ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 431
ตอนที่431มาเล่นใหญ่
เสี่ยวหลงมีระยะใกล้กับหลินซีนเยียนมากที่สุดแต่ในจุดเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายระยะทางของทั้งสองคนกลับห่างพอตัวไปแล้วเขาตื่นเต้นจนเหงื่อแตกพลั่กตากำลังมองทหารคนหนึ่งหยิบดาบจะแทงบนตัวหลินซีนเยียนเขาเร่งรีบจนแทบลืมหายใจ
“พี่สาว!”อี้เซิงก็ตะโกนเสียงแหบแห้งดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ
สวี่ห้าวขวางมีดหันมามองก็เห็นมีดยาวนั้นห่างจากคอหลินซีนเยียนหนึ่งนิ้วแล้วระยะแค่นี้เทพเซียนก็คงช่วยให้รอดพ้นจากอันตรายไม่ทันกาล
“โป้ง!”
ตอนที่ทั้งสามคนเผยสีหน้าหวาดผวามีเพียงหลินซีนเยียนที่หน้าแน่วแน่หน้านางไม่แสดงสีหน้เอาปลายกระบอกปืนเล็งเป้าไปที่คนถือมีดยาวแค่นัดเดียวกลางอกคนนั้นก็แหวกเป็นรูเลือดระยะใกล้ขนาดนี้นางไม่ใช่มืปืนระดับเซียนก็จะพลาดไม่ได้
คนทั้งหมดตกใจกลัวชะงักกับภาพที่ทำให้รู้สึกตะลึงน่าทึ่ง
ในสมัยนี้ไม่มีใครเคยเห็นอาวุธลับแบบนี้ไม่พูดได้เลยว่าเห็นแม้แต่เงาของอาวุธลับนั้นก็ไม่เคยเห็นแค่มีเสียงดังขึ้นแล้วเห็นหน้าอกคนถูกแหวกเป็นรูเลือด
ท่ามกลางคนในลานมีเพียงสวี่ห้าวและเสี่ยวหมิงที่นับว่าเป็นแต่แม้จะเป็นเช่นนี้ทั้งสองคนทำได้แค่มองเงาหนึ่งปลิวออกจากปากกระบอกปืนนั้นเท่านั้นวรยุทธพวกเขาพวกเขาคิดว่าขวางอาวุธลับนี้ไม่ได้
นี่ก็คือสิ่งที่ทำให้คนกลัวมีอาวุธเช่นนี้ในมือต้องมีฝีมือชั้นสูงอีกถึงจะถูกคนอื่นควบคุมได้
“เจ้าเด็กดีนี่มันร้ายกาจเสียจริง”สวี่ห้าวอดเรียกไม่ได้
เสี่ยวหลงกลืนน้ำลาย“ใช่ๆอาวุธลับเช่นนี้บนโลกนี้จะมีกี่คนที่รับมือไหว?”
เพราะหลินซีนเยียนปะทุฉากที่น่าประหลาดใจเกินไปออกมาส่วนคนรอบๆทั้งหมดลืมพุ่งมาด้านหน้าต่อ ตั้งแต่เริ่มจนตอนนี้หลินซีนเยียนเย็นชามากตอนความเร็วของคนที่ล้อมรอบด้านหน้าชะลอลงนางตะโกนใส่สวี่ห้าวทันที“รีบมาพวกเรากระโจนออกไป!”
สวี่ห้าวและเสี่ยวหลงมีสติกลับมาออกไปทางประตูจวนทันทีเพราะการสิ้นชีพของผู้นำทัพและปืนไฟที่น่าสะพรึงกลัวในมือหลินซีนเยียนแม้ผู้คนกำลังมุ่งฆ่าตรงหน้าแต่เห็นได้ชัดว่าอ่อนกำลังกว่าตอนก่อนหน้านี้มาก
กลุ่มหลินซีนเยียนได้โอกาสนี้จึงวิ่งหนีไปที่ประตูใหญ่ของจวนทว่าตอนที่พวกเขามุ่งมาถึงประตูอย่างยากลำบากกลับสั่นสะเทือนกับฉากตรงหน้า
ควันฝุ่นหนาทึบฟุ้งกระจายถึงขอบฟ้าสุดลูกหูลูกตาบนถนนเต็มไปด้วยคนการแต่งตัวเป็นกองทัพของโจว่เฉิงและกองทัพพระราชวังปะทะกันที่นี่ความน่าจะเป็นคือก่อนหน้านี้ผู้นำกองทัพพระราชวังคนนั้นพบรหัสลับออกไปไม่เพียงแค่กองทัพพระราชวังเห็นคนของโจว่เฉิงก็เห็นแล้วล่ะ
“จะทำอย่างไรดี?”ใบหน้าสวี่ห้าวเต็มไปด้วยความกลัดกลุ้ม“มุ่งออกมาลำบากก็ไร้ประโยชน์คนที่นี่ยิ่งมากจะหนีออกไปยิ่งยุ่งยากแล้ว”
“ใช่กองทัพทหารมากขนาดนี้ให้ข้าปกป้องเจ้าเดินไปคนเดียวก็เหมือนจะเป็นไปไม่ได้”สีหน้าเสี่ยวหลงซีดเผือด“ถ้าเจ้าเป็นอะไรไปภารกิจของข้าจะล้มเหลวแล้ว”
หลินซีนเยียนมองเสี่ยวหลงด้วยความแปลกใจ“ถึงตอนนี้เจ้ายังคิดถึงภารกิจของเจ้าเจ้านายเจ้ามีคนรับใช้อย่างเจ้านี้คงเป็นความสิริมงคลที่สร้างมาหลายภาพหลายชาติจริงๆ”
เสี่ยวหลงยิ้มด้วยความโกรธแค้นในตามีความรู้สึกที่หลินซีนเยียนไม่มีวันเข้าใจ“ไม่ที่มาของชีวิตข้าเดิมเจ้านายเป็นเจ้าของพบเขาถึงมีชีวิตของข้าฉะนั้นมีเจ้านายอย่างเขาถึงเป็นความสิริมงคลที่ข้าได้สร้างมา”
หลินซีนเยียนชักมุมปากรู้สึกแค่ว่านี้เป็นวิธีที่ทำให้คนโง่เขลาแต่ทว่าไม่ได้เป็นปลาจะรู้จักความสุขของปลาได้อย่างไรความศรัทธาของแต่ละต่างกันนี่นา
“เวลานี้ยังมีใจจะคุยเล่นพวกเจ้าคิดหาวิธีสิพวกข้ามีชีวิตมาหลายสิบปีแล้วตายแล้วก็แค่มีแผลเป็นขนาดเท่าชามใหญ่บนคอ!แต่อี้เซิงล่ะเขาพึ่งจะโตจะมาตายแบบนี้น่าเสียดายขนาดไหน?“สวี่ห้าวอดตะคอกไม่ได้“อีกอย่างคำสอนพวกข้าคงเป็นเรื่องยากที่จะพบเจอผู้มีพรสวรรค์เหมาะสมมาฝึกฝนวรยุทธของข้าจะมาตายแบบนี้ต่อไปใครจะสืบทอดคำสอนของพวกข้าเล่า?”
สืบทอดคำสอนอาจจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของสวี่ห้าวล่ะฉะนั้นเขาถึงทุ่มแรงกายแรงใจให้อี้เซิงเช่นนี้
หลินซีนเยียนย่นหัวคิ้วมองคนและม้าทั้งงสองฟากตรงหน้าหันกลับไปมองสวี่ห้าวโดยไม่รู้ตัว“เจ้าคิดว่าสองฝ่ายนี้ใครจะชนะ?”
“นี่ยังจะดูอีก?”สวี่ห้าวมองค้อนนาง“เห็นชัดๆว่าคนและม้าของฮ่องเต้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของโจว่เฉิงแต่เป็นเพราะปัญหาช่วงเวลาช้าเร็วแค่นั้นเองเจ้าคิดว่าหลายปีขนาดนี้ทหารของโจว่เฉิงไม่ทำอะไรเลยหรือ?รวมกับตอนสมัยที่ฮ่องเต้แคว้นหมันทรงแย่งชิงพระราชบัลลังก์สังหารพี่น้องสูญเสียความเชื่อถือในใจของประชาชนมากมายฉะนั้นสถานการณ์ตอนนี้คนย่อมรู้ว่าใครชนะใครแพ้”
หลินซีนเยียนพยักหน้าพูดอีก“ในเมื่อหนีไม่พ้นงั้นก็คงมีแต่ตัดสินใจเสี่ยงปลอมตัวเพื่อผลที่ไม่คาดคิดหรือว่าครั้งนี้พวกเรามาเล่นใหญ่กันสักครั้ง!”
“หมายความว่าอะไร?”สวี่ห้าวไม่เข้าใจ
เสี่ยวหลงตัวสั่นเทิ้มด้วยความหวาดหวั่นหยุดชะงักมองจากสายตาดื้อดึงของหลินซีนเยียนออกมาหมายถึงอะไรแต่หน้าเขายังเต็มไปด้วยความตกตะลึงเหมือนเดิมชี้หลินซีนเยียนตะโกนติดอ่าง“เจ้า เจ้าไม่ได้ล้อเล่นสินะ!”ผู้หญิงคนหนึ่งมีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวได้จริงๆกล้าคิดเรื่องที่พวกผู้ชายก็ไม่กล้าคิด
แต่ว่าหลินซีนเยียนคิดขนาดนี้แล้วอีกอย่างยังดื้อดึงไม่เปลี่ยนอย่างนั้น
“พวกเจ้าสองคนกำลังเล่นคำปริศนาอะไรกัน?”สวี่ห้าวไม่เข้าใจจึงไม่ถามอี้เซิง“เจ้ารู้หรือว่าพวกเขากำลังพูดอะไร?”
อี้เซิงขมวดคิ้วเงียบไปทันใดนั้นเอ่ยขึ้นตอบกลับอย่างไม่แน่ใจ“ข้าคิดว่าความหมายของพี่สาวคือในเมื่อโจว่เฉิงใช้นามพวกเราเพื่อให้ได้แผ่นดินแคว้นหมันนี้เช่นนั้นพวกเราลงมือให้สุดไปเลยยืมมือโจว่เฉิงให้ข้าชิงแคว้นให้กลับมาเป็นของพ่อข้า!”
สวี่ห้าวฟังไปสักพักไม่สติล่องลอยไม่ใช่ว่าเขาโง่เกินไปแต่วิธีเช่นนี้แม้แต่ชายอายุมากที่ขึ้นเหนือล่องใต้พบเหตุการณ์มากมายจนคุ้นชินเช่นเขายังไม่กล้าคิด”
นั่นเป็นแผ่นดินนะเป็นประเทศหนึ่งจะเอามาเล่นตามใจไม่ได้พละกำลังทั้งหมดในชีวิตของวีรบุรุษผู้มีพรสวรรค์จะมีมากเท่าไหร่ก็ไม่สามารถได้แผ่นดินประเทศไปแม้ครึ่งนิ้ว!
“อี้เซิงก็ฉลาดมากนี่นา”หลินซีนเยียนฝืนยิ้มท่ามกลางทหารนับหมื่นฆ่าสังหารรอยยิ้มของนางสุกสกาวยิ่งกว่าแสงตะวันนางในเวลานั้นจนกระทั่งผ่านมาหลายปีก้ยังคงตราตรึงฝังแน่นอยู่ในส่วนลึกความทรงจำอี้เซิง
สวี่ห้าวพึ่งกลับมามีสติกลินน้ำลาย“พวกเจ้าพึ่งจะพูดข้าจะไม่รู้หรือ?เจ้านี่กล้าคิดจริงๆนะไม่กลัวถูกขู่ขวัญตายจากวิธีนี้เสียด้วย!”
“คนๆหนึ่งจะมีชีวิตอยู่แม้แต่จะคิดก็ไกล้าไปคิดเช่นนั้นจะมีความหมายอะไรอีกเล่า?ตอนนี้เหตุการณ์โชคร้ายที่สุดแล้วยังจะมีสิ่งที่โชคร้ายยิ่งยิ่งกว่านี้อีกหรือ?”หลินซีนเยียนยักไหล่ไม่พูดอะไรหันกลับไปมองทางเสี่ยวหลงพูดว่า“แม้จะขึ้นอยู่กับกำลังของพวกเราจะรอจนถึงโจว่เฉิงแย่งชิงแผ่นดินไปได้ต่อไปต่อไปก็อาจจะต่อต้านเขาได้แต่ข้ามีเรื่องนี้…..”
นางลูบปืนไฟแล้วชี้ไปที่เสี่ยวหลงพูดแฝงไปด้วยความนุ่มลึก“โดยเฉพาะอย่างยิ่งบางทีพวกเรายังมีกองสนับสนุนได้”