ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย - ตอนที่639ยังปวดอยู่ไหมตอนที่640ประกาศหมั้น
- Home
- ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย
- ตอนที่639ยังปวดอยู่ไหมตอนที่640ประกาศหมั้น
ตอนที่ 639 ยังปวดอยู่ไหม
จนถึงกลางดึก เฉินฝานซิงยังคงนอนขดตัวอย่างไร้เรี่ยวแรงอยู่บนเตียง
ส่วนป๋อจิ่งชวนเพิ่งใส่ชุดคลุมอาบน้ำเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยท่าทางมีชีวิตชีวา กำลังยืนมองดูเฉินฝานซิงที่กำลังนอนอ่อนปวกเปียกอยู่บนเตียง ใบหน้าแดงระเรื่อหลังจากผ่านเรื่องกามารมณ์มา
บนใบหน้ายังคงเหลือความเย้ายวน ดูอ่อนโยนจนน่าหลงใหลกว่าปกติ
โดยเฉพาะเมื่อรู้ดีว่าปกติแล้วเธอมีท่าทางที่แข็งกร้าวเย็นชาแบบนั้น ความต่างกันโดยสิ้นเชิงแบบนี้ทำให้คนยากที่จะหักห้ามใจยิ่งกว่าเดิม
ภายในใจของป๋อจิ่งชวนเกิดความพึงพอใจ ท่าทางในตอนนี้ของเธอ บนโลกใบนี้ กลับมีเพียงเขาคนเดียวที่ได้เห็น
เขาเดินมาหยุดตรงขอบเตียง มองดูเส้นผมที่สยายอยู่บนเตียงราวกับกลุ่มเมฆเบ่งบาน ใบหน้าเล็กๆ โชกเหงื่อมีเส้นผมเปียกชุ่มหลายเส้นติดอยู่ เป็นสภาพที่ผ่านศึกมาอย่างหนักโดยแท้จริง
ป๋อจิ่งชวนยกยิ้มมุมปาก โน้มตัวลงไปจูบหน้าผากที่มันวาว จากนั้นสองแขนโอบไหล่และขาทั้งสองข้างของเธอเพื่ออุ้มหญิงสาวขึ้นมาจากเตียง
“อืม?”
ในขณะที่ยังคงสะลึมสะลือ เฉินฝานซิงหรี่ตามองเขา เส้นผมยาวสลวยสยายอยู่กลางอากาศ ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ชวนให้คนหลงใหลยิ่งนัก
อดไม่ได้จึงก้มลงไปงับริมฝีปากเธออีกครั้ง บางทีอาจเป็นเพราะผ่านอะไรมาอย่างโชกโชนแล้ว เพียงแค่จูบตอบคงไม่เท่าไหร่
เฉินฝานซิงปล่อยให้เขาจูบต่อไป สองมือที่ไร้เรี่ยวแรงเกาะไหล่ของเขาเอาไว้ เมื่ออีกครั้งที่ปากและลิ้นคลอเคลียพัวพันกันและกันอีกยกหนึ่งนั้น ป๋อจิ่งชวนจึงยอมปล่อยเธอ
“ไปอาบน้ำ อืม?”
ใบหน้าอ่อนล้าของเฉินฝานซิงซบอยู่บนแผงอกของเขา จมูกฟุดฟิดเบาๆ ถือเป็นการตอบรับแล้ว
–
เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อตื่นขึ้นมาก็เป็นเวลาเก้าโมงตรงแล้ว
หันไปมองแสงแดดกำลังดีด้านนอกปราดหนึ่ง นึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวันพักผ่อนเพื่อเติมพลังให้เต็มที่หนึ่งวัน เฉินฝานซิงจึงยกมุมปากยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะชูสองแขนขึ้นบิดขี้เกียจหนึ่งที
เมื่อหันไปมองอีกฝั่งของเตียง ป๋อจิ่งชวนกลับไม่อยู่แล้ว
มาคิดให้ดีๆ แล้ว ดูเหมือนเขาจะไม่มีนิสัยนอนขี้เซา
เธอกะพริบตาปริบๆ รู้สึกเพียงว่าในผ้าห่มนี่ช่างสบายเสียจริง พลิกตัวอีกครั้ง ในใจคิดว่ายังไม่อยากลุกขึ้นเลย
ขณะนั้นเอง ป๋อจิ่งชวนเปิดประตูเข้ามาพอดี เห็นเธอพลิกตัวไปด้านหน้าต่างก็อดยิ้มออกมาไม่ได้
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าและรับรู้ได้ถึงความมีตัวตนอันแรงกล้าอย่างแปลกประหลาดของป๋อจิ่งชวน เฉินฝานซิงก็รีบหลับตาปี๋
ป๋อจิ่งชวนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ยืนอยู่ข้างเตียงแล้วหยิบมือถือออกมา
มือถือของเฉินฝานซิงที่วางอยู่บนหัวเตียงดังครืดๆ ขึ้นมากะทันหัน ดวงตาคู่นั้นที่กำลังปิดสนิทอยู่สั่นไหวเบาๆ ผ่านไปครู่ใหญ่ก็ยังไม่ยอมไปหยิบมือถือ
แต่ว่าเสียงเรียกเข้าดังขนาดนั้น เธอจะแกล้งหลับก็อย่างไรอยู่ พลันเอื้อมมือออกไปคลำหาโทรศัพท์ทั้งที่ยังหลับตาอยู่ หลังจากที่ลืมตาขึ้นมามองสายเรียกเข้าบนหน้าจอมือถือ ใบหน้าที่ตึงเครียดก็หลุดยิ้มออกมา
“เหอะ…”
ป๋อจิ่งชวนหัวเราะเบาๆ ออกมาจากด้านหลัง เฉินฝานซิงจึงรีบพลิกตัวไปดูเขา
เมื่อแสงกระทบใบหน้าขาวสะอาดยิ่งทำให้ดูขาวเนียนงดงามกว่าที่เคย เส้นผมดกหนาที่สยายอยู่บนปลอกหมอนมองดูแล้วรู้สึกเพลินตาเพลินใจ
ป๋อจิ่งชวนเดินมานั่งลงข้างๆ เธอ ลูบเส้นผมของเธอก่อนจะก้มลงประทับจูบบนหน้าผาก
จากนั้นก็สอดมือเข้าไปใต้ผ่าห่มแล้วลูบผิวบริเวณเอวของเธอ
“ยังปวดอยู่ไหม”
เฉินฝานซิงหน้าแดงก่ำ รับรู้ได้ว่ามือของป๋อจิ่งชวนกดลงไปบนเอวของเธอเบาๆ อยู่ไม่กี่ครั้ง ตอนแรกก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่พอเขาบีบแบบนี้แล้วก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดอยู่ไม่น้อย
“ปวด”
ป๋อจิ่งชวนหัวเราะเบาๆ ขณะนั้นเองก็ช่วยเธอกดเอวพลางพูดยิ้มๆ
“ขอโทษที ครั้งหน้าจะเบาหน่อย…”
มองดูดวงหน้าที่หล่อเหลาและอบอุ่นนี้ ประกอบกับกลิ่นอายความนิ่งขรึมหนักแน่น ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางจินตนาการได้เลยว่า ตอนอยู่บนเตียง…เขาจะดุดันได้ถึงเพียงนั้น
ถึงแม้ว่าเธอจะเคยสัมผัสมาก่อนแล้วครึ่งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว แต่ก็ยังคงรู้สึกตกใจอยู่ดี
ภาพลักษณ์ภายนอกที่ดูไร้ซึ่งกิเลส แต่จิตใจเต็มไปด้วยความปรารถนา…
ตอนที่ 640 ประกาศหมั้น
ความแตกต่างนี้…
น่าจะเป็นชายหนุ่มในแบบที่สาวๆ ชอบมากที่สุด
ความหนักเบาที่ป๋อจิ่งชวนออกแรงนวดนั้นกำลังดี เฉินฝานซิงก็เพลิดเพลินไปกับมันด้วย
เพียงแต่ผ่านไปไม่นานนัก โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นอีกครั้ง
เมื่อเห็นสายเรียกเข้า เธอก็อมยิ้มออกมาพลันรีบรับสายทันที
“ฮัลโหล ชิงจือ”
“ฮัลโหล ฝานซิง เตรียมตัวแข่งปรุงน้ำหอมเป็นยังไงบ้าง”
น้ำเสียงราบเรียบของสวี่ชิงจือดังลอดออกมาก ฟังไม่ออกว่ากำลังดีใจหรือโกรธอยู่ สำหรับคนที่กำลังจะได้กลายเป็นเจ้าสาวในอีกไม่นานแล้ว ฟังไม่ออกถึงความยินดีใดๆ ทั้งสิ้นเลยด้วยซ้ำ
รอยยิ้มบนใบหน้าของเฉินฝานซิงเริ่มเจื่อนลงเล็กน้อย “อืม ไม่มีปัญหา ชิงจือ เธอ…”
“ฝานซิง งานแต่งของฉันกับหลี่ม่อกำหนดวันแล้ว วันที่เก้าเดือนแปดตามปฏิทินจันทรคติ เธอกับคุณป๋อจะต้องมาให้ได้”
เฉินฝานซิงเม้มริมฝีปาก ถึงแม้จะไม่ได้เห็นหน้าของชิงจือ ได้ยินเพียงแค่เสียงของอีกฝ่าย เธอก็จินตนาการออกว่าสีหน้าของสวี่ชิงจือในตอนนี้นั้นกล้ำกลืนฝืนยิ้มแค่ไหน
“ชิงจือ ฉัน…ควรยินดีกับเธอไหม”
“ทำไมไม่ยินดีกับฉันล่ะ ฝานซิง เธอรู้นี่ว่าฉัน…รักเขา แต่งงานกับคนที่ตัวเองรัก ควรจะเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝันไม่ใช่เหรอ ฉันเฝ้ารอมากๆ เลย…”
“…”
“วางใจเถอะ ฝานซิง ฉันไม่นั่งงอมืองอเท้ารอความตายหรอก เขาเป็นพ่อของลูกฉัน ต่อให้ต้องทำเพื่อลูกของฉัน ฉันก็จะต้องทำให้เขาอยู่ร่วมกับฉันให้ดีให้ได้ อย่าลืมนะ งานแต่งวันนั้นพวกเธอต้องมาล่ะ ในฐานะญาติฝ่ายเจ้าสาว พวกเธอต้องมาช่วยเป็นหน้าเป็นตาให้ฉันนะ”
น้ำเสียงของสวี่ชิงจือมีเรี่ยวแรงมากขึ้นเรื่อยๆ คำพูดที่เธอพูดไม่อาจมีข้อกังขาใดๆ ได้เลย
เธอรู้ว่าสวี่ชิงจือชอบหลีม่อ แต่งงานกับหลีม่อก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังมีลูกน้อยที่เป็นโซ่ทองคล้องใจ ชิงจือสมบูรณ์แบบขนาดนั้น ในตอนนั้นก็เป็นถึงบุคคลระดับดาวมหาวิทยาลัย สวย ฉลาด มีความสามารถ หลีม่อไม่มีเหตุผลที่จะไม่ชอบเธอ
คิดถึงตรงนี้ สีหน้าของเฉินฝานซิงก็เริ่มดูดีขึ้นมาบ้าง “นี่ยังต้องพูดอีกเหรอ ต้องไปอยู่แล้วน่า”
“อืม พรุ่งนี้เธอบินไฟลท์กี่โมง ฉันไปส่งเธอ”
“เธอกำลังท้อง อย่ามาส่งฉันเลย แล้วก็ไม่จำเป็นต้องรบกวนเธอด้วย บำรุงครรภ์ให้ดีเถอะ”
“เชอะ ใช่สิ ตอนนี้เธอมีคุณป๋อแล้วนี่ แน่นอนว่าคนอื่นก็ไม่จำเป็นอีกแล้ว จริงๆ เลย โทรศัพท์มาหาก็ยังหยุดการโชว์สวีทของพวกเธอไม่ได้…ก็ได้ งั้นฉันก็ไม่รบกวนเธอแล้ว”
เฉินฝานซิงถูกพูดจนหน้าแดงหูแดง เงยหน้าขึ้นมากวาดสายตาไปทางป๋อจิ่งชวนปราดหนึ่ง แต่กลับพบว่าเขากำลังมองเธอด้วยความสนใจเป็นพิเศษ
“เธอพูดไร้สาระอะไรน่ะ วางแล้ว เธอก็เหมือนกัน อยู่ให้ห่างโทรศัพท์หน่อย”
หลังจากที่วางสาย เธอก็วางโทรศัพท์ไว้อีกข้างหนึ่ง เมื่อนึกถึงเสียงหัวเราะของสวี่ชิงจือก่อนวางเมื่อกี้นี้ เฉินฝานซิงก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่ง
“กำหนดวันได้แล้วเหรอ” ป๋อจิ่งชวนมองเธอพร้อมกับเอ่ยถามเบาๆ
สำหรับคำพูดประโยคสุดท้ายของสวี่ชิงจือนั้น เขารู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก
เฉินฝานซิงพยักหน้า “อืม วันที่เก้าเดือนแปด ยังดีที่เป็นวันหลังการแข่งขัน”
ป๋อจิ่งชวนครุ่นคิดบางอย่าง ก่อนที่มือจะออกแรงโอบเอวของเฉินฝานซิงแล้วอุ้มเธอขึ้นมาจากบนเตียงแล้วดึงเข้ามาใกล้ตัวเอง
ด้านในเฉินฝานซิงไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลยสักชิ้น ผ้าห่มตกลงมาจากหัวไหล่กลมมนของเธอ เนื้อหนังบริเวณทรวงอกถูกเผยให้เห็นจนหมดไปตามท่วงท่าอิริยาบถ
เฉินฝานซิงรีบยกมือขึ้นมาบังหน้าอก ก่อนจะมองเขาด้วยท่าทางกระอักกระอ่วน “เป็นอะไรไป”
ป๋อจิ่งชวนเข้ามาชิดกับหน้าผากของเธอ แล้วพูดเสียงเบา “รอให้คุณกลับมา แล้วพวกเราหมั้นกันดีไหม”
เฉินฝานซิงตะลึงงัน ถลึงตามองเขาด้วยความตกใจ “หมั้น?”
“อืม ประกาศหมั้น”