ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด - ตอนที่ 576 มีตรงไหนผิดปกติกันแน่ / ตอนที่ 577 ตามจังหวะไม่ทัน
- Home
- ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด
- ตอนที่ 576 มีตรงไหนผิดปกติกันแน่ / ตอนที่ 577 ตามจังหวะไม่ทัน
ตอนที่ 576 มีตรงไหนผิดปกติกันแน่
“หากเจ้าสะดวก จะไปดูผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นก็ได้”
“เดี๋ยวงานเลี้ยงเลิกแล้ว ข้าจะไปนั่งเล่นที่เรือนของเจ้าสักหน่อย”
ฟางฮุ่ยหรูพยักหน้า ถือว่ารับปากแล้ว
ถึงแม้ว่าอวี้ไท่เฟยจะน่าสงสัยมาก แต่ในใจหลิงอวี้จื้อกลับมีข้อสงสัยอย่างหนึ่ง
จำที่มู่หรงกวานเย่ว์บอกได้ว่านางไม่กล้าคลอดลูก ที่สำนักอู๋จี๋ก็ไม่อนุญาตให้พวกนางคลอดลูก แต่อวี้ไท่เฟยมีลูกสาวสองคน ลูกสาวสองคนนี้มาได้อย่างไร หรือว่าเจียงสือไม่ได้มีข้อจำกัดกับไม้เด็ดที่สำคัญที่สุดคนนี้
“พวกเรากลับเถิด มิเช่นนั้นไทเฮาจะคงจะชักสีหน้ามองเรา”
ฟางฮุ่ยหรูหัวเราะ หมุนตัวกลับไปเดินข้างหน้า หลิงอวี้จื้อตามข้างหลังนาง ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงรู้สึกอยู่ตลอดว่ามีตรงไหนสักที่ผิดปกติ สัญชาตญาณของเธอแม่นยำมาตลอด หรือว่าอวี้ไท่เฟยดูแล้วไม่เหมือนคนที่มีลับลมคมใน
แต่จะว่าไป ถ้าเธอสามารถดูออกจริง ๆ เช่นนั้นทักษะในการซ่อนตัวของนางก็คงจะแย่เกินไปหน่อย
สองคนเดินตามกันกลับมายังสถานที่จัดงานเลี้ยง เพียงแต่ไม่เห็นอวี้ไท่เฟยแล้ว หลิงอวี้จื้อมองไปรอบทิศก็ไม่เจออวี้ไท่เฟย นางออกไปจากงานเลี้ยงเร็วขนาดนี้เชียวหรือ
สำหรับหลิงอวี้จื้อ งานเลี้ยงนี้น่าเบื่อมาก เมื่อมีเรื่องในใจ เธอก็ไม่มีแก่ใจจะชื่นชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ไม่ได้มีเพียงเธอที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แม้แต่มู่หรงกวานเย่ว์ก็รู้สึกเหมือนไม่มีสมาธิอยู่กับเรื่องตรงหน้า ถึงแม้ว่าจะมีฝูงชนรายล้อม แต่นางก็ดูเหมือนจะเหนื่อยล้ามาก
เมื่อฮ่องเต้องค์ก่อนเสด็จสวรรคตไปแล้ว ก็มีงานเลี้ยงจัดขึ้นเป็นประจำในวัง มิเช่นนั้นทั้งวังหลังคงมีแต่บรรยากาศอุดอู้ไร้ชีวิตชีวา
ไม่มีฮ่องเต้องค์ก่อนแล้ว ผู้หญิงกลุ่มนี้ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องแก่งแย่งกันเป็นคนโปรดอีก
ตอนนี้เฉินมั่วก็ยังไม่ได้ปกครองบ้านเมืองด้วยตนเอง และยังไม่ได้อภิเษกสมรส ด้วยเหตุนี้พวกนางยังคงพักอาศัยอยู่ที่เดิม
เมื่อใดที่วังหลังมีเจ้าของคนใหม่ พระสนมเหล่านี้ก็ต้องพากันย้ายสถานที่ ไปที่พระตำหนักที่เตรียมไว้ให้ไท่เฟยอยู่จนแก่เฒ่าโดยเฉพาะ วันเวลาระยะยาวไม่สบายเช่นตอนนี้ หากได้เจอฮองเฮาที่ไม่ดีสักเท่าไหร่ ชีวิตก็ยิ่งอนาถ ด้วยเหตุนี้เหล่าพระสนมจึงหวังว่าเฉินมั่วจะอภิเษกสมรสช้าลงหน่อย
เมื่องานเลี้ยงจบแล้ว หลิงอวี้จื้อและฟางฮุ่ยหรูก็กลับวังโยวเสียกงด้วยกัน เห็นสองคนนั้นเดินจากไป ซูฮว่าก็ประคองเฉินปี้ พูดเบา ๆ ว่า
“พระชายาเพคะ เหตุใดพระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์จึงสนิทกับฟางไท่เฟยจังเลยเพคะ”
“ฟางไท่เฟยเข้าใกล้นางต้องมีแผนแน่ ฟางไท่เฟยอายุยังน้อยแต่ต้องครองตัวเป็นหม้าย ลักษณะท่าทางดูยวนยั่ว ซ้ำยังไม่มีลูก จะยินดีอยู่ในวังนี้จนแก่ได้อย่างไร”
เฉินปี้พูดจบก็กลับหลังหัน กำลังจะออกจากวัง ซูฮว่าประคองนาง ถามว่า
“พระชายา เช่นนั้นพวกเรา…”
“เรื่องนี้ก็ต้องยุ่งด้วยหรือ พวกเรามีปัญญายุ่งหรือ ตอนนี้ข้ามีเวลายุ่งเรื่องนางเสียที่ไหน”
ขณะที่กำลังพูดสิ่งเหล่านี้อยู่ แววตาของเฉินปี้มัวหมองมาก ซูฮว่าเข้าใจความหมายของเฉินปี้
ตอนนี้เฉินปี้ไม่มีเวลาดูแลตัวเองเลยจริง ๆ ชีวิตในจวนอู๋อ๋องเรียกได้ว่าน่าสังเวชมาก ขนาดแค่เห็นอู๋อ๋องนางยังตัวสั่น หากไม่ได้เข้าจวนอู๋อ๋องไปกับเฉินปี้ นางก็ไม่รู้มาก่อนเลยว่าอู๋อ๋องผู้อ่อนโยนสง่างามที่จริงแล้วมีนิสัยเช่นนี้
ตอนนี้เฉินปี้เสียใจอย่างสุดซึ้ง หากรู้ว่าจะมีวันนี้ นางจะไม่มีทางพูดเช่นนั้นเด็ดขาด ช่วงเวลานี้ เฉินเสี้ยวหรูเอาชนะความหยิ่งผยองทั้งหมดของนางไปได้ ทำให้นางไม่รู้จักคำแม้แต่คำว่าอัปยศอดสูแล้ว
“พระชายา ยอมรับผิดกับท่านอู๋อ๋องให้ดี ๆ เสียดีกว่าเพคะ ชีวิตในวันหน้าจะได้ไม่ลำบากเช่นนี้”
เฉินปี้หัวเราะอย่างเย็นชา
“ข้ายังรับผิดน้อยไปอีกหรือ แม้ข้าจะตายต่อหน้าเขา เขาก็คงไม่สงสารข้า เดินผิดก้าวเดียวแพ้ทั้งกระดาน ไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะต้องมีชีวิตต่อไป อยากดูวันที่เซียวเหยี่ยนและหลิงอวี้จื้อจบไม่สวย มิเช่นนั้นข้าตายไปก็ไม่สบายใจ ทั้งหมดที่ข้ามีในตอนนี้ล้วนเป็นเพราะหลิงอวี้จื้อทั้งสิ้น”
ตอนที่ 577 ตามจังหวะไม่ทัน
ประโยคสุดท้าย แววตาของเฉินปี้เต็มไปด้วยความเกลียดชัง โดยเฉพาะตอนที่เห็นหลิงอวี้จื้อดูมีสง่าราศี นางแทบจะอยากเข้าไปฉีกหลิงอวี้จื้อเป็นชิ้น ๆ เสียเดี๋ยวนั้นเลย
นางรู้ว่า ตอนนี้นางต้องอดทนเอาไว้ อาศัยกำลังของนางในตอนนี้ ทำอะไรหลิงอวี้จื้อไม่ได้เลย
เมื่อก่อนนางแค่เกลียดเซียวเหยี่ยนกับหลิงอวี้จื้อ แต่ตอนนี้ที่เกลียดที่สุดคือเฉินเสี้ยวหรู เขาเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของนาง ทำให้ชีวิตของนางอยู่ไปก็ไม่สู้ตายเสียดีกว่า ถึงขนาดเมื่อใดที่เห็นเฉินเสี้ยวหรู นางแทบอยากจะเข้าไปฆ่าเขาเสียเดี๋ยวนั้น แต่นางไม่กล้า ทำได้เพียงอดทนไว้
นึกไม่ถึงว่าอ๋องผู้อ่อนโยนเป็นที่ประจักษ์จะกดขี่ข่มเหงกันถึงเพียงนี้
พระชายาเช่นนางดูเหมือนจะกลายเป็นที่ระบายของเฉินเสี้ยวหรู สามารถกระทำย่ำยีได้ ก็เพียงเพราะคืนวันแต่งงาน นางพูดความจริงสามสี่ประโยคนั้น จึงได้ความอัปยศเช่นนี้เป็นการแลกเปลี่ยน ทำให้ในใจนางนอกจากความเกลียดแค้นแล้ว ก็ไม่มีสิ่งใดอีก
ในทางกลับกัน หลิงอวี้จื้อมีชีวิตอย่างเป็นสุขขนาดนี้ รู้สึกบาดตานางยิ่งนัก เมื่อใดที่นึกถึงเรื่องนี้ นางก็รู้สึกไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง เหตุใดนางต้องมาตกอยู่ในจดจบอันน่าสังเวชเช่นนี้
หลิงอวี้จื้อย่อมไม่รู้ว่าในใจเฉินปี้คิดอะไรอยู่ และไม่รู้ว่าเฉินปี้มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไรในจวน เธอกับฟางฮุ่ยหรูเดินไปยังตำหนักโยวเสียกง
เมื่อเห็นผ้าเช็ดหน้าผืนนั้น เป็นวัสดุแบบเดียวกันกับผ้าเช็ดหน้าที่เฟิงอิ๋นมอบให้หลิงอวี้จื้อจริง ๆ เพียงแต่การปักดอกเหมยแดงไม่ค่อยเหมือนกัน แต่ว่าฝีมือการเย็บปักนั้นเหมือนกันทุกประการ แทบจะตัดสินได้ว่ามาจากฝีมือของคน ๆ เดียวกัน
“ผ้าเช็ดหน้านี้มีปัญหาหรือ”
เห็นหลิงอวี้จื้อมองผ้าเช็ดหน้าอย่างใจลอย ฟางฮุ่ยหรูก็ถามด้วยความสงสัย
“นี่ฝีมือประณีตจริง ๆ”
“หากเจ้าชอบ ยกให้เจ้าก็ได้”
หลิงอวี้จื้ออยากเอากลับไปเทียบสักหน่อย ดังนั้นจึงไม่ได้เกรงใจฟางฮุ่ยหรู ตอบรับทันที
“เช่นนั้นขอบคุณมากเพคะ”
“แค่ผ้าเช็ดหน้าผืนเดียว และข้าก็แค่เอาของผู้อื่นมาแสดงน้ำใจ พระชายาไม่ต้องเกรงใจ”
พูดเสร็จหลิงอวี้จื้อก็เก็บผ้าเช็ดหน้า สองคนพูดคุยสัพเพเหระกันอีกไม่กี่ประโยค หลิงอวี้จื้อก็ขอตัวก่อน ฟางฮุ่ยหรูก็มิได้รั้งตัวหลิงอวี้จื้อไว้ เดินไปส่งหลิงอวี้จื้อที่ประตูเอง เรียกสาวใช้ประจำตัวในวังออกมา สั่งการว่า
“หมิงเย่ว์ เจ้าไปส่งพระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการพระองค์ที่ประตูวังด้วย”
“ข้ากลับเองก็ได้ จะรบกวนท่านไปใย”
“เจ้ามาวังโยวเสียกงครั้งแรก ที่แห่งนี้ก็อยู่ห่างไกลมากด้วย ข้ากลัวว่าเจ้าหาทางไม่เจอ ให้หมิงเย่ว์ไปด้วยสักรอบข้าถึงจะวางใจหน่อย มิเช่นนั้นท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์จะต้องมาคิดบัญชีกับข้าแน่นอน”
“เช่นนั้นก็รบกวนไท่เฟยด้วยเพคะ”
หลิงอวี้จื้อไม่ได้ปฏิเสธ พาหรูเยียนออกไปจากวังโยวเสียกง ฟางฮุ่ยหรูยืนมองแผ่นหลังของหลิงอวี้จื้อตรงธรณีประตู แววตาลุ่มลึก
หมิงเย่ว์นำทางอยู่ข้างหน้า หลิงอวี้จื้อและหรูเยียนตามอยู่ข้างหลัง วังโยวเสียกงนี้ไกลจริง ๆ
แต่ความจำของหลิงอวี้จื้อก็ยังถือว่าไม่เลว รู้จักทางกลับโดยประมาณได้ ตอนที่พวกเขาออกมาส่วนใหญ่ก็เป็นทางเดียวกับตอนที่เข้าไป เดิมทีกะจะเรียกหมิงเย่ว์ให้กลับไปก่อน ปรากฏว่ากลับได้ยินเสียงน่าสงสัยเสียงหนึ่ง
ในฐานะที่เป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้ว หลิงอวี้จื้อย่อมรู้ว่าเสียงที่น่าสงสัยนั้นคือเสียงอะไร จะโชคดีอะไรปานนี้ นึกไม่ถึงว่าจะมาเจอเรื่องทำนองนี้ในวังเข้า หรือว่าทหารยามกับสาวใช้ในวังกำลังทำเรื่องที่ไม่สามารถบรรยายได้กันอยู่
หลิงอวี้จื้อกำลังคิดว่าจะเดินอ้อมไปดีหรือไม่ เรื่องในวังหลังก็ไม่เกี่ยวกับเธออยู่แล้ว เธอไม่อยากยุ่งเรื่องไม่เป็นเรื่อง หมิงเยว์วิ่งบุกเข้าไป ตวาดเสียงดัง
“ใครกันช่างกล้าเพียงนี้”
จากนั้น หมิงเย่ว์ผู้ดุดันก็คุกเข่าลงกับพื้น เหมือนจะไม่กล้ามองชายหญิงที่อยู่ตรงหน้า หลิงอวี้จื้อก็เห็นชายหญิงคู่นั้นแล้ว เมื่อมองเห็นชัดเจนแล้ว เธอก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้อยู่สักพัก เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเฉินเสี้ยวหรูกับอวี้ไท่เฟย นี่…ยกโทษให้เธอด้วยที่สมองตันไปแล้ว จู่ ๆ ก็ตามจังหวะไม่ทัน