ชายาเคียงหทัย - ตอนที่ 331-3 ความรักของพี่น้อง
เยี่ยอิ๋งดีใจมาก ก่อนจะรีบพูดขึ้น “ขอบคุณพี่สาม พี่สาม ข้า…” เมื่อมองหน้าตารู้สึกผิดของเยี่ยอิ๋ง เยี่ยหลีก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มจางๆ “เมื่อก่อนเรายังเด็กเกินไป ไม่รู้ความ เรื่องที่แล้วก็ให้มันแล้วไปเถิด ไม่ต้องกังวล เจ้าเป็นน้องสี่ของข้า ข้าจะไม่ปล่อยให้องค์หญิงหนานจ้าวมารังแกเจ้าแน่นอน” เยี่ยอิ๋งพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า รู้สึกขอบคุณเยี่ยหลีมากยิ่งขึ้น “ขอบคุณพี่สาม”
“ขอบคุณอะไรกัน เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น อีกสองวันถ้ามีเวลาก็กลับไปหาท่านพ่อกับท่านย่าเถิด ก่อนหน้านี้ท่านพ่อกับท่านย่ารักเจ้าที่สุด นอกจากนี้ ข้าบอกเจ้าแล้วไม่ใช่หรือ เจ้าต้องเรียนรู้จากท่านย่าของเจ้าในอีกหลายๆ เรื่อง แม้จะเห็นแก่หน้าข้า ม่อจิ่งหลีจึงอาจไม่ปล่อยให้องค์หญิงซีสยาทำเกินกว่าเหตุ แต่ก็มีหลายอย่างที่ข้าทำเพื่อเจ้าไม่ได้” เยี่ยหลีเตือนอย่างอ่อนโยน
เยี่ยอิ๋งพยักหน้า นางเข้าใจสิ่งที่เยี่ยหลีพูด ก่อนหน้านี้ท่านย่าและท่านแม่ได้สอนกลเม็ดของหญิงสาวตระกูลสูงศักดิ์ให้นางไปหมดแล้ว แต่นางไม่ได้สนใจก็เท่านั้น จนตอนหลังที่นางรู้สึกเสียใจทีหลัง ก็ถูกม่อจิ่งฉีกักบริเวณไว้ในตำหนักหลีอ๋อง แล้วยังจะมีใครยอมสอนสั่งนางอีกหรือ จนถึงตอนนี้อำนาจของจวนผู้สำเร็จราชการแผ่นดินยังคงอยู่ในมือของเสียนเจาไท่เฟย และองค์หญิงซีสยาก็ได้ผลประโยชน์ด้วยเช่นกัน ทว่านางที่ถูกม่อจิ่งหลีรังเกียจและละเลย จึงไม่สามารถแตะต้องอำนาจได้เลยแม้แต่น้อย
อันที่จริง เมื่อเอ่ยถึงเรื่องกลเม็ดของหญิงสูงศักดิ์ เยี่ยฮูหยินผู้เฒ่าและหวังซื่อก็ไม่อาจสอนเยี่ยอิ๋งได้มากนักเช่นกัน ซึ่งล้วนเป็นเพราะตระกูลที่เยี่ยฮูหยินผู้เฒ่าและหวังซื่อกำเนิดมาทำให้พวกนางมีความรู้ที่จำกัด หากเยี่ยหลีอยากให้เยี่ยอิ๋งฝึกฝนจริงๆ นางจะขอให้สวีฮูหยินใหญ่และสวีฮูหยินรองหรือฮว่าฮองเฮาสอนนาง เพียงแต่หนึ่งคือนางไม่มีคุณสมบัตินั้น และสอง เยี่ยหลีไม่ต้องการให้เยี่ยอิ๋งฉลาดเกินไป
เมื่อเห็นเยี่ยอิ๋งร่ำไห้กระทั่งแป้งที่ผัดเลอะเต็มใบหน้าไปหมด เยี่ยหลีจึงเรียกคนให้พานางไปแต่งตัวใหม่อีกครั้ง เมื่อมองร่างที่ค่อยๆ เดินห่างออกไปของนาง รอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้าของเยี่ยหลีก็ค่อยๆ จางลง “ฉินเฟิง ข้าทำเช่นนี้โหดร้ายเกินไปหรือไม่”
นอกศาลา ฉินเฟิงมีสีหน้าสงบนิ่ง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก “สิ่งที่พระชายาทำต่างก็เพื่อตำหนักติ้งอ๋องและกองทัพตระกูลม่อ ยิ่งไปกว่านั้นพระชายาหลีอ๋องก็ไม่ใช่คนที่ใสซื่อบริสุทธิ์เพียงนั้น”
เยี่ยหลีเอ่ยด้วยรอยยิ้มจางๆ “พูดถูก เยี่ยอิ๋งได้รับการสอนจากหวังซื่อ ทำให้นางเห็นแก่ตัวมาตั้งแต่เด็ก นางรู้สึกขอบคุณข้าในเวลานี้ แต่ถ้าวันหนึ่งข้าเป็นอันตรายต่อผลประโยชน์ของนาง นางก็คงไม่ลังเลที่จะแว้งกัดข้าเช่นกัน น่าเสียดาย…ที่นางไม่มีโอกาสนั้นแล้ว” ไม่ใช่ว่า เยี่ยหลีแสร้งทำเป็นคนดี แต่ตอนนี้ในใต้หล้า เยี่ยอิ๋งเป็นผู้บริสุทธิ์อย่างแท้จริง ทว่าน่าเสียดายที่เมื่อลงลึกมาอยู่ในนี้แล้ว หากไม่มีกำลังที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ก็จะกลายเป็นเพียงเบี้ยในมือของผู้อื่น นี่คือชะตาชีวิตของเยี่ยอิ๋ง บางทีตอนที่นางเลือกที่จะแต่งงานกับม่อจิ่งหลี ก็คงถึงวาระแห่งโศกนาฏกรรมของนางแล้ว เพราะม่อจิ่งหลีไม่เคยเป็นคนดี
เยี่ยหลีลุกขึ้นยืนและเดินออกจากศาลา นางเห็นองค์หญิงซีสยากำลังเดินมาพอดี หลายปีที่ผ่านมาอารมณ์ขององค์หญิงซีสยาสงบนิ่งลงมาก และนางก็ไม่ใช่องค์หญิงผู้เอาแต่ใจ เพียงแค่พูดอะไรไม่เข้าหูก็จะใช้แส้ฟาดอีกต่อไป เมือนางเห็นเยี่ยหลี ก็ทำเพียงแค่ยกเปลือกตาขึ้นเล็กน้อย “พระชายติ้งอ๋อง เยี่ยอิ๋งไม่ได้อยู่กับท่านหรือ”
เยี่ยหลีกล่าวด้วยรอยยิ้มบาง “องค์หญิงซีสยา น้องสี่เป็นชายาเอกที่ถูกต้องตามครรลองครองธรรมของท่านอ๋อง เจ้าไม่สมควรที่จะเรียกชื่อเต็มเช่นนี้กระมั้ง”
องค์หญิงซีสยาเลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะเอ่ย “แล้วอย่างไรเล่า เป็นแค่ชายาเอกที่ท่านอ๋องรังเกียจ หรือพระชายาติ้งอ๋องต้องการจะใช้สถานะตนเองมาช่วยนาง” เยี่ยหลีปิดปากพลางอมยิ้ม ดวงตาอันสวยงามกวาดสายตามององค์หญิงซีสยาหัวจรดเท้ารอบหนึ่ง ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า “จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร ข้าเพียงสงสัยเท่านั้น จะว่าไปท่านอ๋องก็รักใคร่องค์หญิงอย่างสุดซึ้งมิใช่หรือ ไฉนข้าถึงไม่เห็นท่านอ่องแต่งตั้งสถานะให้องค์หญิงตามประเพณีเลยเล่า หากเป็นในอดีตก็แล้วไปเถิด แต่ตอนนี้หลีอ๋องมีอำนาจอยู่ในมือแล้ว เหตุใดเขาถึงไม่คิดเรื่องนี้อีกเล่า ข้าจำได้ว่าองค์หญิงเสียตำแหน่งองค์หญิงแห่งหนานจ้าวมานานแล้วมิใช่หรือ ตอนนี้น่าจะต้องเรียกว่าแม่นางซีสยาถึงจะถูกสินะ”
คำพูดของเยี่ยหลี ทำให้สีหน้าขององค์หญิงซีสยาดูไม่ได้อย่างถึงที่สุด หลายปีที่ผ่านมานางอยู่ข้างกายม่อจิ่งหลี แม้ว่าม่อจิ่งหลีจะปฏิบัติต่อนางอย่างดี แต่นางก็ไม่ได้มีพิธีสมรสอย่างเป็นกิจจะลักษณะ แม้ว่าหนานจ้าวจะไม่สนใจพิธีการอันไร้ประโยชน์เหล่านี้มากเท่ากับจงหยวน แต่ก็ด้วยเพราะนางไม่มีสถานะมาจนถึงตอนนี้ ทำให้ต่อให้ม่อจิ่งหลีมีอำนาจอยู่ในมือ นางก็ยังไม่สามารถมีหน้ามีตาท่ามกลางสตรีสูงศักดิ์ในต้าฉู่ได้อยู่ดี
“อีกสองวัน จักรพรรดินีแห่งหนานจ้าวก็คงมาถึงแล้วกระมัง หากจักรพรรดินีทราบว่าน้องสาวของตนเป็นเช่นนี้…ข้าก็ไม่รู้ว่าในใจนางจะรู้สึกอย่างไร” เยี่ยหลีทำเหมือนไม่ได้ตั้งใจ ก่อนจะเอ่ยอย่างเศร้าสร้อย องค์หญิงซีสยาเป็นน้องสาวแท้ๆ ขององค์หญิงอันซี แต่นางไม่ถูกกับกับพี่สาวมาตั้งแต่เล็กๆ กลับไปสนิทกับซูม่านหลินธิดาเทพในตอนนั้นมากกว่า ในท้ายที่สุดนางก็มาอยู่กับม่อจิ่งหลีโดยไม่คำนึงถึงชื่อเสียงของตัวเอง อาจกล่าวได้ว่ายุติความสัมพันธ์กับองค์หญิงอันซีโดยสมบูรณ์ ตอนนี้พี่สาวของตนได้ขึ้นเป็นจักรพรรดินีของแคว้นแล้ว แต่ตนยังไม่ได้รับยศให้เป็นพระชายาเลย เมื่อได้เจอองค์หญิงอันซี ก็ไม่รู้ว่าองค์หญิงซีสยาจะรู้สึกอย่างไร
“เจ้าอย่าได้ใจไปนักเลย! ท่านอ๋องจะแต่งตั้งข้าให้เป็นชายาเอกของเขาแน่นอน!” องค์หญิงซีสยากล่าวอย่างจองหอง
เยี่ยลี่ยิ้มออกมา “แม่นางซีสยาเข้าใจผิดแล้ว ข้าเป็นพระชายาติ้งอ๋อง หลีอ๋องจะแต่งตั้งใครเป็นพระชายาเอก ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับข้า ทว่าข้ายังอยากเตือนแม่นางซีสยาไว้ว่า ชายาเอกของหลีอ๋องมีคนครองตำแหน่งมานานแล้ว ต่อให้หลีอ๋องจะสมรสกับเจ้า อย่างมากก็เป็นได้เพียงอนุเท่านั้น ในจงหยวนไม่มีประเพณีให้มีชายาเอกสองคน และต่อให้เป็นอนุ เมื่ออยู่ต่อหน้าชายาเอกก็ยังด้อยกว่าขั้นหนึ่งอยู่ดี”
องค์หญิงซีสยาถลึงตาจ้องมองเยี่ยหลีด้วยความเกลียดชัง ก่อนพ่นลมหายใจแล้วหันหลังเดินกลับไป