ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย - ตอนที่535หนึ่งเดียวตอนที่536จำหน้าคนไม่ได้
- Home
- ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย
- ตอนที่535หนึ่งเดียวตอนที่536จำหน้าคนไม่ได้
ตอนที่ 535 หนึ่งเดียว
“จริงสิ พวกเธอรู้หรือเปล่าว่าของประมูลลึกลับชิ้นสุดท้ายในงาน Red carpet คืนนี้ที่บอกว่า ‘หนึ่งเดียว ลึกลับ หอมหวน’ นั้นคืออะไร”
เมื่อได้เห็นสีหน้าของฟ่านหรูอวิ๋นแบบนี้ ทุกคนต่างก็พากันซักถามด้วยความตื่นเต้น
“ไม่รู้น่ะสิ พี่หรูอวิ๋น หรือว่าพี่รู้เหรอ”
“รีบบอกมา รีบบอกมาเลยพี่หรูอวิ๋น ดูเหมือนจะรู้นะเนี่ย”
“คืออะไรเหรอ วันนี้หลายคนต่างก็มาเพราะสิ่งนี้นี่แหละ”
ฟ่านหรูอวิ๋นเห็นท่าทางที่แทบจะอดใจรอไม่ไหวของทุกคน จึงพูดขึ้นด้วยท่าทางกระหยิ่มยิ้มย่อง
“หนึ่งเดียว ลึกลับ หอมหวน มันก็ชัดอยู่แล้วนี่นา หอมหวน คืออะไรล่ะ ก็น้ำหอมไง หนึ่งเดียว ลึกลับ นี่ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ พวกเธอลองบอกมาสิ ว่าในวงการน้ำหอม อะไรที่ดูลึกลับสำหรับพวกเธอ”
“คือ star นักปรุงน้ำหอมระดับนานาชาติหมายเลข 1 star”
มีดาราหนึ่งในนั้นตะโกนออกมาด้วยสีหน้าของความเลื่อมใสศรัทธา พลันดึงดูดสายตาของผู้คนที่รายล้อมอยู่มากมายในชั่วพริบตา
ค้นหา ตื่นเต้น เฝ้ารอ…
ในแวดวงของผู้มีชื่อเสียง สิ่งที่ทุกคนไล่ตามก็คือความสุขทางใจที่ได้มาจากสิ่งของ
แฟชั่นกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ของชีวิตของพวกเขาไปแล้ว
ส่วนน้ำหอม ก็จัดเป็นสิ่งที่อยู่ในตำแหน่งสำคัญในโลกของแฟชั่น
ประวัติศาสตร์ของน้ำหอมมีมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้สูญหายไป ระหว่างทางได้ผ่านยุคสมัยแห่งการต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี ทำให้ความสำคัญของน้ำหอมนั้นไม่มีสิ่งใดมาแทนที่ได้
สังคมปัจจุบันนี้ ทุกคนต่างก็ไล่ตามกระแสแฟชั่น น้ำหอมยิ่งเป็นกระแสใหญ่ที่ทุกคนสนใจ
กลายเป็นสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในโลกแฟชั่นไปแล้ว
ทว่าในช่วงหลายปีมานี้ สิ่งที่ทำให้คนรู้สึกหยุดไม่ได้เลยนั่นก็คือนักปรุงน้ำหอมลึกลับคนนี้ Star
เป็นแชมป์สองสมัยในการแข่งขันปรุงน้ำหอม จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้เปิดตัวสู่สายตาโลกภายนอก
มีคนใช้ชื่อ star ของเธอหลอกผู้คนไปไม่รู้ตั้งเท่าไหร่
ถ้าไม่ใช่เพราะอิทธิพลของ Red carpet ที่มีมากพอนี้ ในค่ำคืนนี้ก็คงไม่อาจดึงดูดผู้คนมาได้มากขนาดนี้
ที่จริงแล้วมีคนพอจะเดาได้แล้วว่าของประมูลสุดลึกลับคืนนี้นั้นคืออะไร ดังนั้นจึงมาที่นี่ด้วยหวังว่าจะมีโชคดีบ้าง
ตอนนี้มีคนพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา แน่นอนว่าคนจำนวนไม่น้อยย่อมให้ความสนใจ
“Star อันดับหนึ่งในการแข่งขันปรุงน้ำหอมนานาชาติสองสมัยซ้อน แต่กลับไม่เคยขึ้นเวทีมารับรางวัล ไม่รู้ว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ผอมหรืออ้วน สูงหรือเตี้ย ยิ่งไม่เคยรู้เลยว่าเขาเป็นคนประเทศไหน เก็บตัวเป็นบุคคลลึกลับมาตลอด ดูเหมือนจะเป็นคนที่ไม่ชอบความเอิกเกริกมากนัก หรูอวิ๋น ของประมูลลึกลับวันนี้ จะใช่น้ำหอมของ Star จริงเหรอ”
ฟ่านหรูอวิ๋นเชิดปลายคาง “นักปรุงน้ำหอมลึกลับ star ผลงานของเธอ ไม่เคยปรากฎสู่สายตาชาวโลกมาก่อน ดังนั้น ก็ควรค่าพอที่จะเรียกได้ว่า ‘หนึ่งเดียว’ ใช่ไหม”
ถ้าหากเป็นแบบนี้จริง อย่างนั้นก็คงจะดีสุดๆ ไปเลย
แต่หวังว่าจะไม่มีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้น
“พระเจ้า จริงเหรอ หรูอวิ๋น ข่าวนี้เป็นความจริงใช่ไหม”
“นั่นสิ ถ้าหากเป็นความจริง งั้นคืนนี้คงจะได้เปิดโลกทัศน์จริงๆ แล้ว”
“ผลงานของสุดยอดนักปรุงน้ำหอมระดับโลก คุณพระช่วย แค่คิด ฉันก็ตื่นเต้นจะตายอยู่แล้ว นี่ต้องเป็นคนแบบไหนนะถึงจะได้รับสิ่งของที่มีเพียงชิ้นเดียวนี้ไปน่ะ”
ฟ่านหรูอวิ๋นยิ้ม พลางเหลือบหางตาไปมองเฉินฝานซิงที่ยืนอยู่ด้านข้างปราดหนึ่ง ก่อนจะพูดด้วยท่าทางโอ้อวด
“จริงสิ เฉินเชียนโหรวนับถือ star ผู้ลึกลับคนนี้มาก ฉันยังได้ยินมาว่า ดูเหมือนว่าคุณชายซูมีทีท่าว่าจะต้องประมูลสิ่งของที่ชื่อว่า ‘หนึ่งเดียว’ ของค่ำคืนนี้ไปให้ได้ พรุ่งนี้ก็จะเป็นพิธีหมั้นของคุณชายซูและเฉินเชียนโหรวของพวกเราแล้ว คุณชายซูเตรียมจะเอาของประมูล ‘หนึ่งเดียว’ ทำเซอร์ไพรส์สุดแสนโรแมนติกให้เชียนโหรวยังไงล่ะ”
ตอนที่ 536 จำหน้าคนไม่ได้
“หา ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้ว ฉันจะอกแตกตายอยู่แล้ว ไม่เพียงแค่หล่อรวย แถมยังโรแมนติกขนาดนี้อีก นี่ไม่คิดจะเหลือทางเดินให้คนอื่นบ้างเลย”
“เชียนโหรว ยินดีด้วยนะ พรุ่งนี้ก็จะจัดงานหมั้นแล้ว”
ฟ่านหรูอวิ๋นตบมือของเฉินเชียนโหรวเบาๆ ก่อนจะพูดต่อ
“เชียนโหรว มีผู้ชายอย่างคุณชายซูอยู่ข้างกาย เธอคงจะรู้สึกโชคดีมากสินะ ใครบางคนล้มเหลวเรื่องความสัมพันธ์ เลยทำได้แค่ต้องหาเรื่องอื่นมาทำให้มีความสุขแทนก็เท่านั้น แต่ว่าผู้หญิงน่ะ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็ควรจะเป็นการที่มีผู้ชายดีๆ สักคนอยู่ข้างกาย โดยเฉพาะคนแบบคุณชายซู มีเงิน มีหน้ามีตา แต่งงานกับเขา ไม่ต้องกังวลเรื่องความเป็นอยู่ เป็นคุณหญิงประจำซูซื่อ ท่าทางดูมีราศีสูงส่งกว่าดาราหลายคนไม่รู้ตั้งกี่เท่า พวกเธอว่าจริงหรือเปล่า”
“นั่นสิ นั่นสิ ถ้าหากฉันมีแฟนอย่างคุณชายซูแบบนี้นะ ฉันไม่มาเป็นดาราแล้ว ได้เป็นคุณหญิงตระกูลใหญ่ แค่คิดก็มีความสุขแล้ว”
“เฮ้อ คุณหญิงประจำตระกูลใหญ่แบบนี้ ไม่ใช่ว่าใครจะเป็นก็ได้หรอกนะ มีแค่คนที่มีชะตาชีวิตดีอย่างเชียนโหรวนี่แหละ”
เฉินเชียนโหรวเหลือบมองทางเฉินฝานซิงอีกครั้ง ก่อนจะทำเป็นเขินอายแล้วพูดด้วยท่าทางแสร้งโกรธ
“พวกเธอเลิกพูดได้แล้ว จริงๆ เลยนะ…”
ฟ่านหรูอวิ๋นที่มองดูอยู่ข้างๆ ยิ้มออกมา “เอาละ เอาละ ไม่พูดแล้ว ห้ามใครพูดแล้วนะ ดูเฉินเชียนโหรวของพวกเราเขินเข้าสิ…”
การหยอกเย้าของฟ่านหรูอวิ๋นทำให้ผู้คนที่อยู่ตรงนั้นหัวเราะออกมา ท่าทางของพวกเธอดูมีเสน่ห์เย้ายวนในแบบของหญิงสาว ช่างดึงดูดสายตาผู้คน
ทุกคนหัวเราะคิกคักพลางส่งสายตามองมาทางเฉินฝานซิง จุดประสงค์นั้น ไม่มีอะไรไปมากกว่าอยากเห็นท่าทางที่ถูกโจมตีเข้าอย่างแรงของเฉินฝานซิง
ทว่าเฉินฝานซิงกลับยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่มีท่าทีทุกข์ร้อนอะไร สายตามองไปข้างหน้าราวกับกำลังหาใครบางคนอยู่ ก่อนจะยกยิ้มมุมปากขึ้นมาแล้วโบกมือไปด้านหน้า
รอยยิ้มพิมพ์ใจของเหล่าสาวๆ ค่อยๆ เจื่อนลงเล็กน้อยก่อนจะหันไปมอง ตรงหน้าเต็มไปด้วยกลุ่มคน และขณะนั้นเองมือของเธอก็ได้เก็บกลับมาแล้ว ทว่ารอยยิ้มบนใบหน้ายังไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย
แต่ว่าตอนนี้หลายคนตระหนักได้แล้วว่า เมื่อครู่ที่พวกเธอพูดอะไรออกไปมากมาย ด้วยหวังจะรั้งเฉินฝานซิงไว้เพื่อยั่วโมโห
ปรากฏว่าเธอกลับไม่ได้เก็บมาใส่ใจเลยแม้แต่น้อย
โดยเฉพาะฟ่านหรูอวิ๋นยิ่งรู้สึกว่าตนออกแรงไปโดยเปล่าประโยชน์
ความรู้สึกแน่นจุกออก กลืนไม่เข้าคายไม่อาย อดกลั้นจนย่ำแย่
เมื่อหันมามองทางจี้อี้ หลังจากที่ได้เห็น “การแสดง” ของพวกเธอเหล่านั้นไป สีหน้าก็แสดงถึงความประชดประชันและอึดอัดออกมาอย่างปิดไม่มิด
“เอ๊ะ นี่ไม่ใช่จี้อี้เหรอ ฉันก็ว่าทำไมถึงได้หน้าคุ้นแบบนี้ เปลี่ยนไปมากเลยนะ”
อารมณ์หงุดหงิดไม่ได้ระบายออกมาจนหมด ฟ่านหรูอวิ๋นจึงหันไปทำท่าทางถากถางจี้อี้แทน
คนอื่นๆ ก็รู้สึกอิจฉาริษยาจี้อี้เป็นเสียส่วนใหญ่อยู่แล้ว ในฐานะที่ทำงานสายเดียวกัน กลับโด่งดังเพียงชั่วข้ามคืน แน่นอนว่าต้องมีคนอิจฉาเป็นธรรมดา
ครั้นแล้วจึงพากันเสริมทัพพูดจารับส่งกันขึ้นมา
“ไม่ใช่หรือไง ยังไงซะ ก่อนหน้านี้ก็เป็นคนบริษัทเดียวกัน เจอหน้ากันก็ยังทักทายกันได้ ตอนนี้ดังแล้ว แม้แต่ทักทายกันสักนิดก็ไม่คิดจะทำแล้วเหรอ”
“เป็นดาราดังได้ไม่กี่วัน วางมาดซะแล้วเหรอ”
“ตอนนี้เธอเป็นดาราที่ดังที่สุด จะทำตัวโอ้ออวดเย่อหยิ่งบ้างก็สมควรแล้ว”
การทำตัวโอ้อวดเย่อหยิ่งเป็นสิ่งที่แฟนคลับรับไม่ได้ที่สุด และก็เป็นสิ่งต้องห้ามที่สุดในการเป็นดาราเช่นกัน
คำสั้นๆ ที่ฟังดูไม่ได้นักหนาอะไรมาก แต่บางครั้งก็เพียงพอที่จะทำตัดอนาคตของดาราคนหนึ่งได้
จี้อี้เองกลับไม่สะทกสะท้าน มองคนเหล่านั้นด้วยสีหน้าที่ไม่บ่งบอกถึงความกลัวใดๆ
“พวกเราเป็นเพื่อนร่วมงานฉันเหรอ ขอโทษด้วยนะ ฉันจำไม่ค่อยได้จริงๆ ฉันจำหน้าคนไม่ได้ ช่วยเข้าใจกันด้วย”
“เธอ…”
สิ้นเสียงพูดของจี้อี้ สีหน้าของแต่ละคนก็เปลี่ยนไปทันที