ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 331
ตอนที่331หลี่จังจ้าวคนแปลก
คนในขบวนลงจากรถม้าบางลงจากหลังม้าบางในพริบตาคนนับสิบ ก็มายืนเรียงกันเป็นระเบียบเรียบร้อยตรงหน้าบ้าน
หลินลินซีนเยียนเดิมคิดจะเป็นทางเซียวฝานแต่เมื่อนางขยับตัวก็ถูก หลื่อวิ้นซ่านกดไหล่เอาไว้”เขามีภรรยาค่อยปรนนิบัติแล้วไม่ต้องการ เจ้า”
กัดปากล่างด้วยสายตาไม่พอใจแต่ว่าเมื่อเห็นท่าทางของผู้หญิงคน นั้นที่จับแขนเซียนอย่างระมัดระวังนางลังเลสักพักสุดท้ายก็ทนไม่ ไหวเดินกระแทกผ่านไป
ไม่กี่วันมานี้ภายนอกของผู้หญิงคนนั้นทำได้เหมือนราวกับว่าเป็น
ภรรยาที่แสนอ่อนโยนและแสนดีแม้แต่หัวค่ำก็อาบน้ำทำความสะอาด
ให้เซียวฝานด้วยตัวเองทั้งหมดดูไม่ออกเลยว่ามีความน่าสงสัยใดๆ หากไม่ใช่ว่าหลินซินเยียนรู้เบื้องลึกเบื้องหลังละก็กลัวว่าจะโดนการ สร้างภาพของนางหลอกอย่างแน่นอน
เพียงแต่นางทำมันได้ไร้ที่ติจริงๆหลินเยียนยิ่งอยู่ก็ยิ่งแปลกใจ ขึ้นเรื่อยๆตัวคนเดียวสามารถอดทนได้ถึงเพียงนี้แสดงว่าแผนการของ นางควรค่าแก่การที่ต้องอดทนทำสิ่งเหล่านี้
ไม่กี่วันมานี้เพราะมีผู้หญิงคนนั้นค่อยรับใช้ตามติดตัวเช่นนั้นกลับ ทำให้หลินซีนเยียนไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้เซียวฝานในใจนางเป็นกังวล อย่างมากอีกด้านก็ฟังหลื่อวิ่นซ่านที่อยู่ข้างๆเอ่ยปากพูด
“นี่เป็นบ้านของญาติห่างๆของข้าสะดวกสบายกว่าพักที่โรมเตี้ยม เป็นใหนๆ ดังนั้นจึงรบกวนเขาสักสองสามวัน”ซ่านที่ลงจากรถ ม้าอธิบายให้หลินซีนเยียนที่ยืนอยู่ข้างกายเขาฟัง
หลินซีนเยียนมองเขาอย่างสงสัยแวบหนึ่งเรื่องเช่นนี้แขาที่เป็น หัวหน้าตัดสินใจก็พอแล้วอย่างไรเสียก็มิได้ใช้เงินนางเหตุใดจึงต้อง อธิบายให้นางฟัง? “บอกให้เจ้าทราบก็เพื่อให้เจ้าพักอย่างสบายใจเจ้าอย่าคิดมาก”หลื่อ วิ่งซ่านทำตัวไม่ถูกแล้วหันหลังกลับหลังจากนั้นเดินผ่านชายวัยกลาง คนที่ยืนหน้าประตูเข้าไป
บนหัวของชายวัยกลางคนนั้นสวมหมวกนอกร้านค้าบนตัวสวมใส่ เสื้อซาตินสีทองระยิบระยับทั้งๆที่ท่าทางดูเป็นคนใจดีแต่กลับแสดง ท่าทางให้เหมือนกับเป็นคนหน้าเลือดอย่างนั้นทำให้คนทั้งคนดูเหมือน ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไรสักอย่าง
เมื่อเขาเห็นหลื่อวิ่นซ่านก็แสดงความกระตือรือร้นออกมาอย่างเห็น ได้ชัดด้วยไม่มีการเสแสร้งใดๆ “ซานเอ้อร์ในที่สุดลงก็ได้พบเจ้า ระหว่างทางคงเหนื่อยน่าดูเร่งพาสหายของเจ้าเข้าไปพักข้างในเร็ว”
เวลาที่พูดชายวัยกลางคนนั้นก็ไม่ลืมที่จะสนใจคนด้านหลังของหลื่อ วิ่นซ่านสายตานั้นราวกับว่าหายอะไรบางอย่างในกลุ่มผู้คนเหล่านั้นแต่ ว่าหลังจากที่มองสำรวจแล้วแววตาของเขาก็สั่นไหวด้วยความผิดหวัง
หลื่อวิ้นซ่านพยักหน้ารับหันไปสั่งการทหารยามสองสามประโยค ทหารยามก็พาผู้คนเดินตามพ่อบ้านเข้าไปในบ้าน
หลินซีนเยียนก็กำลังจะตามเข้าไปแต่ถูกหลื่อวิ๋นซ่านดึงแขนไว้ก่อน นางไม่เข้าใจจึงหันกลับไปมองเห็นหล่อขึ้นซ่านแสดงท่าทางสบายๆ ใน การแนะนำนาง : “ท่านลุงนี่ก็คือสหายของข้าหลินเฟิงที่เคยเล่าให้ท่าน ฟังอย่ามองว่าอายุของเขายังน้อยแต่ว่าการสร้างอาวุธถือเป็นช่างฝีมือ ดีที่เดียวอาวุธที่สร้างออกมาแม้แต่ข้าอย่างต้องร้อง”
“จริงหรือ? “ชายกลางคนนั้นถึงได้มองหลินชีนเยียนอย่างละเลียด เพียงแต่สายตาที่จ้องมองมาทำให้หลินเซียนรู้สึกแปลกๆตะหงิดๆ
หรือนางคิดไปเอง?ทำไมเวลาที่เขามองเหมือนหมาที่เห็นกระดูกยัง ไงยังงั้นเลยเหลือเพียงแลบลิ้นและน้ำลายไหลออกมาเท่านั้น
หล่อขึ้นซ่านกระตุกแขนเสื้อของชายวัยกลางคนเบาๆถึงได้พูดกับ นางว่า: “นี่คือท่านลุงของข้าหลี่จังจ้าวเจ้าเรียกลุงหลี่ก้อพอ”
“ท่านลุงหลี่”หลินซีนเยียนยกมือค่านับอย่างมีมารยาท หลี่จังจ้าวพยักหน้ารับ”เอาล่ะน้องชายในบ้านเจ้ายังมีผู้ใดอีก? ตระกูลเจ้าทำอะไรกันเป็นช่างทั้งตระกูลเลยหรือ?มีคู่หมั้นหมายหรือ ยัง?
“เอ่อออ…”หลินซินเยียนจ้องมองหลี่จังจ้าวอย่างแปลกใจคาดไม่ ถึงว่าเพียงพบกันครั้งแรกเขาก็ถามคำถามมากมายเช่นนี้โดยเฉพาะ อย่างยิ่งเมื่อคำถามเหล่านี้ถูกถามเมื่อพวกเขาพบกันครั้งแรกไม่คิดว่า มันกะทันหันไปหรือ?
“ท่านลุง!”หลี่อวิ้นข่านกระแอมไอเบาๆ”พวกข้าเดินทางมาเหนื่อยๆ ควรให้พวกข้าไปพักผ่อนก่อนหากท่านอยากพบน้องหลินอีกหลังจากนี้ อยากมีเวลาให้ทำความรู้จักอีกเยอะ”
หลี่จังจ้าวเพิ่งรู้ตัวว่าตนเองนั้นรีบร้อนไปน้อยรีบเก็บอาการเหล่านั้น พาพวกเข้าทั้งสองเข้าไปในบ้านด้วยตนเอง
พูดตามหลักหลินขึ้นเขียนก็เป็นเพียงชางฝีมือคนหนึ่งควรพักที่เดียว กับช่างฝีมือคนอื่นๆแต่ว่าก็ไม่รู้ว่าหลี่จังจ้าวจงใจหรือไม่จงใจกันแน่ จัดแจงให้นางและหลื่อนซ่านอยู่ในลานเดียวกัน
สภาพแวดล้อมของลานนั้นสวยงามมากเข้าช่วงฤดูหนาวแล้วทั่วลาน เต็มไปด้วยดอกไม้ที่บานสะพรั่งสายลมพัดผ่านกลิ่นหอมล่องลอยไป ทั่วสี่ทิศไม่ว่าจะเดินไปมุมไหนของลานก็สามารถได้กลิ่นหอมที่มัวเมา จิตใจคน
หลี่จังจ้าวพานางมาถึงที่ห้องหลังจากนั้นก็เรียกสาวใช้มาปรนนิบัติ จากนั้นถึงได้ออกไปพร้อมกับหลื่อวิ่นซ่าน
สาวใช้สี่คนแต่งเติมหน้าตาสะสวยคำนับหลินซินเยียนอย่างพร้อม เพรียงกันแต่กลับทำให้หลินซีนเยียนยิ่งสับสนมากขึ้นตอนนี้นางเป็น ชายคนหนึ่งแต่คนที่หลี่จังจ้าวจัดหามาให้ทั้งหมดล้วนเป็นสาวใช้นี่มัน ไม่ถูกตามหลักไม่ได้เหมือนการต้อนรับทั่วไปหากฝ่ายตรงข้ามเป็น แขกผู้ชายก็ควรจัดหาเสี่ยวซื้อมาปรนนิบัติมีแต่แขกผู้หญิงเท่านั้นที่จะ จัดสาวใช้มาให้
ดังนั้น… หลี่จังจ้าวรู้ว่านางเป็นหญิง?
ในใจของหลินซินเยียนรู้สึกสับสนดวงตาแข็งกร้าวโดยไม่รู้ตัวหลื่อ วิ่งซ่านนำเรื่องที่นางเป็นหญิงไปเล่าให้หลี่จังจ้าวฟัง?ทำไม?
กลุ่มคนเหนื่อยจากการเดินทางเป็นเวลาครึ่งคลอดเดือนมันไม่ง่ายที่ จะได้พักในลานที่สะดวกสบายเช่นนี้ทุกคนต่างรู้สึกโล่งอกสบายใจดัง นั้นเมื่อกินข้าวเย็นเสร็จจึงต่างคนต่างกลับไปนอนพักผ่อนที่ห้องของ ตนเอง
หลินซีนเยียนก็รู้สึกเหนื่อยแต่ว่าในใจก็ยังเป็นห่วงเชียวฝ่านหลัง จากกินมื้อเย็นเสร็จก็ออกจากลานเพื่อเตรียมไปส่องดูลานที่พักของ ช่างฝีมือ
นางเพิ่งมาถึงหน้าประตูกำลังจะเข้าไปข้างในแต่ก็เห็นเหล่าหลิวเสีย วิ่งออกมาด้วยความรีบร้อนเสียก่อน
“เหล่าหลิว? “หลิวซีนเยียนตกใจเรียกเขาไว้ก่อน
เหล่าหลิวก็เห็นนางจึงได้เพิ่มความเร็วมาถึงตรงหน้านาง”ข้ากำลังจะ ไปหาเจ้า”
“เกิดอะไรขึ้นหรือ? “เห็นสีหน้าเหล่าเป็นร้อนรนหลินซืนเยียนก็รู้สึก เป็นกังวลขึ้นมาทันทีไม่กี่วันมานี้นางไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้เซียวฝาน เลยดังนั้นจึงให้เหล่าหลิวค่อยดูสถานการณ์ฝ่ายเซียวฝานให้อย่าง ลับๆเมื่อเหล่าหลิวมาหานางนางก็ยิ่งเป็นกังวลว่าทางด้านเชียวฝานจะ เกิดเรื่องขึ้น
เหล่าหลิวมองซ้ายมองขวาแน่ใจว่าไม่มีคนอยู่บริเวณนี้จึงได้พูด เสียงเบาๆว่า: “เจ้ารีบตามข้ามาข้าเพิ่งเห็นท่านเซียวและแม่นางคนนั้น พาเซียวต้าเจียออกไปทางประตูด้านหลัง
“อะไรนะ! “หัวใจของหลินซีนเยียนกระตุกวูบรีบตามเหล่าหลิวไป ทางประตูหลังอย่างรวดเร็ว”พวกเขาไปนานหรือยังพวกข้าจะตามทัน หรือไหม?”
“เจ้าวางใจได้ข้าเหล่าหลิวก็ไม่ใช่คนโง่ข้าตามพวกเขาไปจนถึงที่หมายแล้วถึงได้ย้อนกลับมาเรียกเจ้าข้าจะพาเจ้าไปหาเดี่ยวนี้”เหล่า หลิวกุมอกตัวเองแล้วตอบนาง
เช่นนี้หลินซีนเยียนถึงได้โล่งอกแล้วยกนิ้วมือขึ้นให้กับเหล่าหลิว
ทั้งออกทางประตูหลังเดินไปตามทางทอดยาวเหยียดในที่สุดก็มา หยุดตรงหน้าหอคณิกาที่มีโคมไฟแขวนเต็มไปหมด
กล้ามเนื้อบนหน้าของหลินเชียนกระตุกถามด้วยความสงสัย แคลงใจ: “เจ้ามั่นใจว่าพวกเขาเข้าไปในนี้?”