ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 197
ตอนที่ 197 นายน้อยในจวนอ๋อง
เรือนหลังของจวนอ๋อง ในลานบ้านที่มีพื้นที่กว้าง ขวาง เหล่าสาวใช้ต่างเร่งทำความสะอาดกันยกใหญ่ ได้ยินว่าครั้งนี้คนที่ท่านอ๋องพากลับมาด้วยเป็นบุตร บุญธรรมที่ท่านอ๋องเพิ่งรับเข้ามา แม้จะเป็นบุตร บุญธรรมแต่ก็เป็นเด็กคนแรกที่ท่านอ๋องรับมา อีกทั้ง เด็กคนนี้ท่านอ๋องยังไปรับกลับมาด้วยตนเอง รู้ได้เลย ว่าในสายตาของท่านอ๋องเด็กคนนี้ถือว่ามีความสำคัญ อย่างมาก
ภายใต้การคาดเดาของหลายคน เด็กคนนี้อาจจะ เป็นทายาทของท่านอ๋องจากนอกจวนจริงๆหรือไม่? แต่ไหนแต่ไรท่านก็ไม่ได้รับคนแปลกหน้าเข้าจวนหรือ ต้องตาผู้ใด ยิ่งไปกว่านั้นเด็กที่เพิ่งเกิดคนหนึ่ง ใครก็ ไม่เชื่อว่าท่านอ่องเพียงเห็นเด็กที่เกิดใหม่แล้วมีความ รู้สึกผูกพันเยี่ยงนี้
ข่าวลือไม่ใช่ว่าจะไม่มีมูลเสียเลย เรื่องที่เกิดย่อม มีสาเหตุ ที่จริงเหล่าคนในจวนอ่องแม้จะไม่มีผู้ใด ปริปาก แต่ในใจได้ให้เด็กที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตามา ก่อนเป็นทายาทที่แท้จริงของท่านอ๋องแล้ว
โดยเฉพาะตอนที่เห็นท่านอ่องอุ้มสตรีนางหนึ่งลง มาจากรถม้าด้วยตนเอง แล้วยังอุ้มนางเข้าไปในเรือน หลัง ยิ่งพิสูจน์ยินยันตรงกันกับการคาดเดาภายในใจ ของผู้คนได้มากขึ้นอีก
หลินซีนเยียนหลับตามาตลอดทาง แสร้งทำเป็น นอนหลับ แต่กลับรู้สึกถึงสายตาที่มองจากคนรอบๆ เหล่านั้นได้อย่างชัดเจน โม่จื่อเฟิงเป็นบุรุษบางที่อาจ จะไม่เข้าใจความคิดของพวกเขา แต่เธอหลินซีนเยียน กลับสามารถคาดเดาได้
เมื่อก่อนตอนที่เธอเป็นผู้หญิงของโม่จื่อเฟิงแล้ว เข้าจวนอ๋องมาก็ได้รับการดูถูกเหยียดหยามจากเหล่า สาวใช้และคนใช้ แต่พอตอนนี้เธอได้เป็นมารดาของ บุตรบุญธรรมของโม่จื่อเฟิงแล้วเข้าจวนอ๋องกลับรู้สึก ได้รับการเคารพนับถือจากพวกเขาอย่างมาก
แนวคิดของชนชั้นที่น่าเศร้าของสังคมนี้ ใน สายตาของพวกเขามีเพียงฐานะของคนที่แบ่งตาม ระดับชนชั้นต่างๆเท่านั้น เจ้าเป็นคนประเภทไหนก็เป็น ได้เพียงคนประเภทนั้น ไม่ว่าเจ้าจะทำอะไรก็ไม่ สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดของพวกเขาได้
โม่จื่อเฟิงอุ้มหลินซีนเยียนเดินเข้าในห้องแล้ววาง ลงบนเตียง แล้วเอ่ยเรียกแม่นมที่ใช้งานได้ 2 คนมา ปรนนิบัติอยู่ข้างเตียงด้วยตนเอง จากนั้นก็หมุนตัวแล้ว เดินออกไปอย่างรอไม่ไหว
เมื่อจินมู่เห็นเขารีบเดินออกมาราวกับโกรธเคือง ในขณะที่กำลังสงสัยแล้วยังเรียกสติกลับคืนมาไม่ได้ โม่จื่อเฟิงก็แย่งเด็กในมือของเขาอย่างเดินจากไป
มุมปากของจินมู่กระตุก ในใจรู้สึกเศร้า ท่านอ่อง การแสดงออกและการกระทำของท่าน เห็นได้ชัดว่านายน้อยที่อยู่กับเขาแล้วไม่ได้รับความเป็นธรรม สวรรค์รู้ดีว่าทุกการเคลื่อนไหวของเขานั้นระมัดระวัง อย่างมาก อีกนิดเดียวก็จะส่งนายน้อยคืนให้แล้ว แต่ เรื่องนี้ทำให้จินมู่มั่นใจได้อย่างยิ่งว่าต่อไปเรื่องที่เกี่ยว กับนายน้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ ทั้งหมดต้องเอาหัวมาเป็นประกันแน่!
ไม่นานแม่นมที่ถูกหามา แต่ละคนจะมีแม่นมเดิน นำเข้าไปในห้องของโม่จื่อเฟิง แม่นมรู้สึกแปลกใจมาก แม้จะเป็นบุตรบุญธรรมก็เป็นเด็กที่เพิ่งเกิด ไม่ควรอยู่ ข้างกายมารดาหรอกหรือ?ท่านอ๋องกลับพามาอยู่ใน ห้องด้วยตนเองเช่นนี้มันหมายความว่าอะไร?
” เหตุใดถึงมีแค่ไม่กี่คน? ” โม่จื่อเฟิงนั่งอุ้มเด็กอยู่ บนเตียง จ้องมองแม่นมที่มีอายุและรูปร่างหน้าตาแตก ต่างกันกำลังยืนเรียงแถวอยู่อย่างเย็นชา
เมื่อแม่นมได้ยินก็รับคุกเข่ากล่าวโทษ ” ท่านอ่อง คนเหล่านี้มีไม่น้อย แม่นมอีกสิบกว่าคนที่บ่าวออกไป ตามหามาทั้งคืนตอนนี้แม่นมในเมืองเฟิ่งซีแห่งนี้ บ่าวได้ เชิญมาแล้วเพคะ “ก็แค่เด็กคนหนึ่งจะสามารถดื่มนม ได้มากน้อยแค่ไหนกันเชียว แม่นมสิบกว่าคนนี้คงพอที่ จะดื่มจนอิ่มแล้วกระมัง
แม่นมโขกศีรษะลงพื้นไม่หยุด สีหน้าของโม่ จื่อเฟิงไม่มีความอบอุ่นเลยสักนิด เขาลุกขึ้นยืน อุ้มเด็ก เดินมาตรงหน้าของแม่นมที่ยืนเรียงแถว เริ่มตั้งที่คน แรก โม่จื่อเฟิงก็ไม่พอใจอย่างยิ่ง
“อัปลักษณ์เช่นนี้ หากบุตรบุญธรรมของข้าดื่ม
น้ำนมของนางแล้วมีหน้าตาอัปลักษณ์จะทำเช่นไร? ออกไป!” โม่จื่อเฟิงกล่าววาจาไร้ไมตรีจิตจนทำให้ แม่นมคนนั้นตกใจจนร้องไห้
” แล้วคนผู้นี้อีก อายุมากเช่นนี้ น้ำนมคงไม่สด ใหม่! ไสหัวไป” โม่จื่อเฟิงมาหยุดตรงหน้าแม่นมคนที่ สอง ในใจของแม่นมคนนั้นพังทลายลง นางอายุมาก แล้วมันเกี่ยวอะไรกับน้ำนมไม่สดใหม่หรือ?ที่แท้ท่าน อ๋องผู้นี้มีนิสัยโหดเหี้ยมสมกับคำเล่าลือจริงๆ
นี่ก็อีกคน ใบหน้ามีผื่น หากนำมาติดบุตร บุญธรรมของข้าจะทำเช่นไร?”
“ทางนั้นก็อีกคน ใบหน้าใหญ่กว่าจานขนมไหว้ พระจันทร์ หามาบดบังการมองเห็นของบุตรบุญธรรม ของข้าแล้วใครจะรับผิดชอบ?”
นี่ก็อีกคน ผิวดำขนาดนี้ ยามดึกหากทำให้บุตร บุญธรรมของข้าตกใจจะทำเช่นไร?”
โม่จื่อเฟิงมองทีละคนทีละคน สุดท้ายก็ไม่พอใจก็ ไล่ออกไปจนหมด เมื่อแม่นมที่นั่งคุกเข่าอยู่ได้ยินก็ยิ่ง รู้สึกตื่นตระหนกจนเนื้อเต้น หากท่านอ๋องไม่มีความสุข เพียงขยับนิ้วก็สามารถพรากชีวิตแก่ๆของนางได้ไป!
“ท่านอ๋อง ท่านอ๋อง แม่นมในเมืองเฟิ่งซีมีมากมาย ดีร้ายอย่างไรท่านต้องเหลือไว้คนสองเพื่อให้นมนาย น้อยนะเพคะ วันรุ่งขึ้นบ่าวจะไปตามหานอกเมือง ต้องหาแม่นมที่ทำให้นายท่านพอใจได้อย่างแน่นอน!”
เดิมโม่จื่อเฟิงกำลังจะไล่สองคนสุดท้ายไป เมื่อ ได้ยินแม่นมเอ่ยขึ้นมาก็หยุดการกระทำ แล้วทอดถอน หายใจอย่างจนใจ ในที่สุดในจำนวนอัปลักษณ์ทั้งหมด ก็ฝืนใจบังคับเลือกแม่นมที่เข้าตาไว้ 2 คน
แม่นมทั้ง 2 คนนั้นไม่ใช่ดีใจจนร้องไห้ แต่ยังโดน ท่านอ๋อนที่โหดเหี้ยมข่มขู่จนตกใจร้องไห้ไม่ว่าจะ ร้องไห้แล้วก็ตาม แต่พอได้ยินคำพูดของท่านอ๋องก็ ทำให้น้ำตาของทั้งสองคนหยุดไหลทันทีทันใด
เพราะท่านอ๋องได้พูดจาสุดแสนจะร้ายกาจ พวก นางร้องห่มร้องไห้แงๆเช่นนี้ หากทำให้บุตรบุญธรรม ของเขาเห็นแล้วเรียนแบบร้องไห้ตาม เขาจะควักลูกตา ของพวกนางออกมา!
ในคืนนี้ จวนอ่องครึกครื้นราวกับเทศกาลปีใหม่ก็ ไม่ปาน เห็นได้ชัดว่ามีเพียงคนตัวเล็กคนใหญ่สองคนที่ เข้ามา กลับทำให้ทุกคนในจวนอ๋องต่างยุ่งวุ่นวายกัน อย่างมาก
ณ ลานบ้านที่งดงามหรูหราแห่งหนึ่งในเรือนหลัง เซียวฉางเยว่เพิ่งตื่นนอนก็ได้ยินเสียงจ้อกแจ้กจอแจ ดังเข้ามา นางไม่พอใจจึงเอ่ยถามสาวใช้เฝ้ายามที่อยู่ ข้างเตียง ” ออกไปดูสิว่าเกิดเรื่องอะไร ดึกดื่นเช่นนี้ยัง มารบกวนการพักผ่อนของพระชายาเอกอีก!”
สาวใช้คนนั้นรีบลุกขึ้นแล้วเดินไปถามในห้องครัว ไม่ทันไรก็กลับมา แต่ตอนที่จะเอ่ยตอบกลับ กระวนกระวายจนลิ้นพันกัน ” เป็นมู่เหอคนรับใช้ส่วนตัวของท่านอ๋องกำลังเลือกสาวใช้ที่พอใช้ได้จากทุก เรือนอยู่เพคะ”
เลือกสาวใช้ที่พอใช้ได้ไปทำอะไรหรือ?” คิ้วของ เซียวฉางเยว่ขมวดติดกัน พลันจ้องตาเขม็ง
สาวใช้คนนั้นก้มหน้าลง ” มู่เหอบอกว่า ท่านอ๋องมี คำสั่ง ต้องเลือกสาวใช้ที่พอใช้ได้แล้วดูดีไปปรนนิบัติ นายน้อยจากนอกจวน หากจะให้นายน้อยเห็น ต้องมี รูปร่างหน้าตาดีสามารถทำให้คนพึงพอใจได้เพคะ ”
เมื่อสาวใช้พูดจบ เดิมไม่กล้ามองใบหน้าของเซียว ฉางเยว่ นางเป็นคนของเรือนนี้ เซียวฉางเยว่เป็นคน อย่างไรนางล้วนรู้เป็นอย่างดี ที่แท้สาวใช้กำลังยืนตัวสั่นเทิ้ม พลันมีรองเท้าข้าง
หนึ่งโยนมาใส่ร่างของตนเอง
“ เมื่อครู่เจ้าพูดเหลวไหลอะไร! นายน้อยที่ไหนใน จวนอ่อง เจ้ารังแกที่พระชายาเอกไม่มีทายาทให้ท่าน อ่องใช่หรือไม่? เรื่องนี้พวกคนชั้นต่ำอย่างเจ้ามากดดัน พระชายาเอกได้ที่ไหนกัน!” เซียวฉางเยว่แผดเสียง