแค่ใช้มืออีกข้างหนึ่งจับมือข้างที่มู่น่อนน่อนจูบแล้วเดินผ่านร่างอาหูไป
อาหูมองเงาหลังของเฉินถิงเซียว พูดพึมพำ “ทำไมหวงมือข้างนั้นนัก? ต้องได้รับบาดเจ็บแน่เลย…”
……
เพราะอย่างนั้น พอมู่น่อนน่อนตื่นขึ้นมา ก็ได้ยินคนใช้พูดกันว่ามือของเฉินถิงเซียวได้รับบาดเจ็บ
มู่น่อนน่อนสีหน้าตึงเครียด “ทำไมถึงบาดเจ็บล่ะ?”
ก่อนเธอนอนยังดีๆอยู่เลย ทำไมหลับไปแค่ตื่นเดียวมือของเฉินถิงเซียวถึงบาดเจ็บได้?
“เขาอยู่ไหน?” มู่น่อนน่อนถาม
คนใช้พูดอย่างนอบน้อม “คุณผู้ชายอยู่ในห้องหนังสือตลอด ยังไม่ได้ออกมาเลยค่ะ”
มู่น่อนน่อนได้ยินเธอพูดอย่างนี้ ก็สับสนนิดหน่อย ถ้าอยู่ในห้องหนังสือตลอด แล้วจะบาดเจ็บได้ยังไง
ใจของมู่น่อนน่อนรู้สึกว่ามีพิรุธ แต่ก็ยังไปห้องหนังสือของเฉินถิงเซียว
ยืนอยู่หน้าประตูห้องหนังสือ มู่น่อนน่อนเคาะประตูแล้ว ก็ผลักประตูเดินเข้าไป ”พวกเขาบอกว่ามือคุณบาดเจ็บ? ให้ฉันดูหน่อย”
เฉินถิงเซียวกำลังนั่งทำงาน ได้ยินอย่างนั้นก็แปลกใจเล็กน้อย แต่ไม่นานก็เข้าใจว่าเรื่องราวเป็นมายังไง
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเป็นค่อยปกติ มีความเคืองอยู่ในน้ำเสียงเล็กน้อย “ไม่ได้บาดเจ็บ ฉันยังต้องทำงาน เธอออกไปก่อน”