ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย - ตอนที่ 125 หนึ่งล้าน...เฉินเชียนโหรว / ตอนที่ 126 ชายหนุ่มที่โดดเด่นที่สุด
- Home
- ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย
- ตอนที่ 125 หนึ่งล้าน...เฉินเชียนโหรว / ตอนที่ 126 ชายหนุ่มที่โดดเด่นที่สุด
ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย – ตอนที่ 125 หนึ่งล้าน…เฉินเชียนโหรว / ตอนที่ 126 ชายหนุ่มที่โดดเด่นที่สุด
ตอนที่ 125 หนึ่งล้าน…เฉินเชียนโหรว
“คุณมาได้สักที”
อวี๋ซงดีใจจนออกนอกหน้าอย่างกับเป็นผู้ประสบภัยที่รอดชีวิต ป๋อจิ่งชวนหันหน้าไปมองเขา ความดุดันสลักเอาอยู่บนเรียวคิ้วที่เรียบนิ่ง
หนังศีรษะของอวี๋ซงเริ่มรู้สึกชาๆ
“มีอะไร”
“…”
–
“แปดแสน เฉินเชียนโหรว! “
ภายในห้องจัดเลี้ยง ราคาที่ประมูลให้เฉินเชียนโหรวยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งทำให้คำดูถูกและเสียงหัวเราะเยาะที่มีต่อเฉินฝานซิงเพิ่มมากขึ้น
หลินเฟยเฟยเองที่ไม่รู้ว่ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของเฉินฝานซิงตั้งแต่ตอนไหน ใบหน้าของเธอแสดงออกถึงความเย้ยหยันอย่างเปิดเผย!
แค่คิดถึงเรื่องที่จัตุรัสซินซื่อเจี้ย เธอก็รู้สึกเกลียกเฉินฝานซิงขึ้นมาจนเมื่อยฟัน
“โธ่ คุณหนูใหญ่คนสวย น่าแปลกเนอะ ทำไมคนพวกนี้ถึงไม่มีใครประมูลให้เธอกันนะ ทั้งที่เมื่อกี้ยังสวยจนสะกดคนทั้งงานแท้ๆ!”
เฉินฝานซิงทำทีนิ่งเป็นหูทวนลม
เมื่อถูกเมินเฉย หลินเฟยเฟยถึงกับต้องกัดฟันแน่น ก่อนจะพูดต่อไปว่า “เพราะงั้นต้องบวกว่าคนพวกนั้นตาสว่างกันหมดแล้วยังไงล่ะ! หัดตักน้ำใส่กะโหลกซะบ้างนะ! จะได้รู้ว่าทำไมไม่ว่าไปที่ไหนก็มีแต่คนเขาเบือนหน้าหนี!”
เฉินฝานซิงได้ยินดังนั้น ในที่สุดเธอก็หันไปมองหลินเฟยเฟยด้วยสีหน้าเย็นชาและแววตาเย้ยหยัน
“ในฐานะที่เป็นผู้หญิงเหมือนกัน เฉินเชียนโหรวก็เป็นที่ยอมรับของใครต่อใครอยู่แล้ว แต่เธอก็ยังจะทุ่มเทเพื่อให้เฉินเชียนโหรวกลายเป็นดาวเด่นอีก หลินเฟยเฟย เธอเคยคิดบ้างไหม ว่าทำไมจนป่านนี้แล้ว ตัวเองถึงยังไม่มีแฟนสักที แล้วเธอยังมีสิทธิ์อะไรมาเยาะเย้ยฉัน”
จู่ๆ หลินเฟยเฟยก็หน้าซีดหน้าเขียว
เมื่อถูกจี้ใจดำ
“แก…เฉินฝานซิง อย่ามายุแยงตะแคงรั่วหน่อยเลย! ที่ตอนนี้ฉันไม่มีแฟนก็เพราะฉันต้องการผู้ชายที่โดดเด่นที่สุด! ไม่ใช่ว่าผู้ชายหน้าไหนก็เข้าตาฉันหมด!”
เฉินฝานซิงกระตุกยิ้มขึ้นไม่ตอบโต้
“เก้าแสน! เฉินเชียนโหรว!”
ตอนนี้ในห้องจัดเลี้ยงเริ่มส่งเสียงฮือฮา
แม้ว่าเงินเก้าแสนจะเป็นเงินจำนวนไม่เท่าไหร่ แต่นี่เป็นแค่การเต้นรำแค่ครั้งเดียวเท่านั้นไม่เห็นจะต้องอะไรขนาดนี้
หลังจากที่มีคนตะโกนคำว่าเก้าแสนออกมาแล้วนั้นก็ไม่มีใครประมูลต่อไปอีก!
พิธีกรบนเวทีเองก็ยกไมโครโฟนขึ้นกล่าว
“ยังมีคุณผู้ชายท่านไหนให้สูงกว่านี้ไหมคะ ถ้าไม่มีแล้วละก็…”
“พี่เหิง…”
เฉินเชียนโหรวที่ยืนอยู่ข้างๆ กำลังจะอกแตกตาย แต่จนแล้วจนรอดซูเหิงก็ยังไม่ยอมปริปากอีกเช่นเคย
สายตามองไปยังตัวเลขเก้าแสนที่ดูเหมือนจะเป็นราคาที่สูงที่สุดในค่ำคืนนี้ หากซูเหิงยังไม่ยอมเอ่ยปากอีก แล้วแผนการของหลินเฟยเฟยครั้งนี้จะไปมีความหมายอะไรล่ะ
ซูเหิงมองไปยังเฉินเชียนโหรว ใบหน้างดงามน่าถนอมนั้นดูเศร้าสร้อย เธอค่อยๆ แหงนหน้าขึ้นมองเขา ดวงตาสวยคู่นั้นที่คลอไปด้วยหยาดน้ำ ฟันของเธอกัดกลีบปากสีทับทิมเอาไว้แน่น มือทั้งสองข้างประสานกันแน่น ใบหน้าบอบบางมองไปยังเขาด้วยความหม่นหมอง
ท่าทีสะกดกลั้นเช่นนั้นทำเอาเขาอดจะใจอ่อนไม่ได้
“หนึ่งล้าน…เฉินเชียนโหรว”
เสียงของซูเหิงดังขึ้นท่ามกลางห้องจัดเลี้ยงและมันก็เป็นเสียงที่ดังเป็นพิเศษ
ในที่สุดเฉินฝานซิงก็ใจชื้นลงได้ สีหน้าตึงเครียดเมื่อสักครู่ผ่อนคลายลงทันตาและสุดท้ายรอยยิ้มก็ได้ผุดขึ้น
ในฐานะคู่หมั้นอย่างซูเหิง ไม่เพียงแต่จะไม่ยื่นมือมาช่วยแล้ว ซ้ำยังทุ่มเงินเป็นล้านเพื่อช่วยประมูลการเต้นรำกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องสาวของเธอ!?
เฉินเชียนโหรวหันไปยิ้มให้กับพี่สาว พร้อมนัยน์ตาที่ฉาบไปด้วยความภาคภูมิใจ
“พระเจ้า หนึ่งล้านสำหรับการเต้นรำหนึ่งครั้ง!”
“เชียนโหรว เธอโชคดีจริงๆ พวกผู้ชายวันนี้กำลังจะดิ้นตายเพราะแหนะ!”
“จริงด้วย แถมยังเป็นผู้ชายที่สะดุดตามากที่สุดในคืนนี้อย่างซูเหิงอีก อิจฉาจังเลยอะ! เชียนโหรว ชีวิตเธอดีสุดๆ ไปเลย”
“ฮ่าๆ ดูอีกคนหนึ่งสิ ขายหน้าจะแย่อยู่แล้ว”
สายตาเห็นใจปนเย้ยหยันหลายคู่ถูกส่งมาให้เฉินฝานซิง
เธอกลายเป็นเรื่องตลกร้ายของค่ำคืนนี้ไปโดยปริยาย!
และใครคนนั้นที่ผลักให้เธอตกลงสู่หุบเหวลึก นั่นก็คือซูเหิงอีกตามเคย…
“ยังมีคุณผู้ชายท่านไหนให้ราคาที่สูงกว่านี้ไหมคะ หากไม่มีแล้วละก็ สิทธิ์ในการเต้นรำเปิดงานของค่ำคืนนี้ก็จะตกเป็นของคุณเฉินเชียนโหรวและคุณผู้ชายหนึ่งล้านท่านนี้ค่ะ!”
ทั้งห้องจัดเลี้ยงเงียบกริบไม่มีใครประมูลต่อ
“เอาละค่ะ ในเมื่อไม่มีใครเสนอราคาต่อแล้วล่ะก็ งั้นดิฉันขอประกาศว่า…”
“ร้อยล้าน…”
น้ำเสียงแหบทุ้มค่อยๆ แว่วมาจากประตูทางเข้าอย่างไม่รีบร้อน ตามมาด้วยบรรยากาศที่เย็นเยียบ…
ตอนที่ 126 ชายหนุ่มที่โดดเด่นที่สุด
ความเงียบได้เข้าปกคลุมไปทั่วห้องจัดเลี้ยง
พวกเขาต่างก็พากันหันหน้าไปมองทางต้นเสียง
ขณะนี้ประตูทางเข้าของห้องจัดเลี้ยงนั้นไร้ซึ่งวี่แววของผู้คน
ส้นรองเท้ากระทบพื้นส่งเสียงก้องไปทั่วทางเดิน ทีละก้าวๆ อย่างเป็นจังหวะ เสียงนั้นดังใกล้เข้ามา แว่วในหูของคนฟัง
พวกเขาได้ยินถึงเสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทุกคนต่างพากันมองไปยังประตูตาไม่กะพริบ
ทุกคนมองชายหนุ่มที่ค่อยๆ ปรากฏตัวขึ้นตรงทางเดินอยู่เช่นนั้น
จากที่มืดสลัวสู่แสงสว่าง ร่างอันสูงสง่าค่อยๆ ถูกประทับสู่สายตาของทุกคน
นาทีนั้นทุกคนต่างก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของความเยือกเย็น
นั่นคือใบหน้าอ่อนเยาว์อันหล่อเหลา
คิ้วเข้มสีนิล สันจมูกสูงโด่ง ริมฝีปากบางเฉียบเม้มเข้าหากันเล็กน้อย นัยน์ตาชุ่มชื้นดำขลับราวสีของอีกาลึกล้ำไม่มีที่สิ้นสุด
แสงไฟส่องสว่างภายในห้องนั้นสาดกระทบกับกรอบหน้าคมชัดของเขา สะกดสายตาผู้คนเข้าอย่างจัง
เขายืนด้วยสีหน้าเรียบเฉยอยู่ตรงประตูทางเข้า สายตาสงบนิ่งกวาดมองไปทั่วอาณาบริเวณราวกับกำลังหาบางอย่าง
ชุดสูทที่ถูกรีดจนเนี้ยบไปทุกระเบียบนิ้ว สัดส่วนที่พอเหมาะส่งให้รูปร่างสูงสง่าของชายหนุ่มยิ่งดูสมบูรณ์แบบ
ทว่าความสูงค่าตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าของเขานั้นกลับทำให้ผู้คนรู้สึกสลด ความเย็นชาอย่างผู้สูงศักดิ์ที่แผ่อยู่รอบกายราวกับว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกอัดแน่นอยู่ทั่วร่างกายจนล้นทะลักออกมาแจกจ่ายความรู้สึกกดดันที่ทำเอาวิญญาณแทบหลุดออกจากร่างให้แก่ผู้คน
แค่เขายืนอยู่ตรงนั้นนิ่งๆ ไม่ต้องลงมือหรือเอื้อนเอ่ยสิ่งใดก็มีอานุภาพเพียงพอที่สามารถข่มขวัญคนทั้งงาน
ภาพของเขาประทับเข้าสู่สายตาและหัวใจของทุกคนเข้าอย่างจัง ดวงตาที่กราดมองไปรอบห้องตั้งแต่ตอนต้นคู่นั้น ได้กวาดไปยังท่ามกลางฝูงชนด้วยสายตาหยิ่งยโส ก่อนที่มันจะไปหยุดอยู่ตรงมุมมุมหนึ่ง
ริมฝีปากบางที่สบกันแน่นจึงค่อยๆ ยกขึ้นสูง นาทีนั้นคนทั้งงานก็ถึงกับสูญเสียความมั่นใจ
เฉินฝานซิงที่ถูกบดบังไปด้วยฝูงชนมากมายกำลังมองมายังชายหนุ่มตรงประตู แค่เพียงเสี้ยวนาทีที่เธอส่งสายตาผ่านอากาศไปยังเขาที่อยู่ ณ ที่ไกลๆ ก็ราวกับมีฟ้าผ่าลงกลางใจของเธอ มันทั้งถูกบีบรัด ทั้งกระตุกและดีดดิ้นจนละลายน้ำแข็งในใจของเธอไปได้
ชายหนุ่มที่ยืนอยู่บนขั้นบันไดมาตลอดขยับขาเรียวยาวคู่นั้นแล้วค่อยๆ เดินเข้ามาทางพวกเธอ
เธอหันหลบไปทางอื่นอย่างเลิ่กลั่ก ไม่หันกลับไปมองใบหน้าที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ นั้นอีก
หลินเฟยเฟยที่ยืนอยู่ข้างๆ เฉินฝานซิง เธอได้แต่มองไปยังใบหน้าที่ทำให้ใครต่างก็ลุ่มหลงด้วยความหลงใหล ยิ่งตอนที่ได้เห็นว่าสายตาของชายหนุ่มเองก็มองมาทางเธอเช่นกันเธอก็รู้สึกเกร็งไปทั้งตัว
ตอนนี้เธอได้เห็นเขามองมาทางเธออีกครั้ง หัวใจดวงนั้นก็เต้นระส่ำราวกับจะทะลุออกมาจากอก!
เธอกัดริมฝีปากแน่น และเริ่มหายใจเข้าออกอย่างหนักหน่วงจนหน้าอกเริ่มยกตัวขึ้นลงตามการหายใจ
ชายคนนี้เป็นคนที่โดดเด่นที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
ของเธอ!
ในที่สุดการรอคอยของเธอก็สิ้นสุดลงสักที!
นี่แหละคนที่เธอเฝ้ารอมาทั้งชีวิต ชายหนุ่มที่โดดเด่นของเธอแต่เพียงผู้เดียว!
ไม่ว่าป๋อจิ่งชวนจะก้าวเดินไปทางไหน ทุกคนต่างก็หลีกทางให้กับเขาอย่างไม่ต้องเอ่ยปากขอ ยามที่ได้เห็นใบหน้าชายหนุ่มในระยะประชิด แม้จะตกตะลึงอยู่แล้วก็ยิ่งตกตะลึงเพิ่มขึ้นไปอีก
ร่างที่สูงกำยำ เปี่ยมล้มไปด้วยความสูงศักดิ์ แรงกดดันมหาศาลที่แผ่ขยายอยู่รอบตัวทำให้ใครต่อใครต้องใจสั่นด้วยความหวาดกลัว
เฉินเชียนโหรวที่ยืนอยู่ข้างๆ ซูเหิงเองก็มองชายหนุ่มตาค้าง
เขาเป็นใครกัน
ทำไมเธอถึงไม่เคยเห็นผู้ชายคนนี้มาก่อน!
เมื่อเห็นว่าชายคนนั้นกำลังตรงไปที่หลินเฟยเฟย เฉินเชียนโหรวจึงหันไปกระตุกชายเสื้อของซูเหิงเบาๆ แล้วเอ่ยถามเสียวแผ่วว่า
“พี่เหิง ผู้ชายคนนั้นน่ะใครเหรอ ใช่คนรู้จักของหลินเฟยเฟยรึเปล่า”
ซูเหิงขมวดคิ้วขึ้นมองร่างของชายคนนั้นก่อนจะส่ายหน้า
“ไม่รู้ว่าใครและก็ไม่รู้ว่าเขากับหลินเฟยเฟยเป็นอะไรกันด้วย”
เมื่อหลินเฟยเฟยเห็นว่าระยะห่างของเธอและเขาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ สายตาของเธอก็ยิ่งมองเขาด้วยความหลงใหล
เธอจึงอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปสัมผัสกับเขา แต่ทว่าร่างของชายหนุ่มกลับเดินผ่านร่างของเธอไปอย่างไร้เยื่อใย แล้วตรงไปยังข้างหลังของเธอ
ร่างของเธอแข็งทื่อไปในพริบตา ยังไม่ทันได้ตอบสนอง ก็ดันได้ยินเสียงแหบทุ้มที่แฝงไปด้วยความดีอกดีใจเล็กน้อยของชายหนุ่มเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“ร้อยล้าน…เฉินฝานซิง