ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 462
ตอนที่462ล้วนเป็นจิ้งจอกเฒ่า
“แม่นางหลินก็กลับมาแล้วเหรอมาดูเร็วว่าเจ้ายังต้องการอะไรขาดเหลืออะไรก็บอกข้าจะได้ให้คนไปซื้อมาให้”หรงเย่เห็นหลินซีนเยียนเดินเข้ามาก็รีบเรียกเข้าไปดูทันที
เขากำลังจัดเก็บสิ่งของหลินซีนเยียนเดินเข้าไปใกล้แล้วมองแวบเดียวเท่านั้นจากนั้นก็ยิ้มแล้วส่ายหัว“ของที่ประมุขหรงจัดเตรียมไว้นั้นมีมากแล้วข้ากลับรู้สึกว่ามากไปน้อยเมื่อถึงเวลานั้นอาจมีของบางอย่างที่ต้องทิ้งไปครั้งนี้ข้ารู้สึกว่าให้เบาและเรียบง่ายดีกว่าแต่ว่าอย่างไรก็ตามแต่ของเหล่านี้คงไม่ของธรรมดาทั่วไปท่านประมุขหรงคงลงแรงไปไม่น้อยกว่าจะสมบูรณ์เช่นนี้”
“เบาเรียบง่าย?”หรงเย่ขมวดคิ้วเหมือนมีบางอย่างน่าสงสัยไม่เตรียมการให้พร้อมหากพบอันตรายใดๆค่อยมาหาอาวุธก็ยิ่งไม่สะดวกนะสิ
หลินซีนเยียนเหมือนกับว่ามองทะลุความคิดของเขาแล้วพูดว่าประมุขหรงท่านอย่าลืมสิว่าครั้งนี้คือข้าพาท่านไปและข้ายังเป็นยอดฝีมือด้านการเปิดกลอนอีกด้วยพวกท่านตามข้าไปก็คงไม่ต้องใช้อุปกรณ์พวกนี้”
ฟังนางพูดเช่นนี้หรงเย่ได้แต่พยักหน้ารับแล้วพูดว่า“เช่นนั้นแม่นางหลินว่าพวกข้าควรนำสิ่งได้ไปบ้าง”
หลังจากที่คัดเลือกอุปกรณ์เสร็จหลินซีนเยียนรู้สึกเหนื่อยจึงได้พาเสี่ยวหลงกลับห้องพักไปพักผ่อน
หลังจากที่นางเดินไปแล้วผู้เฒ่าของตระกูลทั้งหลายตามมาล้อมรอบหรงเย่แล้วถามว่า“ท่านประมุข?เด็กสาวนี่ใช้ได้จริงหรือ”
สามารถที่จะเป็นผู้อาวุโสได้ส่วนใหญ่แล้วนั้นเป็นคนฉลาดหลักแหลมสำหรับหลินซีนเยียนในใจของพวกเขาไม่สามารถเชื่อนางเต็มร้อยได้
หรงเย่ยิ้มมุมปากแล้วพูดว่า”เป็นเด็กสาวคนเดียวเท่านั้นเจ้าคิดว่าเด็กนี่จะอยู่ในสายตาข้าหรือ?ครั้งนี้ผู้มีความสามารถของตระกูลหรงล้วนอยู่ที่นี่ถึงแม้ไม่มีเด็กนั้นเมื่อถึงเวลาที่อยู่ใกล้สมบัติก็สามารถทำให้ประมุขของสองตระกูลนั้น…อะไรที่พวกเจ้าควรนำไปอย่าให้ขาดโดยเฉพาะอาวุธที่ซื้อมาจากศาลาความลับแห่งสวรรค์ทั้งหมดนำไปด้วย”
“พูดถึงศาลาความลับแห่งสวรรค์รู้สึกเสียดายจริงๆเดิมทีครั้งนี้ว่าจะไปซื้ออาวุธอีกแต่ใครจะรู้ว่าไม่กี่วันก่อนเจ้าของที่นั่นตายเสียก่อน”.
“เฮ้อนี่ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้แต่ว่าข้าได้ยินมาว่าประเทศเป่ยหมิงมีผู้มีฝีมือด้านการผลิตอาวุธเหมือนมาจากศาลาความลับแห่งสวรรค์แต่ว่ามีเวลาน้อยถ้ายังไปติดต่อก็คงไม่ทันแล้ว”หรงเย่พูดต่อ
“ข้ารู้คนที่ท่านประมุขพูดถึงคนสนิทของหมิงเช่อประเทศเป่ยหมิงถูกยกย่องว่าเป็นช่างทองอี้กงจื่ออาวุธที่เขาสร้างขึ้นแม้แต่เจ้าของศาลาความลับแห่งสวรรค์ก็เทียบไม่ได้”ผู้อาวุโสพูดขนาดนี้“เมื่อก่อนประเทศหนานเยว่มีโม่จื่อเฟิงประเทศเป่ยหมิงมีหมิงเช่อถึงแม้โม่จื่อเฟิงจะชนะมากกว่าแต่ตอนนี้โม่จื่อเฟิงตายแล้วหมิงเช่อก็ยังได้อี้กงจื่อที่มีความสามารถการสร้างอาวุธเช่นนั้นสงครามครั้งนี้เกรงว่าหนานเยว่คงลำบากไม่น้อย”
ผู้คนเหล่านั้นนำสิ่งที่หลินซีนเยียนขัดออกไปทั้งหมดติดไปด้วย
ภายในห้องหลินซีนเยียนรินน้ำชาให้หนีหว่านวางไว้บนหัวเตียงเสี่ยวหลงเคาะประตูเข้ามาพูดว่า“พวกเขาไม่ได้ทำตามคำพูดของแม่นางและยังนำของเหล่านั้นไปด้วยทั้งหมด”
เขาแอบซ่อนตัวดูความเคลื่อนไหวของผู้คนเหล่านั้นรอพวกเขาทำเสร็จเขาจึงกลับมารายงานหลินซีนเยียนแต่เพราะผู้อาวุโสเหล่านั้นล้วนมีฝีมือเขาจึงไม่เข้าไปใกล้มากนักจึงไม่ได้ยินที่พวกเขาคุยกัน
“ช่างเถอะข้าแค่ต้องการทดสอบความเชื่อมั่นของพวกเขาว่ามีต่อข้าเท่าไรเห็นทีจิ้งจอกเฒ่าของตระกูลหรงจะรับมือไม่ง่ายนัก”หลินซีนเยียนรินน้ำชาให้ตัวเอง
หลินซีนเยียนหัวเราะเบาๆ“จิ้งจอกเฒ่าแล้วอย่างไรต่อหน้าสิ่งล่อลวงแล้วก็ขอความเมตตาจากข้าเช่นกัน?สมบัติที่สำคัญที่สุดของแหล่งกำเนิดเกิงจีนถูกแบ่งบางส่วนเป็นภาพวาดอยู่บนกระดาษหนังแพะและยังถูกแบ่งเป็นชิ้นส่วนเล็กๆอีกมีกองกำลังของทั้งสามตระกูลและยังเพิ่มของโม่จื่อเฟิงอีกครั้งนี้รวมพลของทั้งสามตระกูลแต่ว่าพวกเขาไม่คิดกันบ้างหรือว่าพวกเขามีโอกาสอีกทั้งสองตระกูลก็มีโอกาสเช่นกัน”
เสี่ยวหลงตาโตแล้วมองไปทางด้านหลินซีนเยียน“แม่นางความหมายของท่านคือ…อีกทั้งสองตระกูลก็……”
หลินซีนเยียนยิ้มเย็น“สถานการณ์ของทั้งสามตระกูลก็ไม่ค่อยต่างกันเท่าไรดังนั้นวิธีการคิดของพวกเขาก็คงไม่ต่างกันคนที่ไม่มีความทะเยอทะยานไม่สามารถที่จะนั่งอยู่บนตำแหน่งประมุขไม่ได้ถึงเวลาพวกเขาก็ไม่ต้องออกแรงมากนักรอพวกเขาทั้งสามเล่นจนเหนื่อยพวกเราแค่ไปเก็บกวาดก็พอและอีกอย่างในสายตาพวกเขาข้าเป็นเพียงเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเท่านั้นเอง”
เสี่ยวหลงรู้สึกเย็นสันหลังวาบไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไรกันที่เมื่อก่อนที่มองไปเห็นแต่ความอ่อนโยน แต่ตอนนี้กลับยิ่งเหมือนนายท่านของเขาขึ้นไปทุกที โดยฉพาะการคำนวณเช่นนั้นเหมือนกับว่าทุกสิ่งอยู่ในกำมือของนางเช่นนั้น
หนีหว่านที่นอนอยู่บนเตียงไม่ได้พูดอะไรแต่ว่าคำพูดของหลินซีนเยียนก็เข้าไปในหู นางค่อยๆหันไปมองหลินซีนเยียน ภายในใจอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโศกเศร้าบางทีมีเพียงผู้หญิงเช่นนี้จึงจะคู่ควรที่จะอยู่ข้างกายเขา