ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย - ตอนที่705ผ่อนคลายหน่อยตอนที่706ไม่เหมือนคนตีกันเลย
- Home
- ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย
- ตอนที่705ผ่อนคลายหน่อยตอนที่706ไม่เหมือนคนตีกันเลย
ตอนที่ 705 ผ่อนคลายหน่อย
แรงบีบรัดพลันคลายตัวลง เมื่อเบื้องหน้าของร่างกายถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ เฉินฝานซิงจึงผ่อนลมหายใจออกมาอย่างสบายตัว
ใครบอกว่าหญิงแต่งเป็นชายเป็นเรื่องสนุก!
ปกติใส่แค่บราตัวเดียวก็อึดอัดจะแย่อยู่แล้ว
เสียงทอดถอนใจนั้นกระตุ้นให้ร่างกายของเขาเกร็งแข็ง เขากัดฟันแน่นรั้งร่างของเธอเอาไว้ก่อนจะกระชากกางเกงของเธอให้หลุดออกไปได้ในคราวเดียว
แล้วผลักให้เธอแนบเข้ากับกระจกบนโต๊ะแต่งหน้าใหม่อีกครั้ง
พริบตาเดียว ขาเรียวยาวขาวสะอาดตาของเฉินฝานซิงก็ถูกป๋อจิ่งชวนจับมาพันรอบเอวแกร่งของชายหนุ่มเอาไว้
เฉินฝานซิงกะพริบตาปริบๆ แค่อึดใจเดียวก็ราวกับมีบางสิ่งระเบิดขึ้นในสมองที่กำลังตีรวน เธอได้สติกลับมาในทันใด
“ป๋อ…”
เธออยากจะพูดบางสิ่ง ทว่าสุดท้ายก็กลับถูกป๋อจิ่งชวนประกบริมฝีปากเธอไว้อีกครั้ง
ความร้อนผ่าวประทับลงมาเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดพัก เริ่มตั้งแต่ริมฝีปากเรื่อยมาถึงลำคอเนียนสวย ก่อนที่สุดท้ายดอกเหมยแดงตรงยอดเขาจะถูกปากและลิ้นของเขาครอบครองไว้อย่าไม่ลังเล
“อ๊ะ!”
ความวาบหวามแลบแล่นมาจากส่วนยอดสุดสู่ร่างกาย ประสาทสัมผัสที่อ่อนไหวที่สุดของเธอถูกเล่นงานอย่างกะทันหัน ทำเอาเธอต้องส่งเสียงร้องออกมาอย่างไม่อาจหักห้าม
“ป๋อจิ่งชวน…อย่า…ที่นี่ไม่ได้นะ…”
“ความใจกล้าไม่กลัวฟ้าดินแบบเมื่อกี้หายไปไหนแล้วล่ะ หืม? ผมชอบท่าทีใจร้อนแบบเมื่อกี้ของคุณนะ”
“เมื่อกี้ฉันไม่…”
“สายไปแล้ว!”
ป๋อจิ่งชวนยกตัวขึ้นเล็กน้อย เขางับใบหูของเธอหนึ่งครั้ง ทว่าขณะเดียวกันก็กระชากปราการด่านสุดท้ายของเธอออก
เมื่อสัมผัสได้ว่าตรงนั้นอุ่นร้อนอยู่ก่อนหน้าแล้ว ป๋อจิ่งชวนจึงยิ้มออกมาเบาๆ
เขาประทับจูบลงไปบนริมฝีปากของเธอไปครั้งหนึ่ง “นี่ไม่ใช่ว่าพร้อมตั้งนานแล้วเหรอ”
ใบหน้าสวยของเฉินฝานซิงพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงเถือก
เธออับอายต่อการกระทำของตัวเอง และที่น่าอายไปกว่านั้นคือจู่ๆ ป๋อจิ่งชวนก็เอ่ยคำพูดที่ทำลายความอดทนของเธอเช่นนี้ออกมา
“คุณอย่าทำแบบนี้…ที่นี่ไม่ได้นะ…”
“อย่าลืมนะว่าต้องเบาๆ เสียงหน่อย เดี๋ยวคนด้านนอกพวกนั้นได้ยิน…”
เสียงแหบทุ้มของป๋อจิ่งชวนเพิ่งจะสิ้นสุดลง ร่างกำยำก็พลันกดทับลงมา
“อ๊ะ”
เฉินฝานซิงเบิกตาโพลง สมองชาวาบ!
เธอทำอะไรลงไป
นี่พวกเธอทำอะไรกันอยู่!
นี่มัน…นี่มันในห้องแต่งหน้าของคนอื่นนะ…
ข้างนอกประตูได้ยินเสียงที่แว่วออกมาจากด้านในอยู่บ้างเป็นครั้งคราว หลานซีไม่อยากจะเชื่อว่าผู้ชายที่เธอพามาจะก่อเรื่องอะไรขึ้นที่นี่ได้ และเธอเองก็ไม่คิดว่าเขาจะลงมือกับใครเพียงเพราะผู้หญิงคนอื่น
หลังจากนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง เธอก็ยกมือขึ้นเคาะประตู
“คุณป๋อคะ ประธาน…เฉิน…พวกคุณสองคนใจเย็นๆ ลงหน่อยนะคะ…”
“ผู้จัดการหลาน!”
อวี๋ซงที่อยู่ข้างๆ กันรีบห้ามเธอเอาไว้
หลานซีหันไปมองอวี๋ซงด้วยใบหน้าฉงน
“ทำไมล่ะคะ”
อวี๋ซงกระแอมไออย่างอึดอัดออกมาสองครั้ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างเคร่งขรึมว่า “คุณผู้ชายท่านไม่ชอบให้ใครยื่นมือเข้ามายุ่งเรื่องของท่านครับ อีกอย่าง ไม่ว่าใครก็มีอำนาจเหนือการตัดสินใจของท่านไม่ได้ทั้งนั้น ถึงยังไงพวกเขาสองคน…ก็น่าจะมีขอบเขตกันอยู่แล้ว!”
“…แต่ว่า…ยังไงก็ไม่ควรปล่อยให้เขาสองคนตีกันต่อไปแบบนี้ไม่ใช่เหรอคะ สุดท้ายก็เจ็บกันทั้งคู่ เสียหายกันทั้งสองฝ่าย มันจะไปมีประโยชน์อะไร”
อวี๋ซงแอบหน่ายใจเล็กน้อย แม้ว่าคุณจะพูดถูก แต่สงครามสวาทแบบนี้ คุณเข้าไปห้ามก็ไม่เท่ากับรนหาที่ตายหรอกเหรอ
“เอาเป็นว่า ผู้จัดการหลาน อย่าเข้ามายุ่งเรื่องนี้จะดีกว่านะครับ ออกไปพักข้างนอกก่อนเถอะ”
การเคลื่อนไหวนอกห้องทำเอาร่างกายของเฉินฝานซิงขมวดเกร็ง แม้แต่ลมหายใจก็ยังถี่กระชั้น
“อืม…ผ่อนคลายหน่อย!”
ตอนที่ 706 ไม่เหมือนคนตีกันเลย
“อืม…ผ่อนคลายหน่อย!”
ความตื่นเต้นของเธอทำเอาป๋อจิ่งชวนพึมพำออกมาอย่างอดไม่ได้
หัวใจของเฉินฝานซิงกระตุกอย่างหนักหน่วง
นับตั้งแต่ที่ทั้งคู่ฝ่าแนวป้องกันด่านสุดท้ายมาได้แล้ว ความรู้สึกเช่นนี้ทำให้ป๋อจิ่งชวนราวกับได้ค้นพบแผ่นดินใหม่ ยิ่งไปกว่านั้นราวกับมีสวิตซ์บางอย่างถูกเปิดออก
คำพูดเหล่านั้นทำให้เฉินฝานซิงอับอายจนหมดหนทางจะรับมือ
ร่างกายที่เกร็งแข็ง ทำเอาร่างของเธอยิ่งกระชับแน่นขึ้นอย่างชัดเจน
ความรู้สึกเช่นนั้น ทำให้เขามีความคิดที่จะประนีประนอมลงในทุกชั่วขณะ
ทันใดนั้นเฉินฝานซิงก็ผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ร่างกายของเธอเองก็ผ่อนคลายลงไปตามลมหายใจ
วินาทีถัดมา ป๋อจิ่งชวนก็เริ่มขยับตัว เขาออกแรงจนเฉินฝานซิงแนบลงไปกับกระจกบนโต๊ะแต่งหน้า
“อ๊ะ”
เฉินฝานซิงเกือบจะหลุดร้องเสียงแหลมออกมา โชคยังดีที่สัมปชัญญะยังเตือนเธอว่าที่ข้างนอกนั่น ยังคงมีคนคอยให้ความสนใจความเคลื่อนไหวของพวกเธออยู่ตรงนั้นตลอดเวลา
ดังนั้นเธอจึงปิดปากเอาไว้ในทันที
พยายามส่งเสียงให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทว่าการกระทำอันหนักหน่วงนั้น กลับทำให้โต๊ะแต่งหน้ากระทบเข้ากับฝาผนังดัง ตึง
หลานซีที่เตรียมจะเดินจากไป สุดท้ายเมื่อได้ยินเสียงนั้น เธอก็ชะงักฝ่าเท้าลงทันที
เธอนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จู่ๆ เธอจะเอ่ยขึ้นอย่างฉงนใจ
“ทำไมฉันถึงรู้สึกเหมือนว่า…พวกเขาไม่ได้ตีกันอยู่เลย”
มุมปากของอวี๋ซงกระตุกขึ้น เขายืนขวางหน้าประตูไม่เปิดโอกาสให้หลานซีได้เฉียดเข้าไปใกล้มัน
สีหน้าเฉินฝานซิงกำลังอดกลั้นต่อความรู้สึกที่เกินจะรับไหวจากส่วนลึกของร่างกาย เธอเกาะไหล่ของป๋อจิ่งชวนแน่นด้วยสีหน้าตื่นเต้น พลางส่ายหน้าไปมาให้เขาไม่หยุด
ทว่าในตอนนี้ชายหนุ่มนั้นไม่ต่างอะไรกับลูกธนูที่พุ่งออกมาจากคันศร ย่อมไม่มีหนทางให้ย้อนกลับ
เขารั้งเฉินฝานซิงเข้าหาตัว บดเบียดกันซ้ำไปซ้ำมา
เฉินฝานซิงขบริมฝีปากตัวเองแน่นเพื่อสะกดกลั้นเสียงร้อง ทว่ากลับกลายเป็นว่าลมหายใจเปลี่ยนเป็นถี่และหนักหน่วงขึ้น ทุกครั้งที่ป๋อจิ่งชวนกดตัวลงมา ลมหายใจของเธอก็ถูกกระแทกให้ลึกขึ้นก่อนจะคลายลงอีกครั้ง
โต๊ะแต่งหน้าใต้ร่าง ส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดอยู่เป็นระยะ
เรี่ยวแรงในร่างกายทยอยหลั่งไหล่ออกไปดั่งสายน้ำ ร่างกายอ่อนแรงลงเรื่อยๆ สุดท้ายแล้วก็ทำได้แค่เพียงแนบร่างเข้าหาอกแกร่งของชายหนุ่มไปตามสัญชาตญาณ น้อมรับเรี่ยวแรงที่ยากเกินจะควบคุมขึ้นทุกชั่วขณะของชายหนุ่ม
“ป๋อจิ่งชวน…คุณ…พอได้แล้ว”
“คุณคิดว่าพอเหรอ” เสียงแหบพร่าของป๋อจิ่งชวนแฝงไปด้วยความคลุมเครือ ยั่วยวนคนฟังจนแทบจะคลั่งตาย
เธอทั้งอายทั้งโมโห แต่ว่าเอาเข้าจริงๆ แล้ว เธอในตอนนี้…
ความปรารถนาที่ค่อยๆ เอ่อล้นออกมา ทำให้เธอปล่อยเขาไปไม่ได้…
ผู้คนตรงหน้าประตูถูกอวี๋ซงกันตัวออกไปแล้ว ตอนนี้ความสนใจของเซียวหมิงเจี๋ยจดจ่ออยู่กับภาพที่เขาเพิ่งถ่ายไปเมื่อครู่ เขาเอาแต่ถือกล้องวกไปวนมาและมองฟิล์มด้านในซ้ำแล้วซ้ำเล่า
หลานซีนั่งอยู่บนโซฟาเพียงคนเดียว ผู้ช่วยของเซียวหมิงเจี๋ยก็รออยู่ข้างๆ อย่างระมัดระวัง
เพราะถ่ายภาพเสร็จแล้ว จี้อี้จึงกลับไปลบเครื่องสำอางและเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องแต่งหน้ามาเรียบร้อยแล้ว
หลังจากยี่สิบนาทีผ่านไป เธอก็ออกมา ทว่าป๋อจิ่งชวนและประธานเฉินก็ยังไม่ออกมา
ราวกับเธอกำลังคิดอะไรบางอย่าง จู่ๆ แก้มของเธอก็ขึ้นสีระเรื่อ
เมื่อหลานซีเห็นจี้อี้ออกมาแล้ว สายตาดั่งมีดแหลมก็ปักลงไปยังร่างของเธอ ฉึกๆ ฉึก
เธอหมายตาผู้ชายคนนี้มาตั้งนาน พยายามอย่างเต็มที่ที่จะนัดเขาออกมาอย่างไม่ลังเล สุดท้ายคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเขาจะมาสนใจผู้หญิงแบบนี้
อีกอย่าง เพื่อเธอแล้ว เขายังไม่คิดจะรักษาหน้าตาและชื่อเสียงของตัวเอง ลากผู้ชายอีกคนหนึ่งไป…
“ท่านประธานกับประธานเฉินจะเป็นยังไงบ้างเนี่ย นี่เขาก็ตีกันมานานพอแล้วนะ!”
“ใช่ ตั้งครึ่งชั่วโมงแล้ว!”
“ไอ้หยา คงไม่เล่นกันจนถึงชีวิตหรอกนะ!”
“รีบไปดูเร็ว อย่าให้มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นจริงๆ!”
หลายคนรวมกลุ่มกันหวังจะตามไปดูข้างหลังเวที ปรากฏว่าแค่พวกเขาเพิ่งจะหมุนตัว ก็กลับได้เห็นเข้ากับชายหนุ่มรูปหล่อแต่งตัวดี ดูมีชีวิตชีวา สาวเท้ายาวๆ ออกมาพร้อมกับอุ้มใครคนหนึ่งไว้ในอ้อมแขน…