ชายาเคียงหทัย - ตอนที่ 321-3 กลับสู่เมืองหลี
เยี่ยหลีย่อมรู้ดี แม้จะไม่สนิทคุ้นเคยกันแต่ลุงม่อเป็นคนเช่นไรนั้นนางย่อมรู้ดี ยิ่งไปกว่านั้นอาจิ่นเป็นคนที่เติบโตมาด้วยกันกับม่อซิวเหยา อีกทั้งดูจากอุปนิสัยของม่อซิวเหยาแล้ว การพูดถึงเรื่องของชิงซวงมากมายเช่นนี้ก็นับว่าหาได้ยากยิ่ง นางขมวดคิ้วเล็กน้อยกล่าวว่า “ข้าจะถามชิงซวงดู เพียงแต่ทั้งปีมานี้อาจิ่นก็ไม่ได้อยู่ที่ตำหนัก อีกทั้งชิงซวงก็ตั้งใจ…”
“ไว้รอคลอดลูกแล้ว ก็คงจะยึดเอาฉู่จิงกลับมาได้แล้ว ถึงยามนั้นอาหลีไปรับข้ากับอาจิ่นที่ฉู่จิงกลับมาด้วยกัน ข้าจะบอกลุงม่อไว้ล่วงหน้าเอง” ม่อซิวเหยาจ้องตาเยี่ยหลีพลางกล่าวเสียงหนักแน่น
กล่าวมาถึงตรงนี้ มือที่ใช้ตักข้าวของเยี่ยหลีก็ชะงักไป อีกไม่กี่วัน ม่อซิวเหยาก็จะออกเดินทางไปยังด่านเฟยหงอีกครั้งแล้ว จึงอดลูบท้องเบาๆ ไม่ได้ เยี่ยหลียิ้มขื่นกล่าวว่า “ลูกคนนี้มาในเวลาที่ไม่ค่อยเหมาะสมเลยจริงๆ” ห้าหกปีที่บ้านเมืองสงบสุขกลับไม่มีมา ยามนี้เพิ่งจะวุ่นวายได้ไม่ถึงปีนางก็ตั้งครรภ์เสียได้
ม่อซิวเหยาก็ไม่พอใจอยู่บ้าง เงยหน้าซบบนท้องนูนๆ ของนางเบาๆ กล่าวเสียงหนักแน่นว่า “ช่างดื้อซุกซนเหมือนม่อตัวน้อยนัก!”
เยี่ยหลีอดแย้มยิ้มออกมามิได้ จริงด้วย เหมือนม่อตัวน้อยที่ชอบออกมารังแกคนในตอนที่ชุลมุนวุ่นวาย
“ข้าจะต้องไปแล้ว อาหลีจะไม่อาลัยอาวรณ์ข้าสักนิดเลยหรือ” ม่อซิวเหยากล่าวอย่างเจ็บใจ น่าเสียดายที่อาหลีตั้งครรภ์อยู่ มิเช่นนั้นเขาคงได้พาอาหลีไปด่านเฟยหงด้วยกันแล้ว แม้ว่าเขาจะอยากอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนอาหลีมากกว่าก็ตาม เยี่ยหลีอมยิ้มมองเขาแล้วเอ่ยถาม “หากข้าอาลัยอาวรณ์ ท่านอ๋องก็จะไม่ไปแล้วใช่หรือไม่” ชีวิตนับหลายแสนของทหารตระกูลม่อ ทหารรักษาการณ์และประชาชนฉู่จิงอีกนับล้าน แผนการและความพยายามที่ทุ่มแรงกายแรงใจไปในเวลาหลายปีที่มาผ่านมาของม่อซิวเหยา เรื่องราวมากมายเพียงนี้คำว่าอาลัยอาวรณ์เพียงคำเดียวไหนเลยจะมาเปลี่ยนแปลงได้ ยิ่งไปกว่านั้น…เยี่ยหลีมองม่อซิวเหยาพลางกล่าวด้วยใบหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้มว่า “ท่านอ๋องไม่รู้สึกว่าเราอยู่ด้วยกันมานานเกินไปหรือ” ตั้งแต่คราแรกที่นางตั้งท้องม่อตัวน้อยกลับมาซีเป่ยเป็นต้นมา หลายปีมานี้ระยะเวลาที่นานที่สุดที่พวกนางแยกจากกันก็เมื่อตอนอยู่เมืองเปี้ยนที่นางแยกตัวจากค่ายไปจัดการจูหลิงด้วยตัวคนเดียวเท่านั้น
“หรืออาหลีรังเกียจสามีคนนี้เสียแล้ว!” ม่อซิวเหยากล่าวอย่าง ‘ตกใจ สีหน้าซีดเผือด’
เยี่ยหลีอมยิ้มเอ่ยว่า “มิได้รังเกียจ เพียงแต่มีคนกล่าวไว้ว่า…ระยะห่างก่อให้เกิดความสวยงาม สามีภรรยายิ่งจากกัน เมื่อกลับมาพบก็ยิ่งรู้สึกเหมือนคู่แต่งงานใหม่มิใช่หรือ…แยกจากกันเป็นครั้งคราวก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องแย่อันใด” ม่อซิวเหยามองนางพลางกล่าว “ยังมีคนกล่าวไว้ว่าไม่พบเพียงวันเดียวยาวนานราวกับสามฤดู ยังมิทันจะแยกจากข้าก็เริ่มคิดถึงอาหลีเสียแล้ว”
เยี่ยหลียิ้มกล่าว “เช่นนั้นเจ้าก็รีบกลับมาสิ หรือจะให้ข้าคลอดลูกแล้วไปหาเจ้าดี”
ม่อซิวเหยาครุ่นคิดแล้วจึงตัดสินใจกล่าวว่า “ข้าจะรีบกลับมาให้ทันก่อนอาหลีคลอดแน่นอน”
“ได้ ข้ารอเจ้านะ” เยี่ยหลีเอ่ยพร้อมยิ้มบางๆ
ม่อซิวเหยายื่นมือไปดึงนางเข้าสู่อ้อมกอด กล่าวเสียงเบาว่า “อาหลี ขอโทษด้วย” เยี่ยหลีตะลึงเล็กน้อย หัวเราะเบาๆ กล่าวว่า “เป็นอะไรไปอีกเล่า” ม่อซิวเหยาถอนใจกล่าว “เจ้าตั้งครรภ์เช่นนี้แต่ข้ากลับมิอาจอยู่ข้างกายเจ้าได้”
เยี่ยหลีกรอกตาแล้วยิ้มกล่าว “เรื่องเล็กน้อยเพียงนี้ เจ้าไม่ใช่มีเรื่องที่สำคัญกว่านี้หรอกหรือ มิใช่ว่าเจ้าอยู่ว่างๆ แล้ววิ่งไปนู่นมานี่เสียหน่อย” เยี่ยหลียันตัวออกจากอ้อมอกม่อซิวเหยามองเขาด้วยสีหน้าเคร่งขรึมแล้วกล่าวว่า “ข้าตั้งครรภ์นั่นย่อมอยากให้เจ้าอยู่ข้างกายจนข้าคลอด แต่เจ้ามีภาระหน้าที่ที่ต้องจัดการบ้านเมือง หากเจ้าละทิ้งกองทัพนับแสนเพื่อข้า ละทิ้งทหารรักษาการณ์และประชาชนที่กำลังรอเจ้าอยู่ที่ฉู่จิง เช่นนั้นยังจะเป็นม่อซิวเหยาคนที่ข้ารักอยู่อีกหรือ”
ม่อซิวเหยาได้ยินคำพูดของนางดวงตาก็แวววาวอย่างอดมิได้“อาหลี…”
เยี่ยหลีมองสีหน้าของใครบางคนที่ทั้งยินดีและอาวรณ์ไม่สิ้นอย่างจนใจ นางไม่ชอบคนที่เอะอะก็บอกรัก แต่คงไม่ถึงขั้นต้องให้เขาแสดงท่าทางยินดีปรีดาเช่นนี้หรอกกระมัง นี่ทำให้เยี่ยหลีอดที่จะทบทวนตัวเองเงียบๆ ไม่ได้ว่า หรือในยามปกตินางเองจะละเลยเขาเกินไปจริงๆ
“รีบกลับมา ข้ากับเสี่ยวเป่าจะคิดถึงเจ้าแน่นอน” เยี่ยหลีกล่าวเสียงเบา
ม่อซิวเหยาพออกพอใจ กินโจ๊กที่เพิ่งตักเพิ่มใหม่อย่างเอร็ดอร่อยมากยิ่งขึ้น
หลังจากที่ม่อซิวเหยากลับมาเขาพักอยู่เพียงสามวันเท่านั้นก็เตรียมตัวเดินทางไปด่านเฟยหงต่อ ในการกลับมาครั้งนี้ ในเมืองหลีนอกจากคนของตำหนักติ้งอ๋องที่เกี่ยวข้องแล้ว คนส่วนใหญ่ต่างไม่ทราบข่าวการกลับมาของติ้งอ๋องและพระชายา แน่นอนว่าน้อยคนยิ่งนักที่จะรู้ว่าพระชายาตั้งครรภ์
นอกเมืองหลี ม่อซิวเหยาพาแค่เฟิ่งจือเหยาและอวิ๋นถิงสองคนเดินทางไปยังด่านเฟยหง ทั้งสามเอาของไปด้วยไม่มากนัก แม้ว่าม่อซิวเหยาจะไม่อนุญาตแต่เยี่ยหลีก็ยังมาส่งพวกเขาพร้อมกับสวีชิงเจ๋ออยู่ดี ม่อซิวเหยาเห็นเยี่ยหลีลงจากรถม้า บนไหล่มีผ้าคลุมผืนหนาก็อดขมวดคิ้วแล้วเข้าไปช่วยกระชับผ้าคลุมแก่นางมิได้ เขากล่าวเสียงเบาว่า “บอกแล้วมิใช่หรือว่าไม่ต้องมาส่ง อากาศยามนี้หนาวนัก รีบกลับไปเสียเถิด”
เยี่ยหลีพยักหน้ายิ้มบางกล่าว “รู้แล้ว พอพวกเจ้าออกเดินทางข้าก็จะกลับทันที ระวังตัวในสนามรบด้วย” นางรู้ดีว่ามาส่งเขาเช่นนี้ในใจม่อซิวเหยามีความยินดีอยู่ไม่น้อย เพียงแต่เขากังวลว่านางจะหนาวเท่านั้น ร่างกายของนางแข็งแรงดี แม้ว่าจะตั้งครรภ์อยู่แต่กลับไม่ทรมานอะไรเลยตลอดสองเดือนที่ผ่านมา
ม่อซิวเหยาพยักหน้า มองเยี่ยหลีด้วยความอาวรณ์ก่อนจะหันไปกล่าวกับสวีชิงเจ๋อว่า “ฝากเมืองหลีกับอาหลีด้วย”
สวีชิงเจ๋อพยักหน้าตอบรับด้วยท่าทางสบายๆ แม้เขาจะเป็นคนพูดน้อย แต่เรื่องที่ได้รับปากแล้วล้วนให้ความสำคัญและจะทำให้สำเร็จดังว่ามาโดยตลอด ม่อซิวเหยาจึงได้เบาใจลงบ้าง แม้จะรู้ดีว่าอาหลีอยู่ภายใต้การปกป้องดูแลของคนตระกูลสวีและตำหนักติ้งอ๋อง นับได้ว่าปลอดภัยกว่าการตามเขาไปยังสนามรบมาก ทว่าเมื่อไม่ได้คอยปกป้องดูแลนางอยู่ข้างกายเช่นนี้เขาก็รู้สึกว่าใจไม่เป็นสุขนัก
สุดท้ายเขามองเยี่ยหลีอีกคราหนึ่งแล้วม่อซิวเหยาจึงค่อยพลิกกายขึ้นม้าไปอย่างคล่องแคล่ว เขาตบหลังม้าจดจ่อไปกับเส้นทางอันยาวไกลเบื้องหน้า
เมื่อมองดูแผ่นหลังของเขาค่อยๆ หายไปจากสายตา ชิงซวงก็กล่าวเสียงเบาว่า “พระชายาเพคะ ด้านนอกหนาวนัก เรารีบกลับกันเถิด ท่านอ๋องจะได้ไม่เป็นห่วง”
เยี่ยหลีพยักหน้า ถอนใจเบาๆ แล้วกล่าว “เรากลับกันเถิด”