ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย - ตอนที่ 32 คุณต้องการอะไร
อากาศของวันที่ออกจากโรงพยาบาลในวันนี้เมื่อเปรียบเทียบกับวันอื่นๆ แล้วไม่ถือว่าดีนัก
ท้องฟ้ามืดครึ้ม สายฝนโปรยปราย
สายฝนทั้งเบาและบางดั่งเส้นไหมตกลงมาไม่เกิดเสียงแม้แต่น้อย ราวกับกลุ่มหมอกปกคลุมไปทั่วอาณาบริเวณอันกว้างใหญ่ไพศาล
เฉินฝานซิงชอบสายฝน ด้วยเหตุผลหลายอย่างที่เกินจะบรรยาย
แต่นาทีที่ยืนอยู่ที่ประตูสวนสาธารณะที่โรงพยาบาล เหม่อมองไปยังเงาขมุกขมัวของร่างสูงที่ถือร่มอยู่ท่ามกลางสายฝน เหตุผลอันกระจ่างชัดในใจก็ถูกเคลือบคลุม
หยาดฝนเส้นบางโรยตัวลงมาไม่ขาดสาย รถคันสีดำที่จอดอยู่ท่ามกลางแสงสลัวแสดงให้เห็นถึงความเงียบขรึมและความสูงศักดิ์
ป๋อจิ่งชวนยืนกางร่มอยู่ข้างรถด้วยท่าทีเฉยเมย รูปร่างสูงสง่า แม้มองจากไกลๆ ยังรับรู้ได้ถึงความโครงหน้าที่งดงามเพียบพร้อม
ความทะนงที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิดแผ่ขยายความโอหังออกมาอย่างเยือกเย็น รังสีความกดดันแผ่ขยายออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ร่มครับคุณหนูเฉิน”
อวี๋ซงโน้มตัวลงยื่นร่มให้แก่เธอ เธอหลุดออกจากภวังค์ยื่นมือไปรับร่มคันนั้นมา
เธอสาวเท้าพลางกางร่มออก ร่างเพรียวค่อยๆ ก้าวเดินออกไปท่ามกลางฝนพรำ
ป๋อจิ่งชวนในชุดสูทยี่ห้อแพงสั่งตัดทั้งตัวถูกรีดจนเนี้ยบ นัยน์ตาดำขลับจับจ้องหญิงสาวที่กำลังก้าวมาทางนี้ รอยยิ้มอบอุ่นปรากฏขึ้นจางๆ
เฉินฝานซิงหยุดลงตรงหน้าเขา แหงนหน้าขึ้นมองร่างสูงของชายหนุ่ม
“ไม่ต้องมาก็ได้ ฉันรู้ว่าคุณไม่มีเวลา”
“ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าคุณหรอก”
เสียงทุ้มต่ำชวนหลงใหลค่อยๆ แว่วดังขึ้นท่ามกลางสายฝน
แววตาเรียบเฉยของเธอพราวประกายก่อนจะเบนหน้าไปอีกทาง
กระชับร่มในฝ่ามือไว้แน่น เธออึ้งจนทำตัวไม่ถูกและอึดอัดใจอย่างปิดไม่มิด
เขาไม่เคยจีบสาวมาก่อนจริงๆ เหรอ
โปรยเสน่ห์เก่งขนาดนี้ แค่อ้าปากคำหวานก็ร่วงออกมาแล้ว
ป๋อจิ่งชวนรับรู้ได้ถึงท่าทีเหนียมอายของคนตรงหน้า รอยยิ้มจึงปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา
เขาหันไปเปิดประตูรถให้เธอด้วยตัวเอง มองเธอก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ขึ้นรถเถอะ”
เธอไม่ปฏิเสธ ก็ในเมื่อมาแล้วจะปฏิเสธอีกก็จะกวนโอ๊ยเกินไปแล้ว
อวี๋ซงที่ยืนอยู่ข้างๆ รีบรับร่มในมือของเธอมาถือไว้แล้วยืนมองจนเธอโน้มตัวขึ้นรถไป
หลังจากนั้นป๋อจิ่งชวนจึงขึ้นมานั่งบนรถจากอีกฝั่ง
อวี๋ซงรีบเก็บร่มทันที ก่อนจะรีบสาวเท้ามาขึ้นรถและจัดการรัดเข็มขัดให้เรียบร้อย
มองผ่านกระจกมองหลังแล้วเอ่ยถาม
“คุณหนูเฉินครับ ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณกำลังจะไปที่ไหน”
คุณผู้ชายไม่ยอมให้เขาสืบอะไรเกี่ยวกับเธอ นอกจากข่าวลือแล้วเขาก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคุณหนูเฉินคนนี้เลย
“คอนโดปี้ปัวค่ะ”
“ครับ”
อวี๋ซงตอบก่อนจะออกรถทันที
ในรถเข้าสู่ความเงียบ ตั้งแต่ขึ้นรถมาเฉินฝานซิงก็เอาแต่เบนหน้ามองเมืองที่ถูกปกคลุมไปด้วยสายฝนผ่านหน้าต่างรถ
“ชอบเมืองนี้หรือชอบฝน”
ป๋อจิ่งชวนถามพลางมองเธอด้วยท่าทางเรียบเฉย
“ฝน”
เธอแอบรู้สึกว่าตอบคำเดียวจะดูเย็นชาไป จึงต่อท้ายอีกหนึ่งประโยค “เมืองที่เต็มไปด้วยคราบสกปรก มีอะไรให้น่าพิสมัย”
เขาหัวเราะแผ่วเบา “พวกชอบเอาไม้ไผ่ลำเดียวสร้างเป็นเรือ” (ชอบเหมารวม)
เธอดึงสีหน้าเรียบเฉยและเข้าใจความรู้สึกของเขาเช่นกัน
เธอไม่ควรตัดสินเมืองนี้เพียงเพราะเธอเกลียดคนสกุลเฉิน
เธอไม่เอ่ยสิ่งใดออกมา ป๋อจิ่งชวนก็ไม่ได้ว่าอะไร
รถขับมาถึงคอนโดปี้ปอที่เฉินฝานซิงอาศัยอยู่อย่างไร้อุปสรรค
ป๋อจิ่งชวนไม่มีทีท่าว่าจะลงจากรถ
“วันนี้ขอบต้องคุณมากนะคะ”
พูดเสร็จกำลังจะเปิดประตู อวี๋ซงก็ถือร่มรออยู่ข้างนอกรถเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ทำไม่ไมเปลี่ยนฝนวันนี้เป็นชีวิตใหม่ล่ะ”
เธอชะงักก่อนจะหันกลับมามองชายหนุ่มเจ้าของคำพูดนั้น
เขาหันมายิ้มให้เธอ
“เริ่มต้นใหม่ อดีตของคุณผมจะรับช่วงต่อ อนาคตของคุณผมจะรับผิดชอบเอง”
หัวใจเธอหยุดเต้นไปชั่วขณะ!
บนโลกนี้จะไปมีเรื่องดีๆ ขนาดนี้เสียที่ไหน
ยิ่งไปกว่านั้นเธอคิดว่าแม้แต่นายทุนเองยังเสียดายเลย
เธอเลิกคิ้วสงสัย “คุณต้องการอะไร”
“ต้องการคุณ”