ชีวิตที่อยู่ร่วมห้องกับสาวๆ 18+ - ตอนที่ 185
หลังจากจัดการแก้ปัญหาเรียบร้อยแล้ว ก็ฉี่สั่นอย่างมีความสุข จากนั้นสะบัดหลายทีแล้วจึงใส่กางเกง ล้างหน้าแปรงฟันที่อ่างล้างมือ
“เมื่อก่อนฉันเอาแปรงสีฟันของคุณมาทำความสะอาด แปรงสีฟันนั้นนุ่มมาก สบายมาก”
ผมมองเฉินหลินที่กำลังเช็ดด้วยกระดาษชำระอยู่ จากนั้นก็แปรงฟันต่อ ไม่สนใจเธออีกดังนั้น เธอจึงผมอย่างแรงด้วยความโมโห ออกจากห้องน้ำไป
พฤติกรรมของเธอนั้นพิสูจน์ได้อย่างเหลือล้นเรื่องหนึ่ง คำพูดที่เธอจงใจทำให้ผมโมโหโกรธนั้น เป็นแค่เพียงเธอสร้างเรื่องไร้สาระเท่านั้นเอง
หลังจากจัดการเก็บข้าวของทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ผมก็ออกจากบ้านไป ตรงไปที่โรงแรมที่จี้หลินพักอยู่
หลังจากมาถึงห้อง ผมเคาะประตูแล้วเปิดเข้าห้องของเธอ
ตอนนี้ หน้าของจี้หลินนั้นซีดขาว ขนาดบนหน้าผากยังเห็นเม็ดเหงื่อได้อย่างชัดเจน
“ไส้ติ่งอักเสบ? กระเพาะอักเสบ? ทำไมถึงปวดท้องหนักขนาดนี้?”
ผมคิดแค่ว่าเธออยากเล่นลูกไม้เล็กๆเท่านั้น ไม่ได้คิดเลยว่า คิดไม่ถึงว่าเธอจะปวดท้องหนักขนาดนี้
ตอนที่ผมกำลังจะอุ้มเธอขึ้นมาเพื่อพาไปโรงพยาบาล จี้หลินก็ห้ามเอาไว้ “ไม่เป็นอะไรมา ปวดประจำเดือน”
ถ้าอย่างงั้นก็ไม่มีลูกไม้อะไรแล้ว นี่เป็นชีวิตของเพศที่แต่งต่างกัน แก้ไขไม่ได้
จี้หลินมองมาที่ผม จากนั้นดึงมือของผมไว้ “เฉินเฟิง คุณช่วยนวดให้ฉันหน่อยได้ไหม เบาๆหน่อยนะ”
เพื่อรับใช้ประชาชนก็ถือเป็นวัตถุประสงค์หนึ่งของผม โดยเฉพาะเพื่อรับใช้ประชาชนสุภาพสตรีแสนสวย
ดังนั้นผมพาจี้หลินมาที่บนเตียง เปิดชุดนอนผ้าไหมตัวสั้นบนร่างกายเธอออก ค่อยๆใช้มือแปะไปยังกางเกงในสีขาวนูนๆตูมๆตัวนั้นของเธอ จากนั้นก็นวดอย่างช้าๆค่อยๆ
จี้หลินนอนบนเตียง บนหน้าเล็กที่งดงามละเอียดอ่อนนั้นแดงขึ้นมา
“คุณนวดตรงไหนนี่ ฉันให้คุณช่วยนวดท้องน้อยของฉัน ใครให้คุณไปนวดในนั้น……”
ผมเงียบไม่พูดอะไร ตามสิ่งที่เธอขอร้อง ค่อยๆขยับไปนวดท้องน้อยของเธอ แต่ว่าก็มีอยู่บ่อยครั้ง จะตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจก็ตามก็ไปสัมผัสเข้ากับบ่อน้ำสว่างใสสีดำที่ไม่ยอมเดียวดายนั้นเข้า
“คุณนี่มันอันธพาลใหญ่แล้วนะ!”
เพื่อที่จะร่วมมือกับจี้หลิน เพื่อที่จะให้คำพูดของเธอนั้นสมจริงมากขึ้นไปอีก ผมจึงถอดกางเกงออก ทำให้ตัวเองเปลือยเปล่ายืนอยู่ต่อหน้าของเธอ ใบหน้าของเธอตอนนี้นั้นเปื้อนไปด้วยสีแดง
“ถูกแล้ว ผมไม่เพียงแค่นักเลงยิ่งใหญ่ แต่ว่าเป็นนักเลงที่ใหญ่มากๆๆๆด้วย ถ้าคุณไม่กลัวมีอะไรตอนไฟแดงอยากให้ผมฝ่าไฟแดง ผมก็อยากให้คุณลองชิมสักหน่อยว่านักเลงทำไมใหญ่ได้ขนาดนี้”
จี้หลินอายจนร้องอย่าออกมา ขนาดเอามือเล็กๆมาปิดตาไว้ แต่ผมก็ยังมองเห็นชัดเจน บางทีเธอก็แอบมองลอดออกมาจากช่องระหว่างนิ้ว เติมเต็มความอยากรู้อยากเห็นในใจของเธอ
“หลินจื่อ ผมคิดว่าพวกเราน่าจะเปลี่ยนวิธีการนวดทั้งหมด ผมคิดว่ามันจะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย”
ไม่รอให้จี้หลินตอบรับหรือปฏิเสธ จากนั้นผมปีนไปอยู่บนร่างกายอันแสนเย้ายวนของเธอ จากนั้นใช้มือข้างหนึ่งนวดคลึงหน้าอกที่อวบอิ่มและขาวนวล ค่อยๆถูไถที่ท้องน้อยที่เรียบเนียนของเธอนั้น นวดคลึงไปเรื่อยๆ
จี้หลินเขินอายมาก แต่ไม่มีการห้ามปรามใดๆเกิดขึ้น ทำเพียงใช้ฟันกัดริมฝีปากล่างไว้เท่านั้น
ผ่านไปหลายนาที เธอเองก็ทนไม่ไหวแล้ว ริมฝีปากเริ่มบีบแน่น เสียงครางอันเย้ายวนปรากฏดังขึ้น เสียงธรรมชาติดังขึ้นฉับพลัน
หลังจากผ่านไปสิบกว่านาที อยู่ดีๆเธอก็ยื่นมืออันนุ่มนิ่มคู่นั้นออกมา ผลักผมออกจากตัวเธออย่างแรง
“ฉันดีขึ้นแล้ว ฉันไม่ปวดแล้ว”
ใบหน้าเล็กๆของจี้หลินแดงก่ำ มันเต็มไปด้วยความเขินอาย
ไม่ได้มีการกระตุ้นบังคับอะไรเธออีก ผมนอนลงบนเตียง ขณะเดียวกันก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด ให้เธอนอนลงมาที่บนหน้าอกของผม
“หลินจื่อ คุณไม่รู้สึกเสียดายเหรอ?”
“อะไร?”
“เสียดายที่ไม่ได้อยู่กับผมเร็วกว่านี้ ตอนนี้มีเรื่องดีๆแล้ว ก็ไม่สามารถทำได้อีก ครั้งหน้าที่เจอกัน ก็ยังไม่รู้ว่าเลยว่าจะเป็นเมื่อไหร่”
จี้หลินไม่ได้พูดอะไรออกมา หลังจากนั้นนานพอสมควร เธอจึงเอ่ยปากอย่างกลัวๆ “อืม”
ขาหยกที่เรียวยาวไม่มีที่ติคู่นั้น หน้าอกที่อวบอิ่มและงดงามนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือความมีเสน่ห์ของสาววัยรุ่นตอนกลางที่กำลังสุกงอม ต้องพูดเลยว่า จี้หลินนั้นคือสิ่งมีชีวิตแสนสวยระดับสวยจนยอมผิดจารีตประเพณี ตอนนี้อยากจะทำอะไรต่อมิอะไรกับเธอ จากนั้นไปพิจารณาเธอถึงการร้องคร่ำครวญอย่างเพลิดเพลินใต้ร่างของผม……
ทั้งคืนไร้คำพูด จนกระทั่งรุ่งสาง
หลังจากจัดเตรียมให้เธอกินอาหารเช้าเรียบร้อย ผมก็ออกมา ไปรับลู่ปู้หนานก่อน
วันนี้เป็นวันหยุดวันชาติจีนวันสุดท้าย และเป็นวันที่เธอเองก็ต้องกลับเมืองหลวงกับจี้หลินแล้ว
ที่ประตูบ้านของลู่ปู้หนาน ผมเห็นรถของลู่หย่าฉีที่เริ่มจะขยับพอดี
ลู่ปู้หนานรบเร้าจะขึ้นรถของผม ลู่หย่าฉีทำอะไรไม่ได้จริงๆ ทำได้แค่ให้ลู่ปู้หนานขึ้นรถของผมมาด้วยกัน
ระหว่างทาง เธอแสดงความเป็นแม่ที่แสนอบอุ่น จริงๆแล้วคือบ่นจู้จี้ไปเรื่อยๆ กำชับลู่ปู้หนานให้ดูแลตัวเองดีๆ
“แม่ หนูไม่ได้เป็นเด็กน้อยแล้วนะ แม่ไม่ต้องพูดอีกแล้ว หนูเข้าใจแล้วนะ!”
“จะไม่ใช่เด็กน้อยได้อย่างไร เรายังไงในสายตาของแม่ ก็เป็นเด็กน้อยตลอดไปวันยังค่ำ ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์รังแกเราได้!”
คำพูดประโยคนี้นั้นมีเป้าหมายอะไรบางอย่างเป็นพิเศษ ผมสามารถรับรู้ได้ทั้งหมด เวลานี้สายตาของลู่หย่าฉีนั้นจับจ้องมาที่ผมอย่างโมโห โมโหจนกระทั่งอยากจะคิดบัญชีกับผมที่นอนกับเธอแล้วยังนอนกับลูกสาวเธอโดยการสับให้เป็นชิ้นๆ
หลังจากไปรับจี้หลินเรียบร้อย ก็ไปส่งพวกเธอที่สถานีรถทั้งคู่ จากนั้นมองดูพวกเธอออกจากห้องรอผู้โดยสาร เข้าไปในชานชะลา
ก่อนที่จะแยกจากกัน จี้หลินเข้ามากอดผม จากนั้นลู่ปู้หนานนั้นกล้าหนักยิ่งกว่า ตรงเข้ามาจูบผมต่อหน้าลู่หย่าฉี จนทำให้ลู่หย่าฉีโมโหจนอยากจะเอาไม้กวาดฟาดผมสักรอบหลังจากที่ลู่ปู้หนานกับจี้หลินออกมา ผมก็ไปทักทายลู่หย่าฉีพร้อมกับขึ้นรถมา
ไม่มีการขยับรถ กุญแจรถถูกลู่หย่าฉีแย่งเอาไป
จุดบุหรี่ขึ้นมาสองมวน คนละหนึ่งมวน จากนั้นแต่ละคนก็สูบบุหรี่ที่หน้าต่าง
ลู่หย่าฉีคิดอะไรอยู่นั้นผมเองก็ไม่รู้ ผมรู้เพียงว่าสาวต่างชาติที่เดินผ่านข้างๆไปนั้น นมทั้งสองข้างใหญ่มาก น่าจะใหญ่กว่าลู่หย่าฉีซะอีก และยังมีผิวตรงบ่อใสสีน้ำตาลอ่อนนั่นอีก ดูแล้วช่างน่าหลงใหลเหลือเกิน เดาว่าเทน้ำลงไปทั้งขวด ก็ยังไม่เหลือแม้แต่หยดเดียวไว้ด้านบน เรียบเนียนอะไรอย่างงี้!
“เฉินเฟิง คุณมันเป็นสัตว์เดียรัจฉานใช่ไหม?”
ผมหันกลับไป มองลู่หย่าฉีอย่างโมโห “ถ้าพิจารณาจากมุมของไอ้นั่นด้านล่างละก็ เรื่องนี้ผมยากที่จะปฏิเสธได้จริงๆ เชื่อเหอะคุณเคยใช้แล้วจะต้องเข้าใจ ระดับของผมนั้นผู้ชายปกตินั้นทำไม่ได้ ”
มองแล้วลู่หย่าฉีนั้นไม่ได้มีความสุขที่ล้อผมเล่นเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นเธอเองก็ไม่ได้สนใจคำเยาะเย้ยที่มีรสชาติของผมเลย
“ฉันพัฒนาความสัมพันธ์กับคุณไปจนถึงขั้นนี้แล้ว คุณทำไมยังจะเอาปู้หนานเข้ามาพัวพันอีก คุณปล่อยเธอไปได้ไหม?”
ผมตกตะลึง รีบพูดออกไปทันที : “ทำไม ผมมันไม่ดีอย่างงั้นเหรอ?”
ลู่หย่าฉีส่ายศีรษะ “คุณดีมาก จิตใจคุณดีมาก เรื่องปฏิบัติกับผู้หญิงเองก็ดีมาก ถึงแม้ว่าอาชีพของคุณจะเป็นชายขายบริการ แต่ฉันไม่ได้สนใจ อันที่จริงบ้านของพวกเราสถานะเริ่มจากอยู่เสี้ยงเฉียนเองก็ไม่ได้สะอาดอะไรมากมาย ดังนั้นการปฏิบัติกับอาชีพพิเศษแบบนี้นั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย แต่ว่า……”
“แต่ว่า แต่ว่าอันที่จริงแล้วคุณสัมผัสร่างกายของฉันไปแล้ว ปู้หนานเป็นลูกสาวของฉัน คุณจะแตะต้องเธอได้ยังไง คุณเป็นคนรุ่นคุณลุงของเธอ”
ผมดึงมือของลู่หย่าฉีมา “หย่าฉี จริงๆแล้วผมไม่เห็นว่ามันจะมีอะไรเลย ถ้าผมอยู่ปู้หนาน หลังจากที่ลุงหยู่จากไป ผมก็สามารถดูแลคุณได้อย่างถูกตามทำนองคลองธรรมได้ แบบนี้พวกเราก็สามารถอยู่ด้วยกันอย่างแท้จริง ถึงจากนี้ร่างกายคุณไม่ได้ต้องการแบบนั้นอีก ผมเองก็อยู่ข้างกายคุณ เติมเต็มความต้องการทางจิตใจได้ อยู่ด้วยกันกับคุณไง”
“เกี่ยวกับปู้หนาน ผมคิดว่าคุณไม่ต้องคิดอะไรมากหรอก ไม่ว่าผมจะอยู่กับด้วยกันหรือไม่ก็ยังมีผู้ชายอื่นอยู่ด้วยกันกับเธออยู่ดี ยังไงก็แตะเนื้อต้องตัวเธออยู่ดีวันยังค่ำ อีกด้านหนึ่ง เป็นผมที่ดูแลปู้หนาน ดูแลอยู่ข้างกายเธอ ส่วนอีกด้านหนึ่ง เป็นผู้ชายอื่นอยู่กับปู้หนาน คุณก็อยู่อย่างโดดเดี่ยวจนแก่เฒ่า คุณจะเลือกอย่างไหนละ?”
หลังจากถูกผมแอบเปลี่ยนแนวความคิดอย่างลับๆล่อๆ ลู่หย่าฉีก็จมอยู่ในความเงียบงัน ผ่านไปหลายนาที เธอถึงจะมีสติกลับมา “แต่จุดสำคัญของปัญหาไม่ได้อยู่ตรงนี้ ฉันเป็นแม่ของเธอ ฉันอยู่ด้วยกันกับคุณ เธอเองก็อยู่ด้วยกันกับคุณ นี่มันผิดศีลธรรมแล้ว……”
“คุณคิดมากไปแล้ว ไม่วุ่นวายเหรอ นั่นมันก็เป็นมุมมองของสายตาคนอื่นเท่านั้นเอง ให้พวกเขาเห็นสิเขาถึงจะรู้ว่าวุ่นวาย ไม่ให้เขารู้เขาเห็นก็จบแล้วไหม? อีกอย่าง ไม่ว่าจากความรู้สึกของผมหรือเกี่ยวกับความรู้สึกของปู้หนาน ผมจะดูแลเธอเป็นอย่างดี ไม่ให้เธอรู้สึกน้อยใจ ในเวลาเดียวกันทุกวันก็อยู่เป็นเพื่อนคุณได้ด้วย นี่ถึงจะดีไม่ใช่เหรอ?”
ลู่หย่าฉีกลับมาเงียบอีกครั้ง แต่สุดท้ายก็ยังเลือกที่จะส่ายหน้า “ไม่ได้ ฉันยังคงยืนยันว่าไม่ได้……”
ไม่ให้โอกาสเธอได้พูดต่อไปอีก ผมใช้ปากตรงเข้าไปปิดปากเล็กๆที่แสนเซ็กซี่ของเธอ
ผลกระทบจากลิ้น ผมทำให้เธอนั้นพูดออกมาไม่ได้อีก ปากหนัก…