ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่385 ให้พวกเขาจำกันได้
มู่น่อนน่อนมองแผ่นหลังของมู่หวั่นขี ผ่านไปนานก็ยังไม่ได้พูดอะไร
เสิ่นเหลียงถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ในที่สุดก็ไปแล้ว”
เธอหันกลับมา เห็นว่ามู่น่อนน่อนยังคงมองไปยังทิศทางที่มู่หวั่นขีหายไป แล้วก็อดไม่ได้ที่จะถามด้วยความเป็นห่วง “น่อนน่อน เธอไม่เป็นไรใช่ไหม? ”
ตอนนี้มู่น่อนน่อนไม่เหมือนกับเมื่อก่อน เธอจำอะไรไม่ได้แล้ว ไม่แน่ว่าอาจจะตกใจเพราะว่ามู่หวั่นขีก็ได้
เสิ่นเหลียงรู้สึกว่า เธอยังไม่รอบคอบพอ
มู่น่อนน่อนหันหน้ากลับมา แล้วถามเสิ่นเหลียง “เธอชื่อมู่หวั่นขี เกี่ยวข้องอะไรกับฉันเหรอ? ”
เสิ่นเหลียงเห็นว่าเธอสงบขนาดนี้ ก็เลยสบายใจ แล้วตอบว่า “พี่สาวต่างแม่ของเธอ”
“แม่ของฉันเป็นแม่เลี้ยงของเธอเหรอ? ”แววตาของมู่น่อนน่อนดูแปลกไปเล็กน้อย
เสิ่นเหลียงพยักหน้า “อืม”
มู่น่อนน่อนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ปกติแล้วแม่เลี้ยงจะไม่ค่อยดีกับลูกติดของสามี มู่หวั่นขีดูท่าทางจะเกลียดฉันมาก หรือว่าแม่ของฉันปฏิบัติกับเธอไม่ดีงั้นเหรอ? ”
เสิ่นเหลียงปากกระตุก เธอไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี
เซียวชู่เหอยังดีกับมู่หวั่นขีมากกว่าลูกสาวแท้ๆ ของตัวเองอีก จะปฏิบัติกับเธอไม่ดีได้ยังไงกัน?
ภายใต้สายตาที่สงสัยของมู่น่อนน่อน เสิ่นเหลียงก็ตอบว่า “เปล่า พูดได้ไม่ค่อยชัดเจนหรอก แต่ว่ามันไม่ใช่เรื่องที่สำคัญที่สุด……”
มู่น่อนน่อนเหมือนกับรู้ว่าเธอจะพูดอะไรต่อ ก็เลยตัดบทเธอ “แต่ว่าลี่จิ่วเชียนบอกว่าเขาคือคู่หมั้นของฉัน ฉันรู้สึกว่าเขาไม่ได้โกหกฉัน ถ้าเกิดว่าเขาเป็นคู่หมั้นของฉัน แล้วฉันจะไปเป็นสามีภรรยากับเฉินถิงเซียวได้ยังไงกัน? ฉันไม่ได้บอกว่าเธอโกหกฉันนะ ฉันแค่รู้สึกว่า……”
“คุณน้ามู่”
ทันใดนั้นเสียงอ้อแอ้ของเด็กน้อยเฉินมู่ก็ดังขึ้น
มู่น่อนน่อนหันกลับไป ก็เห็นเฉินถิงเซียวกับเฉินมู่กำลังเดินเข้ามา
ใบหน้าของเฉินมู่ดูกระตือรือร้นมาก พยายามออกแรงดึงเฉินถิงเซียวให้เดินมาทางนี้ ขาสั้นๆ ก้าวอย่างไว
ข้างหลังคือเฉินถิงเซียว เขาดูใจเย็นกว่ามาก เขาถูกเฉินมู่ลากอย่างช้าๆ เดินมาที่นี่
มู่น่อนน่อนเห็นเฉินมู่แล้วก็รู้สึกประหลาดใจ “มู่มู่ หนูมาที่นี่ได้ยังไง? ”
“มากินข้าวค่ะ”เฉินมู่เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของมู่น่อนน่อนแล้วก็ปล่อยมือเฉินถิงเซียวในทันที เงยหน้าขึ้นมองมู่น่อนน่อนแล้วก็ตอบคำถามอย่างเชื่อฟัง
พอเสิ่นเหลียงเห็นเฉินถิงเซียว ก็ถอยไปข้างหลังโดยอัตโนมัติ
เฉินถิงเซียวเองก็สังเกตเห็นเสิ่นเหลียงเหมือนกัน
เขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้เสิ่นเหลียงบอกว่าซูเหมียนไม่ใช่แม่แท้ๆ ของเฉินมู่ ไม่คิดว่าเธอจะรู้จักมู่น่อนน่อนด้วยเหมือนกัน
สิ่งต่าง ๆ เริ่มน่าสนใจมากขึ้น
มู่น่อนน่อนนึกถึงคำพูดของเสิ่นเหลียงเมื่อกี้นี้ แล้วตอนที่เห็นเฉินมู่อีกครั้ง อารมณ์ของเธอก็เริ่มซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย
เฉินมู่คือลูกสาวของเธอจริงๆ รึเปล่า?
เธอเคย……เป็นสามีภรรยากับเฉินถิงเซียวอย่างนั้นเหรอ?
พอคิดแบบนี้ สายตาของเธอก็เผลอหันไปมองเฉินถิงเซียว
เธอมองไปที่เฉินถิงเซียวอย่างระมัดระวัง
ไม่ว่าจะมองยังไงก็รู้สึกว่า เฉินถิงเซียวไม่เหมือนกับคนที่น่าจะมีความสัมพันธ์กับเธอได้
แล้วอีกอย่าง เธอยังรู้สึกว่าเฉินถิงเซียวไม่ได้มีตรงไหนที่ดึงดูดเธอเลย
เหมือนกับว่าสัมผัสได้ถึงสายตาของมู่น่อนน่อน เฉินถิงเซียวก็เงยหน้าขึ้นมองมู่น่อนน่อนเหมือนกัน
ดวงตาของเขาลึก และดวงตาของเขาเย็นชาและเฉียบแหลมเมื่อมองผู้คน
เฉินมู่ก็เหมือนกับเขา แต่ว่าน่ารักกว่าเยอะ
สือเย่ที่พึ่งจะจอดรถเสร็จ เห็นว่าเสิ่นเหลียงกับมู่น่อนน่อนก็ต่างอยู่ที่นี่ หลังจากมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า: “คุณเสิ่น คุณมู่”
มู่น่อนน่อนก็พยักหน้าให้กับสือเย่ ก็ถือว่าเป็นการทักทายแล้ว
เสิ่นเหลียงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “สือเย่?”
เธอไม่รู้ว่าสือเย่ไปเป็นลูกน้องของเฉินถิงเซียวอีกครั้งแล้ว
ถึงแม้ว่าเฉินถิงเซียวจะให้สือเย่กลับมาทำงานเป็นลูกน้องของเขาอีกครั้ง หมายความว่าตอนนี้เฉินถิงเซียวไม่ได้เชื่อใจเฉินจิ่งหยุ้นขนาดนั้นแล้วใช่ไหม?
วันนี้ในเมื่อทุกคนต่างอยู่ที่นี่แล้ว ก็พูดเรื่องนี้ไปเลยดีไหม?
เสิ่นเหลียงคิดได้แบบนี้ ก็ส่งสายตาให้กับสือเย่
สือเย่รับทราบ แล้วก็ก้าวไปด้านหน้า เดินไปหยุดอยู่ด้านข้างเฉินถิงเซียวแล้วก็กระซิบพูดว่า “คุณผู้ชาย ก่อนหน้านี้ผมได้จองห้องส่วนตัวไว้แล้วครับ”
“อืม”เฉินถิงเซียวตอบรับ แล้วก็จูงมือเฉินมู่เดินไป
เฉินมู่บิดมือของเขาพร้อมกับหมุนตัว สะบัดมือของเฉินถิงเซียว แล้วก็เข้าไปจูงมือของมู่น่อนน่อน “หนูอยากอยู่กับคุณน้ามู่”
เฉินถิงเซียวเม้มปาก มองไม่ออกว่าชอบหรือว่าโกรธ
“ตามใจ”
คำง่ายๆ เพียงสองคำ แล้วเฉินถิงเซียวก็หันหลังเดินออกไป
ซึ่งหมายความว่าไม่มีการคัดค้าน
“คุณน้ามู่ ไปกันค่ะ……”เฉินมู่ดึงมือมู่น่อนน่อนอย่างตื่นเต้น แล้วก็เดินตามเฉินถิงเซียวไป
สำหรับเฉินมู่แล้วมู่น่อนน่อนไม่เคยมีการต่อต้าน ไม่นานก็ถูกเฉินมู่ลากไปถึงห้องส่วนตัว
พอเห็นว่าครอบครัวสามคนเข้าไปในห้องส่วนตัว เสิ่นเหลียงก็ดึงสือเย่ไปด้านข้าง “คุณไปเป็นลูกน้องของบอสใหญ่อีกครั้งตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? เมื่อไม่กี่วันก่อนฉันยังเห็นคุณอยู่ที่บริษัทเสิ้งติ่งอยู่เลย”
สือเย่ตอบ “เป็นเรื่องไม่กี่วันก่อนนี่เองครับ”
“ถ้ายังงั้นคุณได้พูดกับบอสใหญ่ เรื่องระหว่างเขากับน่อนน่อนไหม? ” เสิ่นเหลียงถามด้วยน้ำเสียงที่กระตือรือร้น
“ตอนนี้ยังครับ แต่ว่าคุณผู้ชายได้สั่งให้ผมไปสืบหาข้อมูลของคุณหญิงน้อย แต่สงสัยว่าข้อมูลของคุณหญิงน้อยได้ถูกคนอื่นมาแตะต้องเรียบร้อยแล้ว”
เสิ่นเหลียงไม่ใช่คนนอก สือเย่ก็ไม่ได้ปิดบังอะไรเธอ
“ใครมาแตะต้อง? ” หลังจากที่เสิ่นเหลียงได้เจอกับมู่น่อนน่อนอีกครั้งนั้น นอกจากดีใจกับอารมณ์เสียว่าจะทำยังไงให้เธอกับเฉินมู่ได้รู้จักกันนั้น ก็แน่นอนว่าไม่ทันได้ระวังเรื่องนี้เลย
สีหน้าของสือเย่ดูจริงจัง “น่าจะเป็นเฉินจิ่งหยุ้น และก็อาจจะเป็นลี่จิ่วเชียนก็ได้เหมือนกัน”
“ลี่จิ่วเชียน ผู้ชายที่เรียกตัวเองว่าเป็นคู่หมั้นของน่อนน่อนอย่างนั้นเหรอ? ”เสิ่นเหลียงมีความรู้สึกต่อลี่จิ่วเชียนค่อนข้างมาก
สือเย่เห็นดังนั้น ก็เอ่ยปากถาม “คุณยังจำเรื่องเมื่อสามปีก่อน ที่คุณหญิงน้อยเคยมีข่าวกับผู้ชายคนหนึ่งได้ไหม? ”
“จำได้ไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่แล้ว” ตอนนั้นเสิ่นเหลียงยุ่งมาก ก็เลยไม่ค่อยแน่ใจเรื่องของมู่น่อนน่อนเท่าไหร่นัก
สือเย่ขมวดคิ้วแน่นยิ่งกว่าเดิม “ผู้ชายที่มีข่าวว่าคบกับคุณหญิงน้อยในตอนนั้น ก็คือลี่จิ่วเชียน ตอนนั้นคุณผู้ชายได้ให้ผมไปสืบประวัติของเขา แต่หลังจากนั้นซือเฉิงหยู้ก็สร้างเรื่องขึ้นก่อน เรื่องนี้ก็เลยถูกดองเอาไว้”
“ถ้าพูดแบบนี้แสดงว่า สามปีมานี้ ลี่จิ่วเชียนเคยตามหาน่อนน่อน ความหมายก็คือ ลี่จิ่วเชียนรู้จักน่อนน่อนจริงๆ ”
“ไม่มีใครจะช่วยผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและหมดสติมาเป็นเวลาสามปี ”
เสิ่นเหลียงกับสือเย่เงียบ
เสิ่นเหลียงกัดริมฝีปาก และพูดว่า “ตอนนี้เรื่องที่สำคัญ ก็คือให้พวกเขาจำกันได้”
“ให้ใครจำกันได้?”
เสียงที่ทุ้มต่ำของเฉินถิงเซียวดังขึ้น
เสิ่นเหลียงกับสือเย่ก็หันหน้าไปพร้อมกันในทันที ก็เห็นว่าเฉินถิงเซียวยืนด้วยหน้าตาจริงจังอยู่ตรงนั้น ไม่รู้ว่าเขายืนอยู่ตรงนั้นนานแค่ไหนแล้ว
หลังจากที่สือเย่อึ้งไปแป๊บหนึ่ง เขาก็เรียกเบาๆ “คุณผู้ชาย”
สายตาของเฉินถิงเซียวเหลือบมองระหว่างใบหน้าของทั้งสองคน หลังจากนั้นก็ออกคำสั่งว่า “เข้ามา”
สือเย่กับเสิ่นเหลียงสบตากัน แล้วก็เข้าไปด้านใน
เฉินถิงเซียวค่อยๆ เปิดโทรศัพท์ออกช้าๆ แล้วก็เปิดการ์ตูนไว้ตรงหน้าเฉินมู่
พอเฉินมู่ได้โทรศัพท์ ก็เริ่มดูการ์ตูนอย่างสนุกสนาน ตั้งใจเป็นพิเศษ
หลังจากจัดแจงเฉินมู่ให้เข้าที่เข้าทางเรียบร้อยแล้ว เฉินถิงเซียวก็หันกลับมามองพวกเขา เสียงของเขาทุ้มลงเล็กน้อย “พูดมา”
เฉินถิงเซียวนั่งพิงเก้าอี้ ขาทั้งสองข้างไขว่ห้าง อิริยาบถสบายๆ คิ้วคม ดูไม่โกรธเคือง