ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด - ตอนที่ 646 สหายเก่ามาเยี่ยม / ตอนที่ 647 เหตุที่ห่างเหิน
- Home
- ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด
- ตอนที่ 646 สหายเก่ามาเยี่ยม / ตอนที่ 647 เหตุที่ห่างเหิน
ตอนที่ 646 สหายเก่ามาเยี่ยม
“มู่หรงฮูหยินไม่จำเป็นต้องมากพิธี” หลิงอวี้จื้อเอ่ยตามฐานะของตนแล้วยิ้มให้จื่ออีพลางพูดว่า “เหตุใดท่านอาจื่ออีถึงได้พามาด้วยตนเองเล่า หรือไทเฮามีเรื่องใดรับสั่งกับข้า”
“หม่อมฉันได้รับคำสั่งจากไทเฮาให้มาเยี่ยมหยวนเฟยเพคะ ไทเฮากลัวว่าหยวนเฟยจะได้รับบาดเจ็บ แต่บังเอิญพบกับมู่หรงฮูหยินระหว่างทางจึงมาด้วยกันเพคะ”
จื่ออีมองริมฝีปากที่บวมเป่งของหลิงอวี้จื้อคราหนึ่งแต่ไม่ได้พูดอะไร เพียงสอบถามคำสองคำก็ขอตัวกลับ
หลังจากจื่ออีไปแล้ว หลิงอวี้จื้อก็ให้บ่าวไพร่ทั้งหมดออกไป เมื่อเหลือกันเพียงสองคน หลิงอวี้จื้อจึงเอ่ยถามขึ้นว่า “ฝ่าบาทให้เจ้ามาหาข้าหรือ”
“อวี้จื้อ” จูจิ่นเอ่ยขึ้นคำหนึ่ง เมื่อเห็นใบหน้าอันไม่คุ้นเคยนี้แล้วก็ทำให้จูจิ่นรู้สึกดั่งอยู่กันคนละยุคสมัย
“ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าต้องได้รับจดหมายข้า แล้วเหตุใดจึงไม่ตอบจดหมายเล่า”
จูจิ่นหลบสายตาหลิงอวี้จื้อ แล้วทอดสายตาออกไปแสนไกล นางยกมือขึ้นปัดเก็บปอยผมที่หลุดลุ่ยขึ้นทัดหลังหู “ไม่ใช่ข้าไม่อยากตอบจดหมายเจ้า แต่ข้าไม่รู้จะพูดอะไรมากกว่า ห้าปีแล้ว ข้าไม่ใช่ข้าในตอนนั้น เจ้าเองก็ไม่ใช่เจ้าในตอนนั้นเช่นกัน”
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร อาจิ่น หลายปีมานี้เจ้าสบายดีหรือไม่ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่”
หลิงอวี้จื้อไม่รู้เรื่องของจูจิ่นในหลายปีนี้เลย ข่าวคราวที่นางไปสอบถามมาก็น้อยนัก จึงรู้แค่ว่านางเข้าไปอยู่ในจวนมู่หรง และมีบุตรชายคนหนึ่ง เรื่องอื่นไม่รู้เลยสักนิด
จูจิ่นยิ้มให้หลิงอวี้จื้อ “ว่าไปแล้วข้าก็ติดค้างคำขอบคุณกับเจ้า หากไม่ใช่เจ้าช่วยไว้ ข้าคงไม่ได้เข้าไปอยู่ในจวนมู่หรงอย่างราบรื่นแน่ วิธีของเจ้าได้ผลจริงๆ ทำให้ข้าได้สมปรารถนา”
“หลังจากคลอดเซียงหนาน คนในจวนมู่หรงก็ดีกับข้ามาก เจ้าก็เห็นแล้วว่าเขาเหมือนนี่อวิ๋นยิ่ง ไม่มีผู้ใดสงสัยฐานะของเซียงหนานอีกเลย หลายปีมานี่ข้าใช้ชีวิตอย่างสงบสุข เฝ้ามองเซียงหนานเติบโตขึ้นทุกวัน ตอนนี้เขาคือทั้งหมดในชีวิตข้า”
“เช่นนั้นก็ดีแล้ว ข้าจะได้สบายใจเสียที” หลิงอวี้จื้อตบบ่าจูจิ่น “ไม่พบกันห้าปี เจ้ารู้สึกห่างเหินกับข้าเพียงนี้เชียว กระทั่งไม่รู้จะพูดอะไรกับข้า เจ้าไม่กลัวข้าเสียใจเลยหรือ ข้าไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ยังคงเป็นหลิงอวี้จื้อคนเดิม หลายวันมานี้ข้าเอาแต่รอข่าวจากเจ้า ข้าร้อนใจจนจะตายแล้ว”
“อาจิ่น เรื่องข้ากับอาเหยี่ยนเจ้าก็รู้ดี ตอนนี้ความหวังเดียวของข้าก็คือการได้กลับไปหาอาเหยี่ยน เจ้าช่วยข้าส่งข่าวถึงเขาได้หรือไม่”
แม้หลิงอวี้จื้อตรงหน้าจะมีรูปโฉมเปลี่ยนไปแต่อุปนิสัยกลับไม่เปลี่ยนเลย ยังคงเป็นหลิงอวี้จื้อคนเดิม แต่นางไม่ใช่จูจิ่นคนเดิมแล้ว นางมีบุตรชาย และได้กลายเป็นคนของตระกูลมู่หรงโดยสมบูรณ์ ต่อไปคงได้แต่เลือกยืนอยู่ข้างตระกูลมู่หรงเท่านั้น
จูจิ่นมีสีหน้าสับสนคล้ายไม่รู้จะพูดอย่างไรดี เมื่อเห็นท่าทีเช่นนี้ของจูจิ่น หลิงอวี้จื้อก็ใจหายขึ้นมา หรือเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเซียวเหยี่ยน
“อวี้จื้อ เจ้าหนีไปไม่ได้หรอก” จูจิ่นเลือกที่จะบอกความจริงกับหลิงอวี้จื้อ “เจ้าวางใจเถิด อีกไม่นานอาเหยี่ยนก็จะรู้เรื่องของเจ้าแน่ เจ้ารู้หรือไม่เหตุใดข้าจึงมาที่นี่พร้อมกับจื่ออี ข้าเกรงว่าไทเฮาคงจะรู้ฐานะของเจ้าแล้วล่ะ”
“นางเจตนามาพร้อมกับข้า เมื่อไทเฮารู้ว่าเจ้าอยู่ที่นี่จะต้องนำข่าวไปบอกอาเหยี่ยนแน่ เพื่อล่อให้เขามาเมืองหลวงและฉวยโอกาสสังหารเขา สำหรับไทเฮาแล้ว เจ้าเป็นหมากตัวหนึ่งที่จะใช้ต่อกรกับอาเหยี่ยน ไทเฮาจึงไม่มีทางฆ่าเจ้าตอนนี้แน่”
เฉินม่อฉือไม่ยอมใช้ประโยชน์จากนาง แต่มู่หรงกวานเยว่นั้นไม่ใช่ มู่หรงกวานเยว่ต้องใช้เธอข่มขู่เซียวเหยี่ยนแน่ เธอไม่มีทางยอมให้มู่หรงกวานเยว่มีโอกาสนั้นหรอก
ตอนที่ 647 เหตุที่ห่างเหิน
“อาจิ่น เจ้าหมายความว่าอะไร”
หลิงอวี้จื้อจับมือนางไว้แน่น เหตุใดถึงรู้สึกว่าคำพูดของจูจิ่นดูแปลกๆ
“อวี้จื้อ ขอโทษด้วย ข้าคงช่วยเจ้าไม่ได้” จูจิ่นเบี่ยงหน้าหลบ ไม่ได้มองหน้าหลิงอวี้จื้อ คล้ายกำลังรู้สึกผิด “ตอนนี้ข้าเป็นของจวนมู่หรง ข้าช่วยเจ้าไม่ได้ และช่วยอาเหยี่ยนไม่ได้ ข้าทำได้เพียงยืนอยู่ฝั่งของจวนมู่หรง เรื่องของเจ้ากับอาเหยี่ยนจะเป็นเช่นไรคงต้องดูลิขิตสวรรค์แล้ว ข้าไม่อาจเข้าไปยุ่งได้”
หลิงอวี้จื้อรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า ความหมายของจูจิ่นคือนางกำลังขีดเส้นแบ่งความสัมพันธ์กับพวกเขางั้นหรือ
จูจิ่นเคยเป็นสหายที่สนิทที่สุดของเซียวเหยี่ยน เพราะเซียวเหยี่ยนเธอถึงได้มาสนิทกับจูจิ่น แต่ผ่านไปเพียงห้าปี จูจิ่นกลับขีดเส้นแบ่งความสัมพันธ์กับพวกเขาออกอย่างชัดเจน แม้เธอจะเข้าใจในสิ่งที่จูจิ่นทำแต่จะให้ยอมรับในเวลาสั้นๆ กลับทำไม่ได้
“ข้าจะไม่ช่วยไทเฮาทำร้ายพวกเจ้า แต่ก็จะไม่ช่วยพวกเจ้าทำร้ายไทเฮาเช่นกัน หากพูดถึงความในใจของข้า ข้าก็ไม่อยากให้ฝ่าบาทแพ้อาเหยี่ยน หากฝ่าบาทแพ้ก็เท่ากับตระกูลมู่หรงแพ้ พวกเขาอยู่ จึงสามารถรักษาตระกูลมู่หรงเอาไว้ได้ เซียงหนานก็จะได้เติบโตขึ้นอย่างปลอดภัย หลายปีมานี่ไทเฮาดีกับเซียงหนานไม่น้อย เซียงหนานเองก็สนิทกับอาคนนี้ยิ่ง พวกเขาล้วนเป็นที่พึ่งของเซียงหนาน”
น้ำเสียงของจูจิ่นราบเรียบยิ่ง แต่หลิงอวี้จื้อกลับไม่อาจสงบใจได้อีกแล้ว “เจ้ากับอาเหยี่ยนคบหากันมาหลายปี ต่อให้อาหยวนได้แค้วนเว่ยตะวันตกไป เขาก็ไม่มีทางทำให้เจ้ากับเซียงหนานต้องลำบากแน่ พวกเจ้าจะปลอดภัย และเกียรติยศใดที่ควรมีก็ยังคงมีเหมือนเดิม”
“ข้ารู้ว่าอาเหยี่ยนคงไม่ทำอะไรเรา และจะดูแลเราแม่ลูกอย่างดี แต่อวี้จื้อ เจ้าอย่าลืมว่าไทเฮากับฝ่าบาทเป็นญาติของเซียงหนานนะ อาเหยี่ยนไม่มีทางปล่อยไทเฮาและฝ่าบาทแน่ รวมถึงตระกูลมู่หรงด้วย แต่คนเหล่านี้เป็นญาติของเซียงหนาน พวกเขารักเอ็นดูเซียงหนาน แม้นี่อวิ๋นไม่อยู่แล้ว แต่หลายปีมานี้เซียงหนานกลับได้รับความรักจากพวกเขาไม่น้อยเลย”
“ไทเฮาและฝ่าบาทต่างโปรดเซียงหนาน ปู่ของเซียงหนานก็เอ็นดูเขามาก หากต้องสูญเสียญาติเหล่านี้ไป เขาคงต้องเสียใจมากแน่”
“ข้ารู้ว่าอาเหยี่ยนเป็นสหายของข้า ดังนั้นข้าจะไม่ช่วยไทเฮาทำร้ายอาเหยี่ยน เช่นเดียวกัน ข้ามิอาจช่วยพวกเจ้าทำร้ายญาติที่รักและเอ็นดูเซียงหนานได้”
“อวี้จื้อ ข้าขอโทษ แต่นี้ต่อไป เราไม่ใช่สหายกันอีกแล้ว ต่างคนต่างเดินทางของตนเอง ความสัมพันธ์ในอดีตของให้จบกันเพียงเท่านี้ ข้าเป็นเพียงฮูหยินมู่หรงเท่านั้น”
หลิงอวี้จื้อเข้าใจความหมายของจูจิ่นแล้ว มิน่าเล่านางถึงไม่ยอมมาพบตนเอง และไม่ตอบจดหมาย หากคิดเช่นนี้ พวกเขาก็ไม่มีเรื่องใดให้พูดกันอีกจริงๆ
แต่เธอไม่โทษจูจิ่น ไม่มีใครผิด เพียงแต่ตอนนี้พวกเธอยืนอยู่คนละฝั่ง ทั้งยังเป็นฝั่งตรงข้ามกันเสียด้วย
เธอเพียงรู้สึกเสียดายอย่างยิ่ง ภาพที่เคยร่ำสุราด้วยกันยังลอยวนอยู่ตรงหน้า แต่วันนี้กลับต้องบอกตัดขาดกัน เธอรู้ว่าหากสุดท้ายผู้ที่ชนะคือพวกเธอ จูจิ่นกับพวกเธอก็ยังคงกลับมาเป็นเพื่อนกันได้
แต่เมื่อคำพูดนี้ออกมาจากปากจูจิ่นเอง เธอกลับรู้สึกเสียใจไม่น้อย ไม่รู้ว่าถ้าเซียวเหยี่ยนมาได้ยินจะรู้สึกอย่างไรบ้าง
เธอยิ้มให้กับจูจิ่น แล้วตบบ่านาง “ทุกคนต่างมีทางเดินของตน นี่เป็นทางที่เจ้าเลือก ข้าขอให้เจ้าโชคดี อาจิ่น หวังว่าเจ้าจะมีความสุขนะ เซียงหนานน่ารักมาจริงๆ เป็นเด็กที่ใครเห็นก็ต้องเอ็นดู เจ้าไม่ได้ทำผิดอะไร ไม่จำเป็นต้องขอโทษเลย เดิมก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องบังคับให้เจ้าช่วยให้ได้อยู่แล้ว ข้าไม่ได้บ้าอำนาจเพียงนั้น ต่อไปเจ้าก็ดูแลตัวเองดีๆ นะ”
“เจ้าก็เช่นกัน เรื่องอื่นคงต้องพึ่งตัวเจ้าเองแล้ว”
หลิงอวี้จื้อพยักหน้า นี่คงเป็นโชคชะตาละมั้ง หากไม่ถึงวันนั้นก็ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง