ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 466
ตอนที่ 466 กระแสน้ำเชี่ยวกราก
ชายคนนั้นลองชั่งน้ำหนักของถุงดูดูเหมือนว่าจะทำให้เขาพอใจไม่น้อย ดังนั้นจึงโบกมือแล้วพูดว่า“เข้าไปสิเมืองของพวกเรายินดีต้อนรับพ่อค้าที่มาซื้อขายเป็นอย่างมาก”
พ่อค้าที่มาซื้อล้วนทำให้รายได้เข้าเมืองดังนั้นนอกจากบุคคลที่น่าสงสัยเป็นพิเศษไม่เช่นนั้นพวกเขาจะให้เข้าเมืองได้ไม่ยากเกินไปพวกแกะพวกนี้เข้าเมืองแล้วนั้นก็เหมือนเนื้อที่อยู่บนเขียงของพวกเขาจะถลอกหนังแล่เนื้อก็ขึ้นอยู่กับพวกเขาเท่านั้น
เมื่อเข้าเมืองไปพวกเขาก็ไปโรงเตี๊ยมที่ใหญ่ที่สุดแต่เมื่อไปถึงโรงเตี๊ยมแจ้งกับพวกเขาว่าเหลือห้องไม่มากนักหลายวันมานี้มีคนมาเยอะมากมายเมื่อพูดถึงเรื่องนี้เจ้าของร้านยังรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยนี่ไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยวแต่คิดไม่ถึงว่าจะมีผู้คนมากมายมาที่นี่
หรงเย่เหมาห้องที่เหลืออยู่ทั้งหมดแล้วแบ่งให้กับคนในคณะเดินทางแม้ว่าจะค่อนข้างแออัดแต่ก็สามารถที่จะอยู่ได้แต่ว่าคนที่พวกเขาส่งมาให้ดูลาดเลาก่อนหน้านี้ไม่มีข่าวคราวแม้แต่น้อยดังนั้นสีหน้าของเขาเลยเต็มไปด้วยความกังวล
ทุกคนนำสัมภาระเข้าไปในห้องหลินซีนเยียนที่กำลังจะเข้าไปกลับรู้สึกเหมือนมีคนแอบมองดูอยู่นางหันไปมองดูรอบๆแต่กลับไม่เห็นใครสักคน
เข้าไปในห้องแล้วหลินซีนเยียนพยุงหนีหว่านไปพักผ่อนที่บนเตียงหนีหว่านขมวดคิ้วแน่นแล้วพูดว่า“เมื่อกี้มียอดฝีมือประมาณสามคนกำลังเฝ้ามองเจ้าอยู่ ”
หลินซีนเยียนตกใจถึงแม้ว่านางจะรู้สึกได้แต่ประสาทรับรู้ของนางก็ไม่เท่าของหนีหว่านแต่เมื่อคิดแล้วก็ใช่อยู่ว่าถึงแม้นางจะเสียวรยุทธ์สิ้นแล้วแต่ว่าประสาทรับรู้ความอันตรายย่อมมากกว่านางอยู่แล้ว
“ดูเหมือนว่าจะเป็นคนของตระกูลหลิงกับตระกลูหลี่มาถึงก่อนพวกเราแต่ว่าพวกเขาอยู่นอกเหนือที่ข้าคาดการณ์ไว้เล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าพวกเขายังให้ความสนใจสมบัติพวกนี้มากกว่าที่ข้าคิดไว้เสียอีก”หลินซีนเยียนยิ้มเย็นนั่งอยู่ด้านข้างโต๊ะแล้วรินน้ำชา แต่คิ้วค่อยๆขมวดแน่นขึ้น“สามคน?อีกคนเป็นคนของใคร? ”
หนีหว่านส่ายหัวดวงตาสั่นไหวเล็กน้อยแต่กลับไม่พูดอะไร
เวลาที่ตกลงกับสามตระกูลใหญ่นั้นยังมาไม่ถึงแต่ทั้งสามคนก็มาถึงแล้วหลินซีนเยียนสงสัยว่าทั้งสามตระกูลจะต้องจัดการกองกำลังของตัวเองในเขตเกิงจีน เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง แต่ …เธอหัวเราะเยาะพวกเขาที่เป็นกุญแจหลักต้องเข้าไปแหล่งกำเนิดพวกทีอยู่ด้านนอกสำหรับผู้ที่มีความตั้งใจแน่วแน่แล้วมีประโยชน์?
คืนนี้หลินซินเยียนนอนหลับสบายอย่างน่าประหลาดใจเพราะนางรู้ว่าถึงแม้จะอยู่ในเมืองที่วุ่นวายคนในสามตระกูลใหญ่จะใช้อำนาจความแข็งแกร่งเพื่อปกป้องความปลอดภัยของนางดังนั้นนางจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาความปลอดภัยใดๆเลย อย่างน้อยก่อนที่จะเข้าสมบัติแหล่งกำเนิดเกิงจีนผู้คนในตระกูลใหญ่ทั้งสามจะไม่ยอมให้เกิดอะไรขึ้นกับนางแน่
เสี่ยวเอ้อร์ของร้านที่เข้ามาส่งอาหารขาพิการเล็กน้อยบนใบหน้ามีรอยช้ำสีเขียวลึกเขาวางอาหารลงบนโต๊ะอย่างระมัดระวังสายตาที่ใช้มองหลินซีนเยียนมันแปลกประหลาด
พอเสี่ยวเอ้อร์ออกไปแล้วหลินซีนเยียนหันกลับไปถามหนีหว่าน “ข้าดูน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมรู้สึกว่าเสี่ยวเอ้อร์นั้นดูเหมือนจะกลัวข้ามาก?”
เมื่อได้ยินนางถามเช่นนี้จากหน้าที่นิ่งยกยิ้มมุมปากและมองบน“เมื่อคืนเจ้านอนหลับสบายใจแต่ว่าลำบากองครักษ์เหล่านั้นที่อยู่บนหลังคาค่อยดูแลความปลอดภัยให้กับเจ้า” ”
“หือ?”หลินซีนเยียนกะพริบตาหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย
หนีหว่านถอนหายใจแล้วพูดว่า“ข้าคิดว่าโรงเตี๊ยมของเมืองนี้คงคิดกับพวกเราที่เดินทางมาจากต่างถิ่นว่าล้วนเป็นคนทำมาหากินสุจริตบางทีเลยคิดวิธีที่จะปล้นทรัพย์แล้วฆ่าคนซะเช่นนั้นเงินก็ได้และยังไม่ต้องเสียของอะไรให้กับเราดังนั้นเมื่อคืนทั้งเจ้าของโรงเตี๊ยมและพวกจึงลงมือ”
“เอ่อ……”หลินซีนเยียนคิดไม่ถึงว่าจะยังพอเจอร้านเช่นนี้อีก“มองจากขบวนเดินทางแล้วพวกข้าสองคนดูอ่อนแอที่สุดแล้วเลยคิดจะลงมือที่พวกข้าก่อน?”
หนีหว่านพยักหน้าตอบสนองตามที่นางเดา “อย่างไรก็ตามพวกเขาคงคิดไม่ถึงว่าที่จริงแล้วมีกองกำลังคอยคุ้มครองเจ้าอยู่ในที่ลับมากมายยอดฝีมือจากทั้งสามตระกลูใหญ่เรียงตามถนนเต็มไปหมดเพียงแค่โจรกระจอกแค่นี้จะรับมือได้อย่างไรกันดังนั้นคนของโรงเตี๊ยมนี้ตายไปไม่น้อยหากไม่ใช่ว่ายังต้องพักที่นี่อีกสองสามวันละก็เสี่ยวเอ้อรและเจ้าของร้านคงไม่มีชีวิตหลงเหลือแล้วเช่นกัน”
หลินซีนเยียนยิ้มเยาะขึ้นเบาๆสังคมนี้ไม่ว่าไปที่ไหนล้วนเป็นปลาใหญ่กินปลาเล็กดูเหมือนร้านนี้จะฆ่าพ่อค้าที่เดินทางมาไม่น้อยเพียงแต่คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้จะเจอของจริงเท่านั้นในร้านเหลือคนที่ใช้งานไม่กี่คนถึงว่าทำไมคนเมื่อกี้ดูเหมือนตอนนี้จะกลัวนางมาก
“ตอนนี้พวกเราต้องทำยังไงในเมื่อคนของทั้งสามตระกลูใหญ่มาพร้อมกันแล้วพวกเราจะล่วงหน้าเข้าไปแหล่งกำเนิดก่อนไหม? ”หนีหว่านถามหลินซีนเยียนส่ายหน้าเบาๆ“ไม่ต้อง.พวกเราแค่รอ”
“รอ?”ท่าทีหนีหว่านดูเหมือนรอไม่ไหวแล้วดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยไฟแค้น
หลินซีนเยียนเดินไปข้างเตียงแล้วจับมือนางแล้วปลอบใจนางว่า“ไม่ต้องรีบพวกเขากำลังตั้งกองกำลังของพวกเขาพวกเรา…ก็ต้องมีการเตรียมการบางอย่างเช่นกัน”
“เตรียมการ……”หนีหว่านพึมพำสองคำนี้ไปมาทันใดนั้นแววตาก็เป็นเปล่งประกายแห่งความหวัง“เจ้าหมายถึงว่าเสี่ยวหลงไป…”
“ใช่.ข้าให้เสี่ยวหลงล่วงหน้าไปเตรียมการแล้วแต่น่าเสียดายที่ถ้าเขาไม่มีข้าก็เขาไม่สามารถเข้าชั้นในสุดของแหล่งกำเนิดสมบัติได้ แต่มันก็เพียงพอแล้วที่จะเตรียมการบางอย่างหนีหว่านเจ้าสามารถมั่นใจได้ว่าสำหรับเขาข้าสามารถทำสิ่งที่ข้าจะสามารถทำได้แม้ว่าข้าไม่รู้ว่าข้าสามารถทำอะไรเพื่อช่วยเขาได้ถึงแม้ …ต้องแลกด้วยกำลังทั้งหมดที่มีอยู่ข้าก็จะทำ””
หนีหว่านรู้สึกแปลกใจที่ได้ยินหลินซีนเยียนพูดประโยคนี้ออกมานางพูดว่าสามารถช่วยเขาได้?แววตาของหนีหว่านตกตะลึงดูเหมือนว่าหลินซีนเยียนมักทำให้ผู้คนตะลึงกับความฉลาดของนาง
เพราะว่าอีกสองวันถึงจะถึงวันที่นัดหมายกับทั้งสามตระกลูใหญ่ดังนั้นหลินซีนเยียนจึงไม่รีบร้อนตอนเช้านางก็มักพาหนีหว่านไปนั่งพักผ่อนที่สวนของโรงเตี๊ยมและยังพาหนีหว่านไปเดินเที่ยวเล่นในเมืองอีกด้วย
อาจเพราะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงเตี๊ยมกระจายไปทั่วดังนั้นถึงแม้หลินซีนเยียนพาหนีหว่านไปเดินเล่นข้างนอกตัวคนเดียวคนบริเวณนั้นก็ไม่มีใครเข้ามาหาเรื่องนางสักคน
นางไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้มากนักอยากเดินก็เดินอยากซื้อก็ซื้อเพียงแต่ว่าเจ้าของร้านทุกร้านมักใช้สายตาที่เหมือนมีความกลัวบางอย่าง
นับตั้งแต่ก่อตั้งเมืองนี้มาเกรงว่ายังไม่มีผู้หญิงอ่อนแอคนไหนสามารถเดินไปตามถนนอย่างหลินซีนเยียนได้โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องใดๆที่จะเกิดขึ้น