ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด - ตอนที่ 398 มีคนทรยศ / ตอนที่ 399 ปลอบขวัญประชาชน
ตอนที่ 398 มีคนทรยศ
อู่จิ้นวิ่งมาอย่างรีบร้อนมาก ตอนพูดยังหอบหายใจ เห็นได้ชัดว่ารีบกลับมาด้วยความเร็วสูงสุด
ดวงตาของหลิงอวี้จื้อเบิกโพลง เธอนึกถึงวันที่ไปเจอหมาป่ามนุษย์ในคุกใต้ดินกับมั่วชิงได้ หากเดาไม่ผิด กลุ่มคนที่อู่จิ้นพูดถึงก็คือหมาป่ามนุษย์ที่กินแต่เนื้อมนุษย์โดยเฉพาะ
มั่วชิงสีหน้าเปลี่ยนทันที
“นั่นเป็นหมาป่ามนุษย์ หมาป่ามนุษย์พวกนี้เป็นสมบัติของเจ้าสำนัก ไม่ปล่อยออกมาง่ายๆ คราวนี้เจ้าสำนักถึงกับปล่อยหมาป่ามนุษย์เข้ามาในตำบลเถาหยวน
ท่านอ๋อง หมาป่ามนุษย์ดุร้ายมาก ถึงแม้จะพูดไม่ได้ แต่ร้ายกาจมากกว่าพวกนักรบไร้ชีพที่ไม่มีความคิด กายท่านมีบาดแผล อยู่ในเรือนเถิด ข้ากับอู่จิ้นจะเฝ้าอยู่ข้างนอกรับมือพวกมัน”
มั่วชิงพูดจบก็ออกไปจากเรือน ไม่ถึงชั่วพริบตาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
มู่หรงนี่อวิ๋นกับอวิ๋นซั่วก็ออกมาข้างนอก สีหน้าของมู่หรงนี่อวิ๋นซีดเผือด
“ข้างนอกเกิดเรื่องอะไรขึ้น”
หลิงอวี้จื้อรีบไปหา
“เจ้าออกมาทำไม ตัวเจ้าบาดเจ็บ เจ้าไปอยู่ในห้องก่อน ข้างนอกมีนักรบไร้ชีพเต็มไปหมด”
“สำนักอู๋จี๋ปล่อยนักรบไร้ชีพออกมาหรือ”
หลิงอวี้จื้อพยักหน้า
“เดิมทีแม่ทัพจางผิงต้องมาถึงแล้ว นึกไม่ถึงว่าเจียงสือจะลงมือกับตำบลเถาหยวนเสียก่อน”
พูดจบหลิงอวี้จื้อก็หันไปพูดกับเซียวเหยี่ยนว่า
“จู่ๆ เจียงสือก็ทำเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าต้องการแตกหักกับพวกเรา และไม่กลัวพวกเราจะแก้แค้นแล้วด้วย หรือนางรู้แล้วว่ากองทัพใหญ่ของเรากำลังจะมา หากเป็นเช่นนี้ แสดงว่าทางฝั่งเรามีคนทรยศใช่หรือไม่”
“มีคนทรยศแน่นอน เรื่องนี้ข้าจะต้องสืบให้รู้แน่ชัด ดูซิว่าใครกันมันช่างกล้าขนาดนี้”
หลิงอวี้จื้อด่าอย่างเจ็บใจ
“ไอ้คนทรยศนี่มันสมควรตายนัก พอเรื่องรั่วไหล ก็เป็นภัยไปทั้งตำบลเถาหยวน”
อวิ๋นซั่วที่อยู่ข้างๆ หน้าเปลี่ยนสี รีบก้มหน้า แอบกำหมัดที่อยู่ในแขนเสื้อแน่น เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร ต่างกับที่เขาคิดไว้โดยสิ้นเชิง เรื่องนี้มันเป็นอย่างไรกันแน่
“นี่อวิ๋น ร่างกายเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”
เมื่อรู้ว่ามู่หรงนี่อวิ๋นช่วยชีวิตหลิงอวี้จื้อไว้ เซียวเหยี่ยนก็เกรงใจมู่หรงนี่อวิ๋นขึ้นมาก ถามด้วยความเป็นห่วง
“ข้าไม่เป็นอะไร ชุนเหนียงมิได้ถูกพิษนักรบไร้ชีพ”
หลิงอวี้จื้อดีใจจนแทบกระโดดโลดเต้น
“ดีจริง ทำเอาข้าเป็นห่วงไปทั้งคืน เมื่อคืนไม่ได้หลับไม่ได้นอน ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าจะไม่เป็นอะไร”
เห็นหลิงอวี้จื้อเป็นห่วงมู่หรงนี่อวิ๋นขนาดนี้ เซียวเหยี่ยนก็ไม่พูดอะไร เขาเข้าใจเจตนาของมู่หรงนี่อวิ๋นตั้งนานแล้ว แต่ไม่ได้ทำให้ความแตก
อย่างไรเสียมู่หรงนี่อวิ๋นก็รู้กาลเทศะดี ตลอดมาหลิงอวี้จื้อก็ไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษอะไรกับมู่หรงนี่อวิ๋น นางเห็นมู่หรงนี่อวิ๋นเป็นเพื่อนสนิทจริงๆ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาก็ไม่อยากไปทำให้ความสัมพันธ์นี้ร้าวฉาน สิ่งแรกคือมู่หรงนี่อวิ๋นรู้จักความพอดี
ตอนนี้เองมีพลทหารนำคนเข้ามาสิบกว่าคน มีผู้ชายสองสามคน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก เห็นได้ชัดว่าพวกเขาตกใจจนมึนงงไปแล้ว พอเข้ามาแล้วก็ยังไม่ได้สติ
เด็กหญิงตัวน้อยคนหนึ่งในนั้นร้องไห้ออกมา หลิงอวี้จื้อรีบเข้าไปนั่งยองๆ ข้างหน้าเด็กคนหนึ่งในนั้น ยื่นมือออกไปเช็ดน้ำตาให้ น้ำเสียงอ่อนโยนอย่างยิ่ง
“หนูน้อย ไม่ต้องกลัวนะ ที่นี่ปลอดภัยแล้ว”
“พ่อข้าถูกสัตว์ประหลาดกัดตายแล้ว ข้างหน้ามีสัตว์ประหลาดเยอะมาก พอเห็นคนก็กัด มีเพียงข้ากับแม่เท่านั้นที่วิ่งออกมา…”
เด็กหญิงตัวน้อยร้องไห้เสียใจอย่างหนัก ด้านข้างมีหญิงสาวเช็ดน้ำตาอยู่ข้างกายตลอดเวลา น่าจะเป็นแม่ของเด็ก
หลิงอวี้จื้อเข้าใจความรู้สึกของเด็กหญิงตัวน้อย เห็นพ่อแม่ตนเองตายต่อหน้าต่อตา เกรงว่าคงเป็นภาพติดตาไปตลอดชีวิต เธอตบหลังเด็กหญิงตัวน้อยเบาๆ
“พวกนั้นไม่ใช่สัตว์ประหลาด คนพวกนั้นถูกพิษก็เลยกลายเป็นเช่นนี้ อย่ากลัวเลย พวกเราจะปกป้องพวกเจ้าเอง”
ตอนที่ 399 ปลอบขวัญประชาชน
“แม่นาง เจ้าอย่าพูดจาเกินตัวเลย เจ้าไม่รู้หรอกว่าข้างนอกน่ากลัวเพียงใด เห็นคนก็ฉีกกัด ราวกับสัตว์ป่า ประเดี๋ยวพวกเราก็คงตายกันที่นี่ทั้งหมด”
คุณปู่อายุหกสิบกว่าคนหนึ่งในนั้นเอ่ยถึงภาพที่เพิ่งเห็นมา ยังคงอกสั่นขวัญผวา รู้สึกว่าพวกเขาต้องตายแน่นอน ใครจะไปคิดว่าตื่นขึ้นมาติดป้ายอวยพรปีใหม่ก็จะเจอเรื่องเช่นนี้เข้า
“ก่อนหน้านี้มีคนผู้หนึ่งบอกว่าพวกเราไปยั่วโมโหท่านเทพสวรรค์ ให้พวกเราบูชาท่านเทพสวรรค์ พวกเจ้าก็ไม่ยอมเชื่อ ท่านเทวดาจึงลงโทษพวกเรา ตำบลเถาหยวนจบสิ้นแล้ว”
ผู้หญิงอายุสามสิบกว่าคนหนึ่งร้องไห้ตะโกนว่า
“ทำอย่างไรดี บูชาตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว ใกล้จะปีใหม่แล้ว แม้กระทั่งปีใหม่นี้ท่านเทวดาก็ไม่ให้เราได้ฉลอง พวกเราทุกคนล้วนมีบาป”
“รีบคุกเข่าขอร้องท่านเทพสวรรค์ให้ยกโทษพวกเราเถิด”
ไม่รู้ว่าใครตะโกนขึ้นมา คนอื่นๆ ต่างพากันคุกเข่าลงกับพื้น หลิงอวี้จื้อตกตะลึง อยู่ดีๆ ไปข้องเกี่ยวกับเทพสวรรค์ได้อย่างไร ตอนนี้เป็นเวลาที่ต้องการความสามัคคี หากส่งเสริมกันต่อไป จะสั่งการอะไรก็คงสั่งไม่ง่ายแล้ว
เห็นเซียวเหยี่ยนพยักหน้าให้ตนเอง หลิงอวี้จื้อก็เข้าใจความหมายของเซียวเหยี่ยน เขาจะให้เธอสำแดงฝีมือ
หลิงอวี้จื้อยืนอยู่ข้างหน้าสุด พูดเสียงดังว่า
“พวกเจ้าอย่าวุ่นอยู่กับการคุกเข่าขอท่านเทพสวรรค์เลย ตอนนี้ใกล้จะปีใหม่แล้ว ท่านเทพสวรรค์ไม่ว่างขนาดนั้น มีเวลาลงโทษคนตำบลเล็กๆ ตำบลหนึ่งเสียที่ไหน
คนพวกนั้นล้วนโดนพิษปลุกเสก ดังนั้นจึงสูญเสียสติปัญญา เห็นคนก็กัด เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับท่านเทพสวรรค์ เป็นฝีมือของสำนักอู๋จี๋บนเขาอวิ๋นเฟิงต่างหาก
คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเจ้าคือท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เขามาตำบลเถาหยวนด้วยตนเองเพื่อทำลายลัทธิมารนี้เสียให้สิ้นซาก เขาจะร่วมเดินเคียงข้างไปกับพวกเจ้า พวกเจ้าอย่าลนลาน ขอให้ฟังคำสั่งทั้งหมดจากท่านอ๋อง”
ทุกคนเงยหน้าขึ้นมามองเซียวเหยี่ยน รู้สึกเพียงว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าลักษณะท่าทางโดดเด่น แค่ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนธรรมดา ถึงแม้จะไม่ได้พูดจา แต่กลับมีรังสีที่น่าเกรงขามแผ่ซ่าน
“นี่คือท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์หรือ”
เหล่าฮั่นรู้ว่าอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นท่านอ๋องที่มีอำนาจที่สุดในแคว้นเว่ยตะวันตก คนใหญ่คนโตขนาดนี้จะมาที่ตำบลเล็กๆ นี้ได้อย่างไร ทั้งชีวิตของเขา ข้าราชการระดับสูงที่สุดที่เคยเจอก็เป็นแค่ผู้ว่าการเมือง
“ข้าจะหลอกพวกเจ้าเพื่ออะไร ท่านอ๋องมาตำบลเถาหยวนจริงๆ นอกจากเชื่อใจเขา พวกเราก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว”
เซียวเหยี่ยนมีมาดน่าเกรงขามเหลือเกิน เหล่าฮั่นไม่เคยเจอคนเช่นนี้มาก่อน เขาเองก็มีชีวิตอยู่มาแล้วชั่วชีวิตคน ดังนั้นจึงเชื่อคำของหลิงอวี้จื้อ โขกศีรษะคำนับเซียวเหยี่ยนทันที
“ข้าน้อยคารวะท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการขอรับ”
เมื่อเหล่าฮั่นเป็นคนนำแล้ว คนอื่นๆ ก็ต่างพากันหมอบคำนับตาม หลิงอวี้จื้อทำให้เซียวเหยี่ยนชนะใจประชาชน เรื่องนี้จะต้องแพร่สะพัดไปแน่นอน ถึงตอนนั้นยังทำให้เซียวเหยี่ยนได้ทิ้งชื่อเสียงอันดีงามไว้บ้าง ก่อนหน้านี้เซียวเหยี่ยนอยู่ห่างไกลประชาชนเหลือเกิน
นอกจากนี้ ชื่อของเขายังสามารถปลอบขวัญใจคนได้ ในเมื่อเขาอยู่ที่แคว้นเว่ยตะวันตกก็เหมือนเทพที่มีตัวตน
“ทุกคนลุกขึ้นเถิด! พวกเจ้าวางใจได้ ที่นี่ปลอดภัย ข้าจะต้องกำจัดลัทธิมารนี้ แล้วคืนความสงบสุขให้พวกเจ้าอีกครั้ง”
เสียงของเซียวเหยี่ยนมีพลังทำให้ใจคนสงบ ปลอบขวัญทุกคนในที่นี้ได้ ทำให้พวกเขาใจเย็นลง เชื่อว่าเซียวเหยี่ยนสามารถช่วยชีวิตพวกเขาได้ มีเซียวเหยี่ยนอยู่ ทุกคนก็สงบลง ไม่กล้าบุ่มบ่ามต่อหน้าเซียวเหยี่ยน
เมื่อเห็นสภาพการณ์เช่นนี้หลิงอวี้จื้อก็เอาแต่ส่ายหน้า นี่มันแตกต่างกันมากจริงๆ เธอต้องตะโกนคอแตกถึงปลอบขวัญคนอื่นได้ เซียวเหยี่ยนพูดแค่ประโยคเดียวก็ได้แล้ว หน้าแบบนี้อย่างไรก็เสียเปรียบ
หลิงอวี้จื้อให้อวิ๋นซั่วไปเอาของกินที่ครัว ส่วนเธอหยิบน้ำชามาหนึ่งกา รินน้ำร้อนให้ชาวบ้านที่นั่งอยู่บนพื้นจอกหนึ่ง อวิ๋นซั่วเห็นหลิงอวี้จื้อแทรกอยู่ท่ามกลางกลุ่มคน ก็ออกอาการตะลึง