ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 10
ตอนที่ 10 นางไม่เต็มใจตายไปอย่างนี้
โม่จื่อฟงทั้งชีวิตนี้ออกรบมานับไม่ถ้วน ไม่เคยมีใคร กล้าพูดด้วยน้ำเสียงสั่งเช่นนี้กับเขามาก่อนโดยเฉ พาะเรื่องที่สั่งให้’ถอดกางเกง” !
“อีนางข้าจะฆ่าเจ้าตาย! “โม่จื่อฟงกัดฟันพูด
“ก่อนจะฆ่าข้าถอดกางเกงก่อนเถอะ!”หลินซินเยียน ไม่ได้ถอยหนีแม้แต่น้อยตัดสินใจที่จะต่อกรกับเขา
ความหนักแน่นของนางทำให้โม่จื่อฟงตกใจจนลืม ตัวเป็นครั้งแรกหลังจากความเงียบสงัดไปสักพัก โม่ จื่อฟงกลืนน้ำลายลงคอ สุดท้ายก็พูดเสียงลอดไรฟัน ออกมาสองคำ”ต่ำช้า!
“ต่ำช้าแล้วอย่างไรยังดีกว่าไม่ต่ำช้าเช่นนี้อีก ก็แค่ ผู้ชายที่ไม่ใส่กางเกง คนอย่างอาเจ๊ อย่างอื่นไม่กล้า พูด แต่ผู้ชายที่ไม่ใส่กางเกงก็เห็นมานักต่อนักแล้ว”
คงจะเพื่อให้กำลังใจตนเองหรือเพื่อเรียกความกล้า ให้ตนเอง หลินซินเยียนถึงได้พูดโวโอ้อวด
“จริงหรือ”สายตาของโม่จื่อฟงมืดมัวลงอย่างน่ากลัว”เจ้าเคยเห็นก้นของบุรุษมานับไม่ถ้วน งั้นข้าเอ งดูถูกเจ้าไปแล้ว! บรรยากาศรอบๆของชายคนนี้เริ่มแผ่รังสีอันตรา ยออกมา ความรู้สึกอันตรายเช่นนี้ทำให้หลินซินเยียน ตัวสั่นอย่างไม่รู้ตัว ไม่รู้เหตุใดนางถึงอยากเปิดปา
กอธิบาย
“ก็ก็ไม่เท่าไร…”
เมื่อก่อนในหอพักโรงงานมีหญิงที่เสน่ห์ยั่วยวนชำ นาญเรื่องระหว่างชายหญิงเป็นอย่างมาก ใช้คำพูด ของนางก็คือผู้หญิงที่ทำงานได้ดีไม่สู้แต่งงานได้ดีมา แต่ถ้าอยากแต่งงานได้ดีลีลาต้องยอดเยี่ยม ดังนั้น นางถึงลากคนในหอพักมาทดสอบกันในนามว่ารู้เขารู้ เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง อยากจะได้ใจของบุรุษ ย่อมต้องได้ร่างกายของบุรุษก่อน
แม้หลินซินเยียนจะไม่เคยมีแฟนอย่างจริงๆจังๆแต่ ด้วยบุญกุศลของเพื่อนร่วมห้องคนนั้น ร่างกายของ หนุ่มหน้าใสเอย หน้าแก่เอย นางเห็นมาหมดเห็น มาเยอะแล้วก็เลยคิดว่าชำนาญเรื่องแบบนี้แล้ว
“อิ้ม”โม่จื่อฟงไม่พอใจกับคำตอบของนางอย่างเห็นได้ชัด
หลินซินเยียนหน้าแดงเล็กน้อยและรีบเปลี่ยนเป็น อารมณ์เคร่งขรึมเอาจริงเอาจัง”ข้าเคยเห็นหรือไม่เคย เห็นก็ไม่เกี่ยวกับเจ้า ในเมื่อเจ้าไม่กล้าถอดกางเกง เช่นนั้นข้าจะช่วยจัดการแทนเจ้าเอง หากเจ้ารู้สึก เหนียมอายก็ปิดตาซะ”
ท้องฟ้ายามแดดออกสว่างไปทั่วพื้นดิน ใครจะคิด ว่าหญิงสาวที่อายุ10กว่าปีกล้าจะยื่นมือมาดึงกาง เกงของชายแปลกหน้าคนหนึ่ง
“เจ้ากล้า!”ไฟมรสุมก่อขึ้นในใจอย่างไม่มีสาเหตุ น้ำเสียงของโม่จื่อฟงใช้พูดออกมาราวกับน้ำแข็ง เยือกเย็น
เงินทองที่อยู่ตรงหน้าหลินซินเยียนกัดฟันมองผ่าน ความโกรธของเขายื่นมือไปอยู่ตรงสายคาดเอวของ เขาดึงอย่างรุนแรง สายคาดเอวหลุดออกเสื้อผ้าของ เขาเปิดอ้าออกไป
ลายกล้ามหน้าท้องที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อันเย้ายวน พูดได้ก็คือร่างกายของบุรุษผู้นี้ล้วนสมบูรณ์แบบอย่าง ยิ่ง
หลินซินเยียนขาดสติไปชั่วขณะหนึ่งการกระทำกลับ ยิ่งบุ่มบ่ามขึ้นมือจับไปกางเกงของโม่จื่อฟง”เป็นบุ รุษแล้วต้องพูดคำไหนคำนั้น ข้าช่วยเจ้าดูดพิษหลัง จากจบเรื่องเจ้าต้องให้หยกข้าด้วย! ”
บรรยากาศหยุดชะงักในช่วง ขณะนั้นทุกอย่างใน ป่าราวกับเงียบสงัดปราศจากเสียงร้องใดๆ
บังเอิญมีใบไม้แห้งหนึ่งใบร่วงลงมาจากยอดต้นไม้
หล่นใส่ที่หน้าอกของโม่จื่อฟงเกิดความรู้สึกว่าสาย
ไปเสียแล้ว
“เจ้าขาดเงินมากขนาดนี้เลยรึ”หลังจากผ่านไป นานๆ โม่จื่อฟงขมวดคิ้จ้องหลินซินเยียนตาไม่กระ พริบ
หลินซินเยียนไม่ได้เงยหน้าขึ้น นางหลบสายตาของ เข้า”ในโลกนี้มีใครจะไปรังเกียจว่าเงินเยอะหรือ”
“เพื่อเงินไม่ว่าใครไม่ว่าให้เจ้าทำอะไรเจ้าล้วน ทำรี? “เสียงของโม่จื่อฟงดูเย็นชาทันใดนั้นก็จับมือ ของนางที่ดึงกางเกงลงเขาอยู่
หลินซินเยียนก้มหน้าต่ำมุมปากเหยียดยิ้มอย่าง เยาะเย้ยตนเอง” ใช่ไม่มีเงินแล้วจะใช้ชีวิตได้อย่างไร”
“เหอะ” โม่จือฟงส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่าง เหยียดหยามเสี่ยววินาที ต่อไปเขาจับมือเล็กที่นุ่มนวล ของนางและดึงลงมาที่ตำแหน่งสำคัญของบุรุษเพศพ อดี” ในเมื่อเป็นเช่นนี้เรามาเปลี่ยนวิธีถอนพิษดี กว่า!
ใต้มือสัมผัสถึงความรุ่มร้อน หลินซินเยียนที่ผ่าน เรื่องนี้มาก็รู้ดีว่านั่นมันหมายความว่าอย่างไร นางเบิก ตาโตอย่าตกใจ เงยหน้าขึ้นมาและเหยียดยิ้ม”ผู้ชาย ที่แท้ล้วนเป็นสัตว์ที่ใช้ส่วนล่างคิดนี่มันยามไหนแล้ว ยังไม่ลืมเรื่องเช่นนั้นอีกรี”
“เจ้าบอกเองไม่ใช่หรือว่าให้เงินเจ้าก็พอแล้ว หยกนี่ข้าให้เจ้าได้แต่ต้องใช้วิธีของข้าถอนพิษ” โม่ จื่อฟงส่งเสียงฮืออย่างเยือกเย็นใบหน้าปรากฏความ เยือกเย็นและเหยียดหยาม
การเหยียดหยามเช่นนี้มันทิมแทงตาของหลินซิน เยียนนัก นางกัดริมฝีปากแน่นอยากจะตบหน้าชายไร้ ยางอายผู้นี้ไปสักฉาดแต่มือของนางถูกเขาจับไว้อยู่ แม้แต่แรงดึงกลับยังไม่มีเลย
“เจ้าเห็นข้าเป็นเด็กสามขวบอยู่หรือ ทำเรื่องเช่นนี้ แล้วมันจะถอนพิษงูได้อย่างไรกัน”อย่างไรนางก็เรียนจบปริญญาโท เรื่องที่ฝืนกฎเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ เช่นนี้นางจะไปเชื่อได้อย่างไร
โม่จือฟงยักไหล่ขึ้นอย่างไม่รู้สึกหวั่นเกรง”ก็แค่พิษ งูเท่านั้น”เพียงแค่พลังของเขาฟื้นฟูสองขั้น พิษงูเช่น นั้นก็ขับออกไปอย่างง่ายดาย
หลินซินเยียนพยายามเต็มที่คิดจะดึงมือกลับมา แต่แม้เขาจะอยู่ในสภาพจนมุมเช่นนี้ พละกำลังของ เขานางคงจะไม่สามารถขัดขืนได้
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะรู้สึกไม่ดีใจนัก”โม่จื่อฟงพูด เสียงเย็นชา”น่าเสียดายตอนนี้เจ้าไม่มีทางเลือกอื่น แล้ว!สตรีที่เพื่อเงินทองยอมเสียสละทุกอย่าง ข้าไม่ ต้องไปเอาอกเอาใจ!”
พูดจบ ยาเม็ดหนึ่งก็ถูกใส่เข้าไปในปากของหลิน ซินเยียน ยาเม็ดนั้นเมื่อเข้าปากแล้วก็จะละลายทันที ตอนที่หลินซินเยียนคิดจะคายออกมาอย่างสุดชีวิตแต่ มันได้ละลายเข้าไปในท้องแล้ว
“เจ้าให้ข้ากินอะไร? “หลินซินเยียนใช้มือล้วง เข้าไปในคอของตนเองจนน้ำตาไหลออกมา แต่ยา เม็ดนั้นได้ละลายไปแล้ว นางจะพยายามอย่างไรก็ไร้ประโยชน์
โม่จื่อฟงปล่อยมือนางและยืนพิงต้นไม้ด้วยความ เกียจคร้าน “ยังไม่เข้าใจอีกรีเจ้าช่วยข้าถอนพิษ ข้าให้ ยาแก้พิษกับเจ้า ทำไมหรือ เจ้าคิดว่าคนอย่างเจ้าข้า จะเชื่อคำสัญญาจากปากของเจ้ารี”
“เจ้า! “หลินซินเยียนหวาดผวา ชายคนนี้เจ้าเล่ห์ กว่าที่นางคิดไว้มาก
“เร่งมือหน่อย เจ้าไม่ใช่ชอบถอดกางเกง ครั้งนี้ข้า ให้เจ้าถอด! “โม่จื่อฟงหลับตาลงตอนนั้นคล้ายกับว่า มีความเสียใจอยู่ในดวงตา
หลินซินเยียนมองหน้าที่บวมเป่งของเขาไม่มีความ หล่อเหลาแต่ลักษณะท่าทางของเขากลับเหมือน เทพเจ้าสูงส่งงามสง่าแต่ดูเย็นชาห้ามให้คนอื่นเข้า ใกล้
ชายที่ไร้ยางอายผู้นี้ทำไมถึงมีลักษณะท่าทางของผู้ สูงส่งกัน?
หลินซินเยียนกัดปากกำหมัดแน่นแล้วคลายออก เป็นหลายครั้ง ดวงตาเหมือนจะมีน้ำอยู่แต่ถูกนาง บังคับให้กลับไป
มีนักเชี่ยวชาญทางกฎหมายเคยกล่าวไว้ว่าหากผู้ หญิงได้เผชิญหน้ากับอันตรายทั้งหมดล้วนไม่สำคัญ ที่สำคัญก็คือรักษาชีวิตของตนเอง
พูดมันง่ายแต่ตอนที่ตนเองต้องเผชิญกับทางเลือก แบบนี้กลับยากลำบากอย่างมาก! เผชิญหน้ากับชาย แปลกหน้าคนหนึ่งจะไม่ต่อต้านและให้เขาทำลงไปได้ อย่างไร แต่ว่าเพื่อศักดิ์ศรีเชิดหน้าเดินหนีไปอย่างถือ อวดแล้วตายไปอย่างอนาถรี?
นางไม่ยอม!หากตายเช่นนี้นางไม่ยอม!
หากไม่กลัวความตายแล้วจะห่วงเรื่องมีชีวิตอย่า
งอนาถอีกรี?