ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย - ตอนที่623การอ่อนข้อของทั้งชีวิตนี้ให้ไปหมดแล้วตอนที่624จิตใจเคียดแค้นที่มืดดำ
- Home
- ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย
- ตอนที่623การอ่อนข้อของทั้งชีวิตนี้ให้ไปหมดแล้วตอนที่624จิตใจเคียดแค้นที่มืดดำ
ตอนที่ 623 การอ่อนข้อของทั้งชีวิตนี้ ให้ไปหมดแล้ว
พูดจาแข็งกร้าวอยู่นาน สุดท้ายก็ต้องยอมโอนอ่อน ในใจหยางลี่เวยยังคงนึกถึงสินเดิมพวกนั้นที่ต้องเตรียมไว้ให้เฉินเชียนโหรวอยู่
“วางใจเถอะ ไม่มีวันที่ฉันจะเสียใจภายหลังวันนั้นหรอก ส่วนเรื่องอ่อนข้อ…”
ระหว่างที่พูด เฉินฝานซิงก็หมุนตัวกลับมาแล้วเอ่ยขึ้นช้าๆ
“การอ่อนข้อทั้งชีวิตนี้ของฉัน ใช้มันหมดไปในตอนนั้นตั้งนานแล้ว”
ได้ยินดังนั้น เฉินซั่งหวาพลันรู้สึกปวดใจ ดวงตาทั้งสองข้างเริ่มแดงก่ำขึ้นมาลางๆ
นึกถึงปีนั้นที่แม่ของเฉินฝานซิงจากไป จากนั้นเธอก็ต้องอยู่อย่างวิตกกังวล มีท่าทางระแวดระวังเสมอ อีกทั้งหลังจากที่เกิดเรื่องต่างๆ ขึ้นแล้ว การร้องขออ้อนวอนของเธอยังคงติดตาอยู่จนถึงทุกวันนี้
เวลานั้น ท่าทางที่แลดูน่าสงสาร สุดท้ายแล้วอย่างไรก็ไม่มีทางเรียกร้องอะไรกลับมาได้…
เฉินฝานซิงในตอนนี้ หากเปรียบเทียบกับตอนนั้นแล้ว แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน…
การอ่อนข้อของทั้งชีวิตนี้ ให้ไปหมดแล้ว…
ที่เหลืออยู่ มีเพียงแค่จิตใจที่หยิ่งในศักดิ์ศรี
“ฝานซิง…”
น้ำเสียงที่ผ่านเรื่องราวมาโชกโชนเต็มไปด้วยความจนปัญญา “เธอวางใจเถอะ ต่อให้สกุลเฉินเหลือข้าวกินเพียงแค่วันเดียว ครึ่งหนึ่งในนั้นก็คือของเธอ”
เฉินฝานซิงเม้มริมฝีปาก ไม่ได้พูดอะไร ก้าวขาเดินไปทางหน้าประตู
เมื่อเห็นว่าเฉินฝานซิงกำลังจะไป เจียงหรงหรงก็รีบลุกขึ้นมาจากโซฟาอย่างกะทันหัน หันไปพูดกับเฉินซั่งหวาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวที่แทบจะไม่ปิดบังแม้แต่น้อย
“หุ้นล่ะ สินเดิมของเชียนโหรว คุณควรจะพูดเรื่องส่วนแบ่งหุ้นสักหน่อยไม่ใช่เหรอ”
เฉินซั่งหวาโกรธจนกระฟัดกระเฟียด “เจียงหรงหรง ฉันยังไม่ตาย นี่เธอคิดจะข่มขู่แย่งชิงหรือว่ายังไง”
ฝีเท้าของเฉินฝานซิงหยุดลงช้าๆ ก่อนจะหันกลับมา สายตานิ่งเรียบมองไปทางเฉินซั่งหวาอย่างไร้อารมณ์
ถึงแม้ภายในดวงตามีจะมีความสั่นไหวไม่มากนัก แต่ในใจของเฉินซั่งหวากลับข่มความสงสารและซึ้งใจไว้ไม่อยู่
เขารู้ดีว่าว่าเฉินฝานซิง เด็กคนนี้กำลังเป็นห่วงเขา
กลัวว่าถ้าถึงเวลาเขาไม่เอาหุ้นมาให้ จะทำให้ผู้หญิงเฒ่าคนนี้โกรธเอาได้
“ข่มขู่แย่งชิงอะไรกัน นี่มันเป็นเรื่องที่ต้องทำอยู่แล้ว เชียนโหรวคือหลานสาวของคุณ หลานอวิ้นไม่ช้าก็เร็วต้องอยู่ในมือเธอ คุณให้เลยตอนนี้ ก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมพอดี คุณเอาแต่ยืดเยื้อไม่ยอมให้แตะหุ้นส่วนนั้นของคุณ คิดจะทำอะไรอยู่กันแน่ คงไม่คิดจะเก็บไว้ให้เธออีกหรอกนะ”
เจียงหรงหรงถามอย่างจริงจัง คำพูดคำจาถากถางแดกดันอย่างไม่ปกปิดเลยแม้แต่น้อย พลันยื่นมือออกมาแล้วชี้ไปทางที่เฉินฝานซิงโดยไม่ลังเล
“ฉันให้เฉินฝานซิงแล้วมันผิดเหรอ เธอก็เป็นหลานสาวของฉัน”
น้ำเสียงเยือกเย็นของเจียงหรงหรงดังขึ้นด้วยความหนักแน่น “คุณคิดจะยกให้เธอจริงๆ ด้วย เธอคอยคิดแต่จะแก้แค้นสกุลเฉิน คิดจะทำลายสกุลเฉิน คุณยังอยากจะยกหุ้นในส่วนของคุณให้เธอ ฉันว่าคุณนี่ยิ่งแก่ยิ่งเลอะเลือนแล้ว”
“งั้นก็ให้เธอทำลายไปสิ”
เฉินซั่งหวาโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงจนแผงอกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรุนแรง ห้องรับแขกที่กว้างใหญ่ เฉินฝานซิงที่ยืนห่างออกไปไกลขนาดนั้นยังได้ยินเสียงลมหายใจหืดหอบของเขาได้
“พังไปเลยก็ดี พังไปเลยก็ดี ฉันจะได้ไม่ต้องเห็นใบหน้าน่ารังเกียจของพวกโลภมากไม่รู้จักพออย่างพวกเธอนี่ไง”
เจียงหรงหรงเองก็เริ่มโมโหอย่างเห็นได้ชัด “เฉินซั่งหวา คุณอย่าไม่แยกแยะผิดถูกสิ ฉันตั้งใจจะรักษาสกุลเฉินของคุณ คุณกลับมาขัดขวางฉัน คุณ…”
“เธอไม่ได้ทำเพื่อปกป้องสกุลเฉิน แต่เธอทำเพื่อเกียรติยศเพียงผิวเผินพวกนั้น สกุลเฉินของฉันไม่จำเป็นต้องให้เธอมาปกป้อง แล้วก็ไม่ต้องให้เธอมาช่วยทำให้สกุลเฉินเจริญก้าวหน้า เคยผ่านชีวิตที่ร่ำรวยมาก่อน เคยผ่านวันที่ยากจนมาก่อน ถ้าทนไม่ได้ ก็ออกจากบ้านนี้ไปซะ”
เจียงหรงหรงโกรธจนสั่นไปทั้งตัว “เฉินซั่งหวา คุณมีมโนธรรมอยู่บ้างไหม คำพูดที่ไม่มีความรับผิดชอบแบบนี้คุณยังมีหน้าพูดออกมาอีกเหรอ พวกเราทั้งหัวหงอกหัวดำทั้งบ้าน คุณคิดจะไม่สนใจก็ไม่สนใจเลยเหรอ หลายปีมานี้ ใครกันที่คอยค้ำยันมาตลอด ฉันถามคุณหน่อย คุณจะใช้ชีวิตแบบยากจนใช่ไหม บนโลกใบนี้ มีไอ้โง่คนไหนบ้างที่อยากจะใช้ชีวิตยากจนข้นแค้นไปทั้งชีวิต”
“อยู่ไม่ได้ก็ไสหัวไป”
“คุณ…”
ตอนที่ 624 จิตใจเคียดแค้นที่มืดดำ
“แม่ แม่ไม่ต้องพูดแล้ว อย่าทำให้พ่อโกรธกว่าเดิมเลย” เฉินเต๋อฝานหัวแทบจะระเบิด
บ้านหลังนี้ แต่ไหนแต่ไรมาก็เป็นแม่ที่มีอำนาจสูงสุด เรื่องเล็กเรื่องใหญ่ก็ล้วนแต่มีเธอเป็นคนตัดสินใจ
ความจริงแล้ว คนที่ไม่หือไม่อือที่สุดก็คือพ่อ
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นหัวหน้าครอบครัว แต่ก็เป็นเพียงแค่ในนาม แม้แต่อำนาจในการตัดสินใจอะไรก็ไม่มีเลยด้วยซ้ำ
“สรุปว่าเขาทำให้ฉันโกรธ หรือฉันกำลังทำให้เขาโกรธกันแน่ ไม่รู้จักแยกแยะถูกผิด ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ไม่มีความรับผิดชอบแบบนี้มันใช้ได้เหรอ”
เฉินซั่งหวาโกรธจนหายใจหอบ ภายในดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือด
“สกุลเฉินจะต้องพัง ก็เพียงเพราะอยู่ในน้ำมือเธอนั่นแหละ เผด็จการ เอาแต่ใจ ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา ไม่รู้ถูกผิด แล้วยังคิดว่าการตัดสินใจของตัวเองนั้นดีเด่กว่าใคร คิดเพียงแต่ว่าต่อไปจะมีอำนาจ ได้รับการยอมรับจากผู้คน นั่นมันฝันกลางวันลมๆ แล้งๆ ทั้งนั้น”
“เฉินซั่งหวา คุณนี่พูดไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ”
เจียงหรงหรงโกรธจนร้อนรน ตวาดด้วยความโมโหอีกครั้ง
“พอได้แล้ว”
จู่ๆ น้ำเสียงใสเย็นก็ดังขึ้นขัดเสียงแข็งกร้าวดุดันของเจียงหรงหรง
เฉินฝานซิงหน้านิ่ง เดินกลับเข้ามาในโถงรับแขกอีกครั้ง แล้วมุ่งตรงไปหยุดอยู่ข้างกายของเฉินซั่งหวา
“ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่ถูกใจเธอ ดูเหมือนบ้านหลังนี้ เกรงว่าจะไม่มีที่ของคุณปู่แล้ว”
ระหว่างที่พูด เธอก็โน้มตัวลงออกแรงพยุงเฉินซั่งหวาลุกขึ้นมาจากโซฟา
ลมหายใจของเฉินซั่งหวาหนักอึ้ง ระหว่างที่เฉินฝานซิงประคองเขาอยู่ก็รู้สึกได้ถึงความสั่นไหวบนร่างกายของอย่างชัดเจน
ทนก้มหน้ากัดฟันกับตัวเอง ความเจ็บปวดและความโกรธเคืองประดาเข้ามาภายในใจ
“ไปกับหนู”
เฉินฝานซิงจับแขนของเฉินซั่งหวาพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา พร้อมบังคับให้เขาก้าวขาไปด้านหน้าด้วย
เฉินเชียนโหรวเห็นดังนั้น ก็มีการตอบสนองอย่างรวดเร็ว รีบเข้ามาขวางทางเฉินฝานซิงเอาไว้
“แกปล่อยเขาเดี๋ยวนี้นะ” เจียงหรงหรงสายตาดุดัน แล้วขึ้นเสียงใส่เฉินฝานซิงด้วยความโกรธ
“เฉินฝานซิง เธอ…เธอปล่อยมือ นี่คือบ้านสกุลเฉิน เธอจะพาปู่เธอไปไหน” ใบหน้าหยางลี่เวยเต็มไปด้วยความร้อนใจ
เฉินเชียนโหรวพูดต่อขึ้นมาอีก
“พี่คะ นี่จะทำอะไรน่ะ คุณปู่กับคุณย่าก็แค่มีปากเสียงกันเท่านั้น ขืนตอนนี้พี่พาคุณปู่ออกไป จะไม่ทำให้คนอื่นหัวเราะเยาะเอาได้เหรอ…”
“เพียะ” เสียงดังกังวานไปทั่ว เฉินเชียนโหรวร้อง “โอ๊ย” ออกมาหนึ่งที ก่อนที่ร่างกายจะซวนเซล้มลงไปบนโซฟา
ทุกคนต่างก็นิ่งอึ้งไปในทันที พลันมองเธอด้วยความตกตะลึง
เฉินฝานซิงเก็บฝ่ามือที่มีอาการชาๆ เล็กน้อยกลับ แล้วมองเฉินเชียนโหรวอย่างเหยียดหยาม
“จนถึงเวลานี้แล้ว สิ่งที่เธอคิดเป็นอย่างแรกคือกลัวคนอื่นจะหัวเราะเยาะงั้นเหรอ แค่มีปากเสียงอย่างนั้นเหรอ พวกเขามีปากเสียงกันเพื่ออะไรล่ะ เธอไม่มีตาหรือไง คุณปู่ร่างกายไม่แข็งแรง โกรธจนกลายเป็นแบบนี้แล้ว เธอเคยลุกขึ้นมาพูดอะไรสักคำบ้างไหม เฉินเชียนโหรว ฉันไม่รู้ว่าเธอให้เจียงหรงหรงกินยาเสน่ห์อะไรเข้าไปกันแน่ถึงทำให้ย่าเข้าข้างเธอตลอด แต่ในเมื่อเธอจะเล่นละครแล้วก็เล่นให้มันจบสิ เพียงเพราะว่าคำพูดที่เอนเอียงมาทางฉันของคุณปู่เมื่อกี้นี้ เธอก็เลยแค้นฝังใจ เห็นเขาโกรธขนาดนั้นแล้วก็ยังนั่งเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่อย่างนั้น จิตใจเคียดแค้นมืดดำของเธอนี่ ปิดบังคนตาบอดอาจจะง่าย แต่เธอคิดว่าจะปิดบังฉันได้งั้นเหรอ”
เจียงหรงหรงขมวดคิ้วมุ่น ได้ยินดังนั้นก็รีบหันไปมองทางเฉินเชียนโหรวปราดหนึ่ง สายตาแฝงไว้ซึ่งความเคลือบแคลงใจ
เมื่อโดนเตือนสติแบบนี้ เฉินเต๋อฝานก็กวาดสายตาไปมองเฉินเชียนโหรวแวบหนึ่งเช่นกัน คิ้วทั้งสองข้างก็กระจุกเข้ามาหากันด้วย
เฉินเชียนโหรวหน้าถอดสีในชั่วพริบตา
“เฉินฝานซิง” ในที่สุดหยางลี่เวยก็กรีดร้องออกมาอย่างหมดความอดทน “ตอนนี้เธอไม่ต้องแม้แต่จะปิดบังอะไรแล้วใช่ไหม ถึงกับกล้ารังแกเฉินเชียนโหรวต่อหน้าพวกเรา แม่คะ แม่เห็นหรือยัง เธอทำเกินไปแล้ว ทำเกินไปแล้ว”