ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 160
ตอนที่160ปิดล้อม
เมื่อเฉินซานเห็นรอยสักบนตัวของคนเหล่านั้นก็ดึงตัว หลินซีนเยียนไปอยู่ด้านหลังจากนั้นก็หยิบตั๋วเงินที่พับซ้อน กันอยู่ออกมาจากในเสื้อ”พี่ใหญ่แก๊งเสือเงินทุกท่านน้อง สาวของข้าสุขภาพไม่ดีนักเกรงว่าจะรับใช้พวกพี่ใหญ่ไม่ ได้หวังว่าพวกพี่ใหญ่จะให้อภัยตั๋วเงินเหล่านั้นมอบให้พวก พี่ใหญ่ขอให้พวกพี่ใหญ่ไปเที่ยวเล่นถนนด้านข้างนี้เถอะ”
ถนนด้านข้างเป็นถนนของหอโคมเขียวที่แห่งนั้นล้วนมีผู้ หญิงหลายรูปแบบเฉินซานเอาตั๋วเงินสอดในมือของชาย ฉกกรจ์ที่อยู่ด้านหน้า
เดิมชายฉกรรจ์ผู้นั้นไม่พอใจอยู่แล้วจึงอยากจะโยนตั๋ว เงินนั่นทิ้งไปใครจะรู้พอกวาดตามองจำนวนเงินบนตั๋วแล้ว ทันทีนั้นก็รีบชักมือกลับใบหน้าแสดงความโกรธเคือง”เห็น เจ้าแบบนี้แต่ว่าข้าไม่ใช่ว่าอะไรก็ตามนั้นเจ้ารอก่อนเดี่ยว ข้าจะไปถามพี่ใหญ่ให้”
ชายฉกรรจ์ผู้นั้นถือตั๋วเงินแล้วเดินขึ้นบันไดไปเหลือ เพียงกลุ่มคนที่ยืนล้อมหลินซีนเยียน
หลินซีนเยี่ยนรู้ว่าวรยุทธ์ของเฉินซานสามารถจัดการ พวกเขาได้อย่างง่ายดาย แต่การใช้เงินฟาดหัวเป็นวิธีที่ไม่ ดึงดูดสายตาคนเพียงแค่ใช้อำนาจบาตรใหญ่เท่านั้นแต่ก็ ทำให้หลินซีนเยียนรู้สึกนับถืออย่างมากหมิงฉีผู้นี้มีเงินมาก แค่ไหนกันถึงจะมาเป็นเศรษฐีใหม่อวดรวยแบบนี้เพิ่งครู่เธอ แอบเห็นจำนวนเงินในตัวเงินทุกใบล้วนเป็น1พันตำลึงแผ่นที่พับซ้อนกันอยู่นั้นอย่างน้อยน่าจะถึงหมีนตำลึง
เงินหมื่นตำลึงสามารถเลี้ยงปากท้องคนในตระกูลได้ หลายปีสิ่งที่เขียนด้วยมือเช่นนี้ทำให้คนพูดกันไม่ออกเลย จริงๆ
ชายฉกรรจ์ที่ขึ้นบันไดไปเดินลงมาอย่างรวดเร็วเดินมา ข้างหน้าของทั้งสองด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย”ไอหยาต้อง ขออภัยอย่างยิ่งพี่ใหญ่ข้าบอกว่าเงินสามารถหาได้แต่สาว งามเช่นนี้ไม่ได้พบเจอได้ทุกวันแม่นางที่หอโคมเขียวยัง งามสู้สาวงามท่านนี้ไม่ได้ดังนั้นพวกเจ้านะเอาเงินและสาว งามทิ้งเอาไว้ส่วนเจ้ารีบไสหัวไปพวกข้าสามารถปล่อยเจ้า ไปได้”
เมื่อมีคนก่อเรื่องคนในโรงน้ำชาก็จะมามุงดูทันทีแต่เมื่อ เห็นแก๊งเสือเงินก่อเรื่องอยู่ทุกคนจึงรีบเอาหูไปนาเอาตาไป ไร่กันกลัวว่าจะทำให้ตนเองเดือดร้อนไปด้วย
“พี่เฉินซาน …”หลินซีนเยียนเอ่ยขอโทษแต่ยังไม่ทันได้ พูดออกไปเฉินซานก็จับแขนของหลินซีนเยียนแล้วถีบชาย ฉกรรจ์ที่อยู่หน้าสุดคนหนึ่งจากนั้นก็ดึงเธอวิ่งออกไปจาก ช่องว่างนั้น
การเคลื่อนไหวของเฉินซานนั้นคล่องแคล่วอย่างมาก เพียงดึงหลินซีนเยียนไปด้วยโดยไม่รู้สึกหวั่นเกรงทั้งสอง คนวิ่งไปสักพักด้านหลังก็มีชายฉกรรจ์เหล่านั้นวิ่งตามมา อย่างไม่ลดละ
เดิมบนถนนใหญ่มีผู้คนอยู่มากมายเมื่อมีหนึ่งวิ่งหนึ่งไล่ มาก็กลายเป็นที่ดึงดูดสายตาของทุกคนทันทีหลินซีนเยี่ยนรู้สึกหน้าชาเธอไม่กลัวพวกชายฉกรรจ์ที่วิ่งตามมาอยู่ข้าง หลังแต่กลัวว่าในนี้จะมีสายลับของโม่จื่อเฟิงอยู่ด้วยหากว่า เขาพบเห็นเข้าเรื่องนี้คงจบไม่สวยแน่
พวกที่ไล่ตามมาอยู่ด้านหลังต่างก็เหงื่อแตกซิกมีคนหยิบ
พลุส่งสัญญาณออกมาแล้วจุดขึ้นไปบนฟ้าเสียงดังจากนั้น ก็มีคนมาล้อมด้านหน้าของพวกหลินซีนเยียนอย่างรวดเร็ว คนบนถนนที่เดินผ่านไปมาเห็นคนของแก๊งเสือเงินก่อ
เรื่องขึ้นก็รีบถอยหนีออกไปไม่ทันไรเสียงแตกตื่นบนถนน
ใหญ่ก็เงียบลงทันที
ตอนนี้ไม่ต้องรอให้เฉินซานอธิบายหลินซีนเยียนก็รู้ได้ว่า แก๊งเสื้อเงินย่อมเป็นองค์กรมืดของเมืองชายแดนแถบนี้ที่ ใหญ่ที่สุด
ก่อนที่จะโดนล้อมเฉินซานได้พาหลินซีนเยียนวิ่งไปอย่าง ไม่หยุดพอเห็นว่าแก๊งเสื้อเงินสามารถรวบรวมคนกว่าร้อย คนได้ในเวลาอันสั้นไม่ว่าเฉินซานจะเก่งกาจแค่ไหนก็ไม่ สามารถต่อกรกับศัตรูร้อยกว่าคนได้ซ้ำยังต้องคุ้มครอง ความปลอดภัยของหลินซีนเยียนอีกเขาจึงรู้สึก กระวนกระวายขึ้นมาบนหน้าผากก็ท่วมทะลักไปด้วยเหงื่อ
“แม่นางหลัวเจ้าเป็นผู้มีพระคุณของนายท่านแม้ว่าข้าจะ ตายก็จะไม่ยอมให้เจ้าเป็นอะไรไปอีกเดี๋ยวข้าจะเปิดทาง ให้เจ้าวิ่งหนีไป!”เฉินซานออกคำสั่ง
“เช่นนั้นแล้วเจ้าล่ะ?”คิ้วของหลินซีนเยียนขมวดเข้าหา กันในใจก็กังวลขึ้นมา
“เป้าหมายของพวกเขาคือเจ้าเจ้าหนีไปแล้วข้าถึงจะมีวิธี ผละตัวออกได้อีกอย่างหากเจ้าอยู่ก็ช่วยอะไรไม่ได้” คำพูด ของเขาเธอเห็นด้วยอย่างมากหากเธอรั้งอยู่ต่อก็มีแต่เป็น ตัวถ่วง
ดังนั้นเธอจึงรีบพยักหน้าเอ่ย”ได้!”
เมื่อคนมาทยอยกันเข้ามาปิดล้อมเฉินซานไม่รู้สึกกลัวแต่ อย่างใดเขาเริ่มจู่โจมด้วยตนเองแล้วดึงหลินซีนเยียนไป ด้านหน้าจากนั้นก็หยิบกริชออกมาปาดคอของชายฉกรรจ์ คนหนึ่งเลือดสดก็พุ่งกระเด็นออกมาเขาก็ไม่กระพริบตา เลยสักวินาทีเดียวเขาจัดการไปทีละคนโดยไม่ลังเลหรือ กังวลใจเลยแม้แต่นิด
ที่แท้เขาเพียงทุ่มสุดตัวเพียงเพื่อจะเปิดทางจากกลุ่มคน ที่ปิดล้อมอยู่จากนั้นเขาก็จับแขนของหลินซีนเยียนแล้ว โยนไปด้านหน้าหลังจากที่หลินซีนเยียนรู้สึกถึงความ ชุลมุนนี้เธอก็หยุดอยู่ด้านนอกของวงล้อมแล้ว
เธอไม่ได้หันกลับไปเดิมก็ไม่อยากเห็นฉากนองเลือดที่ อยู่ด้านหลังเธอเพียงก้าวเท้าวิ่งมุ่งไปยังโรงเตี๊ยมตลอดเธอ อยากให้คนของหมิงฉีไปช่วยเฉินซาน!หากว่าเฉินซานตาย ด้วยน้ำมือของคนเหล่านั้นเพื่อปกป้องเธอแล้วเธอคงต้อง ทุกข์ใจไปตลอดชีวิต!
หากรู้ว่าผลลัพธ์ของการออกมาแบบนี้ล่ะก็เธอยอมอยู่ใน ห้องแล้วฟังเสียงหัวใจเต้นหน้าแดงนั้นดีกว่าก็แค่รู้สึกอึดอัด เองดีกว่าทำให้เฉินซานต้องเสี่ยงตายแบบนี้!
น่าเสียดายโลกใบนี้ไม่มียารักษาความเสียใจภายหลังในเมื่อตอนนี้เรื่องได้เกิดขึ้นแล้วดังนั้นก็ทำได้เพียงแต่ชุดเชย
มัน
เธอวิ่งไปอย่างสุดชีวิตราวกับใช้พลังเกิดขีดจำกัดขาทั้ง สองข้างของเธอไม่รู้สึกอะไรอีกต่อไปเธอรู้แต่เพียงว่าห้าม หยุดวิ่ง!
อาศัยเพียงความเพียรพยายามนี้ไม่ทันไรเธอก็วิ่งกลับมา ถึงโรงเตี้ยมเธอไม่สนว่าคนล้อมข้างก็ส่งสายตาแปลกๆมา เพียงมุ่งฝ่าตรงไปยังด้านหลังโรงเตี๊ยมและไม่สนใจสาวงา มกับหมิงฉีกกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันหรือไม่เธอเพียงวิ่งบุก ฝ่าประตูเข้าไป
“หมิงฉี!ไปช่วยเฉินซานเร็วเข้า!”หลินซีนเยียนบุกเข้าไป ในห้องแล้วตะโกนดังลั่น
สาวงามที่กำลังสวมชุดให้หมิงฉีอยู่พลันตกใจจึงส่งเสียง ร้องออกมาส่วนหมิงฉีเพียงมองหลินซีนเยียนที่เดินเข้ามา อย่างเย็นชาสายตาของเขาชะงักไปครู่หนึ่งในดวงตา ปรากฏหญิงสาวผู้งดงามจากนั้นคิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน แล้วเดินพุ่งไปแล้วดึงหลินซีนเยียนเข้ามาสู่ในอ้อมอก
หลินซีนเยียนยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นเพียงเห็นมีดที่ ร่วงลงมาจากในมือของเขาแล้วเลือดสดก็พุ่งกระเด็นออก มาเมื่อเธอเงยหน้าไปมองก็เห็นว่าด้านหลังของตนมีชายฉก รจจ์คนหนึ่งล้มลงไปชายฉกรรจ์ผู้นั้นยังตามเธอเข้ามาใน นี้
“เจ้าคือหลัวเหยียนหรือ?”หมิงฉีไม่กล้าเชื่อว่าสาวงามล่ม เมืองนางนี้ก็คือสตรีที่ใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดคลุกฝุ่นคนนั้น
หลินซีนเยียนไม่มีเวลาจะตอบคำถามของเขา”ตอนนี้ ไม่ใช่เวลาพูดเรื่องนี้เฉินซาน!เจ้าบอกให้คนไปช่วยเฉิน ซานเร็ว!”เธอร้อนใจมากเดิมไม่สนใจมือของหมิงฉีที่ยังคง โอบรัดเอวของเธออยู่ในขณะนี้
หมิงฉีราวกับไม่รีบร้อนเพียงโอบรัดเธอแล้วเดินมาที่หน้า ประตูเอ่ยเสียงเรียกไม่ดังมากเดิมดูไม่ออกว่ามีคนหลบ ซ่อนอยู่ที่ไหนพอมีเสียงเรียกดังขึ้น”พวกเจ้ามัวรออะไร อยู่?รีบไปช่วยเร็ว!”
คนเหล่านั้นต่างวิ่งออกไปจากลานบ้านอย่างรวดเร็ว
เมื่อหลินซีนเยียนเห็นคนเหล่านั้นรีบออกไปช่วยแล้วถึง จะรู้สึกเบาใจหน่อยทันใดนั้นก็รู้สึกว่ามีมือขนาดใหญ่โอบ อยู่ที่เอวเธอหันหน้ากลับมองอย่างความสงสัยสีหน้าไม่ พอใจ”เจ้าปล่อยมือได้แล้วหรือยัง?”
หมิงฉีชักมือกลับมาอย่างแรง”ข้าดึงเจ้ามาก็เพื่อช่วยเจ้า เจ้าไม่รู้จักสำนึกในบุญคุณทำไมยังจะโทษข้าอีกหรือ?”