ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 423
ตอนที่423เจ้าเป็นใคร
ชั่วเวลาที่เขากำลังหันไปหลินซีนเยียนถลึงตาทันที
“ช้าก่อน”หลินซีนเยียนเรียกเขาให้หยุด
ชายวัยกลางคนหยุดฝีเท้าหันมาสีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเช่นเดิม“แม่นางยังต้องการรับสั่งสิ่งใด?”
“พวกเรา……เคยเจอกันมาก่อนหรือไม่?”หลินซีนเยียนยิ้มจางๆ
ชายวัยกลางคนหยุดยิ้มแต่เป็นเพียงเสี่ยววินาทีเท่านั้นหน้าเขายังแย้มอยู่“แม่นางพูดอะไรกันข้าพึ่งมาไม่กี่วันยังไม่มีโอกาสมาที่นี่เลยหนาถ้าวันนี้เสี่ยวหลี่ไม่ขอลากลับเกรงว่าคงไม่ได้เข้ามารับใช้จะว่าไปแล้วแม่นางหน้าตางามหยดย้อยถ้าได้เห็นเพียงนิดต้องจำได้แน่นอน”
“อ้อ?”หลินซีนเยียนพูดเสียงสูงยิ้มจางจ้องเขา“แต่เหตุใดข้ารู้สึกเหมือนข้าเคยพบเจ้าที่ไหนสักแห่ง?”
“เป็นไปไม่ได้แน่นอนขอรับแม่นางคงจำผิดแล้วดูท่าหน้าข้าน้อยเหมือนคนทั่วๆไปน่ะซีก่อนหน้ามีคนมากมายพูดว่าเคยเห็นข้าน้อย”ชายวัยกลางคนหัวเราะฮ่าๆท่าทางดูธรรมชาติมากมองไม่เห็นพิรุธแม้แต่น้อยท่าทางเช่นนี้ถ้าเหมือนที่เขาพูดจริงหลินซีนเยียนคงจำผิดแล้วหรือไม่ก็ปลอมตัวมาเป็นมืออาชีพ
หลินซีนเยียนเงียบไม่รีบพูดแค่จ้องมองเขาไม่มีท่าทีพูดให้เขาออกไป
เวลาผ่านไปนานชายวัยกลางคนถูกนางมองยิ่งรู้สึกอึดอัดท่าทางเริ่มเก้ๆกังๆขึ้นมา
ทันใดนั้นหลินซีนเยียนยิ้มพูดเสียงเบา“ไม่ได้เจอกันนานแผลเจ้ารักษาหายเร็วมากนี่ขับรถม้าให้ข้ามาครึ่งเดือนกว่าลำบากเจ้าแล้วจริงๆ”
ที่นางพึ่งพูดออกมาสีหน้าคนรับใช้วัยกลางคนเปลี่ยนไปแต่เขาปรับได้เร็วมากแสร้งทำตัวโง่พูดต่อไป“แม่นางเจ้ากำลังพูดอะไรน่ะข้าน้อยยิ่งฟังยิ่งไม่เข้าใจ?”
“ฟังไม่เข้าใจ?”หลินซีนเยียนทำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ“ตอนไปเมืองชวนเจ้าขับรถม้าให้ข้าแม้ช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกันไม่นานแต่ยังไงก็เป็นช่วงเวลาสิบกว่าวันเหตุใดเจ้าลืมได้เร็วขนาดนี้?เจ้าตอบแทนให้ข้าไม่น้อยและข้าช่วยชีวิตเจ้าอีกด้วยอ้อไม่ใช่สิดูสภาพตอนนี้แม้ตอนนั้นข้าไม่ได้ช่วยเจ้าสองคนนั้นน่าจะทำร้ายเจ้าไม่ได้ถึงจะถูกแต่กลับเป็นข้าที่ไปสอดรู้สอดเห็นเข้าเสียแล้ว”
นางพูดมากขนาดนี้พอเห็นได้ว่านางมั่นใจการคาดคะเนของตัวเองฉะนั้นในที่สุดสีท่าทางชายวัยกลางคนปิดไว้ไม่อยู่แล้วแต่กลับปากแข็งเหมือนเดิม“แม่นางเจ้าพูดอะไรกันเมื่อก่อนข้างทำนาอยู่ที่บ้านจะซื้อรถม้าได้ที่ใดกันยิ่งทำงานกับรถม้าไม่ได้…..”
“เจ้าจะแสร้งไปถึงเมื่อใดกัน?”หลินซีนเยียนส่ายหน้าพูดอย่างเย็นชา“เจ้าเป็นใครกันแน่ตามข้างมาตลอดทางตอนนี้ยังกล้ามาที่นี่แต่เจ้าไม่ใช่คนของโจว่เฉิงแน่นอนมิฉะนั้นคงจะมาปรากฏตัวต่อหน้าข้าตอนนี้ไม่ได้ดอกเอาเถอะข้าก็ไม่ฝืนเจ้า เจ้าไม่พูดก็ช่างแต่ถ้าเจ้าไม่พูดงั้นข้าคงต้องไปบอกแม่ทัพใหญ่โจว่แล้วในเรือนข้ามีจารชนเข้ามาควรจะลงโทษอย่างไรดี?”
จะลงโทษอย่างไรโจว่เฉิงคงไม่พูดเหมือนหลินซีนเยียนเช่นนี้ตกไปอยู่ในเงื้อมมือโจว่เฉิงยังจะมีชีวิตรอดได้รึ?ชายวัยกลางคนลังเลสักพัก“แม่นางรู้ได้อย่างไรว่าเป็นข้า?”เขาคิดว่าตัวเองหลบซ่อนมาหลายปีปลอมตัวได้แนบเนียนมากไม่เผยพิรุธออกมาเลยดังนั้นเขาจึงหลบซ่อนในตระกูลหรงมานานหลายปีมานี้เขาไม่เคยถูกคนจับได้มาก่อน
“สุดท้ายเจ้ายอมรับแล้วสินะ?”หลินซีนเยียนยิ้มโปรยเสน่ห์เอนกายบนที่นั่งกุ้ยเฟยท่าทางผ่อนคลายมากขึ้น“ที่จริงดูง่ายมากดูหัวแม่มือเจ้าก็รู้แล้ว”
“หัวแม่มือ?”ชายวัยกลางคนยกมือขึ้นมองพลิกไปพลิกมามองไม่ออกจริงๆ
ว่ามีอะไรผิดแปลกไปเขาจำใจถามอีกครั้ง“ได้โปรดแม่นางบอกให้เข้าใจ”
“หัวแม่มือของเจ้ามีตาปลาสีดำๆและมีรอยเล็กแผลขีดเล็กๆข้างขอบเล็บ”หลินซีนเยียนชี้ไปที่มือของเขา
ชายวัยกลางคนมองอย่างละเอียดเห็นตาปลาหัวแม่มือตัวเองไม่เหมือนนิ้วอื่นจริงๆส่วนรอยแผลเล็กๆนั้นเล็กมาจริงๆไม่ใหญ่เท่าขอบเล็บและพอผ่านไปเป็นปีเป็นเดือนแผลก็จางมากแล้วไม่ทันมองดีๆก็มองไม่ออกเขานึกไม่ถึงรายละเอียดยิบย่อยขนาดนี้ยังไม่คลาดสายตาอันเฉียบคมของหลินซีนเยียน
“แม่นางฉลาดล้ำนักทำให้ข้าน้อยเลื่อมใส”ตอนคนรับใช้วัยกลางคนกล่าวเขาหยุดปลิ้นปล้อนกลับมาน้อมนอบอย่างใจจริง
หลินซีนเยียนแค่ยิ้มจางๆในใจโล่งอกในความเป็นจริงรายละเอียดยิบย่อยเช่นนี้นางอาจจะจำไม่ได้นางแค่เหมือนคุ้นเคยนายช่างลูกจ้างลักษณะนี้เทียบกับคนอื่นๆแค่สังเกตมือของคนอื่นเท่านั้นเองในภาพความทรงจำของนาง นางรู้สึกว่าเคยเห็นมือทั้งสองข้างนี้แต่คิดอยู่นานก็คิดไม่ออกแต่ตอนที่คนใช้วัยกลางคนหันตัวพอเห็นด้านหลังก็จำได้ขึ้นมาทันทีแต่นางไม่สามารถมั่นใจทุกอย่างได้ฉะนั้นนางจึงเล่นสงครามจิตวิทยาครั้งหนึ่งนางไม่พูดคนรับใช้วัยกลางคนนั้นยิ่งลนลานยิ่งลนลานจะพูดอธิบายก็ยิ่งมีปัญหา
นางกล้าลองใจหลอกเขาคิดไม่ถึงว่าจะถูกนางเดาได้จริงๆ
“ตอนนี้บอกข้าได้แล้วหล่ะเจ้าตามข้ามาเพราะอะไรเจ้าเป็นใครกันแน่?”แน่นอนหลินซีนเยียนไม่อาจคาดเดาแล้วจะจำเขาได้
ชายวัยกลางคนกลับคุกเข่าต่อหน้าทันทีคำนับอย่างยิ่งใหญ่เป็นทางการ“ได้โปรดแม่นางไว้ชีวิตข้าน้อยด้วยข้าน้อยไม่สามารถบอกท่านได้จริงๆว่าข้าเป็นใครถ้าบอกไปแล้วชีวิตข้าน้อยจะหาไม่แต่ข้ารับประกันได้ข้าติดตามท่านแค่เพื่อปกป้องไม่ให้ท่านได้รับบาดเจ็บถ้าหากท่ามีอันตรายข้าจะใช้ชีวิตปกป้องท่านอย่างแน่นอน!”
“คนอื่นส่งเจ้ามาปกป้องข้ารึ?”หลินซีนเยียนฟังความหมายที่เขาพูดออกแต่สีหน้ายังไม่อยากเชื่ออย่างเห็นได้ชัด“เจ้าแอบติดตามข้าตอนนี้ยังกล้ามาที่นี่กลับมาบอกข้าว่าเจ้าจะมาปกป้องข้าไม่น่าหัวเราะเยาะรึ?”
“แม่นางท่านคิดให้จงดีตลอดทางนี้ข้าก่อเรื่องอะไรที่ทำร้ายท่าน?โดยเฉพาะตอนไปเมืองชวนบนถนนมีแค่เจ้ากับข้าสองคนถ้าข้าจะทำอะไรขึ้นมาจริงๆเวลานั้นไม่สะดวกกว่ารึเหตุใดต้องรอท่านเข้ามาอยู่ในถังเหล็กนี่แล้วค่อยปลอมตัวเข้ามาด้วยเล่า?”
ท่าทางคนรับใช้วัยกลางคนพูดได้มีเหตุผลในระหว่างนั้นหลินซีนเยียนกลับมองไม่ขาดทว่านางคิดไม่ออกจริงๆมีใครจะส่งคนเข้ามาปกป้องนางตอนนางมาถึงเขตแดนแคว้นหมัน
ใช่แล้วคนๆนี้คือปรากฏตัวขึ้นมาหลังจากนางทิ้งโม่จื่อเฟิงไปในเวลาที่รับรู้ความรู้สึกได้จะเห็นคนๆหนึ่งในลักษณะนี้จึงไม่ทำให้นางสงสัย
“เจ้า…..เป็นคนของโม่จื่อเฟิง?”ตอนถามประโยคนี้ในลำคอหลินซีนเยียนเจ็บปวดรวดร้าวแม้แต่ใจก็ยังสั่นไหวไม่รู้ว่าเป็นเพราะคาดหวังหรือเป็นเพราะไม่รู้สึกละอายแก่ใจ