ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 120
ตอนที่ 120 ไล่ออกไป
หลินซีนเยียนชะงักไปครู่หนึ่งแล้วเบิกตาโพลงด้วยความ แปลกใจ “อาจารย์ ข้าไม่ได้ชอบเขา ตอนนี้ข้าอยากจะ ตั้งใจร่ำเรียนกับท่าน ยังไม่อยากยุ่งเรื่องรักๆใคร่ๆ”
“งั้นหรือ?” ท่านเยว่มองเธออย่างหวาดระแวง ราวกับ ต้องการมองเห็นอะไรจากใบหน้าของนาง หลินซีนเยียน เริ่มทนสายตาของเขาที่จ้องมาแบบนั้นไม่ไหวแล้ว เขาก็ละ สายตาหันไปทางอื่น เพียงถอนหายใจออกมายาวๆ จาก นั้นก็หมุนตัวเดินออกไป
แสงแดดในยามเช้าที่ส่องลงมาที่แผ่นหลังของท่านเยว่ ให้ความรู้สึกอ้างว้างอยู่เล็กน้อย เงาของเขาได้เผยร่าง ที่แท้จริงของเขาออกมา ถึงจะดูเป็นชายที่ผอมกะหร่องจน เห็นกระดูก แต่พอมองให้ละเอียดอีกทีกลับทำให้คนสั่น กลัว เขาในตอนนี้ได้แผ่กลิ่นอายที่เศร้าโศกออกมาทั้งตัว
ในขณะนั้นไม่รู้ว่าทำไม ส่วนที่อยู่รอบๆตาของหลินชืน เยียนเริ่มแดงขึ้น มีอยู่ช่วงหนึ่งเธออยากจะบอกเขา แม้เธอ จะไม่มีคนที่ชอบ แต่เธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่บริสุทธิ์อะไร เธอ สะอึกสะอื้นแล้วเอ่ยเรียก “อาจารย์…”
ชายแก่หยุดเดินทันที เธอเรียกสติคืนมาแล้วจ้องมองที่ เขาอย่างตกตะลึง
“อาจารย์ ท่านยังไม่ทานข้าวเช้าเลย จะออกไปแล้ว หรือ?” แต่ว่า คำพูดเหล่านั้น สุดท้ายเธอก็พูดออกไปไม่ได้ เพียงสะอึกสะอื้นแล้วพูดจาบ่ายเบี่ยง
แววตาของท่านเยว่ฉายแววความผิดหวังออกมา จากนั้น ก็ส่ายหน้า ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เมื่อเรียกสติคืนมาก็เดิน ตรงไปข้างหน้าต่อ
หลินซีนเยียนรู้สึกเสียใจ แล้วก็รียก้มหน้าวิ่งเข้าไปใน ห้องครัว ราวกับควันไฟในเตามีมากเกินไปจนทำให้ดวงตา ของเธอรู้สึกปวดแสบ มีอยู่ชั่วขณะหนึ่งที่น้ำตาได้ไหลออก
มา
แม้จะเป็นเวลาสั้นๆ แต่ความรู้สึกที่มีกลับมีมากจนเอ่อล้น ออกมา เธอได้รับความเป็นห่วงที่จริงใจจากอาจารย์และ พวกศิษย์พี่ เธอไม่มีคุณธรรมและความสามารถ คนที่ได้มา พบพวกเขากลับเป็นคนที่ไม่มีจิตใจเมตตา
บางที ในโลกนี้จะมีเพียงคนกลุ่มหนึ่ง ไม่ต้องรีบร้อนรู้จัก กัน แต่เมื่อได้เข้ามาใกล้ชิดกันก็จะสามารถทุ่มเททุกอย่าง ให้ได้
เมื่อรอเธอทำก๋วยเตี๋ยวเสร็จแล้วเดินออกมา คนที่นั่งทาน ข้าวอยู่ในห้องก็เริ่มจะกินหมดแล้ว เทียนหยุนจือเมื่อเห็นว่า หลินซีนเยียนตาแดงจึงอดไม่ไหวที่จะเอ่ยถาม เป็นอะไร หรือ?”
หลินซีนเยียนฉีกยิ้มอย่างงดงาม ” เปล่า เพียงแต่ควัน เยอะไปหน่อยเลยรู้สึกแสบตา”
“อ๋อ งั้นต่อไปก็ระวังหน่อย กลับไปข้าไปบอกท่านประมุข
ว่า ในเรือนนี้ต้องการเด็กรับใช้สัก 2-3 คน มือของพวกเจ้า
ใช้ทำอาวุธ ไม่ได้ใช้ทำงานหยาบพวกนี้” เทียนหยุนจือดึง
เก้าอี้ออกมาให้เธออย่างอ่อนโยน แล้วดูแลจนเมื่อเธอนั่งลงไป
เซียวฝานและอู่อี้ที่นั่งอยู่ข้างๆมองการกระทำที่เอาใจ ของเขาออก ทั้งสองคนก็แค่นเสียง”หีอย่างเหยียดหยาม ออกมาพร้อมกัน เซียวฝานเป็นคนที่เก็บคำพูดไว้ไม่ค่อยได้ จึงเอ่ยขึ้นมา “ ข้าว่า เรื่องของในเรือนของพวกเราล้วนเป็น พวกเราที่จัดการเอง ไม่ต้องลำบากให้ท่านประมุขน้อยมา คิดเพื่อ ส่วนท่านประมุขน้อย ก๋วยเตี๋ยวท่านก็ทานเสร็จ แล้ว ตำราก็ให้แล้ว ควรจะไปได้แล้วไม่ใช่หรือ? อีกเดี่ยว พวกเราต้องทำงานแล้ว พอถึงเวลานั้นหากต้องการของเขา กลับไม่มี มันจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของศาลาความ ลับแห่งสวรรค์เอาได้ ”
วิธีไล่คนตรงๆแบบนี้ มีเพียงเชียวฝานที่กล้าทำ
เทียนหยุนจือราวกับชินกับคำพูดคำจาของเซียวฝาน แล้ว ดังนั้นเพียงแค่ขมวดคิ้วเล็กน้อย หลังจากที่บอกลา หลินซีนเยียนแล้วก็เดินจากไป ก่อนที่จะเดินไปเขายัง กำชับอีกครั้งว่าถ้าหลินซีนเยียนไม่เข้าใจตรงไหน สามารถ ไปหาได้โดยตรง
พอเข้าก้าวออกไปแล้ว เซียวฝานกับอู่อี้ก็มานั่งข้างหลิน ซีนเยียน ทั้งสองคนตักเตือนหลินซีนเยียนจนปากเปียก ปากแฉะ ผู้ชายมาเอาใจผู้หญิงมันมีเจตนาไม่ดี เธอเป็น เพียงสาวน้อยต้องรักษาระยะห่างเท่าไรกับพวกศิษย์เหล่า นั้น เมื่อหลินซีนเยียนฟังก็รู้สึกซาบซึ้งจนพูดอะไรไม่ออก
เมื่อดวงอาทิตย์ลอยมาอยู่บนศีรษะอย่างช้าๆ หลังจากที่ เสี่ยวฝานกับอู่อี้ไปทำงานในห้อง ในลานบ้านก็เหลือเพียงแค่หลินซีนเยียน
ในยามที่แสงแดดอบอุ่น เธอจึงหยิบตำราค่ายกลพื้นฐาน ออกไปอ่านที่ด้านนอก เดินอยู่ในหุบเขาไปรอบหนึ่ง เมื่อ เดินตรงไปตลอดริมลำธารเธอก็พบสถานที่เต็มไปด้วย ดอกไม้ผลิบาน
เธอสุดลมหายใจเข้าลึกๆ แม้แต่รูขุมขนก็ได้สัมผัส อากาศที่บริสุทธิ์ เธอรู้สึกสบายเนื้อสบายตัวมากเหลือเกิน เธอหาก้อนหินที่มีแสงแดดส่องถึงแล้วนั่งลง จากนั้นก็ ค่อยๆเปิดตำราขึ้นมาอ่าน
“เอ่อ นี่คือ…” เพียงเปิดอ่านหน้าแรก หลินซีนเยียนอดไม่ ไหวที่จะตะโกนออกมาอย่างตกตะลึง เมื่ออ่านคำอธิบาย ประกอบที่เขียนเต็มหน้ากระดาษ เธอถึงกับเรียกสติคืนมา ไม่ได้
มิน่าล่ะเมื่อคืนพวกท่านเยว่ไปห้องตำราของเทียนหยุนจี อกลับหาตำราเล่มนี้ไม่เจอ ดูเหมือนว่าตอนนั้นเขาจะเอา หนังสือไปเขียนคำอธิบายประกอบเพิ่มอยู่ในห้องอย่าง แน่นอน
การเอาใจใส่ของเทียนหยุนจือทำให้เธอถึงกับหวั่นไหว เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าผู้ชายคนหนึ่งจะมีด้านที่ละเอียด ลออแบบนี้ด้วย รู้ว่าเธอไม่มีพื้นฐานอะไรเลย เดิมทีใน หนังสือพื้นฐานเหล่านี้เขากลับเขียนความคิดเห็นและคำ อธิบายประกอบของเขาเพิ่มให้
“ดูเหมือนว่า ต่อไปต้องอยู่ให้ห่างเทียนหยุนจือจริงๆแล้ว” ถ้าตอนนี้เธอยังไม่รู้ว่าเทียนหยุนจือมีใจต่อเธอแล้ว เธอก็คงจะไร้เดียงสาเกินไป
เธอไม่เคยเชื่อว่าระหว่างชายกับหญิงจะสามารถเป็น เพื่อนกันได้อย่างบริสุทธิ์ใจ ตอนที่มีผู้ชายคนหนึ่งมาทำดี กับคุณ หากว่ามันทำเป็นมากกว่าเพื่อนทั่วไป ถึงคุณจะไม่ ได้คิดอะไรก็คงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะคุณรู้ดี แต่ก็ยัง หลอกตัวเองและหลอกคนอื่นว่าเป็นเพียงเพื่อนเท่านั้น นั่น มันเป็นการเสแสร้งว่าเป็นคนใสซื่อไม่ใช่เหรอ?
เธอก็เลยวัยว้าวุ่นนั่นมาแล้ว ดังนั้น ในเมื่อรู้ถึงความ จริงใจแบบนั้นแล้วก็ต้องรีบทำลายลงตั้งแต่แรก ควรจะให้ เขาไปเจอคนอื่น ดีว่าปล่อยให้มันถลำลึกจนเกินไป
เมื่อได้อ่านคำอธิบายประกอบของเทียนหยุนจือแล้ว เดิม หลินซีนเยียนไม่เข้าใจอะไรเลย ตอนนี้เริ่มเข้าถึงความ ลึกลับของค่ายกลแล้ว อะไรคือแผนภูมิธาตุทั้ง 5 อะไรคือ ภูมิประเทศ อะไรคือปรัชญาฮวงจุ้ย เมื่อนำสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป ใช้กับค่ายกลแล้วก็จะสามารถเกิดพลังมหัศจรรย์ได้
เธอยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกสนใจอย่างมาก พออ่านก็ไม่รู้ตัวว่าได้ อ่านมาเกือบทั้งวันแล้ว เมื่อรู้สึกตัวอีกทีมาก็เห็นว่าดวงอาทิ ยต์ได้ตกดินไปแล้ว
อ่านหนังสือมาทั้งวันจนลืมแม้กระทั่งข้าวเที่ยง พอรู้สึก ตัวอีกทีท้องของเธอก็ส่งเสียงร้องโครกครากออกมา เธอ ตบไปที่ท้องแล้วรีบเดินกลับไป
ตอนที่เดินกลับ เมื่อต้องเดินผ่านร้านค้าที่ขายงานฝีมือ เธอต้องเร่งฝีเท้าเข้าไปอีก พอมาถึงปากทางก็ได้ทางข้าง หน้าได้ส่งเสียงเอะอะโวยวายกัน หากว่าเป็นคนอื่นก่อเรื่องเธอเพียงแค่ดูแวบหนึ่งแล้วก็จากไป แต่หากคนผู้นั้นเป็นไม่ จื่อเฟิง ฝีเท้าของเธอก็หยุดลงทันที
เห็นว่าศิษย์ฝ่านในกำลังล้อมโม่จื่อเฟิงอยู่หลายคน ใน จำนวนนั้นได้ถือกระบี่ชี้ไปยังโม่จื่อเฟิง “ไน่เหอฮวนใช่หรือ ไม่ เจ้าบังอาจมารังแกคุณหนูหยุนชิง วันนี้พวกข้าต้องสั่ง สอนเจ้าให้ได้ ! คุณหนูหยุนชิงเป็นคนที่เจ้าสามารถมารังแก ได้อย่างตามใจหรือ?”
“รังแกหรือ?” ใบหน้าของโม่จื่อเฟิงยิ้มอย่างเย็นชา สายตากลับมองทะลุผ่านฝูงคนไปยังหลินซีนเยียน เขาก็ แค่นเสียงแล้วเอ่ย “หากไม่กินขนมที่นางส่งมานี่ถือว่ารังแก งั้นคนที่ข้าเคยรังแกก็คงจะมีมากจริงๆ”