ชีวิตที่อยู่ร่วมห้องกับสาวๆ 18+ - ตอนที่ 169
บทที่ 169 ถังก๋อก่อที่แสนเขินอาย
ถ้าจะพูดถึงไอ้หมอนั่นที่ใส่สร้อยทองแดงเป็นสร้างทองนั้น ผมมั่นใจว่าพอตรวจร่างกายทั้งหมดแล้วนั้น เขาอาจจะต้องเอาตัวเองไปอยู่ที่โรงพยาบาล
ดังนั้นก็ไม่มีที่เกินการคาดเดาได้อีก หลังจากที่ผมให้เขาไสหัวไปขอโทษ เขาก็สะกดอารมณ์โมโหไสหัวมาขอโทษแล้ว
สำหรับผู้คนโดยรอบที่มามุงดูบรรยากาศคึกคักนี้ ก็ค่อยๆสลายตัวไป สิ่งที่กล่าวว่า ‘ชนสร้างสถานการณ์’คำเล่าลือที่ถูกปรักปรำนี้ ก็แพ้ภัยสลายหายไปเองโดยธรรมชาติ
“ขอบคุณมากค่ะ……”
ถังก๋อก่อแสดงความขอบคุณมาที่ผม แต่ถูกผมปฏิเสธ ตอนนี้ผมกังวลอาการบาดเจ็บของเธอมากกว่า
วันนี้เธอสวมกางเกงยีน เสื้อโค้ตหลวมๆตัวหนึ่ง
บนร่างกายมองไม่เห็นส่วนที่บาดเจ็บ กางเกงยีนนั้นขาดตอนที่ถูกมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าล้มกระแทกพื้น แต่ตำแหน่งนั้นชวนเก้อเขินอยู่สักหน่อย จากด้านในต้นขายาวไปถึงเข่าพอดี ไม่อย่างงั้นเธอคงไม่เอามือเล็กๆสีขาวนวลมาปิดไว้ตลอดเวลาแบบนี้
หลังจากที่ช่วยพยุงเธอขึ้นมา ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ผมเปิดประตูหลังรถ ย้ายรถมอเตอร์ไซค์ของเธอขึ้นไป
จากนั้นผมก็มาด้านข้างคนขับของรถ เปิดประตูรถส่งสัญญาณให้เธอขึ้นรถ
ถังก๋อก่อก็พยักหน้าเป็นการขอบคุณ จากนั้นก็ก้าวตรงมาหาผม แต่ว่าก้าวได้เพียงก้าวเดียว เธอก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บ ‘โอ๊ย’ เกือบจะล้มลงไปกองบนพื้น
ผมรีบตรงเข้าไปช่วยพยุงเธอขึ้นมา “เป็นยังไงบ้าง?”
“ตอนที่ล้มกระแทกลงไป เหมือนว่าข้อเท้าจะพลิก ตอนนี้เจ็บเท้ามาก”
หลังจากประคองเธอขึ้นรถ ผมก็ตรงไปถอดรองเท้าของเธอออก
ถังก๋อก่อรู้สึกเขินอาย อยากจะชักเท้ากลับ แต่ถูกผมห้ามเอาไว้ “อย่าขยับ ขอผมดูหน่อย”
ถอดรองเท้าลำลองของเธอออก จากนั้นผมก็เห็นเท้าที่บวมแดงของเธอ ข้อเท้าพลิกแน่ๆอย่างไม่ต้องสงสัย
“ไม่เป็นอะไรมาก กระดูกเหมือนว่าจะไม่เป็นไร น่าจะแค่ข้อเท้าพลิกปกติ”
หลังจากที่ผมช่วยเธอสวมรองเท้ากลับเข้าไป ผมก็ขึ้นรถพาเธอออกจากที่นี่ จากการที่เธอบอกทาง ขับรถกลับไปส่งเธอที่บ้าน
พอมาถึงบ้านของเธอชั้นล่างเขตพื้นที่เล็ก ผมลงจากรถไปที่ประตูด้านข้างคนขับ เปิดประตูรถ
“ใครอยู่ที่บ้าน?”
“ไม่มีคนอยู่ที่บ้าน ฉัน……”
ไม่รอถังก๋อก่อพูดจบ จากนั้นผมใช้มือข้างหนึ่งประคองเอวบางของเธอขึ้นมา อีกข้างหนึ่งรับขาคู่สวยเรียวยาวของเธอ กอดคนทั้งคนไว้ในอ้อมแขน
“คุณทำอะไรนะ คุณรีบวางฉันลงเลยนะ!”
ถังก๋อก่อในความเขินอายนั้นมีความกังวลเล็กน้อย ผมเลยวางเธอลงบนพื้น ให้ตัวเธอนั่งอยู่บนพื้น “ตอนนี้โอเคแล้วใช่มั้ย?”
ถังก๋อก่ออยากที่จะลุกขึ้นมา แต่สุดท้ายเนื่องจากข้อเท้าเจ็บเป็นสาเหตุ ทำยังไงก็ลุกไม่ขึ้น
ท้ายที่สุด เธอก็มองผมด้วยความโมโห “คุณมาช่วยพยุงฉันลุกที!”
“ไม่รู้ว่าสมองเล็กๆของคุณคิดอะไรอยู่กันแน่ ผมก็แค่ถามว่าบ้านของคุณมีคนอยู่หรือเปล่า จะให้คนที่บ้านมาช่วยอุ้มคุณขึ้นไปก็เท่านั้นเอง คุณตอนนี้สภาพแบบนี้จะไปขึ้นข้างบนได้ยังไงกัน ผมจะอุ้มคุณขึ้นไป คุณกลับคิดว่าผมอยากทำนอกลู่นอกทางกับคุณ คุณนี่มันจริงๆ……”
ขณะที่ตำหนิไป ผมก็อุ้มถังก๋อก่อขึ้นมาอีกครั้ง ตอนนี้หน้าของเธอแดงไปหมด แต่ว่าไม่ปฏิเสธอีกต่อไป
ปิดประตูรถ จากนั้นผมอุ้มเธอขึ้นข้างบน
โชคดีที่ปกติออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่อย่างนั้นไม่มีทางจะขึ้นมาชั้นห้าของตึกหลายชั้นแบบนี้ได้แน่ๆ ยิ่งไปกว่านั้นคืออุ้มร่างกายอันสวยงามของเธอด้วยแล้ว
“คุณต้องเกิดปีหมูแน่ๆ หนักขนาดนี้!”
“ตรงไหนกัน ฉันไม่ถึงห้าสิบกิโลด้วยซ้ำ ฉันก็ไม่เกิดปีหมูด้วย ฉันเกิดปีวัว!”
ถังก๋อก่อถกเถียงกับผม จากนั้นผมเลยตอบกลับไปประโยคหนึ่ง ทำเอาเธอหน้าแดงไม่พูดอะไรอีกเลย
“ใช่ ผมรู้ว่าคุณเกิดปีวัว ผมขี้โม้มั้ยละ……”
ไม่ง่ายเลยที่จะปีนขึ้นไปหน้าประตูบ้านของเธอที่อยู่ชั้นห้า จากนั้นวางเธอลง เธอหยิบกุญแจออกมาเปิดประตู จากนั้นก็หันตัวมากล่าวขอบคุณผม
“ถังก๋อเอ๋อร์ คุณจะดีจะร้ายยังไงก็ให้ฉันดื่มน้ำหน่อยเถอะ นี่มันชั้นห้านะ ผมเพิ่งอุ้มคุณแม่วัวตัวเล็กขึ้นมา ถึงจะพูดเรื่องบุญคุณนี้ ผมก็เป็นเถ้าแก่ของคุณ คุณจะไม่สนใจไยดีให้น้ำผมดื่มก็ไม่ได้ถูกมั้ย?”
จากคำโต้แย้งด้วยเหตุผลของผม ท้ายที่สุดก็ได้รับโอกาสเข้าไปในห้อง
เธอใช้กำแพงพยุงตัวเดินไป ผมถามเธอว่าจะไปไหน เธอพูดว่าไปรินน้ำให้ผมดื่ม เจ้าตุ๊กตาตัวน้อยนี้ช่างซื่อสัตย์จริงใจจริงๆ!
“คุณนั่งตรงนี้อย่างเปิดเผยดีกว่า ผมจะช่วยดูข้อเท้าให้”
“ไม่ต้องหรอก ฉันใส่ยาสักหน่อยก็น่าจะดีขึ้นแล้ว”
ดูออกว่า ถังก๋อก่อนั้นไม่ใช่เด็กสาวที่จะทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจแบบนั้น เกรงว่าแค่ให้ผมดูเท้า เธอก็คงรู้สึกอายมากแล้ว จุดนี้ดูไม่ใช่การกระทำที่จงใจ แต่ออกมาจากในใจของเธอ จากการแสดงออกบนใบหน้าของเธอนั้นสามารถมองออกได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว
“ผมนวดแบบจีนได้นะ นี่มันเป็นวิธีนวดที่สืบทอดต่อกันมา ถ้าคิดจะทำมิดีมิร้ายกับคุณจริงๆละก็คุณตอนนี้เสียตัวไปนานแล้ว ดังนั้นคุณเองก็ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย”
ไม่มีคำปลอบใจไปมากกว่านี้อีกแล้ว และไม่สนใจการแสดงออกของถังก๋อก่ออีก ผมตรงเข้าไปช่วยเธอถอดรองเท้าออกมา และเธอก็ไม่ได้ต่อต้านอีกครั้ง
หลังจากถอดถุงเท้าออกมา เผยให้เห็นเท้าเล็กๆสีขาวของเธอนั้น เล็บเท้าได้รับการดูแลตกแต่งสวยงามเกลี้ยงเกลา และเท้าไม่มีส่วนที่ผิวด้านเลยแม้แต่น้อย กลมมนจริงๆ สัมผัสทั้งหมดนั้นช่างนุ่มนวล ความรู้สึกที่มือนั้นช่างยอดเยี่ยม ทำให้ในใจผมเกิดทัศนียภาพอันแสนงดงาม
“ข้อเท้าพลิก คุณจะถอดถุงเท้าทำไม……”
ถังก๋อก่อถามเสียงต่ำออกมา ในนั้นเจือปนด้วยความเขินอายเล็กน้อย
ผมจับเท้าเล็กๆนั้นไว้ในมือ หยอกล้อเล่นเบาๆ “ผมเป็นคนคลั่งเท้า คุณสนใจด้วยเหรอ?”
ประโยคนี้ ทำเอาถังก๋อก่ออายจนทำอะไรไม่ถูก จากนั้นเธอต่อต้านโดยการดึงเท้าเล็กออก
“แกล้งคุณเล่นนะ ถุงเท้าบีบรัดเลือด ส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือดตอนนวด เหมือนตอนที่นวดบริเวณหลังจะต้องปลดเข็มขัดออก หมอไม่ได้ว่าอยากดูก้นคนเสมอไปหรอกนะ!”
ถังก๋อก่อต่อต้านไม่เป็นผล จากนั้นพอได้ฟังผมอธิบายแล้วนั้น ก็ยอมแพ้ที่จะต่อต้าน ยอมให้ผมนวดข้อเท้าให้เธอ
นานพอสมควร เธอลองถามออกมาเสียงเบา “เถ้าแก่ คุณเป็นคลั่งเท้าจริงๆใช่มั้ย?”
“อืม มีบ้าง แล้วก็ยังเป็นพวกคลั่งของด้วย อย่างเช่นถุงน่องที่คุณเคยใส่ เสื้อชั้นใน กางเกงในอะไรพวกนั้น ผมเก็บเป็นงานอดิเรก ผมยังเช่าโกดังโรงงานไว้เก็บโดยเฉพาะด้วย ตอนนี้เก็บได้แปดคันรถบรรทุกแล้ว!”
ผมพูดไร้สาระไปเรื่อยๆ ถังก๋อก่อนั้นไม่เชื่ออย่างเห็นได้ชัด เธอส่ายหัวเล็กๆเบาๆ “ยังไงฉันก็ไม่เชื่อ”
จากนั้น ตอนที่เธอไม่ได้เตรียมตัวผมก็ยกเท้าเล็กอันสวยงามของเธอนั้นขึ้นมาจูบเบาๆ
ต่อมา ถังก๋อก่อเหมือนหน้าอกระเบิดออกมา ตอนนั้นระเบิดแตกออกมาแล้ว เสียงร้องออกมาด้วยความตื่นตะลึง เหมือนเจอผีตอนกลางดึกแบบนั้น คนคนหนึ่งถูกแยกเขี้ยวยิงฟันขู่
“คุณจำเป็นเหรอ?!”
ผมจริงๆแล้วอยากจะแค่แกล้งแหย่งก๋อก่อเท่านั้นเอง คิดไม่ถึงว่าเธอจะมีปฏิกิริยาตอบกลับที่รุนแรงถึงเพียงนี้
“ฉัน ฉัน ฉันรับไม่ได้ รู้สึกเหมือนพวกคุณเป็นเหมือนพวก……จิตวิปริตแบบนั้น”
“อืม อย่างงั้นคุณก็คิดซะว่าผมจิตวิปริตแล้ว อย่างน้อยก็ยังดีกว่าบังคับข่มขืน แต่ว่างานอดิเรกแบบนั้นผมเองก็มีเหมือนกัน”
พอผมพูดจบ ถังก๋อก่อก็มีมารยาทซื่อสัตย์ตรงไปตรงมาทันที
ผมหันไปมองเธอเต็มตา บนใบหน้ารูปไข่สีขาวนั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เห็นได้ชัดว่าคงจะถูกทำให้หวาดกลัวจากผมที่จิตวิปริตบังคับข่มขืนกระทำชำเรา
“แกล้งคุณเล่น ดูตอนคุณหวาดกลัวเล่น ถ้าผมอยากจะทำอะไรขึ้นมาจริงๆ ตอนนี้คุณคงจะครางออกมาอย่างเร่าร้อนไปแล้ว จะยังมาคุณแหกปากแบบนี้ได้ยังไง?”
ไม่มีการปลอบใจอะไรอีก นวดข้อเท้าของถังก๋อก่อต่อ
หลังจากนั้นสักพักใหญ่ เธอเหมือนว่าอารมณ์จะเริ่มผ่อนคลายแล้ว และยังเริ่มจะเชื่อว่าผมแกล้งเธอเล่น ความกล้าของเธอค่อยเริ่มออกมา เริ่มดำเนินการถามผม
“เถ้าแก่ คุณทำให้ถึงกลายเป็นพวกคลั่งเท้าละคะ?”
เหมือนว่าการที่ผมลงไปจูบนั้น เป็นการยืนยันอย่างชัดเจนแล้วว่าผมคือคนคลั่งเท้า
แต่ว่าสำหรับผมแล้วนั้น นี่เหมือนว่าไม่ได้มีความสำคัญอะไร ดังนั้นผมเลยไม่ได้คิดที่จะอธิบายความคิดออกมา
ประคองเท้าเล็กสวยของเธอขึ้นมา ผมพูดคำชมเชยออกไปมากมาย จากนั้นตอนที่เงยหน้าขึ้นมามองไปที่ถังก๋อก่อ พบว่าใบหน้าที่อยากรู้อยากเห็นของเธอนั้นมีความพึงพอใจ ไม่คาดคิดว่าจะมีความชื่นชมยินดีอยู่นิดหน่อยอีกด้วย
ถ้าจะพูดว่าสำหรับผู้หญิงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนของร่างกายก็ตามที่ได้รับการชื่นชม ได้รับการสรรเสริญเยินยอ เธอก็จะดีใจได้ทั้งนั้น อันที่จริงแล้วนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่สวยงามของเธอเช่นกัน
ดังนั้น ผมจ้องมองเธอที่แยกขาทั้งคู่ออกโดยไม่ได้ตั้งใจ
เธอสวมกางเกงยีนตัวหนึ่ง นั่นปกติแล้วไม่ได้มีอะไรน่ามองแต่อย่างใด แต่ว่ากางเกงยีนตัวนี้ก่อนหน้านี้ได้ถูกมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าทำขาดไป จากต้นขาด้านในยาวไปจนถึงข้อเข่า นั่นก็เลยกลายเป็นมีภาพฤดูใบไม้ผลิที่แสนยอดเยี่ยม……