ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 273
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่ 273 กล้าแตะต้องผู้ชายของข้าข้าจะฆ่า เจ้า
ยิ่งช่วงเวลาที่อยากทำให้คนบ้าคลั่ง ก็ยิ่งต้อง ควบคุมอารมณ์ของตนเอง หากว่าถูกเพลิงโทสะโชติ ช่วงในดวงเนตร ยิ่งทำให้ศัตรูมีชัยอย่างง่ายดาย
หลินซีนเยียนนึกอยากจะร่วมเส้นทางล่มจมย่อย ยับกับอวินเสี่ยวยิงยิ่งนัก ทว่า จ้องมองไปยังใบหน้า ของโม่จื่อเฟิง นางก็นึกถึงเสี่ยววี่จิ่งที่ยังนอนแบเบาะ เค้าหน้าของเสี่ยวสวี่จิ้งนั้นถอดแบบมาจากโม่จื่อเฟิง ไม่ผิดเพี้ยน ขนงเนตรนั้นคล้ายคลึงกันถึงเจ็ดส่วน นึกถึงเสี่ยววี่จิ่ง ในใจลึกๆ ของหลินซีนเยียนกำลัง แผดคำราม บอกตัวเองเป็นระยะๆ ว่าจะต้องใจเย็น
โม่จื่อเฟิงมิใช่คนที่จะติดกับได้ง่ายดายเพียงนั้น นางเชื่อมั่นในความสามารถของเขา โดยเฉพาะหลัง จากเรื่องราวที่ผ่านมาเมื่อครั้งก่อน นางคิดว่าเขาจะ ต้องยิ่งเพิ่มความระแวดระวังมากขึ้นเป็นแน่ ดังนั้น ครั้งนี้ ต้องมีปัจจัยทำให้เขาก้มหน้ายอมรับแน่นอน!เ
เป็นอะไรกันเล่า เสี่ยววี่จิ่ง หรือว่าความมั่นคง ของบัลลังก์จักรพรรดิ หรือความปลอดภัยในชีวิต ของเขา หรือกระทั่ง…ตัวนางเอง
หลินซีนเยียนกัดกรามแน่นพลางวิเคราะห์อย่างฉับไว บอกตัวเองให้พิจารณาโดยแน่วแน่อย่างไม่ หยุดยั้ง ตรวจสอบอย่างใจเย็น! นางไม่อยากมอง ฉากเบื้องหน้า กลับบังคับให้ตนเองเงยหน้าขึ้นมอง อย่างห้ามไม่ได้ นางประเมินโม่จื่อเฟิงกับอวิ๋นเสี่ยว ยิงโดยละเอียดรอบคอบ ค้นพบว่าเสื้อผ้าอาภรณ์ ของทั้งสองล้วนถูกถอดทิ้งไว้ด้านข้าง รอบๆ ก็ ปราศจากยาพิษที่น่าจะเป็นไปได้อันอื่น ดูภายนอก แล้วไร้ซึ่งความปกติใดๆ
เมื่อยามที่หลินซีนเยียนนึกอยากยอมแพ้นั้น หาง ตากลับมองเห็นของสีแดงชาดอย่างหนึ่งซึ่งอยู่ในมุม ของหัวเตียง นั่นคือ เอี้ยมชั้นในของนาง?
หลินซีนเยียนสะพรึงเพริศ ของที่ตัวนางเองเคย ใช้มาก่อน ต้องจำได้เป็นแน่ ฉะนั้นเพียงแวบเดียวก็ดู ออกว่าเอี้ยมชั้นในนั้นเคยถูกนางดัดแปลง เพราะว่า ในสายเลือดของนางนั้นเป็นคนยุคสมัยใหม่คนหนึ่ง ดังนั้นนำเอาเอี้ยมชั้นในมาออกแบบดัดแปลงให้ คล้ายคลึงกับชุดว่ายน้ำ ซ้ำยังเอี๊ยมชั้นในสีแดงนั้น ก็ เป็นเพียงเอกสิทธิ์ของนาง
นางเข้าใจขึ้นมาในฉับพลัน หากแม้นว่าอวิ่น เสี่ยวยิงบงการเพียงอย่างเดียว โม่จื่อเฟิงไม่ติดกับ อย่างแน่นอน เว้นเสียแต่เป็นการลวงฉวยโอกาสให้ เข้าไป ดังนั้นอวินเสี่ยวยิงจึงฉกฉวยเอาสิ่งของที่เป็น เอกเทศของนาง นางไม่เข้าใจเลย ทำได้เพียงรอโม่จื่อเฟิงมีสติจึงจะสามารถรู้แจ้ง
เพียงแต่ นางกลับกล้ารับรอง เอี๊ยมชั้นในนั่นจะ ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นแน่ แม้นเป็นของที่ไร้ความ ข้องเกี่ยวโดยสิ้นเชิง อวินเสี่ยวยิงคงไม่สนอกสนใจ กับของของนางเป็นอันขาด กับสิ่งของของศัตรูหัวใจ ไม่ได้เผาสาปส่งก็นับว่าแปลกมากแล้ว ยังนำมาสวม ใส่บนเรือนร่างของตน เว้นแต่ว่ามีเหตุจำเป็น!
ในเมื่อเอี้ยมชั้นในตัวนั้นจะมีส่วนสำคัญ หลินซีน เยียนจึงรีบโถมตัวเข้าไปทางหัวเตียงโดยด่วน
อวินเสี่ยวยิงเห็นว่านางวิ่งไปยังทิศทางของเอี๊ยม ตัวนั้น จึงมีปฏิกิริยาตอบสนองในบัดดล ในดวงเนตร ฉายแววตื่นกลัว ผลักให้โม่จื่อเฟิงถลาเข้าสู่หัวเตียง ในมือ
หญิงทั้งสองนางลู่เข้าสู่ปลายเตียง หลินซีน เยียนมีความริเริ่มในตัวเอง ดังนั้นมือเท้าจึงว่องไว เอื้อมมือไปก็คว้าเอาเอี๊ยมชั้นในตัวนั้นไว้อยู่ พลาง กัดฟันเอ่ย “เจ้าใช้ประโยชน์จากเอี๊ยมตัวนี้รี”
“นังแพศยา! ข้าจะฆ่าเจ้า!” อวินเสี่ยวยิงคาดไม่ ถึงว่าภายในเวลาอันกระชั้นชิดหลินซีนเยียนจะค้น พบสิ่งของที่มีส่วนสำคัญอันนี้ ในตอนนั้นรู้สึกอับอาย กลายเป็นโกรธแค้นไม่น้อย ซ้ำยังเห็นว่าหลินซีน เยียนคว้าเอาเอี๊ยมชั้นในไว้ได้ ยิ่งกระวนกระวายขึ้นมา นางไม่ใยดีโม่จื่อเฟิง ถอดเอาปิ่นทองใกล้มือบน ศีรษะของตนออกมา ชูปิ่นทองขว้างไปทางหลินซีน เยียน
หลินซีนเยียนเองก็ไม่ใช่พวกโง่เขลา จะรอเพียง ให้นางมาจู่โจม นางกลิ้งหลุนมายังเบื้องหน้าของโม่ จื่อเฟิงโดยไม่ต้องยั้งคิด จากนั้นก็ปาเอี๊ยมชั้นในตัว นั้นใส่บนหน้าของโม่จื่อเฟิง!
ถึงแม้ฉากนี้จะทำให้คนทนมองไม่ไหวอยู่ไม่ น้อย ทว่าปัจจุบันนางไร้ซึ่งหนทางอื่นแล้ว ทำได้ เพียงตัดช่องน้อยแต่พอตัวเท่านั้น
“อา! นังแพศยา ข้ากับเจ้าเปิดศึกกันแล้ว!” อวิ่น เสี่ยวยิงคลุ้มคลั่งไปกันใหญ่แล้ว การแสดงออกทั้ง มวลล้วนบิดเบี้ยว
หลินซีนเยียนเห็นว่านางถลาเข้ามา ในที่สุด เพลิงโทสะกลางใจก็อดกลั้นไว้ไม่อยู่ กัดฟันกล่าว ด้วยจิตใจแห่งความคับแค้น “อวินเสี่ยวยิง เจ้าคิดว่า ข้าไม่มีกะใจคิดจะฆ่าเจ้า”
ถูกต้อง! ยามที่นางมองเห็นอวินเสี่ยวยิงทำเรื่อง ประเภทนี้กับโม่จื่อเฟิง นางก็อยากจะฆ่าอวิ๋นเสี่ยวยิง เสีย! เพียงแต่เป็นเพราะนางเป็นห่วงโม่จื่อเฟิงและ เสี่ยวจึงจึงยังไม่ทันได้ลงมือก็เท่านั้น!
หากไม่ใช่ว่ายังมีห่วงทางใจ ต่อให้ต้องล่มจมย่อยยับไปกับอวิ่นเสี่ยวยิงหญิงสาวเช่นนี้ นางก็ไม่ได้ เสียใจภายหลังสักนิด!
ขณะที่หลินซีนเยียนและอวิ้นเสี่ยวยิงอลหม่าน กันอยู่นั้น เอี้ยมชั้นในสีแดงตัวนั้นค่อยๆ ร่วงตกลง จากหน้าของโม่จื่อเฟิงแช่มช้า และขณนั้นแววตา ของเขาก็มีสติรู้ตื่นแล้ว เพียงแต่ การตอบสนองของ เขาดูเหมือนว่าจะเซื่องซึมเล็กน้อย เรียวปากเพียง ขยับพีมพำแช่มช้า “ซีนเยียน…ซีนเยียน…”
ยามที่เขาเปล่งเสียงออกมานั้น หลินซีนเยียน ร่ำไห้อีกครั้งอย่างอดไม่ได้ เขาที่เป็นเช่นนี้ ทำให้นาง โกรธจนตัวสั่น แต่ก็ตื้นตันจนใจแปลบ ต่อให้ปัจจุบัน เรือนร่างของเขาสกปรกโสโครก ทว่าอย่างน้อยใน ใจของเขา ตั้งแต่ต้นจนจบ ล้วนมีเพียงนางเท่านั้น
เห็นว่าเขาเริ่มจะมีสติทีละน้อย หัวใจ ระส่ำระสายของหลินซีนเยียนเปลี่ยนเป็นสงบนิ่งโดย ฉับพลัน
เขาได้สติแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องปกป้องเสี่ยววี่ จึ่งได้ มีเขาอยู่ นางวางใจ!
ดังนั้น.
“อวิ๋นเสี่ยวยิง! กล้าแตะต้องผู้ชายของข้า ข้าจะ ฆ่าเจ้าเสีย!”
หลินซีนเยียนแผดเสียงคำราม ทั้งกายล้วน ระเบิดปะทุ ต่อให้นางไม่รู้วรยุทธ์ ทว่าหมาจนตรอก ยังกระโดดข้ามกำแพงได้ นับประสาอะไรกับมนุษย์ ที่ถูกความสิ้นหวังก่อนหน้าดับสลายแล้วเช่นนาง ปัจจุบันนี้สิ่งที่ทั้งเนื้อตัวของนางหลงเหลือไว้ ก็มี เพียงแต่สังหารเดรัจฉานอย่างอวิ้นเสี่ยวยิงเท่านั้น!
นางปราศจากศาสตราวุธ และไม่ต้องการอาวุธ นางมีเขี้ยวฟัน นางใช้วิธีจู่โจมดั้งเดิมของสัตว์ป่า ขณะที่อวิ๋นเสี่ยวยิงโถมตัวเข้ามา นางไม่ได้หลบหลีก ปิ่นทองของอวินเสี่ยวยิง แต่ให้ปิ่นทองอันนั้นปักบน ไหปลาร้าของตนเอง ฉวยโอกาสยามที่อวิ๋นเสี่ยวยิง เข้ามาประชิด นางขบกัดคอระหงของอวิ่นเสี่ยวยิงไว้ โดยไม่ลังเล!
อวิ่นเสี่ยวยิงเพียงแค่รู้สึกแสบตรงลำคอ หลัง จากนั้นก็มีของเหลวข้นหลั่งไหลออกมาจากในลำคอ นางอยากผลักหลินซีนเยียนออก ทว่าหลินซีนเยียน กัดไว้แน่น นางอยากตะโกนร้อง ทว่าแค่ปริปาก ทั้ง จมูกและปากก็มีโลหิตสดไหลทะลักออกมาจำนวน มาก ความคิดสัญชาตญาณของนางใช้มือไปห้าม แต่ว่าโลหิตสดๆ เหล่านั้นก็ไหลลอดง่ามนิ้วออกมา แม้นางจะห้ามอย่างไรก็ห้ามไม่อยู่
ในอากาศ มีกลิ่นคาวเลือดลอยคละคลุ้งเข้มข้น
แสบจมูก
รอบด้านสงบเงียบนักคงเหลือเพียงเสียงไหลริน อันเลือนรางยามที่เลือดสดพุ่งออกจากส่วนไหลเวียน โลหิต
หลินซีนเยียนมึนเมา จำได้เพียงว่ากัดลำคอ อย่างทุลักทุเล ในจิตสำนึกของนาง มีเพียงเสียง เสียงเดียว กัดอวินเสี่ยวยิงจนตาย กัดนังผู้หญิงที่ กล้าแตะต้องผู้ชายของนางจนตาย! กัดนางตาย! กัด นางตาย!
ดังนั้น ต่อให้หลังจากที่ร่างกายของอวิ๋นเสี่ยวยิง กระตุกเสร็จก็ไม่ขยับแล้ว นางก็ยังไม่กล้าผละปาก
ออก
ไม่รู้ว่าผ่านไปเนิ่นนานเท่าใด ในที่สุดแววตาของ โม่จื่อเฟิงที่นั่งเลื่อนลอยอยู่บนเตียงก็ค่อยๆ กลับสู่ ญาณ เพียงแต่ยามที่เขาหมุนกาย ก็มองเห็นหลินซีน เยียนฟุบอยู่บนร่างของอวิ่นเสี่ยวยิงประดุจปีศาจร้าย ไม่ปาน กัดลำคอของอวิ๋นเสี่ยวยิงจนแหว่ง
ร่างกายของนางเปรอะเปื้อนโลหิต แววตาของ นางว่างเปล่าแต่แข็งที่อ สีหน้าของนางบิดเบี้ยวและ เกรี้ยวกราด นาง เสมือนกับไม่ใช่มนุษย์คนหนึ่ง แต่ เป็นปีศาจร้ายที่สังหารมนุษย์
นางที่เป็นเช่นนี้ กลับทำให้หัวใจของเขา ปวด หนีบอย่างกลั้นไม่อยู่ยิ่งนัก
“ซีนเยียน…” เขาสะอีกอยู่ครู่ เดินลงจากเตียง คุกเข่าลงเบื้องหลังของหลินซีนเยียน เลื่อนมือไป โอบรอบเอวของนาง จากนั้นดุนศีรษะไปฟุบลงบน หลังคอของหลินซีนเยียน เขากล่าวเสียงต่ำแฝงด้วย ความอ่อนโยน “ซีนเยียน มันจบแล้ว ทั้งหมดจบลง แล้ว”