ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด - ตอนที่ 672 ตามฆ่า / ตอนที่ 673 ร่วมเป็นร่วมตาย
ตอนที่ 672 ตามฆ่า
กลุ่มคนสามสี่คนเก็บสัมภาระแล้วเสร็จก็เตรียมที่จะออกเดินทาง ทันใดนั้นสัญชาตญาณของเซี่ยวเหยี่ยนก็บ่งบอกให้เขาระมัดระวัง ราชนิกูลหนุ่มจับมือหลิงอวี้จื้อเอาไว้
“อย่าขยับนะ อวี้จื้อ”
“มีอะไรหรือ?”
หลิงอวี้จื้อฉงนงงงวย ทว่านางก็สามารถคาดเดาเหตุการณ์ได้สองสามส่วนจากสีหน้าท่าทางของเซียวเหยี่ยน จะต้องเกิดเรื่องขึ้นเป็นแน่ มิเช่นนั้นเซียวเหยี่ยนคงจะไม่เคร่งขรึมปานนี้
ไม่นานมั่วชิงก็วิ่งเข้ามา
“ท่านอ๋อง พระชายา แย่แล้ว ด้านนอกมีมือสังหารบุกเข้ามา พวกท่านรีบหนีไปเร็วเข้าเถิดเจ้าค่ะ ข้าน้อยจะต้านมันอาไว้เอง”
“มั่วชิง เจ้า…”
ยังไม่ทันที่หลิงอวี้จื้อจะกล่าวจบ มั่วชิงก็รีบรับคำว่า
“พระชายาวางใจ ข้าน้อยไม่เป็นอะไรแล้ว ท่านอ๋อง รีบพาพระชายาหนีไปก่อนเถอะเจ้าค่ะ”
ซึ่งเซียวเหยี่ยนเองก็เตรียมที่จะพาหลิงอวี้จื้อหนีออกไปอยู่แล้ว
เซียวเหยี่ยนพาหลิงอวี้จื้อหลบหนีออกมาจากโรงเตี๊ยมจนกระทั่งถึงเส้นทางหลัก ทันใดนั้นคนชุดดำสี่ห้าคนก็เข้าล้อมกรอบพวกเขาทั้งสองเอาไว้ กลุ่มคนชุดดำที่มาที่กลิ่นอายของไอสังหารที่รุนแรง ดูเหมือนว่าเป็นมือสังหารโดยเฉพาะ
“ฆ่า”
หนึ่งในคนชุดดำเหล่านั้นออกคำสั่ง ทันใดนั้นคนชุดดำสี่ห้าคนกรูเข้ามาพร้อมกัน เซียวเหยี่ยนจับมือหลิงอวี้จื้อไว้แน่น คอยปกป้องนางตลอดด้วยความระมัดระวัง พลันเซียวเหยี่ยนจึงเพิ่งจะรู้ว่าตอนนี้ตนเองสูญสิ้นกำลังภายใน
เมื่อกำลังภายในสูญสิ้น เซียวเหยี่ยนจึงต้องอาศัยเพียงแค่กระบวนท่านต่อสู้เตะต่อยกับมือสังหารเหล่านั้น ขณะเดียวกันก็ต้องปกป้องหลิงอวี้จื้อไปด้วย ดังนั้นมือสังหารเพียงแค่สองคนก็สามารถจัดการพวกเขาทั้งสองได้
เซียวเหยี่ยนรู้ได้ในทันทีว่าตนเองจะต้องถูกพิษจึงทำให้กำลังภายในสูญสิ้นไปชั่วคราวเป็นแน่ แต่สำหรับที่ว่าเขาถูกพิษนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่นั้นเขาหารู้ไม่ทั้งยังไม่ตัวเลยสักนิด
อาจเพราะเขาและหลิงอวี้เพิ่งจะได้พบหน้ากันหลังพลัดพรากกันไปนาน ทำให้เขามัวแต่หลงระเริงอยู่ในความสุขนั้นจนกระทั่งละเลยที่จะระวังตัว หากว่าเขาเดาไม่ผิดละก็ คนพวกนี้น่าจะเป็นมือสังหารที่มู่หรงกวานเย่ว์และและเฉินมั่วฉือส่งมา
ไม่นานเซียวเหยี่ยนก็รับมือต่อไปไม่ไหว หนึ่งในมือสังการแตะกระบี่ในมือของเซียวเหยี่ยนจนกระเด็นออกไป ส่วนอีกคนก็เตะเข้าที่ท้องของราชนิกูลหนุ่มอย่างจังจนเซียวเหยี่ยนเซถลาไปด้านหลังสองสามก้าว เลือดๆ สดไหลออกมาจากมุมปาก
“อาเหยี่ยน เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม!”
หลิงอวี้จื้อจับมือเซียวเหยี่ยนเอาไว้แน่น นางเป็นห่วงเซียวเหยี่ยนเป็นอย่างมาก ด้วยวรยุทธ์ของเขาแล้วสามารถรับมือกับคนพวกนี้ได้อย่างสบายๆ แต่เซียวเหยี่ยนที่ไร้ทางสู้เฉกเช่นที่นางเห็นอยุ่นี้ ทำให้หลิงอวี้จื้อรับรู้ได้ทันทีว่าต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นเป็นแน่ หากว่าองค์รักษ์ลับที่เหลือมาไม่ทันการณ์ละก็ พวกนางจะต้องตายอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน
“ข้าไม่เป็นไร ไม่ต้องกลัว”
“พวกเราหนีก่อนเถอะ!”
หลิงอวี้จื้อรู้ดีว่าตอนนี้สู้ต่อไปไม่ไหว จึงเกรงว่าเซียวเหยี่ยนจะเป็นอะไรไป
“นายท่านต้องการหัวของพวกเจ้า พวกเจ้าหนีไปไหนไม่รอดหรอก”
หนึ่งในคนชุดดำได้ยินในสิ่งที่ทั้งสองสนทนากันก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
กระบี่ในมือของเซียวเหยี่ยนหลุดลอยไป บวกกับตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บ และมือสังหารสี่ห้าคนก็วรยุทธ์สูงส่ง เซียวเหยี่ยนเป็นรองพวกมันอย่างเห็นได้ชัด หากว่าองค์รักษ์ลับยังมาไม่ถึงอีกละก็ นางและเขาต้องตายอยู่ที่นี่เป็นแน่
“ไม่มีใครมาช่วยพวกเจ้าหรอก องค์รักษ์ของพวกเจ้าล้วนแต่ถูกพิษ เหลือเพียงสองคนที่ยังหลงเหลือกำลังภายในอยู่ แต่พวกมันก็ทนได้อีกไม่นาน สุดท้ายแล้วองค์รักษ์ของพวกเจ้าก็ต้องตายด้วยน้ำมือของพวกเรา พวกเจ้ายอมรับเสียเถอะ!”
ได้ยินดังนั้นหลิงอวี้จื้อก็ตะโกนด่าทอกลับออกมาประโยคหนึ่ง
“ยอมรับกับผีนะสิ!”
นางเพิ่งจะกล่าวจบ หนึ่งในคนชุดดำก็เริ่มพุ่งเข้ามาโจมตี เซียวเหยี่ยนปกป้องหลิงอวี้จื้อจนถูกดาบของคนร้ายแทงทะลุบ่า ทันใดนั้นเลือดสีแดงสดก็สาดกระเซ็นไปทั่วทุกทิศทาง หลิงอวี้จื้อเบิ่งตากว้างด้วยความตกใจ นางร้องขึ้นเสียงดังว่า
“อาเหยี่ยน…”
กระบี่เล่มถัดไปตามมาติดๆ คราวนี้มันหมายแทงเข้าที่อกของเซียวเหยี่ยน หลิงอวี้จื้อต้องการที่จะหยุดยั้งแต่ก็ไม่ทันการณ์ วินาทีที่กระบี่กำลังจะจ้วงแทงลงไปนั่นเอง หินก้อนหนึ่งก็พุ่งเข้ามากระแทกมือของคนชุดดำผู้นั้น
หินก้อนนั้นมีแรงส่งมหาศาล มันกระแทกเข้าที่ด้านในของข้อมือชายชุดดำ ความเจ็บปวดเข้าเล่นงานจนเขาเผลอคลายมือ กระบี่ที่ถืออยู่ตกลงบนพื้น กระบี่กระทบพื้นเสียงดังฟังชัด
ตอนที่ 673 ร่วมเป็นร่วมตาย
เงาดำวูบผ่านเข้ามากำบังที่ด้านหน้าเซียวเหยี่ยนและหลิงอวี้จื้อ หลิงอวี้จื้อประคองเซียวเหยี่ยนถอยร่นไปด้านหลัง ถึงมองเห็นได้ชัดเจนว่าเงาดำนั้นที่แท้แล้วคือเจียงสือนั่นเอง
ใครมาช่วยเหลือพวกนางหลิงอวี้จื้อก็ไม่แปลกใจ ยกเว้นเพียงแต่เจียงสือ นางออกหน้าช่วยพวกเราทำไมกัน หรือว่าตนเองเห็นผีกลางๆ วันแสกๆ เสียแล้ว
เจียงสือมิได้อธิบายใดๆ ก็ตรงเข้าต่อสู้กับคนชุดดำเหล่านั้นทันที ด้วยวรยุทธ์ของเจียงสือ คนชุดดำเหล่านั้นจึงหาใช่คู่ต่อสู้ของนางไม่ ไม่นานเจียงสือก็จัดการเด็ดหัวคนชุดดำเหล่านั้นจนหมด ส่วนตัวนางเองก็บาดเจ็บเล็กน้อย กระบี่ในมือของเจียงสือยังมีเลือดหยดลงมา นางหมุนกายกลับหลังหันถือกระบี่เดินเข้ามาหาหลิงอวี้จื้อและเซียวเหยี่ยน
หลิงอวี้จื้อตื่นตระหนกอยู่ไม่น้อย เมื่อครู่นางหลงคิดไปได้อย่างไรว่าเจียงสือจะมาช่วยเหลือนางและเซียวเหยี่ยนกัน? เกิดว่าเจียงสือฆ่าคนพวกนั้นเสียก่อนแล้วค่อยหันมาฆ่านางและเซียวเหยี่ยนเล่า
มิเท่ากับหนีเสือปะจระเข้หรอกหรือ
แขนข้างหนึ่งของเซียวเหยี่ยนมีเลือดไหลออกมาจนโชกชุ่มกว่าครึ่งแขน แต่เขาก็ยังจับมือหลิงอวี้จื้อเอาไว้แน่นไม่ปล่อย เพราะตรงกันข้ามเซียวเหยี่ยนในตอนนี้กับสุขุมและสงบนิ่งยิ่งนัก
“เจียงสือ บุญคุณความความแค้นระหว่างข้าและเจ้า ให้ข้าและเจ้าเป็นผู้สะสาง ปล่อยอวี้จื้อไป อย่างไรเสียตอนนี้นางก็อยู่ในร่างของเจียงอวี้ นางกำลังมีชีวิตอยู่ต่อไปแทนเจียงอวี้”
“หากเจ้าจะฆ่าเขาก็ต้องฆ่าข้าก่อน”
หลิงอวี้จื้อกางแขนทั้งสองข้างยืนขวางหน้าเซียวเหยี่ยนเอาไว้
“อย่าดื้อ อวี้จื้อ”
เซียวเหยี่ยนเอื้อมมือออกมาดึงอวี้จื้อออกไป
“เจ้าจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป”
“แต่เจ้าเองก็เคยรับปากข้าเอาไว้ ว่าเจ้าเองก็จะมีชีวิตอยู่ต่อไป ถ้าหากว่าพวกเราถูกกำหนดเอาไว้แล้วว่าต้องตาย เช่นนั้นพวกเราก็ตายด้วยกัน ไม่ว่าจะอย่างไร ช้าก็จะไม่พรากจากเจ้าอีกแล้ว”
หลิวอวี้จื้อน้ำเสียงแน่วแน่ไม่มีท่าทีหวาดกลัวเจียงสือแม้แต่น้อย
“หากเจ้าจะฆ่าก็ฆ่าข้าไปด้วยเสียเลย ข้าจะไม่พรากจากอาเหยี่ยนเด็ดขาด”
ในที่สุดเจียงอวี้ก็หยุดฝีเท้า นางหยุดยืนที่เบื้องหน้าของคนทั้งสอง แล้วยิ้มเยาะ
“เซียวเหยี่ยน เจ้าเองก็มีวันนี้เช่นกัน”
“ปล่อยอวี้จื้อไป”
เซียวเหยี่ยนยังคงยืนยันประโยคเดิม เขาไม่มีวันขอร้องให้เจียงสือไว้ชีวิตตน แต่เขาไม่ต้องการให้หลิงอวี้จื้อต้องมาตายอยู่ที่นี่พร้อมกันกับเขาด้วย
“เจ้าคงคาดไม่ถึงสินะว่า วันใดวันหนึ่งเจ้าจะต้องตกอยู่ในเงื้อมือของข้า เซียวเหยี่ยน ข้ารอวันนี้มานานแล้ว”
เจียงสือตวัดกระบี่ขึ้นชี้มายังเซียวเหยี่ยน หลิงอวี้จื้อเองก็ไม่ยอมที่จะเอาหลบหลีกอยู่ด้านหลังเซี่ยวเหยี่ยนอีกต่อไปแล้ว นางจับมือเซียวเหยี่ยนเอาไว้แน่น คราวนี้นางเองก็จะไม่ขอร้องเจียงสืออีกเพราะนางรู้ดีว่าเจียงสือเคียดแค้นเซียวเหยี่ยนมากเพียงใด นางย่อมไม่ยอมปล่อยโอกาสอันหายากยิ่งเช่นนี้ไปเป็นแน่
หลิงอวี้จื้อสงบสติอารมณ์ลง
“ข้ากับอาเหยี่ยนจะตายด้วยกัน หลังจากข้าตายแล้ว ท่านสามารถนำศพของเจียงอวี้กลับไป”
“อวี้จื้อ เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร”
เซียวเหยี่ยนได้ยินวาจาร้องขอความตายของหลิงอวี้จื้อแล้วก็แสดงอาการไม่สบอารมณ์เล็กน้อย
หลิงอวี้จื้อส่งยิ้มสดใสให้กับเซียวเหยี่ยน
“หากได้ตายพร้อมกันกับเจ้า ข้าตายไม่เสียดาย อาเหยี่ยน เจ้าเคยรับปากข้าเอาไว้ ว่าเราสองคนจะไม่แยกจากกันอีก เช่นนั้นพวกเราก็ตายพร้อมกันเถอะ”
เซียวเหยี่ยนกุมมือหลิงอวี้จื้อแน่น ในเวลาเช่นนี้เขาไม่รู้เลยว่าควรจะกล่าวอะไรออกมา เพราะดูเหมือนไม่ว่าเขาเอ่ยอะไรไปก็กลับกลายเป็นส่วนเกินไปเสียหมด
วินาทีนั้นหลิงอวี้จื้อหลงคิดไปว่านางและเซียวเหยี่ยนต้องตายแน่นอนแล้ว ใครจะคาดคิดว่าเจียงสือกลับชักกระบี่กลับ เมื่อเห็นการกระทำของเจียงสือ หลิงอวี้จื้อก็ถึงกับอึ้งอยู่เป็นนาน งงงวยเหลือเกินกับเจตนาของเจียงสือ
“พวกเจ้าไปซะ”
เจียงสือมิได้อธิบายอะไรมากมาย นางเก็บกระบี่และเตรียมที่จะเดินจากไป
เซียวเหยี่ยนเองก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเจียงสือถึงได้ยอมปล่อยพวกเขาไปในเวลาเช่นนี้ เซียวเหยี่ยนหันมองหลิงอวี้จื้อที่อยู่ข้างกายก็เริ่มที่จะเข้าใจเจตนาของเจียงสือขึ้นมาบ้าง เจียงสือรักน้องสาวคนนี้มากเพียงใด วันนี้เขาได้เห็นแจ่มแจ้งด้วยตาตัวเองแล้ว ครั้งนี้เจียงสือยอมปล่อยพวกเขาไป ก็เพราะเจียงอวี้
“ข้าจะไม่พูดถึงเรื่องอื่น แต่ครั้งนี้ต้องขอบคุณท่าน”
หลิงอวี้จื้อตะโกนไล่หลังเจียงสือไป
เจียงสือชะงักฝีเท้าเล็กน้อย ขณะที่นางเตรียมก้าวออกไปนั่นเอง ทันใดนั้นก็มีคนชุดดำอีกสิบกว่าคนปรากฎตัวขึ้นมาอีกครั้ง
เมื่อเห็นการปรากฏตัวของคนชุดดำอีกครั้ง หลิงอวี้จื้อก็หวาดหวั่นในใจ เห็นทีว่าคนที่ต้องการฆ่านางและเซียวเหยี่ยนคงจะทุ่มเทหมดหน้าตักทำทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมายสินะ