ชีวิตที่อยู่ร่วมห้องกับสาวๆ 18+ - ตอนที่ 192
เมื่อผมไปส่งจ้าวเย่นซวนที่บ้าน น้ำตาที่คาเบ้าตาของเธอ เต็มไปด้วยความคับแค้นใจ
ความรู้สึกพวกนั้น เหมือนกับว่าผมเอาเธอแล้วไม่ได้ให้เงินก็ไม่ปาน แต่ปัญหาอยู่ตรงที่ผมไม่ได้เอา แต่เหตุผลนี้ต่างหากที่เป็นปัญหาใหญ่ของทั้งหมด
” เฉินเฟิง คุณมันเลว มีอะไรคุณก็เก็บเอาไว้ ไม่เอาไปลงกับผู้หญิงคนอื่นซะล่ะ! ”
ผมไม่ได้พูดอะไร แต่เอามือไปรูดไปมาตรงเป้ากางเกงนั้น แล้วหันไปพูดกับเธออย่างสบายอารมณ์ ” คุณก็ใช้ได้เหมือนกันนะ ”
ตอนนั้นเธอโกรธจนน้ำหูน้ำตาไหลพราก จากนั้นก็เอามือไปทำท่าจะดึงสร้อยข้อมือออก
” ถ้าคุณกล้าถอด ชีวิตนี้ผมจะไม่มาเจอคุณอีก ”
” ไม่เจอก็ไม่เจอสิ! ”
จ้าวเย่นซวนตะคอกออกมา ก่อนจะเซมาพิงประตูแล้วเดินจากไป
แต่เธอคงจะลืมสิ่งที่พูดตอนแรกไปเสียแล้ว เธอลืมถอดมันออก หรือจงใจที่จะทำเป็นลืม อันนี้ก็ไม่แน่ใจ
เธอค่อย ๆ เดินจากไปจนมองไม่เห็น ผมจึงขับรถกลับไปยังที่อยู่ของหลิวทง
เมื่อคุยกับหันเจิงลู่ไปเกือบครึ่งค่อนบ่าย กินข้าวเย็นเสร็จ ผมก็รีบไปเข้างานที่ผับหมอชิ่ง
ช่วงนี้การค้าในผับก็ค่อนข้างพอไปได้ แต่ผมก็ไม่ได้รับลูกค้าอะไรขนาดนั้น ลูกค้าทั่วไปที่วอคอิน ถ้าปฏิเสธได้ก็ปฏิเสธ จะมีเพียงแค่คืนวันก่อนที่ห้องพิเศษนั้นที่ปฏิเสธงานไม่ได้ จากนั้นผมก็เทคแคร์ลูกค้าเหมือนที่ทำกับยี่เจียจเจีย นั่นก็คือใช้มือปรนนิบัติจนทำให้พวกเธอแทบจะยกขาไม่ขึ้น
ดูเหมือนว่าคืนนี้ธุรกิจของผับกำลังไปได้สวย ถ้ามีงานที่ห้องพิเศษผมก็จะไปทำเหมือนอย่างเดิม ถ้าลูกค้าไม่พอใจก็คงไม่มีวิธีอื่น เพราะความชอบของคนเรามันไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
พอประมาณสี่ทุ่ม งานในผับก็ค่อย ๆ น้อยลง
ผมจึงอยากออกไป แต่พอมาคิด ๆ ดูแล้ว อยู่ต่ออีกหน่อยดีกว่า เผื่อจะเจอลูกค้าสาววีไอพีเข้ามา จะได้หาลู่ทางให้ตัวเองได้บ้าง
คิดไม่ถึงเลย กลายเป็นว่าการตัดสินใจอยู่ต่อในครั้งนี้ถูกต้องเสียแล้ว รอได้ไม่นาน กลับไม่ใช่ลูกค้าสาววีไอพี แต่ดันเป็นซูเสี่ยวฉิน
ยังไม่ทันได้ขึ้นไปบนนั้น เธอก็เลือกผมเข้าห้องพิเศษเลยทันที
เมือผมช่วยเธอหยิบเบียร์กับน้ำแล้ว เธอก็ถามนู่นถามนี่ผมไปเรื่อย ประมาณว่ารถเธอเป็นยังไงบ้างอะไรพวกนั้น
คุยจบ เธอก็หยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสองมวน แล้วเอาหนึ่งในนั้นที่พึ่งจุดไปยื่นให้ผม
” ขอบใจ ”
เสียงที่พูดว่า ‘ ขอบใจ ‘ นี้ ไม่ใช่ผมพูด แต่กลับเป็นเธอเองที่พูดออกมา ดังนั้นผมเลยไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่
เธออธิบายต่อ ” ขอบคุณคืนนั้นที่คุณพาฉันไปส่งที่โรงแรม แล้วไม่ได้ฉวยโอกาสที่ฉันเมาทำอะไรฉัน ”
เธอพูดเหมือนมีลับลมคมในบางอย่าง เหมือนจะเอ่ยถ้อยคำบางอย่างต่อกัน
ผมโบกมือไปมา แสดงถึงว่าไม่เป็นไร
ซูเสี่ยวฉินพยักหน้า ก่อนจะหันไปสูบบุหรี่ เหมือนมีเรื่องอะไรในใจอยู่
จนกระทั่งสูบบุหรี่มวนนั้นเสร็จ เธอก็เอาบุหรี่ไปบี้ลงบนจานเขี่ยบุหรี่ จากนั้นเธอก็หันมาทางผม
” หรือจริง ๆ แล้วฉันเป็นคนที่ไม่น่าดึงดูด ทำไมแม้แต่ฉันที่กำลังเมาอยู่ ไม่ได้สติขนาดนั้น คุณยังไม่ทำอะไรฉันเลย หรือว่าคุณกังวลที่ตั่นโก๋ซูนจะมาเอาเรื่อง ถ้าเป็นอย่างหลังล่ะก็ ฉันขอบอกว่าคุณคิดเยอะไปแล้วล่ะ วันนั้นคุณก็ได้ยินต่อหน้าแล้วไม่ใช่หรอว่าเขาพูดออกมายังไง ดูก็รู้ว่าเขาไม่ได้ว่าอะไรที่ฉันไปมีสัมพันธ์กับชายอื่น ”
ผมเหลือบตาไปมองซูเสี่ยวฉิน แล้วสูบบุหรี่ต่อ
ตอนนั้น บุหรี่ในมือผมเหลืออยู่ครึ่งมวน แต่ของเธอกลับไหม้เหลือเพียงแค่ก้นบุหรี่เท่านั้น
” ผมรู้ ผมได้ยินกับหู จริง ๆ แล้วผมก็อยากนอนกับคุณ หุ่นของคุณมันน่าดึงดูดขนาดนี้ ผมอยากเห็นคุณที่โดนผมเอาอยู่ด้านล่างด้วยท่าทางร้องอ้อนวอนนั้น แค่คิดผมก็ตื่นเต้นแล้ว แต่ว่า… ”
” แต่ว่าอะไร ”
ผมสูบบุหรี่เข้าไปเฮือกใหญ่ ก่อนจะค่อย ๆ พ่นควันออกมา ” คุณเคยโดนขืนใจมาก่อน ผมกลัวว่าในขณะที่ตัวเองกำลังมีความสุข แต่คุณกลับทรมานเพราะความเจ็บปวดนั้น มันคือสิ่งที่ผมไม่อยากเห็น คุณเจ็บมามากแล้วผมไม่อยากให้มันเกิดขึ้นกับคุณอีก ”
” เหอะ เหอะ ๆ ๆ ”
ซูเสี่ยวฉินยิ้มออกมาเป็นเชิงหัวเราะเยาะ ไม่ผิดแน่ เป็นการหัวเราะเยาะอย่างโจ่งแจ้ง
ไม่มีท่าทีที่จะปิดบังความน่าขันนี้ไว้ได้
ผมถามเธอ ” คุณหัวเราะอะไร ”
เธอตอบ ” เปล่า ก็แค่ผู้ชายขายตัวที่พูดถึงเรื่องความรัก ความเห็นใจ คุณไม่คิดว่ามันน่าขันหรือไง ”
ผมคิดอย่างถี่ถ้วน ก่อนจะตอบอย่างจริงจัง ” ผมไม่เห็นว่ามันจะน่าขำตรงไหน ”
ซูเสี่ยวฉินเงียบไป ขณะเงียบนั้น เธอก็จุดบุหรี่อีกมวน ค่อย ๆ นั่งไขว่ห้าง ศอกค้ำลงบนหัวเข่า มือของเธอกุมหน้าผากไว้ เส้นผมของเธอปลิวสะบัดไปตามลมพร้อมกับกลิ่นควันบุหรี่อ่อน ๆ
ผ่านไปสักพัก เธอเงยหน้าขึ้นมา ก่อนจะพูดกับผม ” ขอบใจนะ ขอบใจจริง ๆ ”
ผมตอบกลับไปอย่างมีมารยาท ” ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้น ”
เธอกลับยิ้ม ในรอยยิ้มนั้นไม่ใช่การยิ้มเยาะ แต่เป็นรอยยิ้มที่ซื่อตรง
จากนั้นเธอก็ลอกผมว่า ถ้าคืนนั้นผมได้เธอ เธอก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อเอาใจผม ปล่อยตัว ปล่อยร่างกาย ปลดปล่อยจิตวิญญาณนั้น แล้ววันต่อไปเธอจะจบชีวิตของตัวเอง
” กระโดดลงแม่น้ำดี หรือว่าโดดตึก หรือว่านอนขวางรางรถไฟล่ะ เอาแบบไหนดีนะ ”
นี่คือความผิดหวังอันใหญ่ยิ่ง การตายคงดีกว่าการมีชีวิตอยู่ต่อ
เพราะงั้นผมถึงแปลกใจ ว่าคน ๆ ที่นิสัยดุร้าย ยอมจับมีดหั่นหัวคนที่เคยมายุ่งกับผู้หญิงของตัวเองอย่างนั้น
ทำไมจู่ ๆ ถึงเปลี่ยนไปชอบผู้หญิงคนอื่นภายในพริบตา ความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงไปนี้ ดูเหมือนจะรวดเร็วเกินไป
ในใจผมจึงเกิดความสงสัยเลยถามซูเสี่ยวฉิน
” มันก็เป็นเรื่องที่ทำให้ฉันรู้สึกฉงนใจอยู่เหมือนกัน ฉันเคยถามเขาครั้งหนึ่ง แต่สิ่งที่เขาให้ฉันมีเพียงแค่รอยยิ้มที่เย็นชาเท่านั้น หลังจากนั้นฉันก็เข้าใจแล้ว ที่เขาไปฆ่าใครต่อใครไม่ใช่เพราะฉัน แต่เขาทำไปเพื่อตัวเอง อะไรที่เป็นของเขา คนอื่นห้ามแตะต้อง ใครที่กล้าแตะต้อง เขาก็จะฆ่าทิ้ง! ”
ผมถามต่อ ” แล้วตอนนี้ล่ะ ตอนนี้คุณก็ยังเป็นผู้หญิงของเขาอยู่ไม่ใช่เหรอ ถึงขนาดแต่งงานแล้ว กลายเป็นภรรยาของตั่นโก๋ซูนอย่างออกหน้าออกตา ”
” เป็นภรรยาของเขามันก็จริงอยู่ แต่เป็นสิ่งของที่เขาไม่ต้องการมันอีกแล้วยังไงล่ะ คุณคิดว่าฉันยังจะเป็นของเขาอยู่ไหม ”
ซูเสี่ยวฉินหัวเราะเยาะ ” คุณต้องเข้าใจนะ ก่อนหน้าที่ฉันจะโดนคนอื่นทำให้ต้องด่างพร้อย ร่างกายของฉันเป็นของเขาอยู่แล้ว แต่พอถูกทำให้แปดเปื้อน ร่างกายของฉันก็มีร่องรอยของผู้ชายถึงสองคน ถ้าเป็นคุณ เห็นถุงยางมีคนใช้แล้ว คุณยังจะกล้าใช้ต่อไหมล่ะ ”
” แต่มันคนละเรื่องกันนี่ คุณเป็นคน ไม่ใช่ถุง… ”
‘ ยาง ‘ ไม่ได้พูดคำสุดท้ายออกไป ซูเสี่ยวฉินก็พูดตัดบท
” งั้นในสายตาคุณ แต่ในสายตาของเขา มันเหมือนกัน ”
พูดจบ ซูเสี่ยวฉิน ก็สูดควันเฮือกใหญ่ ก่อนจะพ่นควันออกมาจนฟุ้ง ภายใต้แสงจากโคมไฟทำให้รู้สึกถึงความเลือนลางและว่างเปล่า ราวกับความฝันอันสวยงามที่กำลังแหลกสลาย
ผ่านไปไม่นาน เธอก็ลุกขึ้น
คืนนี้เธอแต่งตัวสวยไร้ที่ติ เสื้อตัวนอกมีลวดลายสีดำที่โชว์ไหล่ กางเกงยีนสีขาวที่เข้ากับรูปร่างเธอสูงของเธอและรองเท้าส้นสูงสีแดงที่เป็นลายประณีตสวยงามของเธอ แดงฉานพอ ๆ กับความเผ็ดร้อนที่มาจากตัวเธอ
เป็นเพราะเธอแต่งตัวอย่างสวยงาม และอากัปกิริยาของเธอที่ทำให้ผมรู้สึกใจไม่ดีนี้
เธอถอดเสื้อผ้าออก และถอดเสื้อตัวนอกที่คลุมกายเธออยู่ลงพื้นอย่างไม่ลังเล เผยให้เห็นทรวงอกอันอวบอิ่มที่ถูกปิดด้วยบราสีม่วงเข้ม สีม่วงเข้มที่ตัดกับสีขาว ใต้แสงไฟทำให้ความแตกต่างของสีนั้นปรากฏอย่างชัดเจนมันทั้งน่าดึงดูด และทำให้ใครต่อใครลุ่มหลง
โดยเฉพาะเอวคอดบางนั่น นับว่าเป็นความเซ็กซี่อย่างหนึ่ง ทำให้คนที่ได้เห็นต้องตกตะลึง
” คุณไม่รู้สึกว่าฉันสวยเซ็กซี่บ้างเหรอ ถ้างั้นก็เข้ามาสิ คืนนี้ฉันจะทำให้คุณพอใจ จะปรนนิบัติคุณอย่างดีเลย ”
ผมคิดจริง ๆ ผมสาบานเลยว่า ถ้าผมไม่อยากเอาเธอ ผมคงเป็นคนที่โง่เต็มทน ถึงขนาดว่าแม้แต่กางเกงยีนเธอก็ถอดมันออก ทำให้เห็นกางเกงในตัวน้อย ๆ ลายสีเขียวอ่อน มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกแทบจะทนไม่ไหวขึ้นหนักกว่าเดิม
แต่แค่ ผมไม่กล้า ผมกลัวว่าตัวเองจะเป็นผู้ชายคนสุดท้ายของเธอ
หรือพูดอีกอย่างว่า ผมกลัวว่าคืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายของเธอ
มองไปยังร่างกายที่สวยหยาดเยิ้มของเธอ ผมถามซูเสี่ยวฉินว่า ” ถ้าคืนนี้ผมเอาคุณ พรุ่งนี้คุณยังจะอยากตายอยู่ไหม ”
เธอพยักหน้าแล้วตอบอย่างสุขุม ” แน่นอน ”
พูดจบ เธอก็พูดเสริมอีกประโยค ” ถึงคืนนี้คุณไม่เอาฉัน พรุ่งนี้ฉันก็ตัดสินใจแบบเดิมอยู่ดี ดังนั้นก็ เอาเถอะหน่าถือว่าทำตามคำของก่อนฉันตายไง ให้ฉันรู้สึกถึงความสุขสุดยอดของการเป็นผู้หญิงหน่อยสิ ”
นี่มัน เป็นเรื่องที่ยากจริง ๆ