ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด - ตอนที่ 426 บุญคุณนี้ต้องตอบแทนให้ได้ / ตอนที่ 427 ลู่ชิงชิงกระโดดน้ำ
- Home
- ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด
- ตอนที่ 426 บุญคุณนี้ต้องตอบแทนให้ได้ / ตอนที่ 427 ลู่ชิงชิงกระโดดน้ำ
ตอนที่ 426 บุญคุณนี้ต้องตอบแทนให้ได้
“กราบทูลไทเฮา บ่าวเพิ่งจะได้ข่าวมาเพคะ ท่านอ๋องออกจากตำบลเถาหยวนแล้ว กำลังอยู่ระหว่างทางกลับเมืองหลวงเพคะ”
มู่หรงกวานเย่ว์พยักหน้า เป็นสัญญาณว่ารับทราบแล้ว คำนวณวัน เซียวเหยี่ยนควรจะกลับมาแล้ว
นางเปลี่ยนอิริยาบถ ชี้ไปที่ไหล่ซ้าย
“ไม่รู้ว่าเราชราแล้วหรือไม่ ช่วงนี้ไหล่ด้านนี้ปวดเมื่อยเหลือเกิน จื่ออี เจ้าบีบให้ข้าหน่อยสิ”
“พระราชกรณียกิจช่วงปีใหม่เยอะแยะมากมาย ไทเฮาเพียงแต่ทรงงานมากไป ไทเฮาต้องดูแลพระวรกายมากขึ้นนะเพคะ”
จื่ออีนวดไหล่มู่หรงกวานเย่ว์เบาๆ เฉินมั่วฉือยังไม่ออกว่าราชการด้วยตนเอง วังหลังไม่มีเจ้า มู่หรงกวานเย่ว์จัดการดูแลทั้งหมด ตอนปลายปีมีเรื่องมากมายเหลือเกิน บางครั้งมู่หรงกวานเย่ว์ก็งานยุ่งจนดึกดื่น
“ต่อไปรอให้ฮ่องเต้ขึ้นครองราชย์แล้ว เราเองก็สามารถปลดภาระบนบ่านี้ลงได้ พักผ่อนสบายๆ คราวนี้เซียวเหยี่ยนเป็นหนี้น้ำใจข้ามากมายนัก เจ้าว่าเซียวเหยี่ยนควรจะตอบแทนน้ำใจข้าอย่างไร”
จื่ออีไม่กล้าพูดส่งเดช ตอบกลับอย่างพิจารณาแล้ว
“ท่านอ๋องย่อมต้องดูเจตนาของไทเฮาอยู่แล้วเพคะ”
มู่หรงกวานเย่ว์เพิ่งจะรู้สึกว่าจิตใจรื่นรมย์ขึ้นเยอะ มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม
“เจ้าดูสิ อย่างไรเขาก็หนีเราไปไม่พ้น หากไม่ใช่เพราะคนของเรายื่นมือออกไปช่วย เขากับหลิงอวี้จื้อจะกลับเมืองหลวงได้หรือไม่นั้น ก็มิอาจรู้ได้
เรากับเซียวเหยี่ยนลงเรือลำเดียวกันอยู่แล้ว แต่เขากลับใจร้ายกับเราเพียงเพราะผู้หญิงคนเดียว บุญคุณคราวนี้ เราจะต้องให้เขาตอบแทนให้ดีๆ”
จื่ออีไม่กล้าพูดต่อ รู้เพียงว่ามู่หรงกวานเย่ว์ยังปล่อยวางจากเซียวเหยี่ยนไม่ได้ ไม่ว่าด้วยเหตุผลกลใด มู่หรงกวานเย่ว์ก็ไม่อยากให้เซียวเหยี่ยนเป็นอะไรไปตอนนี้
นางทั้งรักทั้งเกลียดทั้งต้องการประโยชน์จากเซียวเหยี่ยน ไม่มีทางใช้ประโยคสั้นๆ มาอธิบายให้ชัดเจนได้ ตอนนี้จื่ออีรู้สึกว่าถึงแม้จะไม่มีหลิงอวี้จื้อ สองคนนี้ก็ไปด้วยกันยากอยู่ดี ทั้งคู่ต่างอยู่ในฐานะสูงส่งและเป็นคนที่คาดเดาไม่ได้ คนประเภทนี้สองคนอยู่ด้วยกัน ยากเกินไปจริงๆ
เซียวเหยี่ยน ข้ารอให้เจ้ามาหาอยู่ เจ้าอยากขอนางแต่งงานอย่างราบรื่น ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก
ไม่กี่วันต่อมา เซียวเหยี่ยนและหลิงอวี้จื้อกลับเมืองหลวงมาด้วยกัน เซียวเหยี่ยนพาหลิงอวี้จื้อไปส่งจวนมหาเสนาบดีก่อน จากนั้นจึงกลับจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
หลิงอวี้จื้อกลับไปที่เรือนของตนเอง อาบน้ำอย่างสบาย ผมเปียกชื้น นอนเหยียดบนตั่งมีความรู้สึกง่วงงุนจะหลับ อย่างไรจวนมหาเสนาบดีก็สบายอยู่ดี
อยู่มาครึ่งปีแล้ว นางมองที่นี่เป็นบ้านจริงๆ ของตนเองไปแล้ว
เพิ่งจะล้มตัวนอน ชวีเหยาก็เข้ามา หลิงอวี้จื้อเห็นว่าเป็นชวีเหยา จึงนั่งตัวตรงทันที
“ท่านแม่ นั่งสิเจ้าคะ”
“ลูกคนนี้ ไม่ยอมกลับมาฉลองปีใหม่ ทุกวันข้าอกสั่นขวัญแขวน ดีที่เจ้ากลับมาอย่างปลอดภัย”
หลิงอวี้จื้อหัวเราะคิกคักขณะกอดแขนชวีเหยา
“ท่านแม่เจ้าขา อย่าตำหนิข้าเลย ข้าก็กลับมาอย่างปลอดภัยแล้วไม่ใช่หรือ ท่านแม่อย่าลืมสิ ข้างกายข้ายังมีท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์นะ เขาปกป้องข้าได้”
“อย่างไรเจ้าก็ยังไม่ได้แต่งงาน รีบออกไปกับท่านอ๋องเช่นนี้ไม่เหมาะสมจริง ๆ”
“ก็พ่อข้าทนไม่ไหว อยากจะให้ข้าไปอยู่ที่จวนท่านอ๋องโดยไม่ต้องกลับมาใจจะขาด วางใจเถิดเจ้าค่ะ! ท่านแม่ ข้ารู้เรื่องความผิดชอบชั่วดีและศักดิ์ศรี ไม่ทำให้ท่านขายหน้าเด็ดขาด”
ชวีเหยาตำหนิหลิงอวี้จื้อไม่ลงอีก ในใจรู้สึกผิดต่อเด็กคนนี้อยู่แล้ว ได้เห็นหลิงอวี้จื้อนั่งข้างๆ ตนเองอย่างสบายดี ก็วางใจแล้ว
“คุณหนู เหตุใดคุณหนูกลับมาแล้วถึงพาหมาป่ามาด้วยล่ะเจ้าคะ สาวใช้ในเรือนตกใจกันไปหมดเลยเจ้าค่ะ”
หลิงอวี้จื้อหัวเราะฮาลั่น พูดว่า
“ไม่ต้องกลัว หมาป่าผีอ่อนโยนมาก ต่อไปข้ากับมั่วชิงจะเลี้ยงดูให้อาหารมัน ถ้ากลัว ต่อไปก็ไม่ต้องเข้าใกล้มันนะ”
“เจ้าเป็นผู้หญิง ควรจะมีความเป็นผู้หญิงหน่อย จะเลี้ยงหมาป่าไปทำไม”
ตอนที่ 427 ลู่ชิงชิงกระโดดน้ำ
“ป้องกันตัวไงเจ้าคะ ท่านแม่ ท่านก็เห็นแล้ว ลูกสาวท่านแม่มักจะมีเรื่องให้คนอื่นอิจฉา ข้าเพิ่งจะหายดีได้ครึ่งปี ในจวนนี้ไม่รู้ว่ามีเรื่องสกปรกเกิดขึ้นมากมายเพียงใด ล้วนแต่เป็นเรื่องร้ายแรงถึงชีวิตของข้า
ต่อไปข้าจะดูสิว่าใครจะกล้ามาแผลงฤทธิ์ที่นี่อีก ข้าจะให้เจ้าหมาป่าผีนอนอยู่หน้าประตูเรือน ใครกล้าหาเรื่องก็กัดคนนั้น”
หลิงอวี้จื้อทำเสียงหึ พูดถึงเรื่องพวกนี้ ชวีเหยาก็รู้สึกผิดอีก ลูบหัวหลิงอวี้จื้อ
“เพราะแม่ไม่ดีเอง อวี้จื้อ ขอโทษนะ”
“ท่านแม่ เอาอีกแล้วนะ ข้าไม่ได้โทษท่าน เรื่องในอดีตอย่าพูดถึงเลย”
หลิงอวี้จื้อโบกมือ แล้วถามไปตามเรื่อง
“หรูเยียน ข้าเพิ่งมาถึง เหตุใดจึงไม่เห็นชิวจวี๋ล่ะ”
หรูเรียนอ้ำๆ อึ้งๆ ดูเหมือนจะลำบากใจมาก
“นาง…”
“นางเป็นอะไร”
หลิงอวี้จื้อรู้สึกได้ว่าเกิดเรื่องแล้ว สีหน้าขรึมลง
“ช่วงนี้นางไปที่เรือนคุณชายใหญ่บ่อยๆ ข้าบอกนางไปหลายครั้งแล้ว แต่นาง…”
“แต่นางไม่ยอมฟังใช่หรือไม่! ชิวจวี๋นี่มันเก่งจริงๆ นี่คิดจะเป็นเมียน้อยสิท่า หรูเยียน หากนี่เป็นเรื่องจริง จะปล่อยให้อยู่ในจวนไม่ได้อีก”
“บ่าวทำให้คุณหนูวุ่นวายเสียแล้ว”
หรูเยียนคุกเข่าบนพื้น สีหน้าขอโทษ
นางไม่รู้จริงๆ ว่าชิวจวี๋จะกล้าขนาดนี้ นึกไม่ถึงว่าจะมีความคิดที่จะจับหลิงจื่อเฉิง
นางพยายามห้ามทั้งทางตรงและทางอ้อมหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไร้ประโยชน์ ชิวจวี๋ก็ยังจะทำตามใจ และยังไม่รู้ว่าหลิงจื่อเฉิงคิดอย่างไร
“เอาเถิด เจ้าลุกขึ้น น้องสาวเจ้าไม่ได้ความ ไม่ใช่ความผิดของเจ้า”
หลิงอวี้จื้อลุกขึ้น ประคองหรูเยียนให้ขึ้นมา
“ก่อนหน้านี้ข้าปล่อยให้นางอยู่ในจวนเพราะจะให้โอกาสนางอีกสักครั้ง หากนางไม่รู้จักรักษาโอกาส ข้าก็ไม่เกรงใจแล้ว
หรูเยียน เจ้าก็อยู่กับข้ามาหลายปี ข้าดูแลเจ้าอย่างดี แต่ข้าไม่สามารถทนคนเช่นนี้ได้”
“บ่าวเข้าใจเจ้าค่ะ แม้ว่าคุณหนูจะไล่ชิวจวี๋ออกจากจวน บ่าวก็จะไม่เรียกร้องอะไร เรื่องนี้เป็นความผิดของชิวจวี๋เอง”
หรูเยียนเป็นคนเข้าใจเหตุผลอยู่แล้ว และไม่ขอร้องแทนชิวจวี๋ ก่อนหน้านี้นางขอร้องแทนชิวจวี๋มามากพอแล้ว ตอนนี้แม้แต่นางเองก็ผิดหวังในตัวชิวจวี๋
“อวี้จื้อ เรื่องนี้ต้องถามให้กระจ่าง ลองดูว่ามีเรื่องอะไรเข้าใจผิดหรือไม่”
หลายวันมานี้มีแต่หรูเยียนที่คอยดูแลชวีเหยา ด้วยเหตุนี้ชวีเหยาจึงชอบหรูเยียนมาก เห็นหน้าตาหรูเยียนมีความวิตกกังวล จึงช่วยพูดแทนหรูเยียน
หลิงอวี้จื้อพยักหน้า เดินไปที่โต๊ะหยิบพุทราแดงมาสองสามเม็ด เพิ่งจะหยิบเม็ดหนึ่งใส่ปาก จู่ๆ มั่วชิงก็รีบร้อนเข้ามาจากข้างนอก
“คุณหนูเจ้าคะ ทางเรือนคุณชายใหญ่เกิดเรื่องแล้วเจ้าค่ะ”
“หา…ใครเกิดเรื่อง”
หลิงอวี้จื้อแทบจะสำลักพุทราแดงในปาก พ่นพุทราแดงทิ้งทันที
“ลู่อี๋เหนียงเจ้าค่ะ”
“ชิงชิงเป็นอะไร”
“เมื่อครู่แม่นางลู่กระโดดน้ำเจ้าค่ะ ดีที่มีคนช่วยขึ้นมา คุณหนูจะไปดูสักหน่อยหรือไม่เจ้าคะ”
หลิงอวี้จื้อไม่ทันพูดอะไร ออกจากห้องไปทันที หรูเยียนกับมั่วชิงก็ตามไป หลิงอวี้จื้อเดินไวมาก
ลู่ชิงชิงเป็นหญิงสาวที่อ่อนโยนและจิตใจดี จู่ๆ นางเกิดกระโดดน้ำขึ้นมา แสดงว่ามีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นแน่นอน หากว่ากันตามสัญชาตญาณ เธอรู้สึกว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชิวจวี๋
นังเด็กคนนี้หาเรื่องเก่งเสียจริง เธอนึกว่าชิวจวี๋ผ่านเรื่องครั้งนั้นไปได้จะซื่อสัตย์ขึ้นมาบ้าง ไม่นานก็เอาสายตาไปมองหลิงจื่อเฉิงเสียแล้ว ซ้ำยังบีบให้ลู่ชิงชิงต้องกระโดดทะเลสาบด้วย
แผนการร้ายกาจไม่ธรรมดาเลย แสดงว่าเด็กคนนี้ศีลธรรมมีปัญหา
เพิ่งเข้ามาในเรือนของหลิงจื่อเฉิงก็เห็นชิวจวี๋คุกเข่าอยู่ในเรือน เห็นหลิงอวี้จื้อเข้ามา นางก็ก้มหน้าลงอย่างขี้ขลาด เรียกอย่างอับอายขี้ขลาดว่า
“คุณหนู”