ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย - ตอนที่569ไร้ยางอายตอนที่570เธอกะจะเป็นแม่ชีไปตลอดชีวิต
- Home
- ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย
- ตอนที่569ไร้ยางอายตอนที่570เธอกะจะเป็นแม่ชีไปตลอดชีวิต
ตอนที่ 569 ไร้ยางอาย
ตรงคอเสื้อเชิ้ตสีขาวที่เธอเพิ่งปลดกระดุมออกให้เขาไปสองเม็ดก่อนหน้านี้เพราะเกรงว่าเขาจะอึดอัด แต่มาตอนนี้เมื่อได้มองไปตรงคอเสื้อเขาแล้ว ผิวพรรณและกล้ามเนื้อของเขานั้นแลเห็นได้อย่างชัดเจน ลูกกระเดือกสวยนูนขึ้นมาเล็กน้อย ไหนจะกระดูกอ่อนได้สัดส่วนทั้งสองข้างที่ปรากฏออกมาให้เห็นตรงลำคอ ช่างเป็นภาพที่ดูสวยงามเกินบรรยาย
ตอนนี้ เขายืนพิงขอบประตูห้องน้ำอยู่ด้วยท่าทีผ่อนคลาย นัยน์ตาสีดำขลับคู่นั้นฉาบไปด้วยประกายเรียบนิ่งและไร้กังวล ถึงอย่างนั้นก็ยังแฝงไปด้วยเสน่ห์ชวนให้หลงใหลที่ทำให้คนมองหน้าแดงและใจสั่น
เฉินฝานซิงหายใจอย่างเกร็งๆ “จะทำอะไรคะ”
“อยากอาบด้วยกันไหม”
เฉินฝานซิงเบิกตาโพลงขึ้นในทันใด เธอรีบส่ายหน้าไปมาตามสัญชาตญาณ
“ม...ไม่ล่ะ! คุณรีบอาบเถอะ ฉัน…ยังมีเรื่องให้ต้องไปทำ คุณ…คุณสู้ๆ นะ!”
เฉินฝานซิงร่นถอยหลังสองก้าว หลังจากที่สลัดตัวหลุดออกมาจากเงื้อมมือของป๋อจิ่งชวนได้แล้วเธอก็รีบก้าวฉับๆ ออกจากห้องนอนไป
ป๋อจิ่งชวนเห็นหน้าสวยของเฉินฝานซิงขึ้นสีแดงก่ำ เขาก็ขำออกมาเสียงทุ้ม ก่อนจะหมุนตัวเข้าไปในห้องอาบน้ำ
เฉินฝานซิงมุ่งตรงไปยังห้องรับแขก เธอคว้าเอาน้ำขวดหนึ่งออกมาจากตู้เย็นแล้วดื่มมันลงไปสองอึก ทว่าก็ไม่อาจดับความร้อนผ่าวบนใบหน้าของเธอลงไปได้
อาบน้ำด้วยกัน?
ปรานีเธอแล้วหรือ?
ต่อให้…มันจะไม่ใช่เรื่องที่หนักหนาเกินไป…
แต่ต้องมาโชว์เนื้อหนังต่อหน้าของป๋อจิ่งชวนแบบนั้น…
อย่างน้อยๆ ที่นั่นจะต้องมีรอยแยกบนพื้นพร้อมไว้ให้เธอล่วงหน้าเสียก่อน!
เธอจะได้มุดลงไปในนั้นได้ทุกเมื่อ
เฉินฝานซิงเดินถือน้ำไปหย่อนตัวลงบนโซฟา แล้วกระดกดื่มมันลงไปอีกสองอึก จากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับกดเปิดรูปที่เฉินเชียนโหรวส่งมาให้กับเธออย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว
แวบแรกที่สายตาพลันไปสัมผัสเข้ากับรูปภาพนั้น เฉินฝานซิงยังคงรับไม่ได้จนต้องหลับตาปี๋ สุดท้ายก็ดูเหมือนว่าเธอจะใช้เวลาทำใจอยู่อีกสักพักก่อนจะเปิดตาขึ้นมองดูรูปนั้นอีกที
สีหน้าของเธอดูจริงจังและหนักแน่น
หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่หนึ่งเธอก็กดเปิดกล่องสนทนาแล้วจิ้มไปมาบนหน้าจอสองสามครั้ง
ในขณะนั้นเฉินเชียนโหรวก็กำลังปัดเวยป๋ออยู่พอดี เรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นไปก่อนหน้านี้ หลานอวิ้นแอบทยอยปล่อยข่าวไปจนหมดแล้ว คำวิจารณ์ก่อนหน้านี้แม้จะยังคงหลงเหลืออยู่ แต่ก็ถูกลิขิตเอาไว้ไม่ให้เอาชนะคลื่นลูกใหญ่ได้!
ตอนนี้ทั้งโลกโซเชี่ยลมีเพียงฉากที่ซูเหิงขอเธอแต่งงานในค่ำคืนนี้เท่านั้น แน่นอนว่าคงทำให้ใครต่อใครรู้สึกอิจฉาตาร้อนกันได้ไม่น้อย
[ไม่พูดถึงไม่ได้แล้ว คุณชายซูขอแต่งงานในงานเลี้ยงการกุศล ช่างเป็นอะไรที่แปลกแหวกแนวสุดๆ]
[ช่วงนี้เชียนโหรวยิ่งให้ความสำคัญกับงานการกุศล เล่นขอแต่งงานกันในงานการกุศลแบบนี้ นับว่าคุณชายซูเอาใจกันสุดๆ ไปเลย!]
[พวกเธอจะหลงประเด็นกันไปหน่อยล่ะมั้ง ประเด็นสำคัญคือแหวนวงนั้นต่างหากเล่า แหวน! เก้าสิบล้านเชียวนะนั่น!]
เฉินเชียนโหรวยกยิ้มลำพองใจ
[เก้าสิบล้านมันจะไปมีความหมายอะไรล่ะ ในเมื่อน้ำหอมที่คุณหนูใหญ่สกุลเฉินนั่นทุบทิ้งมูลค่าตั้งสองร้อยล้านเลยนะ! แถมดูเหมือนนั่นยังเป็นอีกเซอร์ไพรส์หนึ่งที่คุณชายซูเตรียมไว้ให้เชียนโหรวอีก แต่ดันมาโดนคุณหนูใหญ่ตบหน้าซะได้]
[การตบฉาดนี้ถือว่าเจ็บแสบอยู่เอาการนะ เฉินเชียนโหรวเก้าสิบล้าน ของสองร้อยล้านนั่นเธอมองจนตาแทบจะไม่กะพริบด้วยซ้ำ! เฉินเชียนโหรวนับถือ Star ยิ่งกว่าอะไร ปากก็บอกอยู่ว่าอยากได้น้ำหอมขวดนั้น แต่นางกลับทำมันแตกเพราะไม่อยากจะให้เฉินเชียนโหรวได้มันไป! เธอว่ามันน่าโมโหไหมล่ะ]
[น่าโมโหสิ น่าโมโหจนไม่น่าให้อภัย!]
ไม่เห็นข้อความพวกนี้เสียก็ดี พอได้เห็น ความโกรธที่สั่งสมอยู่ในอกของเฉินเชียนโหรวก็พลันปะทุขึ้นทันใด
และในขณะเดียวกันนั้นเอง ข้อความในวีแชทก็พลันส่งเสียงดังขึ้น ข้อความด้านบนเห็นได้อย่างเด่นชัดว่าผู้ที่ส่งมันมาคือเฉินฝานซิง
เธอแอบประหลาดใจเล็กน้อย เพราะคาดไม่ถึงว่าเฉินฝานซิงจะตอบข้อความของเธอ
เมื่อกดเปิดวีแชทขึ้นมาดู ก็มีเพียงข้อความง่ายๆ ไม่กี่คำ นั่นก็คือคำว่า ‘ไร้ยางอาย’ !
แม้แต่เครื่องหมายวรรคตอนสักตัวก็ยังไม่มี
ถึงมันจะมีเพียงไม่กี่ตัวอักษร แต่กลับทำให้หัวใจของเฉินเชียนโหรวรู้สึกเจ็บแสบได้
ในเมื่อเธอตอบโต้กลับมาแบบนี้ นั่นก็เห็นได้ชัดแล้วว่าเธอแคร์มัน ซึ่งก็หมายความว่าเธอยั่วโทสะเฉินฝานซิงได้สำเร็จแล้ว
หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่เพียงครู่ เธอก็โต้ตอบกลับไปอย่างได้ใจ…
ตอนที่ 570 เธอกะจะเป็นแม่ชีไปตลอดชีวิต
หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่เพียงครู่ เธอก็โต้ตอบกลับไปอย่างได้ใจ…
[ฉันอยู่กับผู้ชายที่ฉันรัก การทำเรื่องพวกนี้มันก็ดูจะถูกทำนองคลองธรรมไม่ใช่รึไง หรือเธอกะจะเป็นแม่ชีไปตลอดชีวิต]
เฉินฝานซิง : […]
ใครจะเป็นแม่ชีไปตลอดชีวิต?!
เรื่องหน้าไม่อายแบบนี้กลับถูกเรียกว่าถูกทำนองคลองธรรม?
เรื่องที่ถูกศีลธรรมเรื่องหนึ่ง
เธอเปิดเวยป๋อขึ้นทักหาบล็อกเกอร์สายกอสซิปที่กำลังมีชื่อเสียงอยู่ในตอนนี้ หลังจากที่คุยรายละเอียดกันคร่าวๆ เธอก็ส่งรูปเต่าโมเสกที่เธอเพิ่งจะตัดต่อไปเมื่อครู่ส่งไปให้อีกฝ่าย
อีกฝ่ายดูประหลาดใจอยู่ไม่น้อย ทั้งยังถามเธอว่า [บอกฉันได้ไหมว่าผู้ชายในรูปนี้คือใคร]
เฉินฝานซิงตอบ [เดี๋ยวพรุ่งนี้เธอก็รู้เอง!]
หลังจากนั้น เธอก็โยนโทรศัพท์ทิ้งไปอีกฝั่ง
ในเมื่อมันเป็นเรื่องที่ถูกทำนองคลองธรรม งั้นมีหรือที่จะไม่ป่าวประกาศให้ทุกคนได้รู้
–
ยามบ่ายของวันที่สอง ณ โรงแรมตี้เหอ
เมื่อคืนเฉินเชียนโหรวไม่ได้กลับบ้านทั้งคืน โดยให้เหตุผลว่าวันนี้เธอจะได้ตรงไปแต่งหน้าที่โรงแรมเลย คนที่บ้านสกุลเฉินจะได้ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยและยุ่งยาก
เมื่อมาถึงโรงแรม คนทั้งบ้านสกุลเฉินก็ตรงดิ่งไปยังห้องพักของเฉินเชียนโหรว
ทว่าเฉินซั่งหวากลับรู้สึกขุ่นเคืองอยู่นิดๆ ที่เฉินเชียนโหรวทำตัวไม่เหมาะสม
เมื่อเฉินเชียนโหรวเห็นว่าเฉินซั่งหวาติดจะหงุดหงิดเล็กน้อย ก็ใช้สายตาอ่อนใจส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปยังเจียงหรงหรงและหยางลี่เวยไม่ขาดสาย
เจียงหรงหรงมองเธอวูบหนึ่ง ตามด้วยการหันไปสำรวจท่าทางของเฉินซั่งหวา ก่อนที่จู่ๆ เธอจะเอ่ยขึ้นเสียงนุ่มอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ยุคนี้สมัยนี้มันไม่เหมือนกับรุ่นเราแล้ว มันมีกฎเกณฑ์เยอะขนาดนั้นเสียที่ไหน ความรักของคนสองคนเป็นไปได้สวย แค่นี้ก็ดีเสียยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดแล้วนะคะ”
เฉินซั่งหวาชักสีหน้าอึมครึมไม่พูดจา
ในตอนนั้นเอง ช่างแต่งหน้าก็พาเฉินเชียนโหรวไปแต่งตัว ทำให้ภายในห้องเหลือเพียงเฉินซั่งหวา เจียงหรงหรง หยางลี่เวย และเฉินเต๋อฝาน สี่คน
เมื่อเห็นประตูห้องลองเสื้อปิดสนิทลง เจียงหรงหรงก็นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันมองเฉินซั่งหวาแล้วเอ่ยขึ้นว่า
“เฉินเชียนโหรวจดทะเบียนกับซูเหิงแล้วนะ ครั้งนี้เพราะปัญหาด้านเวลา เขาถึงมาได้แค่งานหมั้นเท่านั้น…”
“ก็ในเมื่อจดทะเบียนกันแล้ว แล้วทำไมไม่ตบไม่แต่งกันไปเลยให้สิ้นเรื่อง จะสอดงานหมั้นมาคั่นกลางไว้ให้มันได้อะไรขึ้นมา”
หยางลี่เวยกวาดตามองเจียยงหรงหรงไปวูบหนึ่งก่อนจะรีบมุดหน้าลงต่ำ
ใบหน้าอ่อนโยนที่ยากจะได้เห็นของเจียงหรงหรงค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง ก่อนเธอจะเอ่ยขึ้นอย่างไม่อ้อมค้อม
“ถึงยังไงสกุลเฉินและสกุลซูก็เป็นสกุลทรงอิทธิพลอันดับต้นๆ ในผิงเฉิง การแต่งงานจะไปทำแบบสุกเอาเผากินแบบนั้นได้ยังไง วันนี้เป็นงานหมั้นของเชียนโหรวนะ คนเป็นปู่อย่างคุณจะไม่ให้อะไรหลานสักหน่อยเหรอ”
เฉินซั่งหวาแค่นหัวเราะเสียงเย็น ตวัดสายตามองเจียงหรงหรง “เพราะงั้นที่จัดงานหมั้นขึ้นมาเพิ่มแบบนี้เพราะหวังว่าฉันจะให้อะไรเพิ่มงั้นสิ”
เจียงหรงหรงเปลี่ยนสีหน้า “พูดแบบนี้หมายความว่าไง เชียนโหรวเป็นหลานของคุณนะ ต่อให้เธอไม่จัดงานหมั้น แล้วสิ่งที่คุณควรจะให้เธอ คุณจะไม่ให้รึยังไง”
คำพูดของเจียงหรงหรงหาได้แข็งกร้าวดั่งเช่นทุกที อีกทั้งยังฟังดูมีเหตุผล สีหน้าของเฉินซั่งหวาจึงดูดีขึ้นมาเล็กน้อย
“แต่ว่าไหนๆ ก็เป็นงานหมั้นของเชียนโหรวแล้ว ยังไงก็ควรจะเป็นของที่ดูเข้าท่าเข้าทางหน่อย เอาแบบนี้…ตอนนี้คุณยังมีหุ้นสิบห้าเปอร์เซ็นของหลานอวิ้นอยู่ไม่ใช่เหรอ อยากใช้โอกาสนี้มอบมันให้เชียนโหรว อย่างเป็นทางการไหมล่ะ จะได้เป็นหน้าเป็นตาให้เชียนโหรวด้วย…”
ใบหน้าที่ผ่อนคลายลงไปเมื่อครู่ของเฉินซั่งหวาพลันขมวดเกร็งขึ้นทันตา
“เธอจะให้ฉันยกหุ้นทั้งหมดของฉันให้เชียนโหรว?”
เจียงหรงหรงมุ่นคิ้ว “ต่อไปไม่ช้าก็เร็วเฉินเชียนโหรวก็ต้องรับช่วงต่อหลานอวิ้นอยู่แล้วไม่ใช่รึไง คุณให้เธอตอนนี้ ไม่ใช่แค่จะมีหน้ามีตาในวงสังคมนะ แต่ยังเลี่ยงไม่ให้สกุลซูหาว่าเชียนโหรวของเราไปเกาะบ้านเขากิน ทั้งยังเลี่ยงไม่ให้เฉินเชียนโหรวถูกรังแกในบ้านสกุลซูอีก”