ชีวิตที่อยู่ร่วมห้องกับสาวๆ 18+ - ตอนที่ 174
ในคืนนี้ มันฟินมาก
ความบริสุทธิ์และน่ารักของลู่ปู้หนาน ความสวยหยาดเยิ้มและเซ็กซี่ของหยู่ถิง ทั้งหมดถูกผมเชยชมอย่างเต็มที่
นอกจากฟินแล้ว ผมก็ไม่รู้ว่าจะใช้คำไหนมาอธิบายความสนุกสนานในคืนนี้จริงๆ
เมื่อแสงพระอาทิตย์ยามเช้าสาดมาที่หน้าต่าง ผมก็ตื่นขึ้นมาจากฝันที่สวยงาม มองลู่หย่าฉีที่นอนอยู่ทางด้านซ้าย แล้วมองหยู่ถิงที่นอนหันก้นให้ผมอยู่ด้านขวา
ตอนนี้ ท่าทางคลุมเครือของหยู่ถิง ขอเพียงแค่ผมส่งเข้าไปด้านหน้าอย่างอ่อนโยน จากนั้นก็จะสามารถครอบครองร่างกายทรงเสน่ห์ของเธอได้อีกครั้ง
ในฐานะที่เป็นผู้หญิงของผม ผมดูแลเอาใจใส่เธอ ผมเข้าใจเธอ ผมทะนุถนอมเธอ
แต่ผมอดไม่ไหวแล้วจริงๆ ดังนั้นการตัดสินใจก่อนหน้านั้นชั่วพริบตาผมก็ปัดมันตกทันที
รอบเอวยืดหยุ่นพอดีแรง——
“โอ้~!”
อ่อนหวานมาก น้ำเสียงที่น่าหลงใหล ทำให้คนเกือบจะอยากจับฉีกทึ้ง แต่กลับไม่มีความประหลาดใจ
ชัดเจนว่า เธอไม่ได้หลับ การกระทำที่คลุมเครือของเธอล้วนตั้งใจทั้งสิ้น
“น่าแปลกผมจัดการมันทั้งคืนเช้ามามันยังมีเชื้อไฟใหญ่ได้ถึงขนาดนี้ พูดมา เมื่อกี้ตอนที่ผมนอนอยู่ คุณแอบลักหลับผมหรือเปล่า”
ผมฟุบไปถามเสียงเบาอยู่ข้างหูของหยู่ถิง หยู่ถิงเม้มปาก บนใบหน้าคือรอยยิ้มหวาน……
ครึ่งชั่วโมงต่อมา หยู่ถิงก็รับมันไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ฉวยโอกาสหนีไปตอนที่เปลี่ยนท่า ครั้งก่อนเป็นยอดอกที่จุดชนวน ครั้งนี้เป็นความตั้งใจ และครั้งนี้ผมเชื่อว่าเธอก็รับไม่ไหวแล้วจริงๆ กระทั่งโซซัดโซเซไปที่ห้องน้ำ
“ปู้หนาน ไฟไหม้แล้ว!!!”
ต้องบอกว่า หยู่ถิงแย่มากจริงๆ ระหว่างที่เธอผ่านตัวลู่ปู้หนานไปเธอก็เรียกลู่ปู้หนานให้ตื่น
ลู่ปู้หนานถูกเสียงเรียกทำให้ตกใจตื่น คิดวิ่งหนีทั้งที่ก้นเปลือยเปล่า จากนั้นก็ถูกผมกดไว้บนที่นอน
“ฉันก็คิดว่าไฟไหม้จริงๆ พี่สาวคุณแย่มาก นี่มันอะไรกัน ไฟของพี่เฟิงฉันจะดับเอง!”
ลู่ปู้หนานไม่สนใจ ถึงขั้นให้ความร่วมมือในการรุกผม
ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ลู่ปู้หนานที่แต่เดิมหัวดื้อราวกับนกยูงน้อยเองก็ถูกฆ่าลง มือขาวทั้งสองข้างตกลงข้างตัว รีบร้อนจนชนประตูห้องน้ำ
“พี่ ไม่ไหวแล้ว มาช่วยฉันเร็ว!”
“ไฟของพี่เฟิงไม่นับว่าเป็นอะไร ฉันเชื่อใจเธอปู้หนาน เธอดับไฟเถอะ!”
ไม่ว่าลู่ปู้หนานที่ถูกผมรังแกจะร้องด้วยความเจ็บปวดหรือเต็มไปด้วยความสุขสม แต่หยู่ถิงก็ไม่ออกมา
เมื่อลู่ปู้หนานใกล้จะโบยบินด้วยความสุขอีกครั้ง ผมก็ส่งสัญญาณมือให้เธอปิดปากไว้ เธอก็เข้าใจทันที พยักหน้ามาทางผมอย่างตั้งใจ
“ปู้หนาน สบายไหม?”
“อืม พี่เฟิงสุดยอดมาก อึดมานานกว่าจะเสร็จ……”
เล่นกับลู่ปู้หนานได้สักพัก จากนั้นประตูห้องน้ำก็เปิดออก
หยู่ถิงออกมาจากด้านใน ลู่ปู้หนานพลิกฝ่ามือไปกอดเธอไว้ “เร็วเข้าพี่เฟิง ฉันจับพี่สาวไว้แล้ว!”
“ปู้หนานยัยเด็กนิสัยไม่ดี เธอกล้าโกหกฉัน เฉินเฟิง ฉันไม่เอาแล้ว ฉันไม่……โอ้~!”
หลังจากส่งหยู่ถิงขึ้นสวรรค์อีกครั้ง สงครามสวรรค์นี้ถึงได้ปิดม่านลง……
หลังจากอาบน้ำกับลู่ปู้หนานกับหยู่ถิงในห้องน้ำ หยู่ถิงก็กลับบริษัท ทุกคนได้หยุดในวันชาติ แต่ด้วยฐานะผู้จัดการของเธอยังมีงานอีกมากให้จัดการ ไม่น่าล่ะเธอถึงมีความกดดันขนาดนี้
หลังจากลู่ปู้หนานใส่เสื้อผ้าแล้ว พวกเราก็เรียกจี้หลินที่อยู่ติดกัน
แต่เมื่อเธอเปิดประตูห้องออกมา ดวงตาทั้งสองดำคล้ำ
ลู่ปู้หนานประหลาดใจมาก “เมื่อคืนเธอไปทำอะไรมา นอนดึกขนาดนั้นเลยเหรอ?”
จี้หลินจ้องเขม่งไปที่ลู่ปู้หนานอย่างโกรธเคือง “ยังมีหน้ามาถามฉันอีก พวกเธอทำอะไรกันล่ะ มีพี่หยู่ถิงด้วยใช่ไหม พวกเธอร้องมีความสุขกันขนาดนั้น ร้องกันแทบไม่หยุด เจ้าชายไก่ทอด คุณใช้ได้นี่ พละกำลังสู้รบยาวนานมาก กินยาเข้าไปเท่าไรกัน ขวดเดียวก็แห้งแล้วใช่ไหม?”
ลู่ปู้หนานกอดแขนของผมไว้คล้ายจะอวด “พี่เฟิงของฉันไม่เคยกินยา ครั้งละสามชั่วโมง สองครั้งก็ถึงเช้า”
พละกำลังสู้รบขนาดนี้ ถูกเธอโอ้อวดไปถึงสุดยอมที่สุดในโลกแล้ว……
อยู่เล่นกับผู้หญิงบ้าสองคนทั้งวัน จากนั้นตอนเย็น ก็พาลู่ปู้หนานส่งกลับที่พัก
ส่วนจี้หลิน ด้วยเพราะเมื่อคืนเลยต้องเข้านอนเร็ว ส่งเธอกลับโรงแรมที่พักอยู่
“คืนนี้ไปกินข้าวเป็นเพื่อนฉันหน่อย อย่างไรก็เป็นแขกจากแดนไกล คุณเลี้ยงข้าวฉันสักมื้อได้ไหม?”
คิดดูแล้วจี้หลินเองก็ตัวคนเดียว ดังนั้นคนดีอย่างผมในใจจึงเอ้อล้นออกมา
แน่นอน ผมไม่ปฏิเสธว่ายังมองขายาวเรียวของเธอคู่นั้น
“ฉันอยากกินไก่ทอดที่คุณให้ปู้หนานวันนั้น……”
ตอนแรกผมอยากพาจี้หลินไปกินข้าวที่ห้องอาหารในโรงแรม คิดไม่ถึงว่าเธอจะขอร้องแบบนี้ แต่อย่างไรก็เป็นแขกจากแดนไกล ย่อมไม่มีเหตุผลให้ปฏิเสธได้
ขับรถพาเธอมา จากนั้นพวกเราก็ขับมาถึงร้านไก่ทอด
ระหว่างทาง พวกเราคุยกันไปเรื่อยเปื่อย ทั้งพูดทั้งหัวเราะ มีความสุขมาก
แต่จู่ๆ จี้หลินก็ถามขึ้นมาว่าผมทำงานอะไร
“ผมไม่ใช่คนเปิดร้านคาราโอเกะเหรอ เมื่อวานถึงได้พาคุณไป”
“นั่นฉันรู้ แต่กระทั่งพนักงานหลายคนไม่รู้จักคุณ แสดงว่าที่จริงคุณไม่ค่อยได้ไปนัก คุณจะต้องมีงานอื่นอีกแน่”
จี้หลินสังเกตอย่างละเอียด ดังนั้นผมเลยไม่ปิดบัง “เป็นโฮสต์”
“โฮสต์?”
“โตเกียวของพวกคุณยินดีที่จะเรียกว่าคุณชาย”
จี้หลินสับสนบ้างนิดหน่อย นานถึงถามกลับ “คุณล้อเล่นใช่ไหม?”
ผมตอบเธอประโยคหนึ่ง “คุณเห็นว่าผมเหมือนล้อเล่นเหรอ?”
จี้หลินรู้สึกเหลือเชื่อ “นี่มันเป็นไปไม่ได้ คุณขับHummer ทำงานคุณชาย?”
“ใช่ ไม่เป็นคุณชาย รถHummerจะมาจากไหน?”
จี้หลินเข้าใจได้ทันที “รถคันนี้เป็นหยู่ถิงให้คุณเหรอ?”
ผมโบกมือ “ไม่ใช่ ที่เธอให้มามันฉูดฉาดเกินไป ผมไม่ชอบขับ”
“Chery QQล่ะ?”
“Lamborghini”
จี้หลินเงียบไปแล้ว นานถึงได้พูด “ฉันไปเป็นหญิงขายบริการได้ไหม คุณแนะนำฉันให้รู้จักกับลูกค้ารายใหญ่อย่างหยู่ถิงหน่อย”
“นั่นง่ายมาก คุณปรนนิบัติผมก็พอแล้ว ผมจะเอาLamborghiniให้คุณดีไหม?”
“ฝันไปเถอะ!”
เถียงกันตลอดทาง จนถึงร้านขายไก่ทอด จากนั้นจี้หลินก็เห็นร้านเคเอฟซีที่อยู่ห่างไปไม่มาก ดังนั้นเลยโวยวายอยากได้ไก่ของเคเอฟซีไปกิน
ผมไม่รู้ว่าเธอเอาความคิดประหลาดที่ทะยานข้ามฟากฟ้ามาจากไหน แต่เมื่อเธอขอร้องอย่างมุ่งมั่น สุดท้ายก็พาเธอไปส่ง
สั่งอาหารนิดหน่อย จากนั้นพวกเราก็หั่นไก่ทอดอยู่ริมหน้าต่าง กลิ่นไก่ทอดอบอวลไปทั่วทั้งร้านเคเอฟซี……
หลังจากกินดื่มจนอิ่ม ผมก็ส่งเธอกลับโรงแรม จากนั้นตัวเองก็กลับผับหมอชิ่ง
แต่มีเรื่องเหนือความคาดหมายขึ้น เท้าหน้าผมเพิ่งจะก้าวเข้าร้าน ก้นยังไม่ทันนั่งสนิท หัวหน้าคนงานก็เรียกผมไปประจำตำแหน่ง
ธุรกิจวันนี้เหมือนว่าจะไม่เลวเลยทีเดียว เพิ่งจะทำงานก็มีแขกที่ร่ำรวยมาถึงร้านแล้ว
หลังจากนั้น เมื่อผมเข้าห้องส่วนตัว พอเห็นว่าจี้หลินเป็นแขก ตอนนั้นก็ไร้คำซึ่งพูด
ไม่แปลกใจเลยที่ พนักงานคนอื่นยังไม่ทันสบตาก็ถูกไล่ออกไปแล้ว การค้าขายที่ดีได้ทั้งเงินได้ทั้งสาวสวยไม่ตกถึงมือ พวกเขาท่าทางเศร้าสร้อย จะมีก็เพียงผมที่ถูกมองด้วยสายตาอิจฉา
“คุณนี่มันก่อเรื่องจริงๆ!”
“ก่อเรื่องอะไร ฉันมาเที่ยว คืนนี้ฉันคือพระเจ้า ได้ยินไหม ปรนนิบัติฉันให้ดี!”
จี้หลินยื่นขาที่เรียวสวยของเธอออกมา จากนั้นผมก็สังเกตได้ถึงรายละเอียดอย่างหนึ่ง เธอใส่ถุงน่องยาว
ผมจำที่บอกเธอในคาราโอเกะเมื่อคืนวานได้ ถ้าอยากจะด่า ให้ติดต่อผม และผมสนใจขาเรียวสวยของเธอมาก จะให้ดีควรใส่ถุงน่องสักหน่อย
ต่อมา วันนี้เธอก็ใส่ถุงน่องมา นี่มันหมายความว่าอะไรกัน